สวัสดีพ่อแม่พี่น้องTip&Technic EP2 มาแล้วจ้าาา
เมื่อคราวที่แล้วเราได้เสนอเรื่องของการเบรก กับการซ้อมวนเลข 8 กันไปแล้วที่กระทู้นี้ https://pantip.com/topic/38527149
วันนี้ TopsaVage & lotteidol ก็จะพากัน Step Up เพิ่มความสนุก เพิ่มความท้าทายในการซ้อมไปอีกระดับแบบเบาๆ
ด้วยท่าทางการเข้าโค้งทั้ง 3 แบบ นั่นคือ Lean Out,Lean With,Lean in นั่นเอง (ตั้งใจตัด Hang on ออกไปก่อนนะจ๊ะ)
3 ท่าการเข้าโค้งนี้ ต่างกันอย่างไร วันนี้มาไขคำตอบกัน
โดยพื้นฐานการเข้าโค้งยังคงเดิม ทางตรง เร่ง ก่อนเข้าโค้ง ปิดคันเร่ง เบรก หันมอง เลี้ยว และ เร่ง
มีคลิปให้รับชมกันด้วย
ถ้าใครอยากได้พิธีกรสาวสวย คอมเม้นท์บอกได้นะ เผื่อคราวหน้าจะหาพิธีกรน่ารักๆมายืนประกบเพิ่มอีกสักคน 555
พื้นฐานหลักๆอย่างที่เคยบอกไปในคราวที่แล้ว การหันมองเป้าหมาย ไม่เบรก และ ไม่บีบคลัชท์ในโค้ง เหมือนเดิมเป๊ะ
ขอเริ่มกระบวนท่าแรกด้วยท่าที่ใช้กับ “โค้งความเร็วต่ำ” ก่อนเลยนั่นคือท่า Lean Out
ตัวอย่างสถานการณ์ของท่าการเข้าโค้งแบบนี้ เช่น การยูเทิร์นที่แคบมากๆ และยังไม่สามารถเพิ่มความเร็วได้
โดยใช้การเอียงรถเข้าโค้ง แต่ใช้น้ำหนักตัวเราถ่วงไม่ให้รถล้มพับลงไปนั่นเอง
การจัดท่าทางของร่างกาย จากด้านล่าง ปลายเท้าชี้ตรงไปข้างหน้า ท่อนขาหัวเข่าแนบกระชับกับรถ
แต่ช่วงบนของลำตัว จะเบี่ยงออกไปด้านตรงกันข้ามกับโค้ง
เช่นในภาพ lotteidol กำลังเข้าโค้งขวา แต่เอนตัวไปด้านซ้าย
แต่ขณะเดียวกัน ก็ใช้มือ แขน กับท่อนล่างของร่างกาย บังคับรถให้เลี้ยวไปทางขวา
ต่อกันด้วยท่าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน “เยอะที่สุด” กับท่า Lean With
ก็คือการที่ตัวเรากับรถ เอียงเข้าโค้งไปด้วยกัน เท่ากันนั่นเอง
สถานการณ์ที่เหมาะจะใช้ ก็แทบทุกประเภท ถ้าพื้นผิวถนนดี ความเร็วรถเหมาะสม สายตาหันมองโค้งถูกต้อง ท่านี้จะปรากฏออกมาาาา
ต่อด้วยท่าสุดท้ายของวันนี้ เหมาะกับการเข้าโค้งด้วยความเร็วที่มากขึ้น “Lean in” ใช้กับโค้งที่ต้องการเพิ่มความเร็วสูงขึ้น
โดยใช้ลำตัวด้านบน เอียงตัวลงมาสู้กับแรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลางที่เพิ่มขึ้น แต่ทำให้รถเอียงน้อยลง เพื่อลดภาระต่อหน้ายางนั่นเอง
ทั้งสามท่านี้ คือท่าทางการเข้าโค้งที่ได้ใช้บนถนนมากที่สุด การฝึกซ้อมให้ร่างกายเกิดความเคยชินสำคัญมาก
แต่ที่สำคัญอีกอย่างก็คือ ประสบการณ์ จะช่วยให้เราเลือกใช้ท่าทางการเข้าโค้งให้เหมาะกับสถานการณ์ที่สุด
ซึ่งถ้าเราอยู่บนถนนเนี่ย ต้องระลึกสติอยู่เสมอว่ามันจะไม่เรียบ ไม่สะอาดกริ้บแบบพื้นในสนามแน่นอน เพราะฉะนั้นควรคาดการณ์ล่วงหน้าในทางร้ายๆไว้ก่อน
ลดความเร็วลงอีกนิด วิเคราะห์สถานการณ์ด้วยสติ เพื่อให้เราได้อยู่ขี่รถไปด้วยกันอีกนานๆ
สำหรับรถที่เรานำมาขี่สาธิตในครั้งนี้ก็คือ GPX RAZER220 ดีไซน์แบบ Sport Naked
รูปลักษณ์ภายนอก รอบคัน ก็โฉบเฉี่ยวกำลังได้ ดุดันกำลังดี
เครื่องยนต์ใหม่ 4จังหวะ เพิ่มความจุขึ้นเป็น 223cc. ติดตั้งออยคูลเลอร์มาให้จากโรงงาน เกียร์ 6 สปีด จ่ายน้ำมันด้วยหัวฉีด EFI นะจ๊ะ
ต้นถึงกลาง จัดเจนกำลังดี ส่วนช่วงปลาย รู้สึกหมดไวไปสักนิด
จากที่ได้ลองขี่ใช้งานในเมือง การจราจรแบบติดขัดในวันเสาร์แล้วเนี่ย ถือว่าเหมาะสมกำลังดี
ช่วงล่างด้านหน้า Up Side Down ด้านหลัง ช็อคอัพเดี่ยว สวิงอาร์มทรงสวย
ในส่วนของช่วงล่าง สามารถตอบสนองได้ดี ทั้งต่อการใช้งานปกติ จนถึงการเอามาแอบเปรี้ยวเล็กๆเบาๆในสนามวันหยุดได้เหมือนกัน
ระบบเบรก ดิสเบรก หน้า หลัง พิมพ์นิยม ปั๊มเบรกแบบนี้อะไหล่ซ่อมบำรุง หาซื้อได้ทั่วไป สบายๆ
จากที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันมา เบรกชุดนี้ วางใจได้ เพียงพอที่จะต่อกรกับพละกำลังที่รถจะผลิตออกมา
ยางจาก IRC Road Winner รุ่นยอดนิยม ขนาดหน้า 100 หลัง 130
ท่อไอเสียแบบออกใต้ท้องรถ สุ้มเสียงไม่เหมาะต่อการสตาร์ทหนีภรรยาออกไปเที่ยวตอนดึก 5555+
ความรู้สึกส่วนตัวคือมันเสียงดังกว่าปกตินิดนึง (TopsaVage จะชอบรถที่ท่อเงียบมากกกก)
ด้วยเพราะดีไซน์ท่อมาแบบสั้น และโล่งกว่าปกติเล็กน้อย ทำให้เสียงดังเพิ่มขึ้น
และจะมีจังหวะแบ็คไฟร์เบาๆให้ได้ยิน ยามที่เราผ่อนคันเร่งด้วย
Full Digital รอบคัน
ไฟหน้า ไฟท้าย LED TopsaVage ชอบไฟเดย์ไลท์ที่ให้มามาก เพิ่มระยะการมองเห็นให้ผู้ร่วมใช้ถนนในเวลากลางวันได้ดียิ่งขึ้น
จอมาตรวัดแสดงผลแบบดิจิตอล แสดงข้อมูลการขับขี่ที่จำเป็นต่างๆ วัดรอบ ความเร็ว และมีไฟบอกเกียร์ 5555+
ช่องเสียบ USB จ่ายไฟสำหรับเสียบชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ บางวันเบาๆเราก็ลืมเพาเวอร์แบงค์กันได้
กับราคาค่าตัว ที่ 72,500 บาท กับสิ่งที่ให้มา ถือว่าเข้าตาในหลายจุดเลยเชียว
เสียดายที่คราวนี้ไม่ได้มีเวลาคลุกคลีกันยาวๆ ก็เลยเอา Feeling มาเม้ามอยให้ฟังแบบเบาๆไปก่อนเนาะ
สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณ
GPX เอื้อเฟื้อรถเพื่อการสาธิต
สนามฝึกซ้อม รามอินทรา 40 (RMCA 40) เอื้อเฟื้อสถานที่ในการถ่ายทำ
และขอบคุณท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน ขอบคุณครับ
TopsaVage ถ่ายภาพนิ่ง ถ่ายคลิปวีดิโอ ขับขี่ทดสอบ บทความ
lotteidol ขับขี่สาธิต ถ่ายคลิปวีดิโอ ตัดต่อคลิปวีดิโอ
พรสิบประการ ถ่ายภาพนิ่ง เลี้ยงกาแฟ
บทความต้นฉบับ https://pantip.com/topic/38617536