สัมผัสแรก KAWASAKI NINJA ZX6R ถึงกับร้องแทบเอาใบจองกลับบ้าน!!!

สัมผัสแรก KAWASAKI NINJA ZX-6R

ถึงกับร้องแทบเอาใบจองกลับบ้าน!!!

 

เปิดผ้า เปิดตัวกันไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กับเจ้า KAWASAKI NINJA ZX-6R พร้อมเชิญสื่อมวลชนสายมอเตอร์ไซค์ร่วมทดสอบอย่างคับคั่งในวันอาทิตย์ที่สนาม พีระเซอร์กิต พัทยา

ทีม Just Ride it ก็ได้รับเกียรติเข้าร่วมการเปิดตัวและทดสอบครั้งแรกนี้ด้วยเช่นกัน

ไม่รอช้า KAWASAKI NINJA ZX-6R จัดอะไรติดรถมาบ้าง มาชมกันเลยจ้าาา

 

เครื่องยนต์ : เครื่องยนต์สี่สูบเรียง 4จังหวะ ปริมาตรความจุกระบอกสูบ 636 cc. ระบายความร้อนด้วยน้ำ

ตาแมวส่องดูน้ำมันเครื่องนะจ๊ะ

สี่สูบจริงๆ

กำลังจากเครื่องยนต์ 636cc. ตัวนี้ผลิตม้าออกมาได้ถึง 130 ตัว ที่ 13,500 รอบต่อนาที

เริ่มจากโหมดขับขี่แบบ L จะจำกัดพละกำลังของเครื่องยนต์ทั้งหมดเอาไว้ก่อน

การตอบสนองของเครื่องยนต์ต่อคันเร่งมาในแบบเรียบลื่น บวกกับเสียงท่อเดิมที่นุ่มละมุนรูหู ทำให้เมื่อยามที่กระซวกคันเร่งเพื่อรีดรอบ มันจะให้อารมณ์แบบค่อยๆดึงเราทะยานขึ้นไป โหมดนี้เหมาะสำหรับมือใหม่ หรือไว้ใช้ในยามรถติด หรือ ฝนตก แทรคชั่นคอนโทรล มี 3 ระดับ หรือจะปิดมันไปเลยก็ได้ ดีงามมากกก

 

ต่อด้วยโหมดขับขี่แบบ F Full Power มีเท่าไหร่ใส่เต็ม น่าเสียดาย ก่อนจะถึงรอบที่แอดตี๋จะลงไปหวด ฝนตกลงมาทำให้ผิวแทรคเปียก และลื่นแหงๆ เลยต้องจำกัดตัวเองลดดีกรีลงหน่อย

แต่ก็ยังได้สัมผัสถึงความแรงของม้าในคอกทั้ง 130 ตัวได้อยู่ ทางตรงของพีระเซอร์กิตยังมองเห็นตัวเลขความเร็ว 200km/h ได้อยู่ (ตอนนั้นอยู่ในเกียร์ 4 เองนะท่านผู้โชมมมม)

รอบเครื่องยนต์ที่ได้สัมผัสสส ทะลุ เรดไลน์ ไปตัดแถวๆ 18,000 รอบต่อนาทีโน่นแนะ (แต่ก็ไม่จำเป็นต้องลากขนาดนั้นนะ แรงม้าออกหมดคอกที่ 13,500 รอบต่อนาทีเท่านั้น)

เกียร์ 1 นี่ถ้าจงใจกระแทกคันเร่ง ล้อหน้าก็ลอยได้ง่ายๆเลย

 

ระบบช่วยเหลือที่ดีงามอีกอย่างเลยก็นี่จ้ะ slipper clutch assist ยิ่งเห็นความดีงามของมันชัดเจนขึ้นด้วยพื้นที่เปียกแบบนี้

จังหวะที่ลดเกียร์ลงก่อนเข้าโค้ง ถ้าเป็นรถที่ไม่มี slipper clutch  ตอนที่ปล่อยคลัชท์หลังจากลดลงเกียร์แล้วจะออกอาการล็อคนิดๆของล้อหลังแน่นอน แต่สำหรับเจ้า KAWASAKI NINJA ZX-6R ลำนี้ มันยังคงตัดต่อกำลังที่ล้นเหลือลงได้อย่างเนียนๆเลย

ท่ออากาศด้านหน้าที่โดนแซวกันตลอด เป็นตัวที่จะส่งอากาศเข้าชุดกรองโดยตรง

 

เปียกน้ำบานเลยครับท่าน

 

แซสซี: เฟรม Perimeter อลูมิเนียมปั๊มขึ้นรูป

โครงสร้างเฟรมแบบ Perimeter ซึ่งถูกพัฒนามาจากการแข่งขันคือกุญแจสำคัญที่ทำให้ Ninja ZX-6R มีสมดุลด้านการควบคุมอันยอดเยี่ยม ฉับไว คล่องตัว นิ่งในช่วงกลางโค้งและสามารถเปลี่ยนไลน์การขับขี่ได้ตามต้องการ ประกอบกับให้สัมผัสจากการทำงานของแซสซีได้อย่างแม่นยำ

องศาของตัวรถไม่ได้บังคับให้ผู้ขี่ต้องก้มเยอะมากนัก ก้มน้อยกว่า นินจา 600 ตัวเก่าอยู่โข เรียกว่าพอดีๆ สำหรับชายหนุ่มชาวเอเชียสูงราว 170 กว่าๆ จัดแจงท่านั่งแล้ว เพียงครู่เดียวก็เกิดความสนิทสนมกันได้แล้วล่ะ

เบาะนั่ง ถ้าดูในโบรชัวร์ ความสูงมันน่ากลัวเชียวล่ะ (830mm.) แต่พอขึ้นคร่อมจริงแล้ว เอ้ะ มันก็ไม่ได้สูงจนต้องเขย่งมากมายเลยแฮะ เพราะช่วงเบาะออกแนวแคบ ช่วงกลางลำของรถกับเฟรมก็เว้าเข้าไปอย่างลงตัวพอดี

ถังน้ำมันทรงอวบ แต่ช่วงเบาะจะคอดกิ่วกำลังดี ความจุ 17 ลิตร มีเว้าด้านบนไว้ให้เอาคางเกยได้ด้วยนะ

 

 

เบาะคนซ้อนกันชัดๆ ก็ตามสไตล์รถซูเปอร์สปอร์ตอ่ะเนาะ ใครอยากซ้อนก็ต้องทนหน่อย

ระบบกันสะเทือน: โช้คหน้า SFF-BP (แยกฟังก์ชั่นการทำงาน – ลูกสูบใหญ่)

โช้คอัพหน้าจาก Showa ผสมผสานระหว่างระบบแบบ Separate Function Fork (SFF) แยกฟังก์ชั่นการทำงานและ Big Piston (BPF) ลูกสูบใหญ่ ให้การตอบสนองที่ยอดเยี่ยมทั้งในสนามแข่งและการใช้งานในชีวิตประจำวัน โช้คหน้าแยกฝั่งการทำงานระหว่างข้างที่ควบคุมระยะยุบของสปริง (Preload) กับข้างที่ควบคุมความหนืดในการยุบตัว Damping (ทั้งช่วงคืนตัว Rebound และยุบตัว Compression) ทำให้สะดวกและง่ายต่อการปรับตั้ง

จัดเต็มกับชุดช่วงล่างทั้งหน้าหลัง พร้อมทั้งจัดให้ปรับตั้งค่าได้อย่างเต็มที่

จากการทดสอบ ใช้เซ็ทติ้งเดิมๆที่ติดรถมา แถมยังต้องมาเจอกับพื้นเปียกแบบนี้ ช่วงล่างที่ให้มาก็ยังรองรับการขับขี่ได้อย่างดี ด้านหน้านี่บอกเลยว่าเหลือๆ ถ้าปรับตั้งให้เข้ากับผู้ขี่อีกละก็คงฟินกว่านี้

ช่วงล่างด้านหลัง จับความรู้สึกได้ว่านิ่มไปนิด แต่ถ้าปรับตั้งแล้วก็น่าจะจบได้ไม่ยาก

หรือถ้าสายโหดจัดหนักมากๆ ควรติดตั้งกันสะบัดเพิ่มอีกหน่อยกันอาการชก (มีรุ่นแต่งพิเศษ จัดกันสะบัดเออลินส์เป็นของติดรถ ราคารวมในเงินผ่อนได้ด้วยนะ)

 

 

สวิงอาร์มทรงนี้สวยเฉียบขาดบาดใจจริงๆ

 

เทคโนโลยี: KIBS (Kawasaki Intelligent anti-lock Brake System)

ระบบเบรกป้องกันล้อล็อกอัจฉริยะความแม่นยำสูงเกรดซูเปอร์สปอร์ตจากคาวาซากิ ถูกออกแบบมาโดยคำนึงถึงคาแรคเตอร์การควบคุมและขับขี่รถซูเปอร์สปอร์ตโดยเฉพาะ ให้ประสิทธิภาพในการเบรกสูงสุด

ส่วนนี้คือดีงาม มันตอบสนองต่อการเบรกหนัก หรือ แม้กระทั่งการค่อยๆแตะ ค่อยๆแต่งได้อย่างดีเยี่ยม

 

ยังๆๆ ยังไม่หมด คันนี้ยังติด ควิก ชิฟเตอร์ มาให้จากโรงงานด้วยนะจ๊ะ เปลี่ยนเกียร์ขึ้นได้เลย ไม่ต้องบีบคลัชท์ (แต่ตอนลดเกียร์ยังต้องบีบคลัชท์นะ)

จะทำงานบนเงื่อนไขว่า เครื่องยนต์ต้องทำงานเกิน 2,500 รอบต่อนาที

มันส์มากบอกเลย จังหวะทางตรงที่เรากำลังใส่สมาธิกับทางข้างหน้า เราสามารถยัดเกียร์ขึ้น ขึ้น ขึ้น โดยไม่ต้องพะวงการบีบคลัชท์อีกเนี่ย


 

ข้อมูลจำเพาะของตัวรถทั้งหมด

ชนิดเครื่องยนต์ Liquid-cooled, 4-stroke In-Line Four
ระบบวาร์ว DOHC, 16 valves
ปริมาตรกระบอกสูบ 636 cm3
ความกว้างกระบอกสูบ X ช่วงชัก 67.0 x 45.1 mm
อัตราส่วนแรงอัด 12.9:1
ระบบหล่อลื่น Forced lubrication, wet sump
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง Fuel injection: ø38 mm x 4 with oval sub-throttles
ระบบจุดระเบิด Digital
ระบบการติดเครื่องยนต์ Electric
ระบบคลัทช์ Wet multi-disc, manual
ระบบขับเคลื่อน Chain
ระบบส่งกำลัง 6-speed, return
อัตราทดเกียร์ 1st 2.846 (37/13)

2nd 2.200 (33/15)

3rd 1.850 (37/20)

4th 1.600 (32/20)

5th 1.421 (27/19)

6th 1.300 (26/20)

อัตราทดขั้นแรก 1.900 (76/40)
อัตราทดสุดท้าย 2.867 (43/15)
กำลังสูงสุด
กำลังสูงสุด (Ram Air)
95.4 kW {130 PS} / 13,500 min-1

100 kW {136 PS} / 13,500 min-1

แรงบิดสูงสุด 70.8 N·m {7.2 kgƒ·m} / 11,000 min-1

สัดส่วนและน้ำหนักของตัวรถ

ขนาด กว้าง x ยาว X สูง 2,025 mm x 710 mm x 1,100 mm
ระยะห่างช่วงล้อ 1,400 mm
ระยะห่างจากพื้น 130 mm
ความสูงของเบาะ 830 mm
น้ำหนักสุทธิ 196 kg
ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 17 litres
ขนาดยางหน้า 120/70ZR17M/C (58W)
ขนาดยางหลัง 180/55ZR17M/C (73W)

 

ระบบกันสั่นสะเทือน-การเบรก

ระบบกันสะเทือนหน้า ø41 mm inverted fork (SFF-BP) with rebound and compression damping and spring preload adjustability, and top-out springs
ระบบกันสะเทือนหลัง Bottom-Link Uni Trak, gas-charged shock with piggyback reservoir, compression and rebound damping and spring preload adjustability
เบรกหน้า: ชนิด

คาลิปเปอร์

Dual semi-floating ø310 mm (x t5 mm) petal discs

Dual radial-mount, monobloc, opposed 4-piston

เบรกหลัง: ชนิด

คาลิปเปอร์

Single ø220 mm (x t5 mm) petal disc

Single-bore pin-slide, aluminium piston

 

สรุปสั้นๆง่ายๆเลย มันเป็นรถที่ช่วยผู้ขี่เยอะมากหากเทียบกับ นินจา 400 ขี่รอบเดียว 20นาที แต่เหนื่อยกว่า ขี่ ZX 636 2 รอบ 40 นาทีถ้าเค้าให้ขี่ต่อก็ยังไหว

สำหรับราคาเปิดตัว เฉพาะช่วง 3 เดือนนี้เท่านั้น!!!!

439,000 บาท แถมประกันชั้น 1 มาให้ด้วย เลย

 

ทีมสื่อมวลชนที่มาร่วมงานบอกเลยว่า ราคานี้น่าสนใจมาก เป็นประเด็นที่ถกกันต่อไปเลยว่า แล้วราคามันจะไปหยุดตรงไหน

ทีม Just Ride it ก็ไม่กล้าจะเดาหรอก เพราะเดาไว้แล้วก็ไม่ถูก ตอนแรกที่เห็นภาพจากงาน Intermot 2018 รวมทั้งเห็นข้อมูลตัวรถนั่นหนะ ในใจคิดไว้ว่ามันจะต้องทะลุ 500,000 บาทแหงๆ แต่เปิดมาราคานี้

 

บอกเลย นี่แหละ เซอร์ไพรท์ ชิ้นใหญ่ประจำปี

 

สำหรับอารมณ์การขับขี่เต็มๆทั้งในเมือง นอกเมือง  รายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ จะเป็นอย่างไรนั้น เดี๋ยวคงต้องมีการล้างตา ยืมรถมาลูบๆคลำๆหลายวันหน่อย แล้วค่อยมา Full Review แบบ จัสๆ ให้รับชมกันอีกที

ส่วนวันนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีครับ

 

ก่อนจากกกก ชมภาพหลายๆมุม พร้อมแอคชั่นสวยๆ แล้วก็สาวน่ารักๆ กันอีกหน่อยเนาะ ไม่มีสาวๆ ก็ไม่ใช่ Just Ride it หนะสิ





รอบแรกของการทดสอบ พื้นแทรคยังแห้งอยู่






 

พอก่อนถึงรอบแอดตี๋ ฝนตกซะงั้น



ปิดท้ายด้วยสาวๆเนาะ



ดีเจสาวสุดน่าร๊ากกก


 

โอ้ยยย แอดท๊อปรู้สึกป่วยขึ้นมาเลยทันที แค่กๆๆๆ


 

จบจริงๆแล้วจ้าาาา บ๊าย บายยย

 

บทความโดย TopsaVage

ภาพโดย TopsaVage https://www.facebook.com/topsavage.yindee

ทดสอบขับขี่ แอดตี๋ https://www.facebook.com/rtee.rider