CBR300R พาร่างน้อยๆกลับสู่ที่ ที่เรียกว่า”บ้าน”

สวัสดีครับ กลับมาพร้อมกับเรื่องเล่าเมื่อเรากลับบ้าน

จะเรียกกระทู้นี้ว่ารีวิวตัวรถก็คงไม่เต็มปากมากนัก งั้นก็แทรกๆความรู้สึกที่ได้ขับขี่ควบคู่ไปกับการเดินทางสั้นๆแล้วกันครับ แฮ่ๆ
เช่นเคยว่า ความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ ไม่มีการอ้างอิง แต่มาจากการใช้งานจริงระยะนึง เพียงเท่านั้น

เราอยู่บ้านกันมานานแค่ไหน
เรากลับบ้านครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
อะไรรอเราอยู่ที่บ้าน ใครรอเราอยู่ที่บ้าน ?
สำหรับคนต่างจังหวัดที่ดั้นด้นมาทำงานในเมืองหลวง ในแต่ละปีมีเวลาสักกี่วัน ที่จะได้กลับไปยังบ้านแท้ๆของตน
ผมก็คนนึงในหมู่คนจำนวนนั้นครับ

สองปีกว่าแล้ว ที่ยังไม่ได้กลับไปเหยียบบ้านของตัวเองสักครั้ง ทั้งๆที่เมื่อก่อนผมก็กลับไปทุกๆปีนะ
จนกระทั่งที่บ้านของผม ไม่มีคนที่รอคอยการกลับไปเช่นเดิมอีกแล้ว
ระหว่างนี้ก็ได้แค่ดูหลังคาบ้านผ่านเทคโนโลยีแห่งกูเกิ้ลบ้าง แต่ในทุกๆครั้งที่ดู ภาพจำแห่งกาลเวลาก็ย้อนมาในหัวเสมอ
นี่แหล่ะครับจุดเริ่มต้นของการกลับบ้านที่ไม่มีใครรอเราอยู่ในครั้งนี้


วันที่สิบสองของเดือนที่ผ่านมา เสียงนาฬิกาปลุกยังคงทำงานแบบปกติ เพียงแค่วันนี้มันปลุกอย่างแตกต่างจากทุกๆวันที่คุ้นเคย

เราคุ้นเคยกับเสียงนาฬิกาปลุกที่ทำให้เราลุกจากที่นอนเพื่อเตรียมตัวไปทำงาน

ครั้งนี้แตกต่างต่างตรงที่มันปลุกร่างน้อยๆของผมและคนซ้อนเพื่อเตรียมตัวกลับบ้านนอกดังที่หวังไว้

ความรู้สึกในการอยากตื่นมันช่างกันลิบลับครับ ตื่นเต้นที่จะได้กลับบ้านเพราะไม่ได้กลับไปมาสองปีกว่าๆแล้ว

คนออกทริปหลายๆคนก็คงเคยมีอารมณ์แบบเดียวกัน วันทำงานนี่ไม่อยากจะตื่น วันจะออกทริปนี่บางทีตื่นก่อนนาฬิกาจะปลุกซะอีก -*-

เริ่มวาร์ปจากบางแคตอนตีสี่ครึ่งครับ มุ่งตามถนนเส้นหลัก เพื่อเลี่ยงแดดแยงตาในช่วงเช้าสักนิดหน่อยก็ยังดี

เพราะทิศที่เรามุ่งหน้าไปคือทิศ ตะวันออก เฉียงไปทางเหนือ หรือเรียกง่ายๆว่าภาคอิสานนั่นแหล่ะครับ โดนแสงสาดเข้าตาแน่นอนนนนน

จากการขับขี่ช่วงแรก สัมผัสแรกที่ได้มาจากคนซ้อนคือ ขับช้าๆลงหน่อยได้มั้ยห๊ะ!!! ค่อยๆไปก็ได้ บ้านไม่หนีไปไหนหรอก

เมื่อระบบสั่งการจากเบาะหลัง มีอำนาจเหนือระบบหัวฉีด และลูกสูบขนาด 286cc ดีกรีคันเร่งจึงถูกลดทอนลงมาโดยอัตโนมัติครับ TT

เรากำลังเคลื่อนที่เพื่อไปยังจุดหมายที่ไม่เคลื่อนที่ ดังนั้นการขับขี่ให้ปลอดภัยยังไงก็สำคัญที่สุด

และต่อให้เราขับรถแรงแค่ไหนก็ต้องสะดุดถ้ามีคนซ้อน

เส้นมุ่งหน้าสู่อิสาน ไม่มีวิวสวยงามอะไรมากมายเหมือนภาคอื่นๆครับ ทางตรงยาวๆ แต่กลับมีเรื่องราวชีวิตของผู้คนอยู่มากมาย

ผู้คนที่พลัดถิ่นฐานมุ่งหน้ามาทำงานที่เมืองกรุง แต่ก็ยังมีส่วนนึงที่ยังใช้ชีวิตและดำรงอยู่ที่ท้องที่ของตนเอง

สะพานลอยที่ทอดผ่านเส้นถนนคั่นระหว่างบ้านเรือนกับโรงงานอุตสาหกรรมในบางช่วงของเส้นทาง

แสงแดดในตอนเช้าสะท้อนเงาร่างของผู้ใช้ชีวิต

จักรยานคาร์บอน ชุดเกียร์ชิมาโน่ อาจใช้งานได้น้อยกว่าจักรยานแม่บ้านสำหรับคนแถวนี้

บางทีชีวิตเราก็ต้องการอะไรมากเกินไป

พักบ้างครับ กลับมาอยู่กับสิ่งที่เรามีอยู่ตรงหน้า จะได้ไม่ต้องไขว่คว้าอะไรมาก

ระหว่างทางก็แวะไปเรื่อยครับ ระยะเวลาที่กะไว้ ถูกใช้ไปกับการจอดข้างทางบ้าง จิบกาแฟบ้าง เราเดินทางไปข้างหน้าจงอย่าลืมว่ามีคนอยู่ข้างหลัง

และคนข้างหลังที่มากับผมวันนี้ มีพลานุภาพมากด้วย ฮืออออ

สิ่งหนึ่งที่พึงจำไว้สำหรับการขับมอเตอร์ไซค์เดินทาง
ระยะทางมากแค่ไหนที่ทำให้จิตใจของเราฮึกเหิมหรือรู้สึกแข็งแกร่ง
คนซ้อนที่ไปกับเราได้จนสุดปลายทาง แข็งแกร่งยิ่งกว่า

ช่วงที่สองหลังจากออกจากปั๊มน้ำมันครั้งแรก
กับความเร็วมุ้งมิ้งบ้างหวดบ้าง ระยะทาง 240กิโลเมตร น้ำมันของเจ้า CBR ก็แจ้งเตือนครับ โฮ้ๆ ถือว่าประหยัดใช้ได้เลย กับรถสูบเดียวก็เสียวได้เช่นนี้  สิ่งที่น่าห่วงกว่าน้ำมันก็คือน้ำมันเครื่องครับ
แต่จากการส่องมองตาแมว

ก็พบว่ายังมีอยู่ในระดับเดิม
เดี๋ยวๆๆ รูปประกอบตาแมวนี่ตรงตัวไปมั้ย !!!

นั่นแหล่ะครับ ถ้าขับขี่แบบปกติไม่หวดยาวๆ
ปัญหาเรื่องน้ำมันเครื่องของรุ่นนี้ก็ตัดไปได้พอตัวแหล่ะ จริงๆก็มีวิธีอื่นๆที่ช่วยให้น้ำมันหายช้า แต่ก็นะ


เอาล่ะตาแมวปิดแล้ว

เดินทางกันต่อครับ มุ่งหน้าสู่บ้านนอกน้อยๆของเราต่อ
เส้นทางบางช่วงในตอนนี้มีการขุดลอกถนนอยู่เป็นระยะครับ ใครผ่านไปผ่านมาก็ระวังกันด้วยเน้อ
ขยายถนนให้ใหญ่ขึ้นใจคนอาจแคบลง
บางทีถนนเล็กๆวิ่งสวนกันไปมาแค่สองเลนอาจจะขับสบายกว่า


คิดถึงบ้านมั้ย บางครั้งมันก็คิดนะ
แต่บ้านที่ไม่มีใครรออยู่บางทีก็ไม่รู้ว่ากลับไปเพื่ออะไร สองปีแล้วที่ยังไม่ได้กลับไปดูไปเยี่ยมเยียน
เพื่อนหลายๆคนก็ยังอยู่ ที่นั่นไม่ผันตัวหนีหายไปไหน
เคยกลับไปพร้อมความหวัง กลับไปเพราะการรอคอยของยายของตา แต่นี่เค้าก็ไม่อยู่ละ
นึกแล้วก็ขำตัวเอง เงินพันบาทแรกที่ทำงานได้ ที่เคยให้ยายกะตาไปตอนแกยังอยู่
ก็พึ่งรู้ตอนแกเสียนี่แหล่ะว่าแกไม่เคยเอามาใช้เลย มัดห่อผ้าไว้อย่างดี๊
ตากะยายไม่อยู่มาหลายปี ทั้งๆที่บ้านก็ดีขึ้น คิดแล้วก็เสียดาย จะกลับไปอยู่ก็ไม่รู้จะทำอะไร
ก็ทนด่ากดำทำงานในเมืองกรุงที่คนคิดว่าสิวิไลต่อไป
คิดถึงบ้านน้อยๆเนื้อที่ไม่กี่ตารางเมตร
ไม้ลำปอที่โชยกลิน
ดินที่ฉันเคยวิ่งเล่น หลุมดีดเม็ดตาแมว
#บางทีก็คิดถึง
#บางทีก็คิดไม่ถึง




ที่บ้านตอนนี้มีน้าคอยมาดูแลให้ครับ และสาวกผู้ติดตามอีกนิดหน่อย



รั้วบ้านแต่ละหลังถูกกันด้วยไม้เล็กๆแสดงแนวเขตเพียงเท่านั้น
คนที่หมู่บ้านคุยกันมากกว่าใช้มือถือ เดินหากันมากกว่าขับรถ การสื่อสารที่ทรงพลังเหล่านี้ ทำให้ผมไม่กังวลเรื่องบ้านที่แทบจะร้างของตนเอง

หลายๆคนทำบ้านที่ต่างจังหวัดไว้
เพียงเพราะหวังว่าสักวันจะกลับไปอยู่ในบั้นปลาย แต่มันจะมีความหมายมั้ยถ้าสุดท้ายต้องอยู่อย่างลำพัง
ความเหงามันเสียงดังครับ บ้านน้อยๆหลังนี้ ในรัศมีห้ากิโล กับหมู่บ้านเล็กๆที่มีอยู่เพียงร้อยกว่าหลังคาเรือน มันน่าแปลกแต่มันก็คือเรื่องจริงที่ว่า คนในหมู่บ้านรู้จักกันเกือบทั้งหมดคิดเป็น%
ก็ร้อยละเก้าสิบอัพที่รู้จักกัน ในขณะที่คอนโด บ้าน ทาวเฮ้าท์เมืองใหญ่ คนจะรู้จักกันมากน้อยแค่ไหน คนที่นี่ใกล้แต่ไกลเทคโนโลยีซึ่งทำให้คุยกันมากขึ้นก้มหน้าใส่กันน้อยลงมันเป็นระบบสื่อสารที่ดีกว่าโซเชี่ยลในมือถือที่หลายๆคนถืออ่านในขณะนี้ เรารู้จักเทคโนโลยีแล้วเรารู้จักกันเองดีหรือยัง
อาชีพที่ยังดำรงอยู่ก็คือการเลี้ยงวัวเลี้ยงควายเลี้ยงหมู และอยู่กันแบบพอเพียง อาจเป็นเพราะเราไม่พอเพียงกันเองหรือเปล่าที่ทำให้เรายังต้องดิ้นรน
บางทีเหตุผลมันก็มากกว่านั้นครับ หลายๆท่านที่มาทำงานคงทราบๆกันดี





วันที่ 13 เดินทางกลับมาทำงานที่กรุงเทพต่อครับ เนื่องจากฝนตกเกือบตลอดทาง จึงแทบไม่ได้ถ่ายรูปติดกลับมา
มาในส่วนของรถกันบ้างครับ หลังจากผ่านขับเคี่ยวเลี้ยวมั่วซั่วกันมากว่าพันสองร้อยกิโลเศษ
ด้วยความเป็นรถขนาด 286CC ที่มีสูบเดียว คำถามที่มักโดนถามหรือสงสัยกันมากคือ มันสะท้านสะเทือนเลื่อนลั่นบ้างมั้ย
เฟรม : Diamond Twin-Spar Steel Frame
ระบบกันสะเทือน-หน้า : เทเลสโคปิค
ระบบกันสะเทือน-หลัง : โช้คเดี่ยวโมโนโช้คแบบโปรลิงค์ปรับได้ 5 ระดับ
สามอย่างนี้เมื่อมาช่วยซับพอร์ทกัน มันช่วยลดแรงสั่นสะเทือนไปได้มากครับแม้จะใช้ความเร็วที่สูงขึ้น แต่ก็ยังมีสะท้านๆบ้างในย่าน 150up
อย่าลืมว่ามันคือรถสูบเดียว ถถถ

ทรงสปอร์ตที่สอดใส่ความสบาย ปกติรถทรงแบบนี้มักจะเมื่อยครับ เมื่อต้องใช้เดินทางไกล แต่สำหรับHONDA ทำมาให้ใช้งานง่ายๆ ควบคุมง่ายๆ
ไม่ฝืนร่างกายมากมายนัก ช่วงแฮนด์ที่ถูกร่นมากกว่าปกติเล็กน้อยทำให้แขนสั้นๆของผมเอื้อมถึงโดยที่ไม่ต้องก้มโน้มไปด้านหน้ามากนัก
แถมยังเหลือระยะงอศอกได้มากพอให้การหักเลี้ยว ชิลหน้าตัดลมได้ดี โชคดีที่ผมเตี้ยไม่ต้องหมอบหลบลม 5555 ถ้าสูงๆหน่อยอาจโดนลมปะทะบ้าง

ที่สำคัญ เบาะคนซ้อนมีพื้นที่วางตรูดมากพอ แทบจะกว้างกว่าชาวบ้านในระดับเดียวกัน มันทำให้คนซ้อนชอบครับ ไปกับเราได้โดยไม่เมื่อยมากนัก

ยางติดรถดีในทางแห้งย้อนแย้งในทางเปียกครับ คงเป็นเรื่องที่เรียกว่าปกติสำหรับยางติดรถ แต่ไม่ได้น่าเกลียดอะไรมาก
ฝนตกก็ขับให้ช้าลง หรือไม่ก็จอดหลบไปครับ ^^



ขาตั้งค่อนไปทางชันนิดนึงครับ หามุมจอดก็ระวังเรื่องความลาดเอียงด้วย น่าจะเอียงกว่านี้อีกสักนิด


ความคิดเห็นเกี่ยวกับส่วนอื่นๆมีคนทำรีวิวดีๆไว้เยอะแล้วก็ตามนั้นครับ อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นว่ากระทู้จะเรียกว่ารีวิวคงได้ไม่เต็มปาก แฮ่ๆๆ


ถ้าคุณอยู่บ้านอยู่แล้วก็โชคดี คนที่อยู่ห่างบ้านได้กลับบ้านบ้างก็ดี แต่อย่าลืมวิธี ที่จะกลับให้ถึงที่ ที่เรียกว่า”บ้าน” กันนะครับ
เราต้องเคลื่อนที่ กลับไปหาสิ่งที่ไม่เคลื่อนที่ ก็จงขับขี่อย่างปลอดภัย ใช้รถอะไรก็ปลอดภัยไว้ก่อน
รถที่มีกำลังมากขึ้น เราไม่จำเป็นต้องใช้กำลังให้มากขึ้นตาม ผ่อนลงมาบ้าง พักบ้าง ชะลอบ้าง เพราะหนทางมันไม่ได้ราบเรียบเสมอไป



บ้าน รอเราอยู่เสมอครับ แม้ที่บ้านจะไม่มีคนรอเราอยู่ก็ตาม

ขอบคุณ AP HONDA http://www.aphonda.co.th/2015/aphonda-home.ashxคลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ที่ให้CBR300Rในการนำพาตัวเองกลับสู่บ้าน

แล้วเราจะกลับมาพบกันใหม่เรื่อยๆ ขอบคุณครับ