ทดสอบ YAMAHA YZF-R7 ลุย Wet Track สนามช้าง

YAMAHA YZF-R7
Super Sport ลำใหม่ ที่ถูกจัดอยู่ใน Middle Class น้องใหม่ประจำตระกูล R Series นำเข้าลงเรือจากญี่ปุ่นมาทั้งคัน
หลังจากที่เปิดตัว เปิดผ้า เปิดราคา 339,000 บาท กันไปเรียบร้อย

YAMAHA Thailand ไม่รอช้า รถออกจากท่าเรือปุ๊บ ก็ชวนสื่อมวลชนสายมอเตอร์ไซค์ไปลิ้มรส ทดสอบ ประสิทธิภาพ YZF-R7 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชัลแนล เซอร์กิต ทันที

ก่อนจะไปเม้ามอยกันในช่วงทดสอบ ขอพาชมรายละเอียดรอบตัวรถกันก่อนนนน

เครื่องยนต์
สี่จังหวะ 2 สูบ แบบCrossplane ขนาด 689ซีซี
มีม้าหนุ่มในคอกทั้งหมด 73.4 ตัว ซึ่งจะออกมาวิ่งพร้อมกันทั้งหมดที่ 8750 รอบต่อนาที
ทอร์คดุตามสไตล์เครื่องสองสูบเรียง 67 นิวตันเมตร ที่ 6500 รอบต่อนาที
ส่งกำลังผ่านเกียร์ 6 สปีด ติดตั้งแอสซิส สลิปเปอร์คลัชมาให้จากโรงงานเรียบร้อย
ส่วนถ้าใครอยากเตะเกียร์แบบไม่ต้องบีบคลัช ก็ยังมีออฟชั่นควิกชิฟเตอร์ให้ซื้อเพิ่มนะจ๊ะ

มุมมองจากพื้นที่ทำการขับขี่
องศาแผงคอถูกปรับมาใหม่ เพิ่มความมั่นคงในย่านความเร็วสูงมากขึ้น
ถังน้ำมันผอมยาวเรียวความจุ 13ลิตร เว้าถังไว้เพื่อวางคางยามที่หมอบหลบลม
การล็อคเข่าเข้าหาถังน้ำมันยังถนัดมากอีกด้วย
ยามาฮ่าบอกว่า R7 เป็นรถที่ผอมเพรียวที่สุดในตระกูล R Series
แฮนด์ทั้งสองข้างยึดที่แกนช็อคอัพ มุดอยู่ใต้แผงคอบน องศาก้ม กำลังดี
จอมาตรวัดแสดงผลLCD แบบฟูลดิจิตอล แสดงค่าพื้นฐานครบถ้วน

ช่วงล่าง ยาง เบรก
ช็อคอัพหน้า แบบอัพไซด์ดาวน์ ขนาดแกน 41มม. ปรับค่าได้ทั้ง พรีโหลด คอมเพรสชั่น รีบาวด์ เต็มระบบ
ช็อคอัพหลัง แบบเดี่ยว ปรับพรีโหลด กับ รีบาวด์ ได้

ยางเดิมติดรถให้ Bridgestone BATTLAX HYPERSPORT S22 คอมปาวด์ผสม แข็งตรงกลางเพื่อทางตรง นุ่มด้านข้างเพื่อทางโค้ง พร้อมลุย
ยางหน้าขนาด 120/70 ZR17
ยางหลังขนาด 180/55 ZR17

ระบบเบรก ติดตั้ง ABS มาให้แล้ว
ส่วนปั๊มบนด้านหน้าจัด Brembo กระปุกแยกมาให้จากโรงงานแล้ว หล่อตั้งแต่เกิด
ดิสเบรกหน้าคู่แบบเรเดียลเม้าท์ ขนาด 298 มม.  ปั๊มเบรกล่างรูปดาวเอกลักษณ์ R Series ไม่มีไม่ได้
ดิสเบรกหลังเดี่ยว ขนาด 245 มม.

เบาะนั่งแบบสองตอน แยกคนขับ คนซ้อนชัดเจน
เบาะคนขับสูง 835มม.
เห็นแค่ตัวเลขจะรู้สึกว่าสูง แต่เนื่องจากการออกแบบตัวรถที่เพรียวบางและเว้าอย่างมาก
แอด TopsaVage สูง 173ซม. ขึ้นคร่อม สามารถวางเท้าเหยียบพื้นได้เต็มที่ทั้งสองข้าง
ความยาวเบาะคนขับ กำลังดี สไลด์ตัวเดินหน้าถอยหลัง ปรับเปลี่ยนท่าการขับขี่ได้หลากหลาย การหนีบรถด้วยขาและเข่าทำได้ดีสุดๆ

ส่วนเบาะคนซ้อน ถ้ารักกันจริง อย่าพาแฟนซ้อนไกลนัก มันเล็กบาง และน่าจะทำให้คนซ้อนเมื่อยสุดๆแหงๆ 5555+

ขับขี่ทดสอบ
ฝนตกแทรคเปียกตั้งแต่เช้า และนี่คือ Wet Track ครั้งแรกในชีวิตของ TopsaVage
ซึ่งฝนที่ตกในวันทดสอบ เป็นฝนแบบ ตกๆหยุดๆ ลงเม็ดเบาๆ โปรยปรายแบบไม่ขาดเม็ด

น่าเสียดายเหมือนกัน เพราะนี่คือการได้มาทดสอบขับขี่ในแทรคหลังจากที่กิจกรรมแบบนี้ไม่ได้จัดขึ้นเป็นปี
การขับขี่ทดสอบในวันนี้ จึงเป็นการลงไปวิ่งสัมผัสความรู้สึกจากรถ ทุกคนที่ลงทดสอบ ระลึกถึงความปลอดภัยก่อนเสมอ

ท่านั่งสปอร์ต ก้ม หมอบ ได้เต็มที่ แต่ยังสบายกว่า R6 และ R1 ที่ตำแหน่งเบาะสูง และแฮนด์ถูกกดต่ำกว่านี้

การทดสอบช่วงแรก วิ่งไปได้เพียงครู่เดียว ฝนก็กลับมาหนาเม็ดอีกครั้ง จนต้องนำรถกลับเข้าพิท รอให้ฝนซาลงอีกครั้ง

นั่งรอกันจนฝนขาดเม็ดอีกครั้ง จัดกลุ่มถึงคิวก็ลงไปลุยกันอีกรอบ

จากการทดสอบ พละกำลังเครื่องยนต์ 2 สูบขนาด 689ซีซี มีกำลังจะพาเราทะยานแหวกอากาศไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่รอบ ต่ำ กลาง ไม่ต้องดันรอบให้สูง พละกำลังในกำมือ พร้อมรับใช้ทุกครั้งที่เปิดคันเร่ง การตอบสนองแบบนี้ จะนอกหรือในสนามก็สนุกแน่นอน

และเมื่อกำคันเร่ง ลากยาวมาจนใกล้ถึงทางโค้ง การลดความเร็ว โดยการลดเกียร์ ระบบ แอสซิส สลิปเปอร์คลัช ที่ติดตั้งมาก็ได้สำแดงเดช
มันช่วยทำให้อาการรถน้อยลง ตอนที่ลดเกียร์ แล้วปล่อยคลัช ยิ่งเจอสนามเปียกแบบนี้ มันยิ่งเห็นผลชัดเจนมากขึ้น

นอกจากการลดเกียร์ ระบบเบรกก็สำคัญไม่แพ้กัน เบรกที่ให้มา เพียงพอต่อการหยุดยั้งม้าทั้งฝูงลงได้แน่นอน

ต่อจากนั้นก็มาถึงหน้าที่ของช่วงล่าง ที่จะพารถเข้าโค้งไป โดยที่ยังกดยางทั้งหน้าหลังให้ติดอยู่กับพื้น
ช่างล่างทั้งหน้าหลังค่าเดิมจากโรงงาน ให้ความรู้สึกแน่น กระชับ

และยาง Bridgestone BATTLAX HYPERSPORT S22 ทั้งหน้าหลังที่ติดรถมา ก็ยึดพื้นได้ดีจนแปลกใจ
จนทำให้ต้องคอยเตือนใจตนเองว่า แทรคเปียกอยู่นะ คลอคันเร่งดีๆนะ อย่าเอียงลงไปเยอะนักนะ

สรุป
1. รูปลักษณ์ และการดีไซน์
– ดีไซน์รับอิทธิพลที่เน้นถึงเอกลักษณ์ประจำตระกูล R ซีรีส์ได้อย่างชัดเจน ท่านั่งแบบสปอร์ต ทำให้รู้สึกกระชับกับตัวรถ เพราะความผอมเพรียวของบอดี้รถ การควบคุมรถทำได้ง่าย เพราะรถน้ำหนักเบา รวมของเหลวแล้วหนักเพียง 188 กิโลกรัมเท่านั้น

2. ออฟชั่น
– ระบบabs บวกกับชุดเบรกที่ให้มา ระบบแอสซิส สลิปเปอร์คลัช ส่วนควิกชิฟเตอร์ก็มีพร้อมติดตั้ง แต่ต้องซื้อแยกนะ

3.สมรรถนะ  
– เครื่องยนต์ CP2 จูนย่านกำลังมาใหม่ มีกำลังตอบสนองได้ดีตั้งแต่รอบต่ำถึงกลางไม่ต้องเล่นรอบให้สูงมาก
มีการขยับองศาแผงคอเพื่อความสปอร์ต
ช่วงล่างช็อคอัพปรับตั้งค่าได้เต็มที่
ยางติดรถตัวท๊อปจาก Bridgestone ตระกูล BATTLAX ที่ทำให้ส่งม้าทั้งคอกลงพื้นได้อย่างแน่นหนึบยิ่งขึ้น
ระบบเบรกที่เพียงพอต่อการใช้งานแบบเหลือเฟือ

4.ราคา 339,000 บาท
– นำเข้าจากญี่ปุ่นทั้งคัน หน้าตาหล่อไม่หลุดคอนเซป R Series
สำหรับใครที่คิดอยากอัพซีซี อยากลองขี่รถทรง Super Sport เพื่อสัมผัสฟิลลิ่งหมอบๆมุดๆ
แต่ยังไม่อยากขึ้นคลาส 1000ซึซึ YAMAHA YZF-R7 นับเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ

ขอขอบคุณ
บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ทีมงาน PR YAMAHA และทีมภาพทั้งภาพนิ่งและวีดีโอส่วนกลาง

หมวกกันน็อคจาก Lazer Helmet Thailand

และคุณผู้อ่านที่รักยิ่งทุกท่าน
———————————————————————————–
TopsaVage : ถ่ายภาพ แต่งภาพ ขับขี่ทดสอบ  เขียนบทความ
พรสิบประการ : ประสานงาน