พาชาวภารตะเยือนแดนมนต์รักแห่งสายลมหนาว เจ็ดวันหกคืน ไม่เต็มอิ่มให้รู้ไป Royal Enfield Tour of Thailand2017
สวัสดีปีใหม่ครับ พี่น้องลุงป้าน้าอาที่รักทั้งหลาย
ในวารดิถีขึ้นปีใหม่ ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก
จงดลบันดาลให้ท่าน ประสบแต่ความสุขเกษมสำราญ และสัมฤทธิ์ผลในสิ่งอันพึงปรารถนาทุกประการ
เอ้า อวยพรปีใหม่เสร็จแล้ว จบกระทู้ แยกย้าย เย้
เอิ้กกกก เดี๋ยวก่อนเซ่ เห็นรูปจั่วหัวกระทู้มา ดูแล้วไปร่อนมาหลายสถานที่ มาเม้าท์มอยให้อ่านเล่นสักหน่อยสิพระเจ้าประคู๊ณณ
ย้อนไปเมื่อวันงานมอเตอร์เอกโปฯ ขณะที่ TopsaVage กับ น้าหว่อง(พรสิบประการ) และ lotteidol
กำลังเดินถ่ายพริ.. เอ้ยย ถ่ายรถในงานอย่างขมักเขม้นอยู่นั้น
ได้มีโทรศัพท์ปริศนา ติดต่อเข้ามาที่เครื่องของ พรสิบประการ เป็นเหตุให้การระดมยิงแฟลชเข้าเบ้าตาน้องพริตตี้มีอันต้องชะงักลง
พรสิบฯเอ่ย ครับๆ ได้ครับ อยู่ซักประเดี๋ยวหนึ่งก็หันมายักไหล่ เอ้า วันเสาร์ที่ 16 นี้มีขี่รถ Royal Enfield ขึ้นเหนือนะ ใครสนใจมั่ง
TopsaVage ส่งสายตาแบบมีความนัยเป็นประกายไปให้ ปิ๊งๆๆ
บรรยากาศภาคเหนือ ช่วงปลายปี มันต้องฟินแน่ๆ รายละเอียด ยังไม่รู้ไม่จำเป็นต้องแคร์ 5555+ ใจง่ายจริงๆ
———————————————————————————————————————————————————————————-
———————————————————————————————————————————————————————————-
Day1
ตัดฉับมาเช้าวันที่ 16 ธันวาคม เลยดีกว่า เช้านี้สดใส เหมาะกับการเดินทางยิ่งนัก เดินทางมาที่ Royal Enfield ทองหล่อ ตามเวลานัดหมาย
เจ็ดทิวา หกราตรี อันยาวไกลกับชีวิตของTopsaVage ฝากไว้กับนายละนะเจ้า Classic 500
แต่ตอนนี้พุงลั่นแล้ว ขอฝากพุงก่อนนะ
จุดหมายปลายทางของวันนี้ กรุงเทพ – แพร่
เส้นทางวันนี้ถือเป็นการให้คนกับรถค่อยๆปรับตัวเข้าหากันได้อย่างดี ทั้งสภาพเส้นทางในเมืองกับ ทางตรง โล่งยาว ทางโค้งเล็กน้อยแถบเขาพลึง
อากาศก็เป็นใจตลอดทางที่ผ่านมาทั้งวัน มีแดดอ่อน สลับฟ้าใส และลมหนาวเล็กๆที่รอต้อนรับบนเขาพลึงที่ยังมาสะกิดเตือนว่า คุณเพ่ นี่หน้าหนาวนะจ๊ะ
ถึงเมืองแพร่ จะไม่แวะถ่ายกันที่แลนมาร์คนี้ เดี๋ยวหาว่ามาไม่ถึงนะ
Day2
เริ่มต้นเช้าวันใหม่ ทานมื้อเช้าเสร็จ ก็มาประชุมรวมกันทั้งหมด ชี้แจงพร้อมทำความเข้าใจถึงเส้นทางโดยรวมอีกครั้ง
*Tip ในทุกๆเช้าก่อนออกเดินทาง ก่อนที่จะออกรถ ผมมักจะยืดเส้น คลายเส้น วอร์มร่างกายเล็กน้อย ข้อดีมีหลายอย่าง เป็นทั้งการปลุกประสาทตัวเอง
ลดอาการเมื่อยล้าจากการขับขี่ เป็นการตรวจสอบกล้ามเนื้อตัวเองว่าปวดจุดใดบ้าง หรือหากวันนั้นดวงขึ้นสุดๆนึกอยากกลิ้งลงไปนอนวัดพื้น การยืดเส้นพวกนี้แหละอาจจะช่วยให้เราเจ็บน้อยลงก็ได้
เส้นทางจากแพร่-น่าน ช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา มีการขยายช่องทางจราจรหลายช่วง ถ้าใครไปตามหาความหนาวระลอกใหม่ที่กรม อุตุฯ แจ้งว่าน่าจะมีอีกทีกลางเดือนมกราคมนี้ โปรดใช้ความระมัดระวังกันเยอะๆนะจ๊ะ
ออกจากแพร่ประมาณ 9 โมง ไม่ทันเที่ยงเราก็มาเฉิดฉายอยู่ในตัวเมืองน่านแล้ว แวะกินข้าวกันก่อนน๊า
อิ่มข้าวแล้วก็ต้องไปเยือนแลนมาร์กสำคัญประจำจังหวัดน่าน วัดภูมินทร์
.
.
เคยมั้ยอยากกระซิบบอกความในใจให้ใครสักคนได้รับฟังงง
.
ตอนหัวค่ำ น่าจะคึกคักกว่านี้
.
ระหว่างทางที่มุ่งหน้าสู่ที่พักในอำเภอบ่อเกลือ ช่วงบ่ายคล้อยมา หนังตามันหย่อนๆ แวะจิบกาแฟกันซะหน่อยดีกว่า
หว๊าน หวาน ไม่ต้องใส่น้ำตาลก็ได้จ้ะแม่ค้าจ๋าาา
คลาสสิค
มีความชิลขั้นสุด
วิวก็แจ่ม
อากาศ ที่เห็นฟ้ามีแดดเยอะๆนั่น ไม่ร้อนเลย เป็นโชคดีของพวกเราที่ลมหนาวให้การต้อนรับอย่างดีเยี่ยม
เส้นทางที่เรานับหลักกิโลผ่านไป เหมือนมันจะไกล แต่พอเจอวิวความงามแบบนี้เข้า ไปกันต่ออีกหน่อยจะเป็นไรไปเล่า
พักผ่อนกันจนได้ที่ มุ่งหน้าเข้าที่พักกัน อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่านนั้น ขึ้นชื่อเรื่องที่พัก ที่ผมเองก็ได้ยินกิตติศัพท์ พร้อมทั้งเสพรีวิวจากคนอื่นมามาก
ต่างก็ยกให้ที่พักแถบนี้ บรรยากาศหลักล้าน ครั้งนี้ขอสัมผัสด้วยตนเองดูสักทีเถอะ
เต๊นท์กระโจมหลังนี้ คืนนี้พี่ขอพักกาย
ซ้อมนอนฟังเสียงน้ำไหลจนไม่อยากจะลุกแล้ว อากาศตอนนั้น ต่ำกว่า 20 องศาแล้ว
อ่าแบบว่า น้ำน่าเล่นจริงๆ แล้วคิดดู อากาศต่ำกว่า 20 โดดลงไป อย่าคิดอะไรมาก ใจล้วนๆ
เมื่อรัตติกาลกร้ำกราย พยาธิในพุงก็ดิ้นขลุกขลัก
อากาศแบบนี้ อะไรจะดีกว่าการก่อไฟ แล้วนั่งล้อมวงกินข้าว
อิ่มแล้วก็แบ่งปันเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมา แลกเปลี่ยนสู่กันฟัง
แฮปปี้เบิร์ทเดย์ทูยู…….
Day3
หลังจากที่เมื่อคืนทั้งห่อทั้งม้วนตัวเองมุดอยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน อากาศระดับต่ำกว่า 10องศา ที่นานๆทีจะได้สัมผัสในประเทศไทย
รู้สึกตัวได้ยินเสียงน้ำไหลเอื่อยๆ โอ้ยยย อยากนอนต่อเลยได้มั้ยยย แต่คิดอีกที มุดหัวออกมาดูข้างนอกดีกว่า
จัดการตัวเองเข้าห้องน้ำช่วงเวลานี้คิดถึงโถนั่งแบบอุ่นๆของญี่ปุ่นขึ้นมาทันที
เอาน่ะขอแค่ล้างหน้าแปรงฟันก็พอ เช้านี้เราปวารนาตัวเอง ลดการใช้น้ำ ลดโลกร้อน ละกัน
แค่ล้างหน้า แปรงฟันก็ร้องจ๊ากๆได้แล้ว อย่าให้ถึงกับอาบน้ำเลย
เอาร่างอันสั่นเทายัดเข้าไปในเสื้อฮีทเทคสองชั้น กางเกงผ้าฟลีสขายาวพร้อมทั้งยีนส์การ์ด ออกไปหาอะไรสวยๆดู ชาร์จแบตยามเช้ากันดีกว่า
เขาทั้งลูกที่บัดนี้ถูกปกคลุมไปด้วยสายหมอก บอกเลยว่าคุณควรมาสัมผัสด้วยตัวเองดูสักครั้ง
สิ่งประทับใจอีกอย่างของที่นี่ คือเช้าวันนั้นหลังจากตื่นแล้วก็ออกไปหาที่สวยๆถ่ายรูปกัน
เจอเด็กนักเรียนวัยประถมกำลังเดินไปโรงเรียนกัน พอเด็กเค้าเจอคนแปลกหน้า และหน้าแปลกอย่าง TopsaVage เข้า
เค้าก็ยกมือไหว้พร้อมกล่าวว่า “สวัสดีครับ” กันทั้งกลุ่ม น่ารักเป็นที่สุด
เจอทีมงานช่างภาพของRoyal Enfield กำลังออกมาถ่ายเก็บภาพบรรยากาศเหมือนกัน เลยบังคับให้ถ่ายรูปเราหน่อยนานๆจะมีคนถ่ายให้บ้าง
ก่อนออกเดินทางก็ขอหยิบอะไรใส่พุงซักหน่อย
วันนี้เราจะอวดถนนอีกเส้นของไทยเราให้เพื่อนชาวภารตะได้ชม 1148
แต่ช้าก่อนนน มาอำเภอบ่อเกลือ ต้องพาไปดูบ่อเกลือก่อนสิ
แล้วก็ต้องแวะชมวิวกันหน่อย
บ่อเกลือ-ปัว มีการทำทางเล็กน้อย
1148 ขอต้อนรับ
เพื่อนใหม่เราคนนี้เค้าชื่อว่า Rohit (โรหิต) ฝีมือการขับขี่ ไม่ธรรมดา จนพี่ปุ้มตั้งชื่อเล่นให้เค้าว่า Big Rocket
*TIP การขับขี่ทางโค้งภูเขาที่เราไม่เคยไป ควรมีบัดดี้อยู่ในสายตา
ตกลงนัดแนะสัญญาณมือกับบัดดี้ให้เรียบร้อย เพราะบางจังหวะ เราอาจจะอยากสลับตำแหน่งการนำหรือตาม
อย่าเสียบแซงกันเองในโค้ง ให้สัญญาณกันให้เรียบร้อยก่อนแซง
ขอบคุณ ขอโทษ เป็นเพื่อนสนิทกัน ยิ่งเป็นของจำเป็น แล้วรักของเราจะยาวนาน จุ๊บๆ
และเมื่อกระแสความชิลมันล้นปรี่ ถึงจุดหมายมืดสิครับ 5555+
ที่พักริมกว๊าน ไปถึงก็มืดตึ้บบบ อาบน้ำ พักผ่อนเข้านอนกันเลยละกัน
Day4
อาาาส์ วันนี้จะเป็นการเดินทางที่สั้นที่สุดในทริปแล้ว
แวะถ่ายภาพสวยๆริมกว๊านกันหน่อย
ดูแล้วเพื่อนใหม่ชาวภารตะของเราเค้าตื่นเต้นกับพญานาคนะครับ อธิบายจนเมื่อยมือเลยกว่าจะเข้าใจกัน 5555+
เฮ้
เบื้องหลังการถ่ายทำ ท่ายากนะเนี่ย
จากนั้นก็รูดปรู๊ดไปแลนด์มาร์กจุดต่อไปตามแผน
แล้วก็เจอน้องสาวคนนี้กำลังก้มๆเงยๆ ทาสีเจ้ารูปปั้นตัวสีเขียวนี่อยู่หน้าวัด เลยขออนุญาติน้องถ่ายรูปคู่กับพี่หน่อย
คนไทยเชิญเข้ามาสัมผัสความงาม ความอลังการฟรีนะจ๊ะ ชาวต่างชาติก็เสียไม่แพงหรอก 50 บาทเท่านั้น
ห้องน้ำยังมะรังมะเรืองขนาดนี้
สวยอ่ะ ผมชอบลายไทยแบบนี้จัง
น้องผู้ชายนี่คือผู้ปิดทองหลังพระประจำทริป น้องชื่อบอย เป็นนายช่างใหญ่ที่นั่งรถตู้ประกบขบวนมากับเราตลอดทาง ใครมีปัญหาเล็กใหญ่ แจ้งน้องได้ตลอด น้องพร้อมลุยเสมอ ปกติน้องจะขี้อายหน่อย ภาพนี้ก็โดน TopsaVage บังคับให้ถ่ายคู่กะสาวสวยนักท่องเที่ยวชาว ชัยน่าท (China) ซะเลย
หลังจากแวะทานมื้อเที่ยงกันจนอิ่มดีแล้ว เราก็มุ่งหน้าสู่เป้าหมายต่อไป ดอยแม่สลอง
เห็นแม่อุ๊ยเดินทางแบบนี้แล้ว ยอมจ้าา แม่อุ๊ยแข็งแรงจัง
แดดที่เห็นหน่ะ แยงตาเอาเรื่องก็จริง แต่ลมที่เข้าปะทะกายแต่ละฟิ้วเนี่ย วู้ยยย มีความสุขขขข
ภาพนี้ตั้งใจถ่ายให้พี่โจสุดๆ ไปจอดรถไว้ข้างบนเนินอย่างดี แล้ววิ่งจู๊ดลงมาตั้งกล้องรอ กะว่างามแน่ๆ กร๊ากกก เจอรถใหญ่สวนลงมาบังพอดี พอจะลั่นแชะต่อไป กล้องจับโฟกัสไม่ทันแหล่ววว ดูหน้าพี่โจ สะใจอิท๊อปสุดๆ
ถ่ายนักบิดเจ้าถิ่นมาอย่างงาม
เอารูปตอนจอดไปละกันนะพี่นะ
มะๆ มาดูที่พักกันดีกว่า
วันนี้ที่พักสวยอีกแล้ว
อากาศวันนี้อ่ะ มีแดดก็จริง แต่ลมมันหนาวสะใจดีจังเลย
ความฟินในค่ำคืนนี้จ้าาา
แช่อ่างน้ำอุ่นนวดตัว แล้วเปิดหน้าต่างส่องวิวแบบนี้
ร้านค้าขายบนแม่สลองวันหยุดคงคึกคักกว่านี้
สำหรับใครๆที่กำลังหิว ต้องขออภัยอย่างสูงงงง
อากาศหนาวๆแล้วซดของแบบนี้ อร่อยสุดๆ
หนาวหรอ ม่ายมั้งงงง
กินอิ่มก็แยกย้ายกันเม้ามอยและพักผ่อนตามอัธยาศัยจ้า
Day5
จากวันแรกที่เราต่างคนต่างมาต่างขับ อยู่ร่วมกันมาหลายวันเริ่มเข้าที่เข้าทาง เริ่มรู้มือ รู้ใจกันมากขึ้น
ไม่ใช่แค่การได้นั่งคุยเสวนากัน แต่พอเราขี่รถด้วยกัน ในหลายจังหวะ มันต้องอาศัยความไว้ใจเพื่อนร่วมทางของเราจริงๆ
ตัวรถเอง นับตั้งแต่วันแรกที่สัมผัส จนมาถึงวันที่ห้านี้ ระยะทางที่มันพาเราแล่นมาเป็นพันกิโลเมตรก็ได้พิสูจน์ข้อกังขาในใจเราออกไปหลายอย่างเลย มันวิ่งได้ดี เนินหรอ น้องไม่ต้องกลัว โค้งหรอ น้องไม่ต้องกังวล เชื่อใจพี่แล้วดีเอง
พูดคุยกันก่อนออกเดินทางในทุกเช้า เสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
เช้าวันนี้มันหนาวดีจังวุ้ย แล้วฉันจะกลับมาหาใหม่นะ แม่สลอง ฉันหลงเสน่ห์เธอเข้าแล้วล่ะ
เราลงจากแม่สลองมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่
อารมณ์มันก็เปลี่ยนไปเลยนะ หลายวันที่เราลัดเลาะภูเขา พลิกซ้ายพลิกขวาเป็นปลาปิ้งอยู่บนเขา
พอเจอทางตรง กับรถติดขวักไขว่ในเมืองกับอุณภูมิอุ่นขึ้นหน่อย แหม่วุ้ย อยากยูเทิร์นรถขึ้นเขาไปซะให้รู้แล้วรู้รอด
แหม เค้าก็พาลงมาเจอแสงสีศิวิไลซ์บ้างสิพ่อคู๊ณณณ
แวะเก็บของเข้าโรงแรม อาบน้ำ ผัดแป้ง ทำตัวหอมๆ เสร็จแล้วก็ไปเดินชมเมืองซะหน่อยดีกว่า
นี่เลยเดินเสพสตรีทอาร์ท ความฮิปสเตอร์เข้าครอบงำกันไปเลย
เสพไปเสพมา ป้ายร้านข้าวซอยข้างทางก็แบบว่า เหมือนจะทำท่ายักคิ้วแถมกวักมือให้ เลี้ยวสิครับ
วันที่ 5 ก็จบลงแบบอิ่มๆนี่แหละจ้า
Day6
เช้าวันนี้ดูเจ้า Royal Enfield ทุกคันยังดูคึกคักอยู่เลย
ตอนกลับมานั่งดูภาพนี้หน้าคอม ความรู้สึกเหมือนผมกำลังดูม้าหนุ่มหยอกเย้าเล่นกันอยู่ในทุ่ง พร้อมจะโจนทะยานออกไปวิ่งอีกครั้งยังไงไม่รู้
จัดไป ภารกิจของพวกเจ้ายังไม่จบหรอกนะ วันนี้เราไปขี่เล่นทิ้งทวนกัน
เริ่มต้นกันที่ Royal Enfield เชียงใหม่ พบปะพี่ๆเจ้าถิ่นหน่อย
เจอ RE Custom เข้าไป ชอบอ่ะดิ้
คนรักเมียก็มา
สะเมิงใกล้ๆ ไปร่อนก่อนกลับกัน
ลงจากสะเมิงเราทั้งหมดก็มาร่วมกิจกรรมดีๆ
โดย Royal Enfield ร่วมกับ PTT พาพวกเราทั้งหมดมาเลี้ยงอาหารกลางวัน และมอบสิ่งของพร้อมทุนให้น้องๆ
ที่โรงเรียนสอนคนตาบอดภาคเหนือ
กับชื่อโครงการ “What is your Challenge?” จิตวิญญาณที่ท้าทาย ไม่ได้มีไว้แค่เพื่อตัวเอง
อยากได้ไว้เองเลยนะเนี่ย
เที่ยวสนุก อิ่มกาย อิ่มใจกันไป
ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา
จากวันแรกที่ไม่รู้จักกันเลย จนวันสุดท้ายที่ต้องแยกจาก มันก็ทำให้เราใจหายได้เหมือนกันนะ
จากที่ไม่รู้จะคุยอะไรกัน แต่พอขี่รถด้วยกันหลายๆวันเข้า ถอดหมวกมาปุ๊บ เพื่อนใหม่ของเราตะโกน Awesome Nice ไม่หยุดเลย แล้วบทสนทนาอื่นๆก็พรั่งพรูตามกันมาอีกมาก
เราที่เป็นเจ้าบ้านก็ปลื้มนะ สวยใช่มั้ยล่ะ ถนนประเทศไอ ดีใช่ม๊าาาา
หวังว่าปีต่อๆไป พวกคุณจะกลับมาเยือนอีกนะ
หมับเข้าให้
ระยะทางที่สะสมเพิ่มจากทริปนี้ (ออกรถจาก RE ทองหล่อ ที่ 9 กิโลเมตร)
และข่าวดีจากทริปนี้ นั่นก็คือออออ
เดือนกุมภาพันธ์นี้ จะมีทริปทดสอบ Himalayan กันแล้วจ้าาาา
ถ้าหาก Just Ride it ได้รับเกียรติให้ไปร่วมทดสอบละก็ ไม่พลาดที่จะเอามาเล่าให้ฟังแน่นอนจ้าาา
ขอขอบคุณ
Royal Enfield Thailand
และผู้อ่านทุกท่านเลยจ้า
บทความโดย TopsaVage
Linkต้นฉบับ https://pantip.com/topic/37268836