[RIDE NOW] ครบรอบ ๗o ปีแห่งการสถาปนารัฐฉาน@ดอยไตแลง เทือกเขาแห่งเสรีชน by GPX RACING CR5 200 EFI

[RIDE NOW] ครบรอบ ๗o ปีแห่งการสถาปนารัฐฉาน@ดอยไตแลง เทือกเขาแห่งเสรีชน by GPX RACING CR5 200 EFI

คำเตือน!!!  ก่อนรับชมกระทู้นี้ โปรดตรวจสอบว่าอุปกรณ์ของท่านได้เชื่อมต่อ WiFi แล้ว

ที่ความสูงกว่า 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเลบนเทือกเขาแดนลาวที่สลับซับซ้อน เราสี่คนซุกตัวนอนขดในเตนท์ที่อุณหภูมิเท่าไรไม่ทราบ แต่คาดว่าอุณหภูมิในค่ำคืนนั้นคงต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียส

ด้วยความอยากรู้อยากเห็นความเป็นไปบนดินแดนที่ชาติพันธ์หนึ่งเคลื่อนไหวเพื่อยืนยันเสรีแห่งตนมากว่า 70 ปี กิเลสนั้นพาเราดั้นด้นควบสองล้อจากบางกอกขึ้นมาเมืองสามหมอก และเดินทางข้ามพรมแดนไทยมาในเขตรัฐฉาน…ดอยไตแลง

70 หนาว 70 ฝน แห่งการต่อสู้เพื่อเอกราชนับแต่สัญญาที่ปางโหลง(ปางหลวง) หนึ่งในชาติพันธ์ที่ร่วมก่อตั้งสหพันธรัฐเทือกเขา ได้ยืนหยัดต่อสู้และตั้งมั่นกองกำลังกู้ชาติไทใหญ่ (SSA) อยู่บนเทือกเขาแห่งนี้

บนผืนแผ่นดินที่เจือปนไปด้วยกลิ่นไอของดินปืนจากอาวุธสงคราม ที่พวกเขาแลกด้วยเลือดเนื้อและชีวิตและปกป้องเพื่อให้ยังปรากฎดินแดนที่พวกเขามีสิทธิแห่งตนอย่างสมบูรณ์

ยิ้ม เดินทางไปกับเรา Pantip Reviews @รัชดา & Just ride it พร้อมจะพาท่าน RIDE NOW ไปกับพวกเราในทุกเส้นทาง ยิ้ม
การเดินทางครั้งนี้ เกิดขึ้นจากน้องชายสหายไรเดอร์ท่านหนึ่งที่เชียงใหม่  https://pantip.com/profile/2022687โพสต์ชวนขึ้นหน้าวอลตัวเอง เพื่อหาเพื่อนร่วมเดินทาง

ก่อนนี้หลายปี ตั้งแต่สมัยที่น้าโจ๋ยบางจากยังทำสารคดีเผยแพร่ทางช่อง i tv ภาพของการเดินทางสู่ขุนเขาแห่งนี้ ยังตรึงตราในความทรงจำบางๆในวัยเยาว์

เมื่อได้เห็นคำว่า “ดอยไตแลง” ปรากฎขึ้นหน้าผ่านการชักชวนนั้นอีกครั้ง คล้ายคำสาปมากระแทกความทรงจำ ถ้อยคำนี้ก็ยั่วเร้าให้กิเลสของนักเดินทางอย่างเราพลุ่งพล่าน อย่ากระนั้นเลย หาเพื่อนร่วมทางเพิ่มเติมเพื่อไปเสริมประสบการณ์ให้ชีวิตกันดีกว่าน่า

แน่นอน อีตาคนนี้โดนหลอกไปเชือดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็ไม่เห็นจะหลาบจำ Freeman Rider เป็นชื่อแรกที่ผมนึกถึง หึหึหึ คางเหลืองแน่ๆไอน้องชาย…

ในโจทย์ที่ต้องเดินทางจากบางกอกไปเมืองสามหมอก ระยะทางกว่าพันกิโลเมตรบนถนนลาดยาง และอีกสิบกว่ากิโลเมตรบนถนนลูกรังสภาพทุรกันดาร และต้องเดินทางไปให้ถึงที่หมาย และกลับมาให้ถึงบ้าน สิริรวมแล้ว…เป็นเวลาหลายวัน

พาหนะที่เราเลือกต้องทำความเร็วได้ประมาณหนึ่ง มีถังน้ำมันที่จุได้มากพอที่จะเดินทางเข้าออกดินแดนนั้นกับตัวอำเภอใหญ่ๆได้โดยไม่ต้องห่วงว่าน้ำมันจะหมดกลางทาง ช่วงล่างต้องเดินทางได้ดีบนทางดำ และพอไปวัดไปวาได้ในทางแดง

ประจวบเหมาะกับถึงคิวที่จะต้องทดสอบเจ้า GPX RACING CR5 200 EFI พอดีเป๊ะ เมื่อเทียบกับโจทย์ที่เราต้องการแล้ว แค่เพิ่มกล่องอีกสามใบไว้ช่วยขนของ สมการต่างๆนั้นลงตัวพอดี เราจึงไปรับเจ้า CR5 200 EFI สีแดง คันใหม่เอี่ยมอ่อง และ CR5 200 สีเหลืองตัวคาร์บู ที่ร่วมเดินทางมากับเราหลายทริป มาเพื่อเป็นคู่ใจไว้ใช้สอยในการเดินทางครั้งนี้

DAY 1….

คนพร้อม รถพร้อม กาลเวลาที่นัดหมายพร้อม เราเริ่มเดินทางออกจากบางกอกเมื่อวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ปลายทางของวันนี้อยู่ที่หัวเมืองใหญ่แห่งล้านนา….พูดไปนั่น ไปเชียงใหม่บ่อยเสียยิ่งกว่าเมืองไหน ๕๕๕

แน่นอน ที่เก่า เวลาเดิม นัดกันที่ ปตท. บางประหัน เก้าโมงเช้า ผมว่าเป็นเวลาที่ค่อนข้างจะเหมาะพอดีกับระยะทาง

อีกนัยหนึ่งของการเดินทางครั้งนี้ คือได้ทดสอบสมถรนะของรถที่ได้มาลองขับขี่ไปด้วยพร้อมๆกัน ในระยะทางที่เหมาะสมกับการวัดอัตราการสิ้นเปลืองของเชื้อเพลิง จาก ปตท.บางประหัน มาถึง บางจาก เลี่ยงเมืองนครสวรรค์ เป็นระยะทางที่เหมาะพอดีกับรถ และกำลังดีสำหรับการพักผ่อนของคนขี่ ที่เริ่มจะล้าจากแดดที่แรงกล้าในเวลากลางวันของฤดูหนาว

ปั้มบางจากที่พิกัดนี้ จึงเป็นจุดพักผ่อนและจุดนัดพบที่สองเป็นประจำของเรา ด้วยความเหมาะสมดังกล่าว และทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีเพียงพอ ทั้งฟู้ดคอร์ท ร้านกาแฟ ร้านสะดวกซื้อ ห้องน้ำสะอาด

จาก ปตท.บางจาก ผมมีอีกที่หมายหนึ่งในใจ ที่ผ่านมาผ่านไปหลายทีไม่ได้แวะเสียที วันนี้ได้ลองแวะแล้ว อิอิ ใครที่เดินทางกับผมมาบ้าง จะรู้ว่าผมชอบแวะร้านญีุ่่ปุ่นมือสอง มากกกกกกกกกกกกกกกกกก

ร้านนี้อยู่เลยกำแพงเพชรมาหน่อยนึงจ้า
จากนั้นเราก็มาเรื่อยๆ แวะอีกสักสองปั้ม ปั้มต่อมาเป็น PT ก่อนเลี้ยวซ้ายผ่านจังหวัดตาก

ปั้ม เชลล์ อำเภอเถิน …เติมน้ำมันกันซะป๊ะยี่ห้อมากๆ ๕๕
ลากยาวๆจากเถิน ผ่านลำปาง ข้ามขุนตานมาลงลำพูน แวะเดิมน้ำมันที่เอสโซ่แถวๆนิคม วันนี้ยังไม่มีที่พักในใจว่าจะไปซุกหัวนอนที่ไหน แต่อยากขี่ผ่านบ้านแถวๆหนองหอยสักหน่อยว่าตอนนี้สภาพเป็นอย่างไรบ้างแล้ว (ปล่อยให้เช่า) ขี่ผ่านสี่แยกหนองหอยมาป๊ะร้านนี้พอดี เอ๊ะเข้าท่า ช่วงปีที่ผ่านมาเห็นร้านหม่าล่าตามแหล่งท่องเที่ยในภาคเหนือเยอะขึ้นเรื่อยๆ ว่าแล้วก็จัดมื้อเย็นวันนี้เป็นสายปิ้งย่างให้เหมาะกับอากาศหนาวๆก็แล้วกัน


มีอะไรให้เลือกบ้างนี่…

แอร๊ยยยย ไส้ๆๆๆๆ ของโปรดเลย!!

เบคอนพันเห็ดเข็มทอง ต้องจัด!!

ถ่ายไปน้ำลายยืดไป



เลือกได้แล้วก็ส่งให้แม่ค้าจัดการย่างมันเสีย!!
เราได้ลองลิ้มชิมรสแล้ว….สหายเอย หากเจ้าสรรหาหม่าล่าที่แซ่บไปยันลำไส้ใหญ่ รสชาติที่สะเดาลิ้น และความเผ็ดร้อนที่ชาปาก เจ้าจงมายังร้านนี้  สหายเอยจงตามลายแทงไปเถิดเราขอการันตีว่า “หม่าล่าเด้าลิ้นนมโต สาขา2” นั้นเด็ดจริง!!
https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%95-%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%B22/381218428892688?fref=ts


อ่อ ทริกเบาๆ กินแล้วชอบอะไร จะกินเพิ่มรีบๆสั่งนะ นี่พอจะไปเบิ้ลบางอย่าง หมดจ้า ลูกค้าประจำเยอะเลย
ท้องอิ่มแล้วก็หาที่นอนสิ…มาได้ที่นี่แถวแยกสนามบิน ราคากับความสะดวก ก็โอเคนะ คืนนี้อยากนอนแล้ว เลือกห้องที่อยู่ชั้นหนึ่งก็แล้วกัน ขี้เกียจแบกของขึ้นบันได อิอิ






มีระเบียงด้วย แบบนี้ชาวสองล้อชอบเลย เอารองเท้าไปผึ่งข้างนอกได้ เอาเสื้อผ้าไปอังคอมเพรสเซอร์ได้


Day 2…

เช้านั้น เรามีนัดกับ บร๊ะต่อน้อย และ พี่ชายอีกท่านหนึ่ง ที่ปั้มแรกของถนนเส้นเชียงใหม่-ฝาง กว่าทุกคนจะมาพร้อมกัน ก็ปาไปกว่าเก้าโมงครึ่ง

มาแวะกันอีกที่ทีปั้มเชลล์ แยกแม่มาลัย เพื่อเลี้ยวซ้ายผ่านอำเภอปาย ไปอำเภอปางมะผ้า จากจุดนี้ เราวิ่งกันแบบฟรีสไตล์ ใช้วิธีนัดที่หมายถัดไปเพื่อความคล่องตัว ใครจะไปช้าไปเร็ว จะแวะ จะพัก จะจอดทำธุระส่วนตัว จะได้สะดวกใจ[RIDE NOW]

เดินถ่ายน้ำมันเครื่องที่ห้องน้ำ โอ้โห ตัวเบ้อเริ่มเลย สวยมากๆ
ระยะทางกว่าสองร้อยกิโลเมตรที่คดเคี้ยวไต่ขึ้นลงทางลาดชันบนขุนเขา ไม่ใกล้…แต่ก็ไม่ไกล เราจึงไม่รีบร้อนมากนัก แต่แน่นอนว่าเราก็มีจุดหมายไว้บางจุดในใจที่หมายจะแวะพักตามรายทาง


ผ่านจุดตรวจขุนแม่ยะ เจ้าหน้าที่โบกถามว่าจะไปไหน พอเราบอกจุดหมาย ก็แจ้งว่าจอดพักผ่อนก่อนดีไหมแล้วค่อยไปต่อ เนื้อเสียงที่แฝงความหวังดีพร้อมกับการปฏิบัติตามหน้าที่….พักสักหน่อยก็ดี คำถามต่อมา…รุ่นนี้ใช้ดีไหม เล็งไว้จะถอยสักคันอยู่เหมือนกัน อ่าวววว อิอิ

ตรงนี้มีร้านค้าสวัสดิการ พอเห็นรองเท้าคู่นี้เลยโทรไปถามอาจารย์ว่าสนใจไหม แต่ราคาออกจะเกินงบไปสักหน่อย อาจารย์บอกไว้ไปซื้อที่แม่สายกันดีกว่า อิอิ

พาเจ้าต่อแวะเติมน้ำมันอีกครั้ง เพราะถังHDนั้นความจุน้อยกว่าของเราโขอยู่ แวะกินข้าวซอยร้านน้องเบียร์ อิ่มท้องแล้วก็ขึ้นไปที่เช็คพอยท์ต่อไป


มาถึงอำเภอปางมะผ้า เราเติมน้ำมันที่ปั้ม PT จนเต็มถัง แล้วพากันเข้าไปทำเอกสารของอนุญาตผ่านแดนเข้าไปรัฐฉานที่บ้านหลังหนึ่งไม่ไกลจากปั้มมากนัก ถ้ามาจากปาย ให้มองทางขวามือเอาไว้ บ้านนี้จะอยู่ตรงแยกทางเข้าถ้ำน้ำลอด ก่อนถึงปั้ม PT ปางมะผ้าสักประมาณหนึ่งกิโลเมตร
วันนั้น บรรยากาศที่ทำการเฉพาะกิจกองกำลัง SSA ที่ปางมะผ้าค่อนข้างคึกคัก ทั้งชาวไทใหญ่ที่มาทำงานฝั่งไทยจะกลับบ้านไปฉลองปีใหม่ไทใหญ่ ทั้งนักท่องเที่ยวไทยแลนด์ที่มาร่วมฉลอง แม้จะคึกคัก ไม่ต้องต่อแถว แต่ก็ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน คล้ายจิตใจทุกคนที่นี่กำลังร่วมยินดีไปด้วยกัน การกระทบกระทั่งจึงไม่มี

ยื่นบัตรประชาชนให้เจ้าหน้าที่SSA เราก็จะได้เอกสารหน้าตาแบบนี้พร้อมลายมือชื่อเจ้าหน้าที่และตราประทับมา จากตรงนี้เราต้องเลี้ยวเข้าไปทางบ้านจ่าโบ่และผ่านด่านทหารไทยอีกสามด่าน และด่านกองกำลังSSAอีกหนึ่งด่าน…เอกสารฉบับนี้ห้ามหายเป็นอันกุด!!!

แวะบ้านจ่าโบ่ ชักภาพที่จุดชมวิวมหาชนสักหน่อย บ่ายสามแล้ว แต่ก๋วยเตี๋ยวก็ยังขายนะ แต่วันนี้เราตั้งใจไว้แล้วว่ามื้อเย็นวันนี้เราต้องข้ามไปกินที่ดอยไตแลงให้จงได้!! พรุ่งนี้ค่อยมาเหลาก๋วยเตี๋ยวทะเลหมอกก็แล้วกันเนอะ


คลิปที่ภาพเพื่อชมคลิป
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
จากด่านที่สอง…สภาพถนนลาดยางผุพังจนกระทั่งลาดยางกลายไป กลายเป็นลูกรังฝุ่นตลบแบบนี้ลาดชันคดเคี้ยวไปมา บางช่วงเป็นฝุ่นแป้งหนาๆผสมร่องน้ำและหินลอยไปตลอดถึงด่านสาม ด่านสี่และด่านกองกำลังSSA บางช่วงร่องลึกขนาดที่ว่ารถกระบะสี่ล้อแดงท้องติดร่อง ต้องลงไปช่วยกันยกกันเข็นถึงจะไปต่อได้ สภาพเส้นทางโดยรวม ถ้านับเป็นทางเอนดูโร่ความยากอยู่ในระดับ 6.5/10 มือใหม่มาได้ไหม ก็ได้นะ แต่ทำใจเรื่องล้มหน่อยก็แล้วกัน


คลิปที่ภาพเพื่อชมคลิป
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิปที่ภาพเพื่อชมคลิป
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิปที่ภาพเพื่อชมคลิป
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ขึ้นมาถึงแบบงงๆ ไม่มีไกด์นำทาง ลุยถั่วมั่วเอา ไหลๆมาถึงลานกว้างของโรงเรียน เจอะนักท่องเที่ยวชาวไทยกางอยู่เพียบเลย โอเค เอาแถวนี้แหละ ได้ยินภาษาไทยก็อุ่นใจ


ตอนจะขี่เข้ามาที่โรงเรียน ผ่านร้านค้ามากมายที่มาออกงานฉลองปีใหม่ชาวไทยใหญ่ บรรยากาศคึกคัก ปลงใจทันทีว่าคืนนีไม่ต้องกินมาม่าแล้วจ้า ว่าแล้วก็ขี่รถขึ้นมาหาอะไรกินกันดีกว่า ชามละสามสิบบาท ราคาไม่แพงลยจ้า หม่ำแล้วก็เดินเล่นดูงาน หลายๆอย่างก็คุ้นตาดี บางอย่างก็แปลกตา แต่พ่อค้าแม่ค้าทุกร้านพูดไทยได้หมดจ้า ติดนิดเดียวที่ภาษาของพี่น้องไทใหญ่นี่ฟังไม่คุ้นหูเลยแหะ แต่ก็มีบางคำที่มีคำไทยปนมาบ้างนะ







เดินเล่นจนอิ่ม กลับมาที่เตนท์ ปรากฎว่ามีพวกมาตั้งเครื่องเสียงใกล้ๆ แปลกทีแปลกถิ่นไม่อยากมีเรื่อง เลยยกเตนท์ไปนอนไกลๆหน่อย ขอเจ้าของบ้านแถวนั้นเข้าไปกางเตท์หลบลมในโรงเก็บของได้พอดี สบายไป


Day 3…
ตื่นตอนเช้า เราก็รีบเก็บเตนท์และสัมภาระทั้งหมดให้เสร็จ แล้วมัดขันรถพร้อมจะเดินทางต่อได้ทันที เพื่อที่ว่าหลังจากเราชมพิธีสวนสนามฉลองวันชาติไทใหญ่และฉลองครบ ๗oปีรัฐฉานเสร็จแล้ว เราจะเคลื่อนย้ายได้สะดวก

ขี่ขึ้นมาจอดใกล้อาคารพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ไทใหญ่ที่อยู่ใกล้กับลานสวนสนามได้เลย การที่สามารถบอกเล่าถึงเรื่องราวขอดินแดนและชาติพันธ์ได้นั้น คือเครื่องหมายสำคัญประการหนึ่งถึงการเป็นเอกราชของชาตินั้นๆ



เข้าไปชมภาพประวัติศาสตร์ของไทยใหญ่กันสักหน่อย ภาพไหนมีภาษาไทยบรรยาย ก็สบายไป










มาจัดการมื้อเช้ากันที่ร้านแถวๆนั้น ก็ก๋วยเตี๋ยวนี่แหละ รสชาติพอประทัง

กินไปด้วย ชมเด็กๆแถวนั้นเตรียมการแสดงไปด้วย เอาเฉพาะที่กล้าถ่ายนะ เพราะเด็กบางกลุ่มมีอาวุธจ้า
เกือบได้เวลาแล้วล่ะ ขึ้นไปชมพิธีกันดีกว่า



หลายๆคนคพอจะทราบ ว่าชาวไทใหญ่เคารพรักพ่อหลวงของเรามาก ภาพนี้คงบรรยายความรู้สึกได้มากพอ
เจ้าต่อ สหายสายเดินทางของเราก็ขอสักภาพก็แล้วกัน
ผู้เข้าชมพิธีเริ่มมากันเยอะแล้ว ตามไปส่องกันเถอะ



มองไปทางถนน ผู้คนยังเดินเข้ามาเติมพื้นที่นี้เรื่อยๆ
สักพัก เราได้ยินเสียงวงดุริยางค์นำมาแต่ไกล …เพลงแรกที่ได้ยินคือ YMCA แหละ อิอิ

มากันแล้ว ตื่นเต้นๆ




วงดุริยางค์ขึ้นมาโชว์ลีลาบนลานก่อนใคร

จากนั้น มีการแสดงหลายชุด หนึ่งในนั้นคือการแสดงทักษะการต่อสู้ระยะประชิด….เลือกมาแต่ภาพที่ไม่ติดเรทก็แล้วกัน



ชาติพันธ์ที่เป็นนักรบแห่งเสรีชนเช่นนี้ แม้แต่สตรีก็ต้องทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดินได้


ดูแล้วก็แอบเสียวไส้ว่าตอนซ้อมนี่มีหลุดคิวแล้วข้อต่อหลุดกันบ้างไหมน่ะ


เมนูหลักของงานมาแล้ว การสวนสนามของกองกำลังกู้ชาติไทใหญ่ กะคร่าวๆด้วยสายตา อัตรากำลังน่าจะประมาณหนึ่งกองพล




เราตั้งใจไว้เพียงว่า เป้าหมายของการเดินทางครั้งนี้ เราจะอยู่ในพิธีถึงเพียงขั้นตอนการสวนสนามเท่านั้น เพราะถ้ารอทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้วทุกคนกลับทางเดียวกันพร้อมกันคงติดขัดวุ่นวายดีพิลึก ได้เวลากลับสู่แผ่นดินแม่ของพวกเราแล้วเช่นกัน สหายเอ๋ย


เดินไปด้วย ชมวิวไปด้วย ผู้คนมากหน้าแปลกตา แต่งกายด้วยชุดประจำเชื้อชาติสีสรรสดใส คึกคักดีจริง




ขากลับก็คล้ายกับขามา ฝุ่นตลบเช่นเคย ทางลาดที่ขามาไต่ขึ้นสบายๆ ขากลับบางทีมันก็ไม่หมูนะ ไปชมภาพในคลิปฉบับ Freenman rider กันสิคุณ!!!

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ตั้งใจไว้ว่าขากลับต้องได้แวะ ก็ต้องแวะ อิอิ  จัดไปสอง สบายพุง

เมื่อถึงสามแยกปากทางเข้าบ้านจ่าโบ่ เจ้าต่อแยกไปปางอุ๋ง ส่วนเราไปทางปายเพื่อที่จะตีลงใต้ให้ได้ไกลเท่าที่จะทำได้ก่อนมืด ค่ำไหนนอนนั่นว่างั้นเถอะ รอบนี้ขี่มาถึงขุนแม่ยะรู้สึกตาปรือๆ แวะเสพคาเฟอีนสักหน่อย


ตอนแรกตั้งใจไว้ว่าจะตีลงไปให้ถึงตาก อยากได้วิวยามเย็นริมน้ำปิงที่ @OKO_MOD เคยส่งรูปมายั่วยวน แต่จากสภาพร่างกายที่ไม่ได้อาบน้ำมาสองวัน เราเลยเปลี่ยนใจพักที่เถินแทน….จะว่าไปขับรถ ขี่มอไซ ผ่านเส้นนี้มาตั้งแต่เด็ก ก็ไม่เคยแวะนอนที่เถินเลยสักครั้ง ก็ไม่เลวนะ

ก่อนอื่น ให้รางวัลตัวเองตามธรรมเนียมด้วยมื้อดีๆสักมื้อก่อนจบทริป ก็ได้ร้านข้าวต้มมาเยียวยาร่างกาย สองคนสามอย่างกำลังดี

ถ้าเป็นไปได้ หากต้องพักโรงแรม ผมจะพยายามแยกเตียงกันนอน เพราะจะนอนสบายกว่า(ไม่ต้องแย่งผ้าห่มกัน) เลยมองโรงแรมที่มีห้องเยอะๆไว้ก่อน คืนนั้นเลยได้นอนที่โรงแรมนครเถิน แม้สภาพห้องและเฟอร์นิเจอร์จะดูเก่า แต่ในราคา 400 ได้เตียงแยก แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว สะดวกสบายมากพอแล้ว




Day 4….

เช้าวันนั้นเรามุ่งหน้าเข้าเมืองตาก เพื่อหาสะพานตามที่เพื่อนส่งลายแทงมาให้ แล้วก็สมใจ แต่ก็นะคาใจนิดๆ คราวหน้าต้องแวะมาเก็บตอนเย็นๆให้ได้เลย









เก็บภาพกันรัวๆ อิอิ ยิ้ม
มาถึงเรื่องรถคันนี้กัน เจ้า CR5 200 EFI….นี่คงเป็นรีวิวที่เขียนถึงเรื่องรถที่สั้นมากกกก เพราะสิ่งที่เปลี่ยนแปลงจาก CR5 200 ตัวคาร์บูเรเตอร์ เท่าที่ดูก็มีเพียงการเปลี่ยนระบบจ่ายเชื้อเพลิงเป็นหัวฉีดเท่านั้น ดังนั้นที่เรือนไมล์ก็เลยมีสัญลักษณ์ไฟEngine เพิ่มขึ้นมาให้ แล้วก็มีสีใหม่ลายสติกเกอร์ใหม่เพิ่มเข้ามา

อ่อ มีอกไก่เพิ่มมาให้อีกชิ้นหนึ่ง…จริงๆอยากจะแซวว่า รถของ GPX RACING ปี 2017 นี่มีอกไก่มาให้ทุกคันเลย ต้องมีคนหมักไหมล่ะนี่ …๕๕๕
ตามนั้น…ในเมื่อมีข้อแตกตางเพียงเท่านั้น จะไปอารัมบทถึงทั้งคันให้ซ้ำกันกับกระทู้นี้https://pantip.com/topic/34773969คงไม่งามเป็นแน่

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนที่ว่านั้น คือเป็นรถมอเตอร์ไซค์รุ่นแรกของ GPX RACING ที่ติดตั้งหัวฉีดEFIมาให้แทนคาร์บู จากการทดสอบ ผลที่ได้คืออัตราสิ้นเปลืองที่ดีขึ้น อัตราเร่งที่ลื่นเนียนยิ่งขึ้น (ความเร็วปลายไม่ต่างจากตัวคาร์บู) ในความเร็วเดินทาง อัตราสิ้นเปลืองได้ที่ประมาณ 28 กิโลเมตร/ลิตร การใช้งานในเมืองแบบปกติที่ขี่ชิลๆบ้าง กระชากคันเร่งตามจังหวะการจราจรบ้าง อัตราสิ้นเปลืองประมาณ 35-37 กิโลเมตร/ลิตร

สิ่งหนึ่งที่ยังไม่เปลี่ยน และยังเป็นจุดด้อยของ CR5 200 ก็คือคุณภาพของโซ่ที่ให้ติดรถมาจากโรงงาน อายุการใช้งานค่อนข้างสั้น ประมาณ 1,000 กิโลเมตรก็ควรต้องตั้งแล้ว ไม่อย่างนั้นขี่ๆไปแล้วกระชากคันเร่ง มีโอกาสที่โซ่จะหลุดลงมากองค่อนข้างสูง หากเปลี่ยนไปใช้ RK ได้อย่างตัว Legend 200 จะเป็นการแก้ไขจุดบกพร่องที่ดีมากขึ้น

เอวัง กระทู้นี้จึงจบลงด้วยประการฉะนี้…ขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามรับชมจนจบจ้า

อมยิ้ม17

Linkต้นฉบับ https://pantip.com/topic/36120612