เมื่อผมและเธอเจอกันอีกครั้ง HONDA CBR 250 RR

เมื่อผมและเธอได้เจอกันอีกครั้ง

การได้อยู่กะน้องอาร์มิจัง(CBR250RR 

จากที่ก่อนนี้เมื่อปีก่อนนู้นเคยขึ้นงานกับน้องแบบ Indoor ที่สนามช้างมาหนตอนน้องเริ่มรับงานครั้งแรก

ตอนนั้นยอมรับว่ารู้สึกชอบพอน้องไม่น้อย
น้องมีจริตจก้าน ตามที่ควรจะเป็น
เราก็หวดน้องแบบชายกระทาชายกลัดมัน
น้องที่เครื่องเคราเดิมๆ มีดีดดิ้นบ้าง 
แต่ก็ไม่ถึงกับออกอาการให้เราหัวเสีย 
วันนั้นเราจัดกับน้องไปหลายยก 
เรากระแทกคันเร่งอย่างดุดันเท่าที่เราจะทำได้
ณ วันนั้นทุกอย่างมันช่างเร่งรีบ 
เราเสร็จไปหลายรอบ แต่น้องยังต้องรับมือกับชายอีกหลายคน 

วันเวลาผ่านไป 

ความประทับใจยังคงติดตรึง 
เรายังคิดถึงน้องอามิจังอยู่เนืองๆ 
อารมณ์ชั่ววูบนึงเราถึงขั้นเคยคิดอยากไถ่ตัวน้องมาครอบครอง แต่มันก็เป็นแค่ฝันลมๆแล้งๆ
น้องอามิจังคงยังไม่ใช่เนื้อคู่ของเรา
เราอาจฝันเกินตัวเราไปไกล

ครั้งนี้

มีโอกาสพาน้องอาร์มิจังไป outdoor 

เหมือนวัวเคยขาม้าเคยขี่
รูปร่างของน้องยังอรชรอ้อนแอ้นเหมือนครั้งแรกที่เราได้เจอกัน ผมค่อยๆขยับตัวเข้าหาน้อง แล้วจับที่แฮนด์ พร้อมขึ้นคร่อมน้องอย่างแผ่วเบา ต่างจากครั้งแรกนู้น มือขวาค่อยๆคลึงคันเร่งไฟฟ้าที่ติดมากับตัวน้อง แล้วก็เร่งจังหวะคลึงสลับไปมา 

บ๊วฟๆๆๆ เสียงดูดจากแรมแอร์ของน้องครั้งนี้ ช่างมีจังหวะที่แตกต่าง จากตอนที่เราขึ้นงานกับน้องแบบ indoor
แรมแอร์ของน้องถูกซ่อนใต้เดรสหรือแฟริ่งอย่างละเมียด

น้องดูดรับตามจังหวะเค้นคลึงคันเร่ง ที่เราบรรจงบิด
น้องบิดง่ายด้วยระบบคันเร่งไฟฟ้า 
จังหวะการบิดแม่นยำ ยิ่งเย้ายวนชวนให้เราขย้ำน้องมากขึ้น

อ่าาาห์ห์ รอช้าอยู่ใย
บรรจงไล่เกียร์และเขี่ยที่หัวโหมด 
comfort ถ้าเป็นรายการทีวีก็คงแบบ เหมาะกับผู้ชมทั่วไป 
Sport ติดเรตขึ้นมาหน่อยราว13+ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำ 
Sport+ เรต ฉ โหมดนี้โหดระดับกระโดดสับ

ใส่ยับ ไม่เจอกันนาน ยกแรกเราขอน้องแบบหนักหน่วง ไม่ห่วงอะไรอีก 
เปิดสวิตกุญแจ เอานิ้วสะกิดโหมดหนึ่งที
น้องก็เป็นเป็นแบบ + ทันทีทันใด
(โหมด Sport จะเป็นท่ามาตรฐานที่เริ่มงานกับน้อง)
ใกล้แล้ว อีกนิดเดียว จะถึงที่หมายแล้ว ….
เผลอใจไปกับโหมด Sport+ ที่หมายก็สั้นลงมาแบบไม่ทันรู้ตัว ถ้าเป็นนกกระจิบก็ยังไม่ทันได้กินน้ำ 

ยกแรก น้องอามิจัง ยังคงฟิต
ส่วนเราต้องพักเสริมแรง และเติมน้ำมันให้น้องอามิจัง

ไม่รอช้าหลังเติมน้ำมันเสร็จ เราก็เริ่มยกสอง
ลองแบบซอร์ฟๆกับน้องดูบ้าง 
โหมดคอมฟอร์ทต้องบอกว่าเป็นโหมดคอลึก
น้องดูนิ่มนวลชวนฝัน ว่านอนสอนง่าย 
แต่กระนั้น เมื่อละเมียดคันเร่งไต่ระดับไปเรื่อยๆ
ความเร็วช่วงปลายของน้องก็แทบไม่ได้ถดถอยไปจากโหมดอื่นๆเท่าใดนัก แค่จะเนิบๆนาบๆมาเรื่อยๆ

จะโหมดไหน ช่วงล่างของน้องก็เอาอยู่ 
จริงๆช่วงล่างน้องก็ไม่ได้เพอร์เฟคไปทั้งหมดทีเดียว
แอบมีดีดดิ้นบ้าง ซึ่งก็ต้องปรับตัวเด้งรับกันไป
แต่ ช่วงล่างของน้องเราก็ได้แต่ร้องว่า อู้ววววว
มันลงตัว ตอดรับกับพื้นถนนประเทศไทยได้ดี
ไม่ว่าจะแทกด้วยลีลาแบบไหน น้องก็ยังไหว

เรายังต้องต่อกับน้องอีกหลายยก
น้องเองก็ยังพร้อมที่จะรับมือเราแบบไม่เกี่ยงงาน

น้องอามิจังอาจจะไม่ได้มี CC ที่สูงนัก
แต่เราเชื่อว่าใครได้ลองขึ้นงานกับน้องสักครั้ง
มีโอกาสตกหลุมรักน้องได้ไม่ยาก

หลังจากเกริ่นนำกันไปแล้วตามบทความข้างต้น

ผมเชื่อเหลือเกินครับว่า กว่า80%ของผู้อ่านบทความนี้

ย่อมรู้จักน้องอาร์มิจัง(CBR250RR)กันเป็นอย่างดีในระดับนึง

แต่ในความเป็นจริง บนถนนที่เราใช้งานกันจริงๆ 

เกินกว่า 80% ที่ไม่รู้จักมัน และพยายามจะดันแทบจะทุกไฟแดง =_=

ซึ่งก็ไม่แปลกใจนักครับ เพราะเราก็ต้องยอมรับว่ามองหาตัวจริงบนท้องถนนได้ค่อนข้างยากมากกก
นานๆจะเจอสักคัน

เหตุหลักๆที่มันพบเจอได้ยาก ส่วนนึง ไม่สิ ต้องบอกว่าส่วนใหญ่ที่คนไม่ได้ตัดสินใจซื้อ ก็เพราะราคาค่าตัวของมัน 
แต่กระนั้น  มันก็ยังเป็นที่หมายปองของใครหลายๆคนอยู่ดี
หนึ่งในหลายคนนั้นก็มีผมรวมอยู่ด้วยแบบไม่ต้องสงสัย

ดังนั้น การรีวิวนี้ อย่าคาดหวังความเป็นกลางจากผม

บทความที่ท่านอ่านอยู่นี้มีแต่อารมณ์ร่วมล้วนๆ 55555

และเช่นเคย สป๊งสเป็คไม่มี แต่พยายามจะสื่อแบบคนขับรถปกติๆคนนึง มาบอกเล่าเรื่องราวการจึ้นงานกับสาวน้อยญี่ปุ่นคันนี้แทน

รหัส RR เมื่อใดก็ตามที่รหัสพ่วงท้ายมี R มากกว่าหนึ่งตัว
บล็อคเครื่องยนต์ จนไปถึงรอบใช้งาน จะค่อนข้างผิดแผหงกแตกต่างไปจากที่เราคุ้นเคย ไม่เว้นแม้กระทั่ง CBR250RR
ที่มาในพิกัด CC น้อยสุดที่ห้อยด้วย RR 

คือเอาจริงๆมันก็คือรถแข่งที่ถูกปรับแต่งมาให้ใช้งานบนท้องถนนได้อย่างถูกต้อง
หากเรารู้จักรอบเครื่องที่ผงาดง้ำค้ำโลกของมัน
ในพิกัดccเท่ากัน ณ เวลานี้คงไม่มีรุ่นไหนกินลงง่ายๆ

เครื่องยนต์แบบสองสูบเรียง 
มันอาจไม่ใช่เครื่องยนต์ที่ให้แรงม้าได้สูงสุด
แต่เมื่อนำมาปรุงแต่งเข้ากับกล่องไฟ และคันเร่งไฟฟ้า
ก็ต้องยอมรับว่ามันไม่ธรรมดา เอาว่า 500 จากค่ายเดียวกันหากจะหนีก็หนีเหนื่อย 

แผงควบคุมไปจนถึงเรือนไมล์ 
ถูกออกแบบมาเรียบแต่เนียน
ฟังชั่นเรือนไมล์มีให้ใช้ทั้งแบบถนนปกติ ที่มี trip a b 
และเรือนไมล์เพื่อใช้จับเวลาต่อรอบในการแข่งขัน
ซึ่งสามารถปรับได้เองตามคู่มือ 

ช่วงล่าง
พื้นฐานโดนปรับเซ็ตมาแบบแอบซิ่ง คือมันจะมีความหนึบในการใช้งานมากกว่าที่เราเคยผ่านมือมา 
หากใช้แค่ในชีวิตประจำวัน ใช้ออกทริปช่วงล่างเดิมๆเติมคำว่าว่าดีงามลงไปได้เลย

แต่..หากเป็นสายบู๊จะเอาไปสู้ในสนาม ก็ต้องแจ้งตรงๆว่าอาจต้องมีการปรับเซ็ตช่วงล่างเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพอีกสักหน่อย ของเดิมก็หวดได้แหล่ะ แค่ถ้าเซ็ตใหม่อีกหน่อย
มันจะเหมือนเป็นการเพิ่มทอปปิ้งบนไอติม 

ท่าทาง
การขับรถทรงนี้ยังไงมันก็มีเมื่อยล้าตามระยะทางสะสม
แต่ Honda ก็คือ Honda ที่ขึ้นชื่อว่ารถควบคุมได้ง่ายที่สุด
เป็นมิตรกับผู้ขับขี่ที่สุด 
หากมองไปถึงรุ่นพี่ที่ cc มากกว่าต้องยอมรับครับว่า เมื่อยสาสสส แต่พอมาเป็นเจ้านี่ การขับขี่ ท่าทาง การคอนโทรล ทำได้ง่ายดาย แต่ยังคงความเฉียบคมและแม่นยำเอาไว้ได้ 
ส่วนนึงคงเพราะน้ำหนักตัวที่ไม่ได้มากมายนัก 
และถ้าสังเกตจากรูปดีๆ ท่าทางการขับขี่ขณะที่หมอบ
พื้นที่ถังน้ำมันที่รองรับ มันประทับเป็นแนวระนาบขนานกับหน้าท้องและอกของผู้ขับขี่อย่างพอดิบพอดี 

อัตราการกินน้ำมัน
เมื่อนำมาขับขี่ใช้งานแบบปกติ
เฉลี่ยที่ผมทำได้อยู่ที่ 28-30กิโลต่อลิตร 
เอาว่าออกทริปลากยาวๆได้สบายๆ 
โดยใช้ความเร็วป้วนเปี้ยนที่ 100-120ตามหน้าไมล์ 

เบรค
แน่นอน ABS ต้องมา 
เบรคเดิมๆเพียงพอ ไม่สิ เหลือๆเลยสำหรับการหยุดแรงม้าที่ลงสู่พื้นได้อย่างสนิทใจ 

มาดูรวมๆรอบคันกันบ้าง

เอาเข้าจริงผมเองก็ไม่รู้จะรีวิวอะไรเกี่ยวกะรถหรอกครับ
แค่มันเป็นรถที่ผมประทับใจตั้งแต่แรกพบสบตา
ด้วยขนาดที่ไม่ใหญ่จนเกินจะควบคุมได้ 
แถมมีเทคโนโลยีมาให้เกือบจะครบ

บทสรุป

เป็นรถที่ดี และราคาก็ถือว่าเหมาะสมแล้วครับ
ถ้าขับขี่แบบรู้อุปนิสัยของเครื่องยนต์ 
ใช้งานบนนก็ได้ ใช้งานในสนามก็ดี
เหมาะทั้งกับมือใหม่และมือเก่า ขอแค่เข้าใจในรหัส RR 

แต่ก็ต้องบอกตามตรงอีกครับว่า
มันอาจไม่เหมาะกับการเป็นรถเพียงคันเดียวของบ้านท่าน
หากมีรถคันอื่นๆให้ใช้งานสำรองอยู่ถึงควรมีไว้ครอบครอง

สำหรับบทความนี้ อาจไม่มีประโยชน์อะไรมากนัก
แค่ผมอยากบอกว่า
ผมรักมันจังเลยยยยยย ” C B R 2 5 0 R R “