หลงกรุง…กับรถครอบครัว..ตัวเล็ก..สเปคแรง Yamaha Jupiter RC
หลังจากเข้าสู่วงการมอเตอร์ไซค์ด้วยเหตุเพราะเราทนการจราจรเมืองฟ้าอมรไม่ไหว
ไปไหนที ต้องมีเวลาเป็นชั่วโมง
แต่ชีวิตมิได้มีเวล่ำเวลาขนาดนั้น
และแน่นอน มอเตอร์ไซค์คือหนึ่งในคำตอบของการแก้ปัญหานั้น..
ในยุคก่อนๆ สมัยบิ๊กไบค์ยังไม่เฟื่องฟู รถคันแรกๆ มักจะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ครอบครัวไม่เกิน 125cc นี่แหล่ะ…
ผมเองก็เช่นกัน….
แต่เคยไหม บางครั้งเจ้ารถครอบครัวคันเก่ง มันใช้งานในชีวิตในประจำวันได้สะดวกสบายดีงามตามหน้าที่มันแล้วหล่ะ
แต่เราก็แอบอยากจะมันมีสมรรถนะแบบ มันส์ๆ เร้าๆ ปรี๊ดๆ บ้าง…..
มีไหม รถแบบนั้น…
คำตอบ…. ที่ผ่านมาอาจจะมีบ้าง ที่รถครอบครัวถูกตกแต่งรูปลักษณ์เสริมความสปอร์ตเข้าไป
แต่ภายในหรือสมรรถนะ ก็ยังเป็นรถครอบครัวคันประหยัดสมรรถนะแม่บ้านคงเดิม…
จนมาถึงวันนี้ ผมคิดว่า ผม(น่าจะ)เจอรถที่สร้างขึ้นมาตอบโจทย์นั้นแล้วหล่ะ
รถคันนั้นคือ Jupiter RC คันใหม่ของ Yamaha นั่นเอง
โม้ ไช่ไหม ติ่งอ่ะสิ???
5555 ติ่งน่ะอาจจะใช่ แต่โม้หรือเปล่าลองอ่านดูก่อนครับ…
เอ้า ไปกันเลยละกัน….
ป.ล. ขอบคุณ Yamaha และ Just-Ride-it ที่เอื้อเฟื้อรถสอบมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
https://web.facebook.com/justrideitteam/?fref=ts
https://web.facebook.com/YamahaApps/?fref=ts
http://www.yamaha-motor.co.th/automotive/
อันตัวเรา ตั้งแต่ระเห็จเข้ากรุง
ก็ใช้ชีวิตอยู่บนตึกสูงๆ ( แต่มิได้หรูแบบในภาพ )
ตื่นเช้ามาก็ฝากชีวิตไว้กับ รถมอไซค์ครอบครัวคันน้อยๆ เนี่ยแหล่ะ ที่พาไปนู่นมานี่ตลอด
ถามว่า ทำไมต้อง “คันน้อยๆ”
ก็หลายๆอย่างครับ
พื้นที่ที่ให้วิ่งก็มีน้อย…
พื้นที่ที่ให้จอดก็มีน้อย..
น้ำมันในโลกนี้มันก็เหลือน้อย… ( แอบรักษ์โลก )
เวลาก็มีน้อย…
และที่สำคัญ เบี้ยน้อย หอยน้อย…
มีอย่างเดียวที่ไม่น้อย คือใจที่รักชอบมอเตอร์ไซค์นี่แหล่ะ แฮ่ๆ
เอาหล่ะมาสำรวจเจ้ารถคันน้อยคันนี้กัน หน่อยสิ
ทำความรู้จักกันแล้ว ออกไปใช้ชีวิตคนกรุงกัน
เริ่มแรก เดินทางในฤดูฝน อย่างน้อยสิ่งที่ต้องพักก็เสื้อกันฝนแหล่ะ
ที่ต้องมีติดรถไว้ แล้วก็รองเท้าแตะ ( กลัวรองเท้าผ้าใบคู่เก่งจะเละ )
สามารถยัดลง U-Box ขนาดกลางๆ นี้ได้เลย
เก็บของเสร็จปิดเบาะ ลองคร่อมรถ
แฮนด์รถให้ความรู้สึกสปอร์ตนิดๆ มันหักเข้าหาตัวเล็กๆ ตามสไตล์รถสปอร์ต
แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไรนักจนทำให้รู้สึก ว่าขี่ลำบาก แต่เพิ่มฟีลความ รู้สึกแบบสปอร์ตได้เล็กๆเลยหล่ะ
สัมผัสแรก
วินาทีแรกที่ได้สัมผัส ตัวรถให้ความรู้สึก “เบา” แต่ “แน่น” เมื่อเทียบกับรถในตลาดเดียวกัน อาจจะเป็นเพราะระบบเฟรมและสวิงอาร์มที่ใหญ่ขึ้นหนาขึ้นหรือเปล่า ตรงนี้ก็ไม่แน่ใจนะครับ แต่เอาว่ามันรู้สึกดีละกันน่า
ความรู้สึกจากเครื่องยนต์ก็เช่นกัน ตามสไตล์รถเล็ก Yamaha ที่เครื่องยนต์ให้ความรู้สึก “แน่น” เมื่อเทียบกับคู่เปรียบ ส่วนคุณภาพการประกอบก็ทำได้ดีตามมาตรฐาน Yamaha ไม่มีชิ้นส่วนไหนส่งเสียงดังกระพือ ให้น่ารำคาญใจแต่อย่างใด
สตาร์ทเครื่องบิดรถออกไป เป็นอะไรที่แปลกใจพอสมควร เพราะความ “ติดมือ” ของเครื่องยนต์บล๊อคนี้ สมัย Spark Nano และ Spark 115i นั้นก็ถือได้ว่าติดมือนะ แต่ไม่เท่าคันนี้ คงเป็นเพราะอัตราทดเกียร์ที่ค่อนข้างชิด ส่งผลทำให้อัตราเร่งที่ส่งออกมาถือว่าดีมากๆ ทำให้แอบคิดเล็กๆ ว่า ในคลาสไม่เกิน 125cc ถ้าขี่ในเมืองนี่ คันนี้ไม่ต้องกลัวใครหล่ะ
แต่ไม่อยากจะอวยเกินงาม แอบคิดบ้างว่า ช่วงล่างแน่นๆ แข็งนิดๆ แบบนี้ บางคนที่ชอบความนุ่ม อาจจะบ่นได้ แต่เราชอบขี่รถที่ช่วงล่างแบบนี้ อ่ะนะ นานาจิตตัง
นั่นแค่ความคิดครับ
ต้องลองพิสูจน์ดู… ( วนไปวนมาหลายรอบเลยหล่ะ )
ก็ค่อนข้างเป็นไปตามที่คิดนะครับว่า ในรายการ Moto FD ( ไฟแดง ) ในรุ่นเล็ก พิกัด 125cc ออโต้คลัชท์
ไม่ต้องกลัวใครแล้วจริงๆ คลอเร่งนิดๆ ก้มหน้า ขายัน ดันคันเร่ง บื้นนนนนน…
รับประกันว่าอยู่แถวหน้าแน่นอนฮะ ( ถ้าไม่เจอ Fino ลูกโตอ่ะนะ 5555 )
หลังจากช่วงชิงตำแหน่งคันหน้ามาได้ด้วยพลังที่แรงกว่าเล็กน้อย
ถึงเวลา “ยกลึก เบรคหนัก”
เมื่อเจอกำแพงรถติดที่อยู่ข้างหน้า!!!
ระบบเบรคของอาจู( ขอเรียกอย่างนี้ละกัน อิอิ ) ซึ่งประกอบด้วย จานดิสก์เบรคแบบโฟล์ทติ้งดิสก์มาพร้อมคาลิเปอร์แบบลูกสูบคู่ เหนือสุดในคลาสแล้ว ทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดี แต่แรงเบรคมันยังไม่รู้สึกจิกเท่าที่หวังไว้ อาจจะเป็นเพราะรถคันนี้ยังใหม่กิ๊กอยู่ ยังไม่พ้นรันอินเลย ระบบเบรคยังไม่เข้าที่เข้าทางนัก รอดูกันต่อไป
ประกอบกับยางติดรถ IRC ลายสปอร์ต อาจจะไม่ได้หนึบหนับระดับแถวหน้า แต่รับประกันว่าไม่ห่วยแน่นอน
หลายๆ สิ่งประกอบกันนี้ ส่งเราให้เป็นลอเลนโซ่ ( ออกตัวแรง เข้าโค้งก่อนใคร ) แห่งรายการ โมโตไฟแดงได้ในทันที
เอาหล่ะ การได้กินอาหารอร่อยในเมืองกรุง ต้องอาศัยระบบเบรคชั้นยอด ( มันใช่มั๊ยยยย ) ทำให้สามารถหยุดรถได้ทัน
เรามาชมหน้าตาของเจ้า จานเบรคลอย ( แปลเป็นไทยงี้ป่าว ) หรือภาษาปะกิต โฟล์ทติ้งดิสก์ และคาลิเปอร์ลูกสูบคู่กันชัดๆ
ถือว่ายากมากที่จะเห็นอุปกรณ์ชุดนี้นอนอยู่ในรถครอบครัว
ถามว่าข้อดีของเจ้าโฟล์ทติ้งดิสค์ คืออะไร หลักๆ ก็คงเป็นการให้ตัวได้ มีพื้นที่ให้ขยับเขยื้อนได้บ้าง ถ้าสภาพจานดิสก์ไม่สมบูรณ์ไม่ว่าจะคดหรือขยายตัว มันก็ยังจะสามารถทำงานได้ดีต่อไปได้ในระดับหนึ่ง
แต่ถ้าเป็นจานเบรคแบบปกติที่ยึดติดแน่นกับตัวล้อเลย ถ้าจานคด ผิดรูปหรือขยายตัวมากๆเพราะความร้อนขึ้นมา เวลาที่เรากดเบรคนี้ความรู้สึกจะตีขึ้นมาถึงก้านเบรคเลยทีเดียวหล่ะครับ ว่าจานมันคดหรือเบรคมันติดอะไรประมาณนั้น
และเจ้าคาลิเปอร์หลายๆลูกสูบนี้มันดีอย่าง ไร ตัวกระผมก็เข้าใจว่า มันช่วยกันส่งแรงเบรคไปยังผ้าเบรคได้มากขึ้น ( 2 คนย่อมแรงเยอะกว่าคนเดียว ) กระจายแรงกดไปยังผ้าเบรคได้ทั่วแผ่นมากขึ้น ( ในกรณีที่ผ้าเบรคมีพื้นที่เท่ากัน ) เบรคก็น่าจะดีขึ้น ฟีลลิ่งก็น่าจะดีขึ้น ( มั๊ง )
ป.ล. ตรงนี้ผิดถูกก็โปรดอภัยและชี้แนะด้วยนะฮะ
เอาหล่ะ ท้องอิ่ม ได้คิวค้นหาความพิเศษของเจ้าซับแท๊งค์สีทองกันแล้ว ( ไม่ใช่เมฆสีทองนะ ) ว่ามันดีเด่อย่างไร
ว่าแล้วขอเช็คลมยางนิ๊สสสสนึงนะ
แอบตกใจเล็กๆ กับลมยางตามสเป็ค…
แต่ช่วงล่างสมรรถนะสูง ลมยางเองก็ต้องปรับตามเพื่อให้สอดคล้องกับสมรรถนะของช่วงล่างด้วย
การเข้าโค้งในเมืองกรุง…ใจต้องนิ่ง
เพราะสาวๆ ข้างทางเยอะ แถมแหล่มๆ ทั้งนั้น
.
.
.
สำหรับสมรรถนะช่วงล่างที่ให้มา บอกได้เลยว่า ถ้าไปซัดกันในโค้ง คันนี้กินขาดรถครอบครัวทุกคันที่มีอยู่ในท้องตลาด
ด้วย setting ช่วงล่างที่ให้มาแน่นๆ ( น่าจะ )เป็นรถครอบครัวในคลาสไม่เกิน 125cc คันเดียวที่เราสามารถซัดหมดปลอกในโค้งกว้างๆได้ โดยที่ไม่มีอาการย้วย โยน เหวอ ให้ได้สัมผัสมากมายนัก ( ก็ไม่กับ ไม่มีเลย ) เหมือนกับรถครอบครัวทั่วๆไป
คาดว่าคงโดนใจพ่อบ้าน แม่บ้านสายสปอร์ตห ล่ะฮะ
เมื่อผสานกับระบบเบรคที่ดี ยกลึก เบรคหนัก หน้าจิก ( แต่ระยะยุบโช๊คไม่ค่อยเอื้อนะ ) เข้าโค้ง และเร่งออกด้วยเครื่องยนต์ที่รอบปลายมากกว่ารถครอบครัวทั่วไปอยู่หน่อย
ตบท้ายด้วยเกียร์ที่ค่อนข้างชิด เรียกความมันส์ได้เกินหน้าเกินตารถครอบครัวทั่วๆไปแน่นอน
องค์ประกอบหลักๆ เลยที่ทำให้รถมีสมรรถนะการเข้าโค้งที่แน่นขนาดนี้ คงจะหนีไม่พ้นกับเจ้าโช๊คอัพ(น้ำมัน+)แก๊สหัวกลับที่ มีซับแท๊งค์สีทองคู่นี้ ที่ให้ฟีลลิ่งที่แน่น หนึบหนับ ซับแรงสั่นสะเทือนได้พอสมควร อาจจะให้ความรู้สึกแข็งไปบ้างสำหรับคนที่ชอบความนุ่มสบาย แต่สำหรับสายสปอร์ต รับประกันความถูกใจ
แต่ดาวเด่นต้องมีดาวประดับซับพอร์ทดีด้วย ไม่ว่าจะล้อแม็กซ์ สวิงอาร์ม ยาง ทุกส่วนถูกปรับปรุงให้รองรับสมรรถนะแบบสปอร์ตแบบสอดคล้องกันไป
งานนี้มันต้องเล่นกันเป็นทีม ถึงจะจบครบองค์บริบูรณ์
และจากการมีสมรรถนะที่เพิ่มขึ้นของเจ้า Jupiter RC
พักเท้าเองก็อาจจะเป็นตัวลิมิตในเรื่อง มุมเอียง ดังนั้นทาง Yamaha จึงใส่พักเท้าแบบพับได้มาให้เพื่อรองรับตรงจุดนี้ ใครมีปัญญาขี่ให้ถึงเซนเซอร์ก็จัดปายยยย
กินข้าวอิ่มก็เดินทางตามล่ากาแฟและพิสูจน์สมรรถนะเครื่องยนต์กันต่อ
ทดสอบกันในเมืองแล้วออกมาแถวชานเมือง บ้าง เพื่อจะได้ทดลองซัดกันได้ปลอดภัยมากขึ้น
เครื่องยนต์
สำหรับเครื่องยนต์ของอาจูนี้ ใช้พื้นฐานเดียวกับกับ Spark115i แต่ว่าปรับใหม่หลายจุดเลยหล่ะ เอาเป็นว่าแค่หน้าตาภายนอกก็ไม่เหมือนแล้ว ภายในยิ่งไม่ต้องเอ่ย
ปรับอะไรบ้างหาอ่านกันได้ในเน็ทไม่ขอ สาธยายละกันครับ มันจะปวดหัวป่าวๆ 5555 แค่รู้ว่ามันแรงขึ้นกว่าเดิม จัดขึ้นกว่าเดิม โดยที่ไม่สูญเสียความประหยัดไปเพียงเล็กน้อย
ผลผลิตจากกำลังเครื่องยนต์บล๊อคนี้ ให้แรงม้าถึง 9.9 ตัวซึ่งถือว่า “สูง” ในหมู่รถครอบครัว มาที่รอบ 7,750 รอบ / นาที ซึ่งถือว่า “จัด” อีกเช่นกันในหมู่รถครอบครัว
มาพร้อมกับแรงบิด 9.9 นิวตัน/เมตร ที่รอบ 6,500 รอบ / นาที
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า เครื่องยนต์ของรถมอไซค์ในคลาสไม่เกิน 125cc หม้อลม ที่สัมผัสมาทั้งหมดทั้งมวลไม่น่าต่ำกว่า 10 คัน โดยรวมแบ่งลักษณะได้ออกเป็นไม่กี่ลักษณะ คือ
– พวกเครื่องที่อุดมไปด้วยทอร์ค แต่รอบไม่ค่อยจัดและประหยัดขั้นเทพ ( รถครอบครัวยุคใหม่ส่วนใหญ่เป็นแบบนี้ )
– พวกเครื่องที่รอบจัดหน่อย แต่ทอร์คตรูอยู่ไหน และจะกินน้ำมันไปไหน ( มักจะเจอในรถยุคเก่าๆ )
– พวกเครื่องกลางๆ ทั้งจัดพอได้ และทอร์คก็ไม่น่าเกลียด
เจ้า Jupiter RC นี้ตามความรู้สึก ขอจัดอยู่ในจำพวกสุดท้าย คือ อาจจะไม่สุดยอดทั้งรอบทั้งทอร์ค แต่พอมารวมกับเกียร์แบบทดชิด ลากรอบเสียหน่อย ทอร์คมา รอบมี มันจะกลายเป็นคิงทางด้านสมรรถนะทันที แม้จะสูญเสียความประหยัดไปบ้าง เมื่อเทียบกับจำพวกแรก
แต่กระนั้น ความประหยัดที่ทำได้ แม้จะขับขี่แบบหมดปลอก สุดคันเร่ง ก็ยังทำได้ถึง 50+ กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งถือว่า ไม่น่าเกลียดเลย
ในขณะเดียวกัน ในแง่สมรรถนะที่สามารถรีดเร้นออกมาจากเครื่องยนต์ 114cc ลูกนี้ กลับให้อัตราเร่งสูสีกับรถครอบครัว 125cc เลยทีเดียวถ้าขับขี่แบบธรรมดาๆ ทั่วไป
แต่ถ้าใส่บทโหด โหมดเรซซิ่ง สมรรถนะที่แฝงอยู่ในช่วงรอบปลายก็จะเริ่มเฉิดฉายเป็นประกายขึ้นตามลำดับ สามารถแซงรถ 125cc บางค่ายขึ้นไปได้แบบนิ่มๆ พร้อมทั้งรอบปลายแบบกดมิดแบบหมอบไหลตามรถยนต์บนถนนวิภาวดี ยังไหลไปถึง 120 กม/ชม ตามเรือนไมล์ที่อ่อน 8% คิดเป็น GPS ก็ ประมาณ 110 กม / ชม สำหรับการขับขี่แบบคนเดียวแบบไหลตามลมมีตัวช่วยถ้าไม่มีตัวช่วยเรื่องลม 110-115 ทำได้ไม่มีปัญหา
พอลองซ้อน 2 ( น้ำหนักรวม 140.7 กิโลกรัม ) วิ่งในถนนสองเลนส์ สวนลม ลากสุดไปจบที่ประมาณ 102-104 กม / ชม มาพร้อมกับการกินน้ำมันที่เพิ่มขึ้น วัดได้ 45 กม/ลิตร
โดยรวมสมรรถนะของเครื่องยนต์ 114cc ลูกนี้ ให้สมรรถนะที่ต้องบอกว่า เกิน 114cc ไปแล้วและไปเทียบเคียงกับ 125cc ได้เลย แถมในรอบต้น – กลาง อัตราเร่งยังไปเกาะผู้พี่พิกัด 135cc ได้แบบตามจี้ติดๆแถมอาจจะแอบแซงได้แป๊บๆ อีกด้วย
เอาไป 5 กะโหลกเลยครับ สำหรับเครื่องยนต์ setting นี้
ถูกใจคนครอบครัวที่หัวใจรักสปอร์ตแน่นอน
ด้วยอัตราทดเกียร์ที่ค่อนข้างชิด สร้างอัตราเร่งที่จี๊ดจี๊ดกับการใช้งานในเมือง
พอมาเดินทางในถนนโล่งๆ เราจะแอบตบเกียร์ 5 อยู่บ่อยๆ ( แต่มันไม่มี ) เพราะรอบเกียร์ 4 ที่ค่อนข้างสูง
แต่ครั้งนี้ เครื่องยนต์ของYamaha ลูกนี้ถูกเซ็ตมาให้สามารถรีดสมรรถนะออกมาทุกหยดหยาดจาก 114cc ไม่มีอาการรอบเหลือเหมือนรุ่นก่อนๆอีกต่อไป
ผลที่ได้ก็ตกอยู่ที่เรา ทั้งอัตราเร่ง และ ความเร็วปลายที่พอจะแซงเพื่อนๆในคลาสเดียวกันได้
จะมีข้อเสียอยู่ก็ตรง เราจะรู้สึกว่า รอบเครื่องมันสูงพอสมควร แต่ด้วยความที่เครื่องยนต์ของ Yamaha ให้ความรู้สึก “แน่น” และ “นิ่ง” ทำให้ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรและไม่ต้องสงสารเครื่องแต่อย่างใด
ต่างที่รถครอบครัวบางรุ่นจากบางค่าย ที่รีดกำลังออกมาได้ดีเยี่ยมเหมือนกัน แต่อารมณ์คล้ายๆ เครื่องกำลังใกล้จะแตก ( แต่จริงๆ แล้วมันก็ทนทายาดเอามากๆ )
โอย พูดเรื่องยากๆ ยาวๆ แล้วเหนื่อย
ขอพักทานกาแฟสักแก้วเน่ออออ
5 วันที่ใช้ชีวิตในเมืองที่แสนเร่งรีบ และวุ่นวาย
ในวันหยุดเราก็อยากจะปล่อยวางบ้างกับ ร้านกาแฟเงียบๆ สักร้านที่เราถูกใจ
มนต์รักคลอง 15 ร้านที่คิดถึงทุกทีที่ฝนตก
ชอบร้านนี้เพราะได้นั่งมองน้ำ มองนก สงบและคนน้อย
มาว่ากันที่แฮนด์ ลิ่งโดยรวมของตัวรถ
จากองค์ประกอบที่เล่าๆ มา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ที่แรงใช้ได้ ช่วงล่างแน่น เบรคดี เฟรมแน่น
พอมารวมๆ กันทำให้เป็นรถที่ขี่ได้สนุก ให้ความมั่นใจได้มาก ไม่ว่ารูปแบบถนนแบบไหนในเมืองฟ้าอมรเรา
คอสะพานที่แสนจะต่างระดับ ทางโค้ง รอยปะถนน หลุมบ่อ ขี่ลุยไปได้เลยโดยไม่ต้องเบาคันเร่ง ยกลึกหรือเบรคได้หนักกว่า
โดยรวม ถือว่า เป็นเซ็ทติ้งที่ผมถูกใจเอามากๆ ชอบรถแบบนี้แหล่ะ
เอาไป 5 กะโหลกเลย
นักทดสอบรับเชิญ login Darkcutie ครับ
กลับคืนสู่กรุงเมืองฟ้าอมร.. เมืองแห่งแสงสียามค่ำคืน
เชื่อว่า คอมอเตอร์ไซค์ใน กทม เกือบๆ ทุกคน คงจะมีกิจกรรมหนึ่งที่มักจะทำกัน สิ่งนั้นคือ
ขี่รถร่อนยามค่ำคืน
ในแง่ท่วงท่าการขับขี่ ความสะดวกสบายของเบาะและท่านั่ง
ก็ต้องบอกว่าทำได้ดีเหมือนรถครอบครัวทั่วไป
ต่อให้เผชิญการจราจรที่ติดขัดทั้งวัน ก็ยังมีแรงออกมาร่อนตอนกลางคืนได้สบายๆ
สบายๆ ชิลๆ ขี่กินลมชมวิว ยามค่ำคืนครับ
และแล้ว วันหยุดสุดสัปดาห์ก็ผ่านไป กลับมาใช้ชีวิตตามเดิมของเรา
คนเดินดิน กินข้าวแกง อยู่เมืองกรุง อย่างเรา ยังไม่สิ้น ก็ดิ้นกันไปครับ…
สุดท้ายนี้ ขอสรุปให้เลยละกันนะครับ ( เดี๋ยวจะไปทำงานไม่ทัน 5555 )
ข้อดี
+ แรงดี
+ ทอร์คใช้ได้ติดมือ
+ ยังคงความประหยัด
+ เครื่องแน่น นุ่ม
+ น้ำหนักเบา
+ สมรรถนะช่วงล่างแน่น
+ เบรคดี
+ ยางติดรถใช้ได้
+ สวย ( คหสต นะครับ )
+ ใช้งานง่าย
+ ความสะดวกสบายแบบรถครอบครัวยังอยู่ครบ
+ ตอบโจทย์คนขี่รถเร็ว
ข้อสังเกตุ/ข้อเสีย
– U-Box เล็กเมื่อเทียบกับเจ้าตลาด แลกมากับรถที่ไม่สูงเกินไปนัก
– ถังน้ำมัน 4 ลิตร ( แม้จะวิ่งได้เกิน 200 กม ตามการใช้งานทั่วๆ ไป บางคนคงอยากได้ 5 ลิตร )
– ช่วงล่างถือว่าแข็ง สำหรับคนที่ชอบรถนุ่มสบาย
– ราคาที่เพิ่มขึ้นมา
บทสรุปของอาจู
อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ค้นหารถครอบครัวที่ใช้งานง่าย ดูแลง่าย ให้ความสะดวกสบาย แต่ในขณะนึงก็แอบอยากได้รถที่ขี่สนุก มีสมรรถนะเชิงสปอร์ตตอบโจทย์ความซนเล็กๆในตัวของคุณ รถคันนี้คือรถของคุณครับ
ถ้าถามผมว่า ผมจำเป็นต้องซื้อไหมถ้าผมกำลังจะซื้อรถในคลาสนี้ ก็ต้องบอกว่า ผมติ่ง Yamaha แค่รูปทรง ผมก็ซื้อแล้ว แม้รถจะไม่ได้ดีขนาดนี้แต่สำหรับคันนี้ ผมบอกได้เลยว่า มันคือผลงานชิ้นโบว์แดงของ Yamaha เลยฮะ ( คหสต นะ )
อย่าเชื่อผม ผมติ่ง Yamaha ลองหามาลองดู ฮะ
กรุงเทพฯ เมืองแห่งอาหาร
สถานการณ์ที่ต้องใช้เบรคหนักๆ อีกอย่างหนึงคือ
เจอร้านอาหารอร่อย…. ( เอ่อ ใช่หรออออออ )
พูดไม่ทันขาดคำ ว่าแล้วเราก็เบรคหนัก ล้อหลังยกสไลด์เอี๊ยยยดดดด
เมื่อเจอร้าน “ขาหมูเจริญแสง”
ในซอยเล็กๆ หน้าโรงพยาบาลเลิดสิน ซึ่งรถยนต์คงจะเข้าลำบาก
มีร้านขาหมูแห่งหนึ่งที่ต้องบอกว่า อาจจะเป็น 1 ใน 3 ขาหมูที่อร่อยที่สุดในตองอู
กับเนื้อหมูที่นุ่มมมมมมมมมละมุน หนังหมูที่ละลายยยยยในปาก
น้ำขาหมูรสชาติกลมกล่อมแบบสุดขั้ว
อาร์….ฟิน ทั้งอร่อย ทั้งราคาถูก
เนี่ยแหล่ะ ขวัญใจ คนเดินดิน กินข้าวแกงอย่างเรา