Royal Enfield Himalayan ลุยเขาไผ่ รำพึงในใจว่า บังจ๋า!!!

รอยัล เอนฟิลด์ ประเทศไทย จัดทริปเชิญสื่อมวลชนร่วมทดสอบสมรรถนะ Royal Enfield Himalayan
คลาสสิค แอดเวนเจอร์มาดหล่อ เส้นทาง กรุงเทมหานคร-เขาไผ่ จังหวัดชลบุรี 

เริ่มมันส์กันตั้งแต่ในเมือง เราออกเดินทางจากศูนย์ รอยัล เอนฟิลด์ ทองหล่อ ผ่านการจราจรที่คล้ายการจราจลเข้าไปทุกที ผ่านเส้นทาง สุขุมวิท แล้วชิดซ้ายเข้าสู่ บางนา ตราด อันคับคั่งไปด้วยรถหลากไซส์ หลายชนิด แถมด้วย คอสะพาน และพื้นผิวถนนที่ใครคนนึงเคลมว่า ดีกว่าอีกสิบกว่าประเทศเชียวนะ!!!

ถนนจะดีร้ายยังไงก็ช่างมัน เอาเป็นว่า Royal Enfield Himalayan บ่ยั่น หรรษาไปได้ตลอดทางละกัน

ก่อนจะพาเข้าไปลุยดง ชมทุ่ง เรามาดูข้อมูลตัวรถกันนิดนึงเนาะ

เครื่องยนต์ สูบเดียว 4 จังหวะ SOHC ระบายความร้อนด้วยอากาศ 411 ซีซี
24.5 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที
แรงบิด 32 นิวตันเมตรที่ 4,250 รอบต่อนาที ผ่านมาตราฐานไอเสียยูโร 4
(แอบกระซิบแฟนคลับเบาๆนะว่า ถ้าแกล้งเปลี่ยนรายละเอียดในท่อไอเสีย ให้ไม่ผ่านค่า ยูโร4 จะได้แรงม้าอินเดียฟิตๆกลับมาด้วยละ อย่าไปบอกใครนะ)

โครงสร้างตัวถัง Half Duplex Split Cradle Frame ออกแบบและพัฒนาโดย Harris Performance

ระบบกันสะเทือนหน้า เทเลสโกปิก (Telescopic) ขนาดตะเกียบหน้า 41 มม.  ระยะยุบตัว 200 มม.

ระบบกันสะเทือนหลัง โมโนช็อคแบบมีแขน (Monoshock with Linkage) ระยะยุบตัว 180 มม. 

ยางหน้า: 90/90-21

ยางหลัง: 120/90-17

เบรกหน้า: ดิสก์เบรก 300 มม. คาลิปเปอร์เบรก 2 สูบ (Floating Caliper)

เบรกหลัง: ดิสก์เบรก 240 มม. คาลิปแปอร์เบรก 1 สูบ (Floating Caliper)

ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (Anti-lock Braking System หรือ ABS) แบบ Dual Channel

มิติตัวถัง

2190 มม. x 840 มม. x 1360 มม.

ความจุถังน้ำมัน: 15 ลิตร +/- 0.5 ลิตร

น้ำหนักตัวถัง: 191 มม.

ระยะห่างจากพื้น: 220 มม.

มีระบบไฟส่องสว่างอัตโนมัติ (Automatic Headlamp On หรือ AHO) ไฟหน้าจะเปิดโดยอัตโนมัติเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยของผู้ขับขี่

จากตัวเมืองพัทยา กินข้าวอิ่มหนำ ก็ลัดเลาะมุ่งหน้าจุดหมาย เขาไผ่ ขุนให้อ้วน แล้วเอามาเชือดเป็นยังไง เตรียมรับชมเลยจ้า

สภาพเส้นทางคร่าวๆของเขาไผ่ จะเป็นเส้นทางลัดเลาะขึ้นภูเขา ผ่านสวนสับปะรดบ้าง สวนยางบ้าง ไร่มันสำปะหลังบ้าง คละกันไป พื้นผิวทางก็ผสมกันระหว่าง ทรายร่วนๆ กับ ทางลูกรัง มีหินปนๆอยู่บ้าง พร้อมเนินขาขึ้น ขาลง ไว้รับแขก บวกร่องน้ำโหดๆ เรียกว่าครบรส ที่จะได้ทดสอบสมรรถนะของ Royal Enfield Himalayan

ทิ่มเข้าทางลุยมาได้ไม่เกินชั่วเวลาช้างกระดิกหู งูแลบลิ้น เราก็เจออุปสรรครับแขกอันแรก ร่องน้ำแห้ง ความสูงไม่มาก แค่รถหายลงไปทั้งคันเท่านั้นเอง ดีที่ทีมงานมีพลั่วเล็กๆติดเข้ามาด้วย ขุดบากทางกันพอให้เหงื่อตก

ก้มหน้าก้มตาขุดไปนังทาส

ขุดเสร็จก็ลองเทสหน่อยซิ

ลึกแค่ไหน โปรดพิจารณาจากภาพนะขอรับบบ

หลุดจากร่องน้ำรับแขกมาแล้ว ก็จะเป็นทางเรียบๆ (หรอออออออ) มุ่งขึ้นจุดชมวิวของเขาไผ่กันต่อไป

ช่วงนี้ก็ทำความเร็วได้บ้างตามประสา เกียร์สอง เกียร์สาม ซึ่งเกียร์ของ Himalayan ทดช่วงเกียร์ สองและสาม มาได้กว้างขวางงงงงงมากกกกก ไม่ต้องเตะเกียร์บ่อยๆ ขี่เพลินๆ ดันเนินชิลๆ ด้วยกำลังที่ออกมาตั้งแต่รอบต่ำ ตามสไตล์สูบเดี่ยวลูกโต

ดันเนินเพลิดเพลิน ลืมเวลา เข้าป่าแบบนี้ ความร้อนชื้นแบบป่าบ้านเรา สิ่งที่จะสายลุยไม่ควรขาดเลย นอกจากเครื่องแต่งกายป้องกันจัดเต็มหัวจรดเท้าแล้ว ก็มีอีกอย่างที่ TopsaVage อยากให้พกติดตัวกันไว้ “เป้น้ำ” นั่นเอง จอดแวะ หรือมีโอกาสเมื่อไหร่ ให้รีบเติมน้ำเข้าร่างกายทันที อย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำกันนะ



จุดชมวิวเขาไผ่ ใครอยากลอง มาลองได้ อ้อออ สิ่งสำคัญอีกอย่างของการเดินทางเข้าป่าเข้าดงแบบนี้ นอกจากรถลุย คู่ใจสักคันแล้ว สิ่งที่ไม่ควรขาดไปอีกอย่างนึงก็คือ “บัดดี้” ชวนเพื่อนสักคนหรือหลายคนเข้ามาด้วย เกิดอะไรขึ้น จะได้มีคนช่วยแก้ไข รถล้มไป จะได้มีคนช่วยยก ช่วยถ่ายรูปเราเอาไปประจานได้ 5555+

ทริปนี้ก็เป็นอีกทริปที่พิสูจน์ความลุยของเจ้า Himalayan ได้อย่างดีว่า พี่ไปด้ายยยย

ความเร็วเดินทางระดับ 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังสบาย แถมยังเหลือในมือให้เร่งแซงได้อีก

อัตราสิ้นเปลืองก็สบายกระเป๋า กรุงเทพ-พัทยา-เขาไผ่-พัทยา หมดน้ำมันไปแค่ครึ่งถัง (ประมาณ 7ลิตร)

ขอขอบคุณ

Royal Enfield Thailand สำหรับทริปสนุก และอบอุ่น เสมอ

พี่ๆสื่อที่ร่วมทดสอบ และช่วยเหลือกันตลอดทาง

เครื่องแต่งกายทั้งหมวกกันน็อค Bellpowersportthailand ถุงมือจาก Leatt เสื้อผ้ารองเท้าจาก ThorMXThailand จากร้าน DirtshopThailand

รวมถึงท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน

ขับขี่ทดสอบ เขียนบทความโดย : TopsaVage

ภาพประกอบบทความจาก : พี่โจ Nikkasit Motographer https://www.facebook.com/nikkasit

#RoyalEnfield #Himalayan

#DirtshopThailand #Bellpowersportthailand #Leatt #ThorMXThailand

#JustRideit