สวัสดีครับ
กระทู้นี้ไม่มีอะไรมาก ไม่ใช่รีวงรีวิวอะไรหรอกครับ แค่เห็นช่วงนี้ตลาดรถ Cruiser เหมือนกำลังจะเริ่มๆ กลับมาหลังจากซบเซาไปนานพอตัวเหมือนกัน
แล้วผมก็ได้มีโอกาสควบรถคันหนึ่ง ซึ่งมีมนต์ขลังเป็นอย่างมาก เลยอยากมาเล่าสู่กันฟังเฉยๆ 
เกริ่นไว้ก่อนว่า อันที่จริงตัวผมเองเป็นคนชอบรถเก่าเอามากๆ เพราะว่ามันรู้สึกว่ามีเสน่ห์และมนต์ขลังอย่างไรบอกไม่ถูก
มีหลายๆคันที่อยู่ในมโนความคิดว่าอยากจะซื้อหามาเป็นเจ้าของ
ไม่ว่าจะเป็น Suzuki GS1200 SS , Suzuki ถังอูฐ 750 , Honda Africa Twin 750 และก็อื่นๆ อีกมากมาย
ซึ่งส่วนใหญ่ที่อยากได้ คงเป็น Suzuki กับ Honda เสียมากกว่าเพราะค่อนข้างจะมีชื่อเสียงในบ้านเรามากกว่า Yamaha และ Kawasaki
แต่อย่างไรก็ดี แม้ว่าเจ้า Yamaha และ Kawasaki จะไม่ได้รับความนิยมมากนักในหมู่นักเล่นรถยุคก่อนๆ
หากแต่มันยังมีรถคันหนึ่งจากค่าย ส้อมเสียง ที่มันมีคาแร็คเตอร์ มนเสน่ห์ มนต์ขลังติดตัวมาแบบล้นทะลัก. .
และก็ยังหารถคันไหนในตลาดไทยในปัจจุบันที่มีคาแร็คเตอร์แบบนี้ไม่ได้เลย
และเจ้านี่คือ
Yamaha VMX 1200 V-Max หรือเรียกสั้นๆ ก็ V-Max 1200 เนี่ยแหล่ะ
คาแร็คเตอร์และกลิ่นอายระดับ “ตำนาน” อีกบทหนึ่งของเจ้า V-Max
ที่สร้างความโหยหาให้เหล่าชายชาตรีนักบิดในความดิบเท่ห์เกินพิกัดและฝันอยากจะเป็นให้ได้แบบนั้น
และนั่นคือ
Ghost Rider 
ซึ่งความเท่ห์ของ นิโคลาส เคจ กับเจ้า Yamaha VMax 1700 ( ซึ่งก็เป็น VMax รุ่นปัจจุบันด้วย )
มันยังติดตาผมอยู่และไฝ่ฝันถึงมาตลอด 
แต่เมื่อเอามือล้วงตังค์ในกระเป๋า
อนิจจาคงต้องบอกลา Ghost Rider 1700
มาเป็น Ghost Rider 1200 แทน
แต่ดูแล้วไม่เหมือนเลยนะ!!! ความเท่ห์ห่างไกลต้นฉบับมาก 
เอาหล่ะ เรามาเปิดตำนานเจ้า V-Max 1200 กันดีกว่า
ในเมื่อพยายามอย่างไรเราก็ไม่ได้เข้าใกล้ความเป็น Ghost Rider โหดๆเลย
เราก็มาเป็น Hipster Rider หวานๆ ก็ได้
พูดถึง Hipster เจอร้านกาแฟเป็นต้องจอด
มาเล่นถามตอบดีกว่า
ปุจฉา : ในโลกนี้มีรถคันไหนบ้างที่ออกแบบครั้งเดียวแล้วขายได้ถึง 22 ปี
วิสัชนา : Yamaha V-Max 1200 งัยจ๊ะ โฉมเดียวขายตั้งแต่ 1985 ยัน 2007
เรียกได้ว่า ออกแบบครั้งเดียวขายกันยาวๆ ทีมออกแบบแทบไม่ต้องทำอะไรกันกับรุ่นนี้เลย 
Rider Cockpit
วินาทีที่ค่อมรถ เราจะพบกับเรือนไมล์แบบเข็มบอกความเร็วลูกเดียวตรงด้านหน้าเราอยู่ในระดับพอดีสายตา
สำหรับเจ้าคันนี้ เนื่องจากเป็นรถ Spec นอก เรือนไมล์จึงบอกความเร็วเป็น MPH
ตามปกติ Cruiser เก๋าๆ ทั่วไปก็มักจะมีเรือนไมล์วัดความเร็วแบบลูกเดียวนี่แหล่ะ แต่กับเจ้า V-Max นั้นมันไม่ใช่ Cruiser ธรรมดา แต่มันเป็น Power Cruiser บ้าพลัง
ที่มาพร้อมสมรรถนะเครื่องยนต์แบบระห่ำ วัดรอบจำขาดได้เช่นไร จริงไหม…
ยังงัยก็ขอใส่แอบไว้ให้เล็กๆ ตรงถังน้ำมันละกันนะ
แต่น่าเสียดาย เกจความร้อนที่ให้มามันน่าจะเป็นเกจน้ำมันแทนนะ 55 เอาน่า ยังมีไฟเตือนมาให้เมื่อน้ำมันใกล้หมด
ดูเรียบง่ายตามสไตล์รถยุคนั้น
แต่เจ้าคันนี้มันอวบอัดและแผงด้วยพลังนะ ดูถูกไม่ได้เลย
สำรวจมาถึงสิ่งที่เป็นจุดเด่นที่สุดของรถคันนี้
เจ้าเครื่องยนต์ V 4 สูบแบบเดียวกับรถ Moto GP หลายๆ คัน และสุ้มเสียงท่วงทำนองก็โหดๆ โทนเดียวกับรถ MotoGP นะเนี่ย
เครื่องยนต์ V4 นี้มีอยู่ในรถไม่กี่รุ่นหรอกบนโลกนี้ เพราะมันจัดเป็นเครื่องยนต์ที่ต้นทุนการผลิตสูงเอาการอยู่ รถที่ใช้เครื่องยนต์แบบนี้ราคาไม่ถูกแน่นอน
CC ที่ให้มา 1,197cc กับแรงม้าสูงสุดซึ่งถือว่า บ้าพลังมากในยุคนั้น Version ที่มีกำลังสูงสุดให้พลังม้าถึง 140 ตัว จนผ่านมาถึงยุคนี้ กำลังม้านั้นยังไม่ถือว่าน้อยหน้ารถสมัยใหม่เลย
สูบเยอะ วาล์วเยอะ ( 16 วาล์ว ) แคมโคตรเยอะ ( 4 แคม) คาบูเยอะด้วย ( 4 ตัว )ยัดหม้อ ( น้ำ ) มาให้อีก ยังกลัวจะไม่บ้าพลังพอหรือกระไรก็มิทราบ Yamaha ยังแอบยัดระบบ V-Boost มาให้อีก
มันเป็นระบบคล้ายๆกับ “วาล์วเปิด โลกเปลี่ยน” อะไรทำนองนั้น กำแฮนด์ให้แน่นๆ ละกัน
เพียงแต่ว่า มันไม่ใช่ระบบวาล์วแปรผันอะไรหรอกนะ
มันคล้ายๆ คาร์บูเรเตอร์แปรผัน..
ประมาณว่า 1 สูบกินน้ำมันจากคาร์บู 2 ตัวอะไรประมาณนั้น มันทำได้อย่างไรหรอ
ก็ในขณะที่สูบที่ 1 กำลังดูดน้ำมันอยู่ สูบที่ 2 มันกำลังจุดระเบิด คาร์บูของสูบที่ 2 ก็ไม่ได้ใช้อะไร
ยืมมาช่วยจ่ายน้ำมันสูบ 1 เสียเลย อะไรประมาณนั้นครับ
ในแง่หน้าตา เครื่องยนต์สูบวีมันเป็นเครื่องยนต์ที่โคตรหล่ออยู่แล้ว น่าเสียดายนะ ถ้าเป็นเครื่องหม้อลม ครีบเยอะๆ เงาๆ หน่อย น่าจะโคตรสวยเลย แต่มันจะเข้ากับ Cruiser บ้าพลังหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ 555
จุดออกแบบที่รู้สึกชอบคือ การออกแบบหน้าตาของไส้กรองอากาศที่ดูดุดันและไม่เกะกะขาเหมือน Cruiser สูบวีหลายๆรุ่น
มองจากอีกมุมยังถือว่างามและดุดันอยู่นะ
เบาะสบายทั้งคนขี่คนซ้อน ที่สำคัญ
เติมน้ำมันใต้เบาะนะคร๊าบบบบบบ ไม่เหมือนใครใช่ไหมล่าาา
เห็นเขาว่าไว้ว่าออกแบบให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำ
[Spoil] คลิกเพื่อซ่อนข้อความ
หน้าตาเป็นแบบนี้ พอดีผมลืมถ่ายไว้จริงๆ
คร่อมเลยละกัน ฮึ๊บ
เล่นอีกที
ต้นฉบับ
ของเลียนแบบ
คิดอีกที ไม่เหมือนก็ดีนะ 555
ขี่ยาก.. เข้าโค้งทื่อโคตรๆ
.
.
นั่นเป็นคำบอกเล่าของ( เกือบ ) ทุกๆ คนที่ได้ขี่รถรุ่นนี้
แต่พอผมได้ลองความรู้สึกผมมันกลับแตกต่าง ผมว่ามันก็ขี่ไม่ยากเท่าไรนะ
ยังมีรถรุ่นใหม่ๆ บางรุ่นในบางสถานะการณ์ที่ขี่ยากกว่านี้
เอาเถอะ ขี่ง่ายขี่ยากผมว่ามันเป็นบรรทัดฐานของแต่ละคนจริงๆ ไม่มีใครถูกใครผิด แต่ผมขอเล่าในบรรทัดฐานไม้บรรทัดของผมละกัน
รถหนัก…
เฉยๆ นะ เพราะครุยเซ่อร์มันหนักเป็นปกติเกือบๆ ทุกรุ่น แต่เวลาเข็นบางทีรู้สึกเบากว่าสปอร์ตเพราะแฮนด์กับความสูงเรามันพอดีๆกัน ไม่ต้องก้มๆ เงยๆ เข็นเหมือนรถสปอร์ต
เวลาขึ้นคร่อมหรือขี่ เราจะยิ่งรู้สึกเบาและมั่นใจ เพราะมัน “เตี้ย” “ขาถึง” เลยไม่มีอะไรต้องให้กลัวเกี่ยวกับน้ำหนักตัวอันมโหฬารของมัน
ดิบ…
เครื่องยนต์ V4 1200cc รอบต่ำ ดิบนิดๆ ตามยุคสมัย รอบต้นทอร์คไม่ค่อยมานะ เมื่อเทียบกับ 4 สูบ 1000cc สมัยใหม่ อาจจะเป็นด้วยที่มีแค่ 5 เกียร์ที่ทดห่างๆ ด้วยก็น่าจะเป็นส่วนหนึ่ง
แต่พอ V-Boost ทำงานนี้ ดิบจริง เอามือกำแฮนด์ไว้ให้แน่นๆ ละกัน 
วาล์วเปิด โลกเปลี่ยนจริง ..
ถ้าพูดถึงความดิบในการควบคุม ..
เบรคมันก็ทื่อๆ อ่ะนะ ถ้าว่ากันตามตรง
ช่วงล่างหรอ ใช้ได้เลยนะ สำหรับผม ไม่กระด้างจนเกินไป แต่ถามว่าคมไหม
จะหวังอะไรกับ Cruiser ที่ออกแบบไว้เมื่อ 30 ปีที่แล้วหล่ะ
ทื่อ เข้าโค้งยาก
ถ้าเทียบกับรถใช้งานทั่วๆ ไป เช่น Naked , Sport , Adventure แน่นอน Cruiser เข้าโค้งได้ยากกว่า ช้ากว่า
และถ้าวัดด้วยบรรทัดฐานของ Cruiser และคืนความเป็นธรรมให้อายุอานามของมันมาเป็น Handicap ในการให้คะแนนด้วย
สำหรับผม มันทำได้ดีเลยนะ
เพียงแต่ว่าเราต้องรู้จักศาสตร์แห่งการถ่ายเทน้ำหนัก ซ้าย ขวา หน้า หลัง กันสักเล็กน้อย แล้วจะทำให้ชีวิตการเข้าโค้งด้วย Cruiser ง่ายขึ้นเยอะ
ถ้าเราเบรกหน้าก่อนเข้าโค้งเสียหน่อย เลียหลังสักนิด ให้อาการดื้อโค้งมันก็เหลือน้อยลงแล้วหล่ะ
เอาเป็นว่าอยู่ในระดับที่ไม่กวนใจและขี่ สนุกๆ ได้ละกัน
ถ้าให้คะแนนตรงจุดนี้ผมให้ 3 เต็ม 5 นะ
10-14 โลลิตร
14 โลลิตร เมื่อขี่ชิลๆ
10 โลลิตร เมื่อวาล์วเปิด โลกเปลี่ยน ( และจากที่จน จะกลายเป็น จนหนัก )
อันนี้ไม่ได้วัดเองหรอกนะครับ เจ้าของรถคันนี้ น้องขุนแผน เขาบอกมา ( ไม่รู้จำตัวเลขผิดไหม )
แต่เอานะ ตัวพันยุคใหม่ หัวฉีด โคตรประหยัดมันยังกิน 15 โลลิตรได้เลย
ตัวพันสองคาร์บูเรเตอร์จากอดีต 30 ปีทีแล้วมันทำได้ขนาดนี้ก็ถือว่า OK ละนะ
ในท้ายที่สุด โอกาสที่จะได้ควบเจ้าคันนี้แบบถึงกึ๋นนั้นต้องรอไปก่อน
ใจจริงอยากจะพารถเก่าๆ ขึ้นเหนือบ้างนะ
ผมว่ามันได้ฟีลอีกแบบเลยที่รถใหม่ให้ไม่ได้
อารมณ์ความเก๋ามันต่างกันมาก
แต่เท่าที่ขี่ๆ อยู่ก็พอจะรู้จักมักจี่กันได้ระดับนึงแบบพอจะเล่าสู่กันฟังได้
สำหรับคนชอบรถเก่าๆ หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์บ้าง อย่างน้อยก็อ่านเพื่อความเพลิดเพลินนะครับ 
และก็ขอบคุณน้องขุนแผน ที่ชักชวนให้มาลองขี่รถคันนี้ด้วย ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ยากจะลืม
ว่าแล้วก็อยากขี่อีกอ่ะ … 
จนสุดท้าย ผมกลับมา
ทุกวันนี้ผมยังฝันถึงเจ้า VMax แต่เป็นตัว 1700 นะ
อา… ผมโดนมนต์ VMax เข้าแล้วเต็มๆ ….
Cruiser บ้าอะไร 200 แรงม้า
ป.ล. สุดยอด Cruiser อย่าง Ducati XDiavel ก็ขี่มาแล้ว แต่ทำไมฝันถึง VMax ก็ไม่รู้สิ
สงสัยผมติ่งแยม
เอ้า จบจริงๆ ละครับ แฮ่ๆ
ราตรีสวัสดิ์
บทความโดย : เตี้ย ล่ำ ดำ แก่
ที่มา : pantip.com/topic/36145066
