รักพี่เสียดายน้อง BigBike คันแรก 2 สูบ 500 cc หรือ 4 สูบ 650 cc มาลองดูกัน…

BigBike คันแรก เริ่มต้นที่พิกัดไหนดี?
เมื่อก่อนการจะมี BigBike ในครอบครองซักคันนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
ไม่มีไฟแนนซ์ ไม่มีสินเชื่อ ต้องกำตังเดินเข้าร้านอย่างเดียว แถมตาดีได้ตาร้ายเจ็บกันมาไม่ใช่น้อย
วันเวลาผันเปลี่ยนปัจจุบันการจะมี BigBike ซักคันนั้นช่างง่ายดายซะเหลือเกิน

ในงาน Motor Expo 2018 ครั้งล่าสุดที่กำลังจัดกันอยู่นี้ก็มีรถให้เลือกมากมายจนตาลาย
เรามาว่ากันเรื่อง BigBike คันแรก เลือกคันไหนดี? ปัญหาโลกแตกที่ไม่มีใครตอบได้ว่าแบบไหนดี
เอาเป็นว่า ผู้เขียน ขออนุญาตถ่ายทอดความคิดเห็นโดยส่วนตัวไว้ให้เผื่อจะตรงกับใจใครนะครับ

ในการเลือกใช้รถ BigBike นั้นก็อยากให้มองที่ความเหมาะสม และ การใช้งานมาก่อนนะครับ
ส่วนตัวผู้เขียนมองว่าไหน ๆ ก็ไหน ๆ จะถอย BigBike ซักคัน มองหามอเตอร์ไซค์ในพิกัดกลาง ๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่ ส่วนตัวนะครับ 300 cc – 400 cc ไม่ใช่ว่าไม่ดีแต่ใช้ ๆ ไปจะเกิดอาการคัน อยากขยับ CC ขึ้นมา เงินทองไม่ได้หากันง่าย ๆ คลาสเหมาะที่จะเป็น BigBike คันแรกที่อยากพูดถึงก็คงหนีไม่พ้นรถในตระกูล 500 จากค่ายฮอนด้า ซึ่งค่อนข้างตอบโจทย์ในการมีไว้ในครอบครองสนองนีท แก้อาการคันได้ตรงจุดที่สุด ด้วยขนาดตัวรถที่ไม่ใหญ่ไม่เล็ก พกพาเครื่องยนต์ 2 สูบ 500 cc ระบายความร้อนด้วยน้ำ น่าจะเพียงพอให้ใช้งานกันได้แบบไม่ขัดเขิน มีให้เลือกสามแบบสามสไตล์หลัก ๆ ก็จะมี All New Honda CBR500R / All New Honda CB500F / All New Honda CB500X


All New Honda CBR500R สปอร์ตฟูลแฟริ่ง – สำหรับสายซิ่งที่รักในความเร็วกับการขับขี่แบบเรซซิ่งสปอร์ต

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….


All New Honda CB500F เน็คเก็ตไบค์ – เหมาะใช้งานในเมืองด้วยรูปลัษณ์ตัวรถที่ดูปราดเปรียว และตำแหน่ง Handle Bar ช่วยให้ท่านั่งหลังตรงขับขี่คุมรถได้อย่างคล่องแคล่ว

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….


All New Honda CB500X ทัวร์ริ่งไบค์ – เหมาะสำหรับสายเที่ยว สายลุย สไตล์เอ็นดูโร่ ติดปี๊บสามใบไปได้ทั่วโลก มาพร้อมล้อหน้าขนาดใหญ่ขึ้น

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ซึ่งในคลาส 500 cc ของฮอนด้านั้นได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้วเป็นโฉมที่สามที่ได้พัฒนามาเรื่อย ๆ
ใส่เทคโนโลยีเพิ่มเติมมาให้ อย่างเช่น ไฟหน้า – หลังแบบ Full LED / มาตรวัดดิจิทัลใหม่พร้อมแสดงตำแหน่งเกียร์ / ระบบ Emergency Stop Tail Light แสดงไฟฉุกเฉินเมื่อรถเบรกกะทันหัน เหมือนที่ใช้ในกลุ่มรถซูเปอร์สปอร์ต และ Assist & Slipper Clutch ช่วยลดอาการกระชากของล้อหลังในช่วงเปลี่ยนเกียร์สูงลงมาเกียร์ต่ำ เพิ่มความปลอดภัยและขับขี่ได้นุ่มนวลมากขึ้น

รายละเอียดตัวรถที่ ฮอนด้าเพิ่มมาให้ใหม่ใน Series 500 cc อีกมากพอสมควร….
รออ่านรีวิวเฉพาะรุ่นอีกทีนะครับเดี๋ยวจะยาวยืดออกนอกเรื่อง “การจะเลือกรถ BigBike คันแรก เลือกคันไหนดี”  ไปไกล

กลับมาว่ากันต่อถึงเจ้า BigBike พิกัดกลาง ๆ ที่ผู้เขียนแบ่งพิกัดเอาเองไว้ในใจแต่แรกแล้วนั้น
ถือว่า 500cc อยู่ในเกณท์ที่เหมาะสมในการใช้งานสำหรับมือใหม่ ทั้งยังมีให้เลือกถึงสามแบบสามสไตล์ นับเป็นตัวเลือกที่
ทำใจเลือกพี่เสียดายน้องได้อย่างน่าปวดหัวเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน….แต่เดี๋ยวก่อน!!!

อย่าพึ่งใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล งานนี้ Honda BigBike ยังมีทีเด็ดเป็นสองศรี พี่น้องแฝดคนละฝา
ที่คลานตามกันมาเปิดตัวให้จับจองกันเป็นครั้งแรกในโลกก็ว่าได้ กับเจ้า New Honda CBR650R และ New Honda CB650R
สายพันธ์แรง ด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ มาในโฉมใหม่หมดจดโมเดล 2019

New Honda CBR650R 







NEW Honda 650 Series 2 รุ่นนี้ ยังเท่ด้วยมาตรวัดใหม่แบบดิจิตอลพร้อมไฟแสดงตำแหน่งเกียร์ เพื่อการเปลี่ยนเกียร์ที่แม่นยำขึ้น

NEW Honda CBR650R ยังวางตำแหน่งแฮนด์ต่ำลง และถังน้ำมันใหม่ เพื่อความสมดุลและการควบคุมที่ยอดเยี่ยมพร้อมไฟหน้าแบบ Duo Head Light ใช้หลอด LED รอบคัน

New Honda CB650R







New Honda CBR650R มีการวางตำแหน่งแฮนด์ต่ำลง และถังน้ำมันดีไซน์ใหม่ เพื่อความสมดุลและการควบคุมที่ยอดเยี่ยม
พร้อมไฟหน้าแบบ Dual Head Light ใช้หลอด LED รอบคัน ส่วน New Honda CB650R ก้มาพร้อมกับไฟหน้าทรงกลม

ที่โดดเด่นด้วย LED แบบวงแหวนตามไสตล์ NEO SPORTS CAFÉ เหมือนกับรุ่นพี่อย่าง CB1000R และดีไซน์รถแบบ Naked Bike ให้ความรู้สึกเท่ โฉบเฉี่ยว แนว Street สุด ๆ

New Honda CBR650R และ New Honda CB650R ยังเท่ด้วยมาตรวัดใหม่แบบดิจิทัลพร้อมไฟแสดงตำแหน่งเกียร์ เพื่อการเปลี่ยนเกียร์ที่แม่นยำขึ้น มาพร้อมโช้คอัพหน้าแบบหัวกลับ (Upside down) และดิสก์เบรกคาลิปเปอร์ 4 พอท มั่นใจด้วย Assist & Slipper Clutch (ใส่มาให้ใคลาส 500cc และ 650cc) ช่วยลดอาการกระชากของล้อหลังในช่วงเปลี่ยนเกียร์สูงลงมาเกียร์ต่ำ
HSTC (Honda Selectable Torque Control) ช่วยปรับกำลังเครื่องยนต์ให้เหมาะสมตามสภาพการขับขี่ และป้องกันล้อหมุนฟรี ติดตั้งระบบ Emergency Stop Signal แสดงไฟฉุกเฉินเมื่อรถเบรกกะทันหันแบบที่ใช้ในรถระดับซูเปอร์สปอร์ต

ส่วนตัวผู้เขียนเองก็มองว่า BigBike ก็คือรถที่มีขนาดความจุกระบอกสูบ 400 cc ขึ้นไป
ก็ยึดเอาเป็นมาตรฐานส่วนตัวไม่ได้อิงกับที่ไหนยังไงนะครับ จะว่าถูกมั้ยก็ไม่ซะทีเดียวเพราะในบ้านเราเองก็ไม่มีมาตรฐานใด ๆมากำหนดอย่างชัดเจนขนาดนั้น ก็เอาที่สะดวกเข้าว่า แต่ส่วนตัวแค่ห่างกัน 100 cc ประสบการณ์ในการขับขี่ที่ได้มามันก็ต่างกัน

คลาส 500 cc ก็เหมาะสมลงตัวอยู่ในทีอยู่แล้ว แต่ก็อย่างที่ผู้เขียนบอกไว้ว่าแค่ไม่กี่ ร้อย cc อารมณ์ก็เปลี่ยนกันได้ แล้วถ้าจะกระโดดไปเล่นคลาส 650 cc 4 สูบเสียงหวานก็จัดว่าหล่อเหลาไม่น้อย

ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเองเท่านั้น เจตนาทำไว้เผื่อว่าผู้ใดยังลังเลตัดสินใจไม่ได้
เอาตรง ๆ รถใหม่มันดีหมดแหละน่า….. แต่ถ้าอารมณ์อยู่เหนือเหตุผล ก็จัดไปตามที่ใจและกระเป๋าตังเรียกร้องละกันนะครับ
เลือกรถมาขี่ซักคันเลือกที่ถูกใจเราจะขี่แบบมีความสุขนะจ๊ะ  ขอให้ขี่รถใหม่อย่างมีความสุข อย่าลืมขับขี่ปลอดภัยใส่หมวกกันน๊อคทุกครั้ง
วันนี้ขอตัวลาไปก่อน ส่วนรีวิวแบบเจาะลึก ซีรี่ส All New Honda 500 Series และ New Honda 650 Series มีแน่นอนอดใจรอแล้วพบกันครับ

ราคา All New Honda 500 Series

– All New Honda CBR500R ราคา 217,000 บาท

– All New Honda CB500F ราคา 212,000 บาท

– All New Honda CB500X ราคา 222,000 บาท

ราคา New Honda 650 Series

– New Honda CBR650R ราคา 320,000 บาท

– New Honda CB650R ราคา 305,000 บาท

ซึ่งถ้าหากอยากติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ All New Honda 500 Series และ New Honda 650 Series สามารถเข้าไปอ่านต่อได้ที่ www.aphonda.co.th/hondabigbike

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านกันมาจนจบ โอกาสหน้าพบกันใหม่ครับ

สำหรับวันนี้ just-ride-it สวัสดีครับ  JUST RIDE IT