-=:+:[RIDE NOW] The Volunteer Riders Save The Forrest@Pachee Wildlife Sanctuary With YAMAHA SR400:+:=-
คำเตือน!!! กระทู้นี้รูปเยอะนะจ๊ะ เปิด wifi ได้ก็เปิดเถอะจ๊ะ
สวัสดีครับ ช้าหน่อย แต่ก็มาจนได้สำหรับขี่แล้วมาเล่ากับคันนี้
ทริปนี้เป็นหนึ่งในกิจกรรมนำร่องของเพจฯที่ปี58นี้เรามีโครงการ [RIDE NOW] Volunteer Riders ที่จะมาชวนสมาชิกไปทำกิจกรรมที่เป็นสาธารณะประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมกัน โดยผมไปในฐานะ…
ผู้ประสานงานกิจกรรม กลุ่มบ้านดินไทย เครือข่ายจิตอาสา ชีวิตในวันหยุดผมมีอยู่สองอย่างครับ ที่ผ่านมาประมาณ 6 ปี ส่วนมากก็จะอยู่ในป่าหรือไม่ก็ริมทะเล กับหน้าที่ผู้ประสานงานกิจกรรมอาสาสมัคร (เรียกซะหรู เรียกสตาฟดีกว่านะ สั้นๆดี) งานหลักๆก็มีการทำบ้านดินให้คนไร้บ้าน กุฏิดิน ห้องสมุดดิน โบสถ์ดิน สร้างฝายชลอน้ำ ปลูกป่า ปลูกป่าชายเลน ซ่อมโป่ง สร้างโป่งเทียม พาเด็กๆเดินป่าเพื่อศึกษาธรรมชาติ ฯลฯ
ทริปนี้เดินทางเมื่อปลายๆหนาวที่ผ่านมาครับ ที่ลงช้าเนื่องจากมีบางไอเทมที่ผมต้องใช้จนแน่ใจถึงเอามาลงได้
ออกเดินทางตอนเช้าวันเสาร์ที่จุดนัดขึ้นรถที่ซอยรางน้ำ ไปพร้อมกับ เจเจ้@พรสิบประการ ซึ่งก็ยืมเจ้า YAMAHA BOLT R มาลองขี่เช่นกัน
พอจอดรถรออาสาสมัครได้สักพัก ก็มีแอดมึนชายของเราท่านหนึ่งเบรคจักรยานของนางเอี๊ยดตรงหน้า แล้วทำการแฮ๊ปเจ้า BOLT R ไป…
หลังจากผมกับเจเจ้ รอแอดมึนผู้แฮ๊ปรถไปไหนก็ไม่รู้ รอจนรถบัสของออกอาสาสมัครออกตัวไปพักใหญ่ๆนั่นแหละ นางถึงขี่กลับมา น่าดีดหูนัก!!
เอาล่ะสิ อาสาออกไปก่อนแล้ว ดังนั้น เจเจ้ก็รีบต่อสายไปยัง @cbrzoom ที่เอารถเพื่อนมาFR
ผมกับเจเจ้ก็ไปรอ @cbrzoom ที่พอร์โตชิโน่
เมื่อ @cbrzoom มาตามนัดแล้ว เราก็เดินทางไปกันต่อที่วัดคลองโคน เพื่อพาอาสาสมัครไปปลูกป่าชายเลนกัน
หลังจากปลูกป่าชายเลนเสร็จ เราก็เดินทางกันไปต่อที่อำเภอสวนผึ้ง เพื่อมุ่งหน้าสู่ หน่วยพิทักษ์หนองยาว เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี
ระหว่างทางก็แวะถ่ายรูปเล่นกันเล็กน้อย ทำงานเป็นทีม ผลัดกันรุกผลัดกันรับ เอ้ยยยยยผลัดกันถ่ายยยย
ระหว่างทางเข้าหน่วย
เมื่ออาสาเดินทางมาถึงก็เป็นเวลาเกือบๆเย็นแล้ว สิ่งที่ต้องทำเร่งด่วนก็คือการกางเตนท์และหุงหาอาหาร
อันนี้เตนท์ของผมกับเจเจ้
มื้อนี้อาสาทำกันเอง ส่วนสตาฟก็คอยช่วย(ป่วน)และเป็นแขกดอย เน้นตลกบริโภคอย่างเดียว ยิ่งทำยิ่งมืด ทำเสร็จนี่ต้องส่องไฟจวกกันเลยล่ะ
แต่ก็อร่อยนะเออ
กิจกรรมกลางคืนก็จะเป็นการล้อมวงสนทนาแลกเปลี่ยนกันประสาอาสาสมัคร ซึ่งตรงนี้ก็ได้เห็นประโยชน์ของเจ้า LuminAID ในการเป็นผู้ช่วยให้แสงสว่างเคลื่อนที่ได้ดีมาก
หลังจากค่ำคืนอันแสนสงบได้ผ่านไป เช้าวันใหม่ที่เย็นสบายก็มาถึง ตื่นเช้ามาก็หาอะไรกินกันอีกเช่นเคย หุงหาอาหารเช้ากินกิน
อาหารชาวค่ายที่ทุกค่ายไม่เคยขาด ๕๕
ไก่ทอดก็มีนะเออ
วิวรอบๆค่าย
ถ้ามาหน้าน้ำตรงนี้มีลุ้นแน่นอน
นั่งผิงไฟกันได้ฟินๆ
เมื่อคืนหลับสบายกันไหมเด็กๆ
เห็นน้ำใสๆอดใจกันไม่ไหว
แสงแดดอุ่นๆ
หลังจากอิ่มกันดีแล้ว ก็มีถึงกิจกรรมการให้ความรู้เกี่ยวกับการทำโป่งเทียม และ การเสริมโป่ง
แบ่งแยกหน้าที่กันแล้วก็ออกไปทำงาน ซึ่งต้องเดินผ่านเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทางเกือบๆสี่กิโลเมตร
เจออะไรน่าสนใจก็ชี้ชวนให้อาสาดู
ถึงที่แล้วก็ลงมือขุดด้านเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้างยาวสักสองสามเมตร ลึกประมาณฝ่ามือ
เมื่อลึกได้ที่แล้วก็นำส่วนผสมของแร่ธาตุอาหารที่จำเป็นต่อสัตว์ป่าเทแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน เป็นงานที่ไม่ยาก แต่ถ้าคนที่ไม่ค่อยได้ออกแรงก็เหนื่อยเอาเรื่องอยู่นะ
เสร็จจากสร้างโป่งเทียม เสริมโป่ง ก็เป็นการทำฝายชลอน้ำ ชลอความชุ่มชื้น
หลังจากเสร็จกิจกรรม ก็เดินกลับที่พัก ใครร้อนก็แช่น้ำโลดดดดดดด
แช่น้ำเสร็จ แต่งตัว สรุปกิจกรรม แล้วก็แยกย้าย
จากที่แยกย้าย ผมกับเจเจ้ก็เลยมีเวลาเรื่อยเปื่อยกันแถวสวนผึ้งกันนิดหน่อย
เวลายังเหลือ พระอาทิตย์ยังไม่สิ้นแสง เลยชวนเจเจ้ไปเขางูที่ราดรี
ทีนี้กลับมาเหลาเรื่องรถกันบ้าง
ในยุคที่คลาสสิคกำลังกลับมา เรื่องดีไซน์นี่สรุกได้ไม่ยากเลยว่า SR400 เป็นรถที่หลายๆคนมองว่า”สวยลงตัวมาตั้งแต่เกิด” รูปแบบหลักๆเดิมๆที่คงดีไซน์มากว่าสามสิบห้าปี ขึ้นแท่นคลาสสิคมาได้ย่อมไม่ธรรมดา ในรูปแบบไฟกลมคัสตอมที่ดูแล้วเป็นดีไซน์ที่เป็นมอเตอร์ไซค์จริงๆ ไม่ใช่ออกแนวยานอวกาศ อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบ ถ้าถามผมว่าชอบไหม ก็บอกเลยว่า มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก (ที่บ้านก็มีไฟกลมสองคันแน่ะ)
เครื่องยนต์สูบเดียวความจุกระบอกสูบ 399cc. ระบายความร้อนด้วยอากาศ เครื่องแบบนี้ดูปร๊าดเดียวภายนอกรู้เลยว่า”เน้นอึด” อัตราเร่งช่วงต้นและกลางพุ่งดีใช้ได้ แต่ปลายก็เหี่ยวๆห้อยๆไปตามเรื่อง ความเร็วสูงสุดที่ทำได้ก็อยู่ที่ประมาณ130 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่สำคัญคืออัตราเร่งที่มาอย่างนุ่มนวลชวนฝัน ถ้าจะขี่ไกลๆนี่ต้องพักผ่อนมาให้เพียงพอ มันเพราะนุ่มซะจนแทบจะหลับ เรียกได้ว่าเป็นรถที่ขี่เรื่อยๆ ขี่สบายๆ ไม่เน้นอัดบ้าพลัง ความเร็วเดินทางประมาณ 100-110 กำลังดี เหลืออีกนิดไว้ไหลแซงได้บ้าง แบบนี้น่าจะเหมาะกับมันมากกว่าอะไรอื่น ระบบจุดระเบิดแบบหัวฉีด T.C.I ก็ให้อัตราเร่งที่ลื่นไหลและนุ่มนวลได้ดี
น้ำหนักของตัวรถที่ประมาณ174กิโลกรัม อาจหนักไปบ้างสำหรับนัดบิดที่ร่างเล็ก แต่สำหรับผมจัดว่าเป็นน้ำหนักที่กำลังพอดี
ช่วงล่วงระบบกันสะเทือนก็มาแบบโบราณ โช๊คหน้าเทเลสโคปิค โช๊คหลังคู่เรียบๆ เวลาขับขี่ช่วงล่างชุดนี้ให้ความรู้สึกนุ่มสบาย สำหรับในเมืองหลวงนี่ถือว่าเหมาะเลย เจอหลุมเจอร่องซ่อมๆขุดๆความนุ่มนวลมันช่วยผ่อนแรงได้เยอะ แต่พอวิ่งบนถนนหลวง ถ้าเจอถนนที่กำลังสร้างแล้วขูดหน้าถนนสักหน่อยนี่เลี้อยๆดิ้นๆกันสนุกพอเป็นพิธี เรียกได้ว่านุ่มนวลจนยวบในบางสถานการณ์ แต่พอคุ้นแล้ว ทักษะใครดีก็ปรับตัวกับมันได้เร็วกว่า
ชุดโครมเมี่ยมที่ให้หลายจุด ส่งให้รถดูหรูหราแวววาว คือดูรอบคันแล้วผมพอใจแทบไม่ต้องแต่งอะไรเพิ่มเลย(ปกติชอบเดิมๆอยู่แล้ว)
เรือนไมล์ให้มาคลาสสิคและสวยงาม ไม่มีเกจน์วัดระดับน้ำมันนะจ๊ะ แต่มีไฟเตือนมาให้จ้า
ล้อหน้าหลังเป็นล้อซี่ลวด ยางหน้าหลังก็เป็นแบบใช้ยางใน มาพร้อมกับวงล้อขนาด18นิ้วทั้งหน้าหลัง หน้า90/100 หลัง110/90 เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป ยางที่ให้มาอยู่ในระดับดี หนึบพอได้
เบรคหน้าแบบดิสก์เบรค เบรคหลังมาเป็นดรัม จากการใช้งานก็ถือว่าเพียงพอกับตัวรถและพอกับการเดินทางแบบสบายๆ
สิ่งที่ดูแล้วเป็นทัง”เอกลักษณ์” สำคัญของเจ้านี่คือการที่ยังคงระบบสตาร์ทเครื่องแบบ Kick Start เอาไว้ ถ้าคนไม่คุ้นเคยนี่บางคนสตาร์ทกันจนแทบร้องไห้ยังไม่ติดเลย ซึ่งหลังๆมาก็จะมีช่องดูมาร์ควาวล์มาให้ มีตัวบีบยกวาวล์มาให้เพื่อช่วยผ่อนงแรงได้ดีขึ้น แต่จากการใช้งานผมคุ้นกับการสตาร์ทแบบไม่บีบตัวยกวาวล์ไม่ดูตัวมาร์คมันมากกว่า คือลองกดคันสตาร์ทลงไปจนรู้จังหวะในระดับหนึ่งแล้วก็…ชึ่ง!!!ได้เลย จุดนี้บอกเลยใครสนใจตัวนี้ต้องคิดดีๆ จะร่างเล็กจะร่างยักษ์น้ำตาตกมานักต่อนักแล้วเรื่องนี้๕๕๕๕
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง….บ้าจริง!!ลืมวัด๕๕๕ อันนี้ต้องขออภัยจริงๆ
รถคันนี้เหมาะกับคนวัยทำงานขึ้นไปแล้ว แต่วัยกลางๆที่ต้องการย้อนกลับไปถวิลหาอดีต ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไม่ดูแปลกตามากนัก แต่สำหรับคนที่ชอบรถแบบนี้ไปไหนมาไหนนี่ถือว่าสะดุดตาคนเหล่านั้นมากทีเดียว จอดไฟแดงนี่เป็นเป้าดึงดูดสายตาแน่นอน รุ่นนี้อะไหล่ต่างๆมีเยอะ เพราะมีคนเล่นรุ่นนี้อยู่จำนวนไม่น้อยก่อนที่แยมจะเอาเข้ามา ราคาค่าตัวนี่เวลาใครถามต้องตอบแบบอาร์ตหน่อยๆ เพราะมักจะเจอสวนว่าราคานี้ทำไมไม่เอานู่นเอานี่ ก็ตอบไปเลยว่า ก็…กูชอบ เงินกู ๕๕๕๕
มาต่อกันที่ของแปลกสักหน่อย ดูเหมือนๆจะไม่ค่อยเกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์ แต่จริงๆสำหรับสายทัวร์ริ่งชอบวิ่งไปกางเตนท์ตามป่าตามดง ผมมองว่านี่เป็นไอเทมที่เจ๋งพอตัวเลยล่ะ ทำคลิปแกะกล่องไว้เล่นๆ ลองไปเบิ่งกันแน
หลังจากแกะมาทำคลิปแล้ว ก็ลองเอาไปใช้งานจริงในทริปดู ลองเปิดยาวๆ เออ ที่ความสว่างระดับแรกนี่เปิดได้ข้ามคืนจริงๆ
ที่มันเจ๋งมากคือเป่าลมแล้วเปิดไฟ เดินหิ้วไปไหนมาไหนมีแต่คนขอดู เฮ้ยมันแปลก๕๕๕
จากการใช้งาน โยนลงน้ำเล่นได้เลยสนุกคือ ลองโยนตรงทางข้ามน้ำ ปรากฎว่ามันมุดไปในท่อระบายน้ำ แว๊กๆๆๆ ดีนะน้ำไม่เต็มท่อมากลอดมาได้พอดี
ที่เห็ฯจากภาพคือมันช่วยในกิจกรรมสันทนาการได้ในที่ๆไม่มีแสงไฟ ทำให้เห็นหน้าค่าตากันได้ อิอิ
วางกลางโต๊ะก็สว่างพอใช้
สาวๆล้างจานกันมืดๆก็เอาไปช่วยส่อง เอาไปวางใกล้ๆก็ได้ ไม่กลัวน้ำเลยสักนิด
ว่าข้อดีมาซะยาว เอาข้อเสียเลย ข้อเดียว คือ…มันถือว่าค่อนข้างแพง!!! แต่ก็ด้วยสิทธิบัตรและแบตลิเธียมโพลิเมอร์มันก็ดึงราคาขึ้นมากอยู่
ในคลิปผมจะบอกว่าคงไม่ใครเอาไปหนุนนอน ปรากฎว่าทริปล่าสุดไปห้วยแม่ขมิ้น มีคนแฮ๊ปหนุนนอนถึงเช้าเลย ๕๕๕ เออ พอได้คืนมาก็ยังสภาพปกติ โอเค มันหนุนนอนได้สบายไม่พังๆ
เออ ข้อเสียอีกข้อ คือมันเด่นอะ ถือไปใครก็อยากรู้อยากดู ต้องมาคอยตอบคำถาม เดี๋ยวคนนั้นก็ยืมดู คนนั้นก็ยืมไปเล่น บางคนยืมไปใช้เลยเออ ๕๕๕ มาแย่งกันเล่นซะนี่
จากการใช้งานมาสามทริปก็พบว่ายังใช้การได้ดีเปิดได้ข้ามคืนอยู่ ก็ถือว่าโอเคนะราคาอาจจะยังไม่คุ้ม แต่ความสนุกผมว่าคุ้ม ๕๕๕
บทความโดย สมัญตาชีวบุตร_omega_13