ชมนก ดูไฟ เพลินใจไปกับ GPX Legend150s
สวัสดีครับ วันนี้TopsaVageจะพาไปเที่ยวสถานที่สุดฮิตใกล้กรุงเทพ ที่หลายท่านคงคุ้นเคยดีอยู่แล้ว (แต่ TopsaVage เชยไง เพิ่งไปเป็นครั้งแรก)
จุดเริ่มต้นความคัน ความอยากไป ก็ไม่มีอะไรมาก ไปเจอรูปในกลุ่มกล้องที่เราสิงอยู่ เห็นสมาชิกเค้าโพสรูปนกนางนวลกัน
แล้วบอกกันว่า ถ้าอยากจะถ่ายอะไรที่ยากหน่อย ให้ลองมาถ่ายนกนางนวลที่นี่ดู
อ้าววว ยังไงละครับ ระดับรถแข่ง Moto GP อิท๊อปก็ไปถ่ายมาแล้ว นกนางนวลแค่นี้ มันจะยากขนาดไหนเชียวว๊าาา
คว้า Sony A6000 พร้อมคิตตี้ 16-50 กับ 55-210 ลงกระเป๋า เตรียมไปล่านกกันเล้ยยยย
อ้ออ เดินทางคราวนี้ ได้รับโอกาสอีกอย่างแถมมาด้วยเลย นั่นก็คืออออ “GPX Legend 150s 2018 New Colour”
ที่จอดตากลมในรูปเปิดเรื่องนี่แหละจ้า ไว้ช่วงท้าย จะเม้ามอยให้อ่าน ว่าเป็นยังไงบ้าง
รอช้าลีลาทำไม เปิดวาปมาบางปูกันเลย เพราะเส้นทางจากนิวาสสถานย่านนนทบุรีของ TopsaVage ก็ไม่มีอะไรมาก
เลี้ยวไม่กี่ที ก็ถึงที่หมายแล้ว (หรออออออ)
ก่อนเดินทางก็ทำการบ้านมาบ้างแล้วล่ะว่า นกมีแน่ช่วงเดือนมีนาคมเนี่ย ส่วนแสงที่สวยหน่อย ก็ควรจะเป็นช่วงตอนเย็นอาทิตย์ใกล้ลับฟ้า
เหล่มองนาฬิกา ตอนที่มาถึงบางปูก็ราวห้าโมงเย็นได้ กะว่าชัวร์ งามแน่
แต่เหมือนดั่งนรกชัง สวรรค์กลั่นแกล้ง ส่งเมฆมาให้อิท๊อปเพียบเลยง่า
ยังงี้แสงทองผ่องอำไพที่วาดไว้ในจินตนาการก็ต้องแห้วสินะเจ้าคะ
เอ้า ไม่เป็นไร แสงไม่งามก็อย่าไปกลัว มาถึงนี่แล้ว กล้องก็พร้อมแล้ว ลองไปส่องดูหน่อย เดี๋ยวให้เทพเจ้า LR ช่วยอีกแรงน่า
จัดนกไปเลยจึ้กแรก
ถึงจะมีความนกในเรื่องแสง แต่เราจะไม่ยอมนกเรื่องภาพ
หรี่ F แคบๆ สปีดชัตเตอร์สูงหน่อย ดัน ISO เพิ่มนิด ยิงถล่มรัว 11 ภาพต่อวินาที ตั่บๆๆๆๆ ต้องได้ภาพกลับบ้านบ้างละน่าาา
ลองถ่ายบรรยากาศแบบกว้างบ้าง
อย่างอื่นที่ไม่ใช่นก บางจังหวะก็น่าถ่ายกลับมา
กิจกรรมให้อาหารก็เป็นอีกวิธีที่เพิ่มโอกาสให้ได้ภาพสวยกลับบ้าน
ได้มาที่นี่ครั้งแรก เป็นยังไงบ้าง
ก็ประทับใจนะ เส้นทางการเดินทางไม่ยาก ที่จอดรถเพียบทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ ใครอยากชิมอาหารซีฟู้ดก็มีจำหน่าย
เราเองที่เพิ่งหัดเล่นกล้อง ก็ได้ลองถ่ายอะไรแปลกใหม่ดูบ้าง เออมันยากจริงๆแหละ หันกล้องไปทางไหนก็เจอคนกับนก
เราจะถ่ายยังไงดีล่ะ เราจะตั้งค่ายังไงให้ได้ภาพ คิดว่าคงต้องมีการไปแก้มือเกิดขึ้นแน่ๆ
*เกร็ดความรู้เรื่องนกนางนวลที่บางปู
นกนางนวลชนิดที่พบมากที่สุดในบางปู คือ นกนางนวลธรรมดา (Brown-headed Gull) และนกนางนวลขอบปีกขาว (Black-headed Gull)
ซึ่งชนิดหลังนี้ถือว่าพบบ่อยแต่มีจำนวนไม่มากเท่านกนางนวลธรรมดา
และตัวที่ขนาดย่อมลงมาหน่อยอย่าง นกนางนวลแกลบเคราขาว (Whiskered Tern) และ นกนางนวลแกลบดำปีกขาว (White-winged Tern) ก็พบบ่อยที่บางปูเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม บางปูก็เป็นแหล่งพบนกนางนวลระดับหายากได้เช่นกัน ทั้ง นกนางนวลปากเรียว (Slender-billed Gull)
นกนางนวลหางดำ (Black-tailed Gull) และ นกนางนวลหลังดำพันธุ์รัสเซีย(Heuglin’s Gull)
ผู้มาเยือนจากแดนไกลเหล่านี้มีจำนวนน้อยมาก แต่ละปีฤดูหนาว มาเยี่ยมบางปูเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น
ข้อมูลจากเวปไซต์ https://khantharat.wordpress.com
อีกงานที่ตั้งใจแวะมาวันนี้ก็นี่เลย เทศกาลโคมไฟ แสง สี แห่งเมืองปากน้ำ 6th Lantern Festival 2018
สถานที่จัดงานก็ตรง มูลนิธิธรรมกตัญญู (เสียนหลอไตเทียนกง) ตั้งอยู่เลยเมืองโบราณมานิดเดียวเท่านั้น
บรรเลงกันเลยดีกว่า
ไฮไลท์หลักของงานก็นี่เลยโคมไฟเรือเทพเจ้า 5 พระองค์ กับโคมไฟครอบครัวหมาดัมเมเชียน (ปีนักษัตร ปีจอ)
มุมสวยๆก็มีอีกเพียบบบ
12 นักษัตรก็มา อีกสิบปีนักษัตรก็ใส่เป็นสปอยละกันเนาะ
เดินไปเดินมาชักหิวน้ำแล้ววววว จัดเก็กฮวยไป 1ea
เพลินใดจะเพลินเท่าเดินดูของกิน จัดรัวๆกันไปเลย ใครหิวอยู่ ณ เพลานี้ อิท๊อปก็ขอประทานอภัยไว้ด้วยนะเจ้าคะ 5555+
ข้าวหลามช๊อตนี่ก็น่าโดน
โป๊งเหน่งกะถังแตกนี่ก็พาน้ำลายไหล
อื้อหือ ครึมเน้นๆ
รึจะจัดหนักไปเลยดีนะ
หรือจะหนักให้สุดก็มี
หึ เรามาคนเดียว ให้นั่งจั่วคนเดียวท่ามกลาง คู่อื่นๆ กลัวจะเหงาไปหน่อย
กิจกรรมที่ทำให้ย้อนคิดถึงวัยเยาว์เพียบ
อุเหม่ น่าอิจฉา
นี่เลยไฮไลท์แท้จริง เมื่อตอนวัยกระเตาะนี่เซียนมากบอกเลย
ยังหัวค่ำ ก็จะดูเบื่อๆหน่อย
ก็เป็นอีกวันธรรมดาๆที่แบกกล้องออกมาขี่รถเล่นแบบไม่ต้องไปไกล แล้วได้ความฟินกลับบ้าน
อะแฮ่มๆ เที่ยวเสร็จแล้วมาดูรถกันบ้างนะเจ้าคะ
Legend 150s 2018 Forest Matt Green สีเขียวด้าน มีลายดำคาดมาให้ ดูเข้มขรึม
เครื่องยนต์ 149 cc. 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยอากาศ
ชงอากาศและน้ำมันเข้าห้องเผาไหม้ด้วยคาบูเรเตอร์
6 เกียร์เดินหน้า รอบกำลังในการไต่ความเร็ว ถือว่าทำได้ดี
โล่งๆโปร่งๆแบบนี้ เวลาเซอร์วิสช่างสะดวกดีแท้
ใครปีชงบ้างหนูไม่รู้ แต่หนูเนี่ยรับหน้าที่ ชง ตลอดเลย
แตรคู่เสียงดังกำลังดี
เบรกหน้าดิสเบรกพิมพ์นิยม
ดูแลบำรุงรักษาง่าย (ทำความสะอาดปั๊มเบรกบนล่าง กับถ่ายน้ำมันเบรกทุกปี ชิ้นส่วนนี้แทบไม่ต้องซ่อมเลย)
ดรัมเบรกหลัง ก็ตามสไตล์ของเบรกชนิดนี้ คือมีความง่าย ไม่ซับซ้อนของชิ้นส่วน ไม่ง้อแรงดันน้ำมันไฮดรอลิก
ถึงแม้จะไม่เฉียบคมเท่าระบบดิสเบรก แต่พอทำความรู้จักจนคุ้นชินแล้วมั่นใจได้ว่า เอาอยู่
แป้นเหยียบเบรกหลัง มีโครงกันเท้ามาให้ด้วย ชิ้นนี้ชอบนะ เพราะอิท๊อปเวลาขี่ มักจะชอบเอาเท้าแนบชิดเข้ามา เพื่อให้ปลายเท้าชี้ตรงไปข้างหน้า
ถ้าไม่มีชิ้นนี้อ่ะ โน่น แปะเข้าแคร๊งเครื่อง อาจจะทำให้เกิบไหม้ได้
ช็อคอัพหน้าแบบ เทเลสโคปิก พร้อมยางกันฝุ่น
ฟิลลิ่งการทำงานของช่วงล่าง จากที่ได้สัมผัสมา
ด้านหน้า ความนุ่ม ความหนืดกำลังดี ซับแรงสะเทือนจากผิวถนนไว้ได้ดี ในความเร็วต่ำถึงปานกลาง
แต่หากเร่งความเร็วเกินร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้วเจอพื้นผิวไม่ราบเรียบ ด้านหน้าจะมีอาการชกมวยออกมานิดหน่อย เพิ่มความระวังในการคุมรถก็จะผ่านไปได้
ด้านหลัง มีความแข็ง กระชับ ออกจะให้ความรู้สึกกระด้างอยู่บ้างในบางจังหวะที่ขี่คนเดียว
(ลองเอาแฟนซ้อนแล้ว ความกระด้างหายไป จึงคาดว่าถ้าปรับค่าให้สปริงอ่อนลงซักนิดหากขี่คนเดียวก็น่าจะเข้าที่)
เห็นแว๊บแรก นี่แหละใช่เลย วินเทจดีแท้
ช็อคอัพหลังแบบสปริงคู่ ปรับความแข็งอ่อนของสปริงได้
ยางหน้าหลังจาก Vee Rubber ขนาดล้อหน้า 110/90-17″ ล้อหลัง 120/90-17″
(ความเห็นส่วนตัว ถ้าลดไซส์ยางลงหนึ่งไซส์ ทั้งหน้าและหลัง การตอบสนองความฉับไวในการบังคับรถน่าจะคล่องแคล่วกว่านี้)
ท่อไอเสีย สีดำด้าน ดุเข้ม ทรงสวยใช้ได้ เสียงก็ไม่ดัง ไม่เบามากนัก
ไฟกลม หลอดไส้ นี่แหละคลาสสิค
แต่ไฟท้ายให้ LED มานะ สว่างชัดเจนดี แต่เสียคะแนนความคลาสสิคไปเล็กน้อย
แฮนด์บาร์องศาดี เวลาขี่ท่าจะออกจิ๊กโก๋หน่อย หรือจะลุกขึ้นยืนรูดหลุมประชดความไม่เรียบของถนนหนทางก็แน่นกระชับ
กระจกมองข้าง องศากำลังสวย ไม่สั่นพร่าด้วย ชอบเลย
เบาะนั่ง ผ้าหุ้มเบาะเล่นลายเดินเส้น แอบกระดกช่วงท้ายนิดนึง
คือมันก็โอเคแล้วแหละ แต่ถ้าเพิ่มความหนานุ่มกว่านี้อีกนี้ดดดดด ก็เพอร์เฟคเลย
แฮ่ ด้วยความที่รอบนี้ไปไม่ไกล ไม่ได้เติมน้ำมันหลายถัง ก็เลยเอาตัวเลขกับเกจ์น้ำมันมาลงให้ดูคร่าวๆนะเจ้าคะ
จัดเต็มถังไป
ระยะทางตอนเติม
วาร์ปไปวาร์ปมา ระยะทางที่ได้ กับน้ำมันที่เหลือโดยประมาณในถัง
เอาเรื่องเลยแหละ ลองเปิดฝาถังดูแล้ว เหลือน้ำมันเกินครึ่งถังแน่ๆ
มาตรวัดความเร็ว
วัดรอบเป็นเข็ม บอกความเร็วเป็นตัวเลขดิจิตอล มีไฟบอกเกียร์ด้วย (รักจริงๆเลยย รถที่มีไฟบอกเกียร์เนี่ย)
สรุป
กับราคา 49,500 บาท
คุณภาพรถ อุปกรณ์ติดรถ ที่ทางค่ายเร่งพัฒนาขึ้นเรื่อยมาในช่วงหลายปีนี้ นับได้ว่าคุ้มค่า
ตอนเอาไปถ่ายรูปเล่น ก็มีคนมาชวยคุย เม้ามอยตามประสาคนชอบรถ
หลายท่านที่เข้ามาคุยแล้วได้ยินราคาถึงกับร้องจ้าก ฝันลอยละล่องไปถึงการคัสต้อมเท่าที่คิดได้ ต้องมีปาด มีเฉือน มีเปลี่ยน ตรงนั้นตรงนี้
บางท่านก็ว่า เอ้ยย ราคารถขนาดนี้ ทำได้ไม่ต้องเสียดายหรือคิดมากแน่
การจะเอารถมาคัสต้อมเล่นสักคัน ถ้าหากรถมันแพงระดับหลักหลายแสน การจะ ตัด เฉือน ปาด ไถ ไส เปลี่ยนอะไรแต่ละที คงต้องมีคิดหนักหน่อยล่ะ
บางท่านก็บอก เดิมๆก็ดูดี มีความคลาสสิคใช้ได้แล้วนาาาา ผมได้มาก็จะขี่เดิมๆนี่แหละ
ก็ว่ากันไป นานาจิตตังเนาะท่านผู้อ่านที่รัก