“บิดไป – ถ่ายไป” ณ แม่ ฮ่อง สอน – ดอย อินทนนท์

“บิดไป – ถ่ายไป” ณ แม่ ฮ่อง สอน – ดอย อินทนนท์

อรัมภบท

การเดินทางครั้งนี้เป็น Trip ที่ผมตั้งใจมากครั้งหนึ่งเลยทีเดียวเพราะผมอยากไปนานแล้ว แต่ไม่สามารถไปได้ เนื่องด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่าง หนึ่งในนั้นคือ ไกล และ ใช้เวลาเดินทางหลายวัน ที่สำคัญมีแค่ช่วงเวลา แค่ 2 อาทิตย์ต่อปี ที่ดอกบัวตองจะบานเต็มที่ ณ แม่ฮ่องสอน ผมเลยไม่สามารถไปได้ตามที่หวังมาหลายปีแล้ว แต่ปีนี้โชคดีที่มีเวลาว่างและเพื่อน ๆ ก็สละเวลาจากงานไปด้วยกันได้ จุดหมายของผมหลัก ๆ คือ ดอยแม่อูคอ และ ดอยอินทนนท์ การวางแผนบอกเลยว่า แทบจะไม่มี ตรงใหนสวยก็แวะ อยากจอดก็จอด อยากถ่ายก็ถ่าย เอาล่ะ ตามผมมาครับ ผมจะพาไปเที่ยวกัน อมยิ้ม02อมยิ้ม02อมยิ้ม02

เริ่มต้น (ด้วยปัญหา)

ผมจอง ตั๋วรถไฟ ไปกลับ จาก กทม เชียงใหม่ โดยจะนำรถมอเตอร์ไซด์ ขึ้น รฟท. แล้ว นำลงที่เชียงใหม่ เหตุผลคือ ประหยัดเวลา ประหยัดแรง และ ค่าใช้จ่ายก็แพงกว่าการขับไปนิดหน่อย

ค่าโดยสาร 841 บาท / คน (นอนชั้นสอง เตียงล่างหมด) รถไฟต้องเป็นรถรุ่นเก่านะครับ รุ่นใหม่ไม่มี โบกี้สินค้าเอามอเตอร์ไซด์ขึ้นไม่ได้
ค่าระวาง ของผม 1000 CC ก็ ประมาณ 1500 บาท

แต่ถ้าขับไปเองก็จะต้องเสียเวลาหนึ่งวัน หนึ่งคืน (นอนเชียงใหม่) ซึ่งจะทำให้ทริปยาวไปอีก เพื่อน ๆ ลางานไม่ได้นานขนาดนั้น ทางเลือกนี้เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้วครับ (สำหรับพวกเรา)

แต่แล้ว พอถึงวันเดินทาง ผมไปถึงก่อน รถไฟออก 2 ชม. พอเข็นรถเข้าไปจอดตรง เค้าเตอร์ ชำระค่าระวางสินค้าเท่านั้นแหละ ยังไม่ทัน จอดดีเลย จนท เดินมาบอกว่า ไปสามคันเหรอ ? ไปใหน ? ไปเชียงใหม่น่ะ ” ไปไม่ได้หรอก ไปไม่หมดหรอก “ โบกี้มันเล็ก ต้องทะยอยกันไป หรือไม่ก็ต้องไปเที่ยวต่อไปหรือไม่ก็พรุ่งนี้เช้า !!!!

ถ้าไปไม่หมด หรือ ต้องไปช้าวันนึง บอกเลยครับ ทริป พัง เพราะว่าจองที่พักไว้หมดแล้ว แล้วอย่างที่ทราบว่า ช่วงนี้ high season หาที่พัก ได้ยากมาก ใจแป้วเลย

แต่ผมก็ใจดีสู้เสือ คิดว่า ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้แหละ คุยกะ จนท ดี ๆ บอกว่า ขอชำระค่าวางสินค้าก่อนนะครับ แล้วเดี๋ยวตู้มาถึงเราค่อยไปดูที่ทางกันว่าจะทำยังไงได้ ตอนนั้น ไฟในหัวลำโพงก็ดับ เข้าห้องน้ำไม่ได้ โคตรทรมานครับ ร้องไห้ร้องไห้ร้องไห้ร้องไห้

สุดท้าย ผมได้พูดคุยกับ จนท ที่ทำการยกรถให้พวกเรา ว่าขอให้ช่วยดูที่ทางให้เราหน่อย ว่าเป็นไปได้ไหม จนท ใจดีมากครับบอกว่า เดี๋ยวพาพวกเราไปขึ้นก่อนแล้วพวกรถเล็กเดี๋ยวเอาแทรกๆ  ขึ้นไปทีหลังได้ แล้วก็ทำได้จริง ๆ สุดท้ายก็ได้ไปกันหมด เฮ้อ ไม่งั้น นึกไม่ออกเลยว่า Plan B จะเป็นยังไง FacepalmFacepalmFacepalmFacepalm

เมียมีเมียพี่ต้องมา ถ้าเมียไม่มา ก็เพราะว่าหมีมาแทน !!!
เอาล่ะ ตามหมี มา หมี จะพาไปเที่ยวเอง

นั่งเล่นกะหมีสักพัก จนท ก็มาปูที่นอนให้ เอาล่ะนอนเอาแรงกันก่อน พรุ่งนี้ ไปต่อแต่เช้า

ล้อหมุน !!!
ถึงเชียงใหม่ ตั้งแต่เช้า 9 โมง เอารถลง แล้วก็เดินทางกันเลยครับ แต่เราหิว งั้น ก็หาไรทานหน่อย
กินข้าว (ซอย) ยิกๆ

วันแรกจะขับรถไกลหน่อย เพราะเราจะวิ่ง เชียงใหม่ ผ่านปาย เข้าไปนอนปางอุ๋ง
ห้าชม กะว่าวิ่งชิล ๆ

[ขับไป ก็แวะ ไปเรื่อยอ่ะครับ เช่น
“ ห้วย น้ำ ดัง “

แต่ห้วยน้ำดัง เหมาะกับการนอนค้างแล้วพักดูทะเลหมอกมากกว่า ผมไปมาสองรอบแล้วก็ยังรู้สึกว่าถ้าไปตอนเช้าน่าจะ ดีกว่า แต่พอดีเราไปถึงตอนบ่าย ก็เลยไม่ค่อยได้ไร เสร็จแล้วก็เดินทางต่อครับ ต้องทำเวลาหน่อย

“พักริมทาง”
ขับไปมาก ๆ ก็ “ หน่วง ๆ เหนือ่ย ๆ “ ครับ ก็แวะหาที่ “ถ่าย” กันไปเรื่อย

ลุงคะ ถ่าย รุ นุ ม๊าย !! – เสียงแว่วมาหลังจอดรถ
ผมถามเท่าใหร่ครับ
น้องตอบ : เท่าใหร่ ก้อ ดั๊ย ค่ะ แล้วแต่ลุง
หนูเอ๊ย จะไม่ถ่ายก็เพราะมาเรียกลุงเนี่ยแหละ ผมออกจะยังหนุ่มยังแน่น !! แค่หัวมี high light สีขาว กะ ริ้วรอยนิดหน่อย เอง !!

ชมวิว

บิด ชิด แสง

เสน่ห์ของการเดินทางคือ “ระหว่างทาง” นี่แหละครับ บางอย่างเราเก็บภาพไม่ได้หรอก แต่มันจะอยู่ในความทรงจำเสมอ
** แสงสีทอง **

๐๐ แสงสุรีย์ ส่องสว่าง เบิกทางใส
ประโลมไอ อุ่นกรุ่นนัก ในยามนี้
ทอแสงเด่น ล้อเล่นลม สมฤดี
ให้จิตนี้ ต้องทนสู้ แกร่งทานทน
CR: แมงก่ำเบ้อ

หิวข้าว !!!

เฮ้ย บ่าย 2 แล้ว ยังไม่ได้กินข้าวเลย แล้วเราจะกินใหน ?
เสียงตอบกลับมาสั้น ๆ “ เตี๋ยว จ่า โบ่ “
ผม : โอเคงั้นไปเลย
ก่อนถึง แวะเติมน้ำมัน ถามทางเด็กที่ปั๊ม (ตอนนั้นบ่าย สามกว่าแล้ว) ผมถามว่า ร้านยังเปิดไหม น้องบอก เปิด เพ่ !!! ไปเลย ก๋วยเตี๋ยวขายถึง 6 โมงเย็น
ตอนนั้นผมหิวโคตร ตั้งแต่เช้า ยังเกือบเย็นแล้วได้กินข้าวแค่มื้อเดียว แต่พอถึง
“จ่าโบ่ “
อ้าวเฮ้ย ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หว่า !!! มันหมดแล้วครับ ก๋วยเตี๋ยวอ่ะ เหลือแต่กาแฟ

ผมเลยขอเค้าต้มมาม่ากินที่ร้านเนี้ยแหละ !!

เออ ดีเหมือนกัน “ ม่าม่า ห้อย ขา “

เติมแคปหมูหน่อย

ชมวิว

มันก็ฟินดีนะครับ

ถ้าอยู่ถึงเช้า คงสุดยอดอ่ะครับ

การเดินทางย่อมพบอุปสรรค
การเดินทางย่อมมีความท้อแท้
การเดินทางจะสำเร็จต้องมีความมุ่งมั่น
การเดินทางถ้าล้มเลิกกลางทางจะไม่ถึงจุดหมาย
CR : Beau Orranit

“ ยามราตรี ณ ปางอุ๋ง “

กว่าจะถึงปางอุ๋ง ก็ค่ำแหละครับ ขับรถลำบากมาก มืด น่ากลัว ทางชัน ทำไงได้ ก็ขับกันชิลเหลือเกิน 19.30 พึ่งจะเข้าที่พักได้ แต่ก็เอาเถอะ ถึงปลอดภัยก็ดีแล้ว หาไรกินกันจริงจังเสร็จ (ไม่ได้ถ่าย หิวมาก) ก็เดินชมวิวสิครับ

ดาวเต็มฟ้า เสียดายไม่เห็นช้าง – แต่ก็สวยไปอีกแบบครับ

อากาศ เย็น สบาย ๆ มีลมแผ่ว ๆ นั่งชมดาว กินบรรยากาศ งั้นเราหาไรอุ่น ๆ ดื่มกัน มันก็จะดีนะ !!!
Shutter B – ขาตั้งกล้อง – สายลั่น shutter งัดออกมาใช้ให้หมด ถ่ายรูปนึง ก็ ดกไป กรึ๊บนึง … เออ มัน ดี แฮะ !!  เพี้ยนเงือกเพี้ยนเงือก

ปล. ถ่ายดาว ให้ไม่เป็นเส้นมาก ถ่ายยากเหมือนกันครับ ต้องคำนวนเวลาดี ๆ ไม่ให้นานเกิน ไม่งั้นดาววิ่งเป็นเส้น ถ่ายเสียไปก็เยอะ งึม ๆ

ดึกแล้วครับ ขอตัวไปนอนกอดหมีก่อน นะครัช อิอิ (ข้างในมีผ้าห่มด้วย อุ่นมาก 555)

“ อรุณสวัสดิ์ ณ ปางอุ๋ง “

6 โมงเช้า ตื่นมา หวังว่าจะเจอธารหมอก … ปรากฏว่า โอ้โห…. ใสกิ๊ก ๆ ฮ่าๆๆๆๆ  อมยิ้ม15อมยิ้ม15เพี้ยนเพลียเพี้ยนเพลียเพี้ยนเพลีย

ไม่เป็นไรครับ ปางอุ๋ง ในวันที่ไม่มีธารหมอก ก็ยังสวยงามไปอีกแบบ

“ล่องเรือยามเช้า”

นั่งไปก็น่าจะเพลินนะครับ แต่พอดีพวกผมมากัน ชายหนุ่ม 3 คน คงไม่เหมาะ ถ้าจะลงเรือลำเดียวกัน มันโรแมนติกไป เพี้ยนเพลียเพี้ยนเพลียเพี้ยนเพลียเพี้ยนรมเสีย

ทะเลสาป กระจก
“ สน สาม สี “

“ ปางอุ๋ง Signature “

“ข้าว (ไข่) เช้า”

บรรยากาศดีครับ กินข้าวชมวิว ชิว สุด ๆ เจ้าคิกคักเจ้าคิกคักลูกเต่าน้อย

โรตี โรตี – เสียงแว่ว ๆ ของสาวน้อย ลูกเจ้าของร้านอาหาร เมื่อเห็น รถโรตี ตีกระดิ่ง มาขาย
ความสดใส + ความเดียงสา มันทำให้เช้าวันใหม่ สดชื่นไปอีก 235 % เลยแหละครับ

“อา ไร เหยอ ?”

อันนี้ น้องชาย (มั้งครับ)

” Why We Ride “
การเดินทาง ที่ได้ไปกะ เพื่อนรู้ใจ ผ่านเส้นทาง เจ๋ง ๆ มาด้วยกัน มัน “ ดีต่อใจนะครับ “

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การ กิน นอน ด้วยกัน หลาย ทริปแล้ว … ความรู้สึกบางอย่าง มันก็ห้ามกันไมได้อ่ะนะครับ ( ฟังเพลง เพื่อนรักประกอบจะได้อารมณ์) อัศวินขี่ม้าขาวอัศวินขี่ม้าขาวอัศวินขี่ม้าขาว

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ไม่ใช่แระ ยังไงทางสายเหลือง ก็ไม่ใช่ทางผม …..

การได้ขับ ชิล ๆ ในป่าสน อากาศเย็น ๆ ได้ยินเสียงจิ้งหรีดรำไร บวกกับอากาศเย็นๆ กำลังดี มันหาซื้อไม่ได้หรอกครับ .. แต่มันได้จากการออกมาดูโลก กว้าง ๆ ของเราเนี้ยแหละ

รถนำขบวน

เอาล่ะครับ ลา ปางอุ๋ง ซะที เพราะต้องไปส่งน้ำแข็ง ต่อ (สังเกตุกระติกน้ำ) แล้วเจอกันใหม่นะ ปางอุ๋ง บุย จ้า พาพันชอบพาพันชอบเม่าบัลเล่ต์เม่าบัลเล่ต์

ไร่ อร สตอเบอรี่

ไร่นี้อยู่ทางไปบ้านรักไทยเลยครับ ทางผ่าน ผมอยากกินพอดีเลยแวะ แป้บนึงครับ  อมยิ้ม05อมยิ้ม05อมยิ้ม05

เดินไปชม

เค้าว่า ผู้ชายขี่ มอเตอร์ไซด์ใหญ่ มัก “ขี้เหร่” …. ไม่ใช่แค่หน้าตาไม่ดีอย่างเดียวนะครับ … แถมยัง…. อีกด้วย !! :อมยิ้ม15:]อมยิ้ม15อมยิ้ม15

เก็บเองได้นะครับ ถ้าอยากเก็บอ่ะ แต่ผมซื้อกินง่ายกว่า 555

” บ้านรักไทย “

บ้านรักไทย ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนานอดีต ทหารจีนคณะชาติ (กองพล 93) “ก๊กมินตั๊ง” บ้านรักไทยอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล กว่า 1,776 เมตร ทำให้พื้นที่ เหมาะสมอย่างยิ่งกับการปลูกชาพันธุ์ดี และพืชเมืองหนา

ทิวทัศน์ของ หมู่บ้านโอบล้อมไปด้วยทิวเขา แมกไม้ที่ อุดมสมบูรณ์ บ้านรักไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อในเรื่องของชาและขาหมู่หมั่นโถว คล้ายกับดอยแม่สลอง (กองพลเดียวกัน) นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวที่แห่งนี้เพื่อดื่มด่ำกับการชิมชา และ ทานขาหมูหมั่นโถว บ้างก็หลีกหนี ความวุ่นวายมาหาความเงียบสบาย ของบ้านรักไทยแห่งนี้
อ่านต่อ ที่ http://www.paiduaykan.com/76_province/north/maehongson/banrakthai.html

ผมไม่เคยไปบ้านรักไทยเลย พอมาถึงก็ขับวน ๆ ไปตามทางหมู่บ้าน ไม่มีข้อมูลใด ๆ ทั้งสิ้น รู้แต่ว่าคนอื่นเค้าชอบไปกัน แต่พอมาถึง ผมก็พอจะเข้าใจแล้วแหละครับว่าทำไมคนเค้าถึงชอบไปกัน เยี่ยมเยี่ยมเยี่ยมอมยิ้ม02อมยิ้ม02

บางครั้งผมก็ไม่แน่ใจว่า มันเป็น หรือ ไม่เป็น … ดูรูปนี้สิครับ ทำไม มันต้องจิกแบบนั้นด้วย หัวเราะหัวเราะหัวเราะ

กล่องเก็บกล้องผม – ประโยชน์ สุด ๆ ครับกล่องหลังใบนี้ เพี้ยนแช๊ะเพี้ยนแช๊ะเพี้ยนแช๊ะ

“ ขาหมู หมั่นโถ “

เราเลือกร้าน ลีไวน์ รักไทย เพราะเห็นคนเยอะดี และแน่นอน เราไม่พลาดที่จะสั่ง ขาหมู หมั่นโถ อาหารแนะนำ อันลือเลื่องของที่นี่เพี้ยนกินเพี้ยนกิน

แม่เจ้า มันใหญ่มาก มีเสียงแว่ว ๆ ว่า จะกินหมดเหรอ เพราะมัน โคตรใหญ่อ่ะครับ (ถ่ายจากมือถือ สีเลย เพี้ยน ๆ ไปหน่อยนะครับ)

ยำใบชา
รสชาติ โคตร อร่อย อะครับ เยี่ยมเยี่ยมเยี่ยม

พึ่งกินข้าวเช้ามา ไม่ถึง 3 ชม. มากินขาหมู … เห้อ มันจะหมดได้ไงฟระ FacepalmFacepalmFacepalm

ถ้ากินกระดูกได้คงกินไปแล้ว ฮ่าๆๆๆ

แล้วมันจะเหลือได้ไง อร่อย โฮกกกกก … เนื้อหมูนิ่มแทบจะละลายในปาก หมั่นโถ ร้อน ๆ + กับชา หอม ๆ มัน โคตร จะ เข้ากันเลยแหละครับ หัวเราะเท่เท่

กินเสร็จเราก็เผ่น … เอ๊ย ไม่ใช่

เราก็จ่ายตัง (พันกว่าบาทผมจำไมได้ว่าเท่าใหร่ แต่ราคาสูงนิดนึงครับ ซึ่งเทียบกับคุณภาพแล้วก็ถือว่าสมเหตุสมผลนะครับ)
เอาล่ะ มุ่งหน้าสู่จุดหมายต่อไป เพี้ยนแว๊นเพี้ยนแว๊น

” วัดพระธาตุดอยกองมู “

วัดพระธาตุดอยกองมู เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนมาช้านาน ตั้งอยู่บนดอยกองมู ทางทิศตะวันตกของ ตัวเมืองแม่ฮ่องสอนเพียง 3 ก.ม.เดินทางโดยแยกจากทางหลวงสาย 108 ตรงบริเวณ อนุสาวรีย์พระยาสิงหนาทราชาขึ้นไปทางซ้ายมือ เป็นทางลาดยางขึ้นภูเขาไปอีกประมาณ 1.5 กิโลเมตร ก็จะถึงบริเวณวัดพระธาตุดอยกองมูเดิมมีชื่อเรียกว่า วัดปลายดอย  Cr. http://www.paiduaykan.com/76_province/north/maehongson/phrathatdoikongmu.html

ตัววัด มีทิวทัศน์ที่สวยงามมาก ๆ เลยนะครับ สามารถมองเห็นตัวเมืองแม่ฮ่องสอน และ สนามบินได้ ซึ่งทำให้รุ้ว่า เมืองอ้อมกอดขุนเขา มันจะเป็นแบบนี้นี่เอง เพี้ยนไฟลุกเพี้ยนไฟลุก

ทำบุญวันเกิด อันนี้ผมอยากทราบหน่อยครับว่า การจัดดอกไม้ ในขันเงินแบบนี้เรียกว่าอะไรครับ? เรียนผู้รู้เล่าให้ฟังหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ พาพันขอบคุณพาพันขอบคุณพาพันขอบคุณ

มีร้านกาแฟเล็ก ๆ น่ารัก ๆ อยู่ข้าง ๆ ตัววัดนะครับ อย่าพลาดแวะล่ะครับ วิว สุดยอดมาก เยี่ยมเยี่ยมเยี่ยม

อยู่กับพี่ ไม่มีอะไรมาก พี่มีแต่ ความลำ “บาก” และ ความ “ มันส์” !!! อมยิ้ม15อมยิ้ม15อมยิ้ม15

” ท้อ “

อย่างที่ผมเกริ่นไว้แต่แรกแล้ว ว่าทริปนี้ผมตั้งใจจะมาหลายปีแล้วแต่ไม่ได้มา พอได้มาผมก็คาดหวังอยากให้ท้องฟ้าเป็นใจ ซึ่ง จุดหมายของเราต่อไปเป็นดอยแม่อูคอ ชมดอกบัวตองยามเย็น ซึ่ง peak สุดแล้วถ้าแสงสีทอง ๆ สาดลงมาบน ดอกบัวตองสีเหลืองอร่าม มันจะงามเกินห้ามใจ

แต่แล้วมันไม่ได้เป็นแบบนั้น ระหว่างทางที่ขับมา ฟ้าปิดตลอด แถมเวลาก็กระชั้นชิดไปเรื่อย ๆ ที่พระอาทิตย์จะตก ตอนนี้ก็ จะ 5 โมงแล้ว ผมยังเหลืออีก 20 กิโลกว่าจะถึงจุดหมาย ผมตัดสินใจขับนำหน้าเพื่อนอีกสองคัน แล้วใช้ความเร็วขับนำไปก่อน ยิ่งขับยิ่งท้อ เพราะไม่เห็นวี่แวว ว่า ท้องฟ้าจะเปิด หรือจะเห็นวิว สวย ๆ แบบที่ตั้งใจไว้

สุดท้ายผมก็ตัดสินใจว่า อือ ช่างเหอะว่ะ ถ้าธรรมชาติไม่ให้เราแบบที่หวัง เราก็แค่ยอมรับ แล้วชื่นชมความสวยงามเท่าที่มีแล้วกัน ผมเลยจอดรถข้างทางแล้วถ่ายรูปไร่ข้าวโพด รอเพื่อนไป แต่แล้วก็ได้เห็น ช่องแสงที่ทะลุผ่านเมฆมา มันทำให้เริ่ม มีกำลังใจ แฮะ !! จุ๊บๆจุ๊บๆ

” รางวัลแห่งการเดินทาง “

ขับต่อจากไร่ข้าวโพดไปนิดเดียว ประมาณ 15 นาที เราก็ถึงจุดชมวิว ครับ การเดินทางที่ผ่านมา ความกังวลที่เคยมี มันหายไปหมด ผมรู้สึกเหมือนกับผมได้รางวัลแห่งการเดินทาง และ ธรรมชาติ ก็ได้ตอบแทนผม ด่วยสิ่งเหล่านี้

แบบนี้

ดอกบัวตอง

เหลืองไปหมด

ใช่ครับ คำว่า “ ดีต่อใจ “ มันเป็นแบบนี้นี่เอง

เนี่ยแหละครับ แสงที่ผมตามหา

ตะวันใกล้ลับฟ้า

ไม่นานนัก ตะวันก็จะจากไปแล้ว นี่เป็นช่วงเวลาที่ต้องตักตวงให้มากที่สุด ความทรงจำดี ๆ มีไว้ให้จดจำครับ ^_^ อมยิ้ม02อมยิ้ม02อมยิ้ม07อมยิ้ม07

แสงยิ่งทอง ดอกยิ่งเหลือง !!!

ชมกันไปครับ

มาเต็ม

ในอีกมุมนึง ท้องฟ้า ก็ไล่สี ชมภู ฟ้า เหลือง ให้เราเสพย์

จากลา เพื่อพบกันใหม่
สุริยาลาโลกโยกย้ายลับ
สุรีแสงแดงจับลับขอบฟ้า
เสียงเซ็งแซ่ของหมู่เหล่านกกา
บินถลาหารังหวันผ่อนกาย

อัสดงลงเลื่อนเลือนลาลับ
ทิวาดับลับแสงสุรีฉาย
ดาราเคลื่อยเลื่อนคล้อยลอยเรียงราย
ราตรีหมายมืดมิดปิดทิวา
Cr: ปาระ


“The earth belongs to anyone who stops for a moment,
gazes and goes on his way.” – Colette
โลกใบนี้เป็นของคนที่หยุดเดินแล้วมองดูสิ่งรอบข้าง และเดินต่อไปตามทางของตัวเอง

I can fly !!!

จบภาคแรก

ผมเชื่อว่า เมื่อถึงจุด ๆ นึงที่เราพยายามอย่างสุดความสามารถ แม้ว่าเราจะล้มเหลว หรือพลาดพลั้งสักกี่ครั้งกี่หน แต่ถ้าเราไม่ย่อท้อ เราจะได้รางวัลแห่งความพยายามตอบแทนกลับมาเสมอ

ขอขอบคุณ ธรรมชาติ  ที่ให้ผมได้มายืนอยู่ จุด ๆ นี้ ได้เห็นบรรยากาศ กะ ภาพทิวทัศน์ที่สุดแสนจะวิเศษแบบนี้ วันนี้ขอพักไว้ก่อน แล้วเดี่ยวเจอกัน ภาคสอง เร็ว ๆ นี้ครับ

ยินดีรับฟังคำติ ชม หรือคำเสนอแนะทุกอย่างครับ จขกท ใช้เวลา post process รูป + เขียนกระทู้ เกือบ 1 อาทิตย์ ถ้าชอบก็กดจิ้มเบา ๆ จะเป็นกำลังใจให้มากเลยครับ ขอบคุณครับ พาพันขอบคุณพาพันขอบคุณพาพันขอบคุณ

บทความโดย oak_me
Linkต้นฉบับ http://pantip.com/topic/35914640