หนีร้อนไปนอนช่องเย็น By GPX LEGEND GENTLEMAN RACER200

สวัสดีจ้า พ่อแม่พี่น้อง

ร้อนนนนนนนนนนนนนน (อยากจะพิมพ์ น หนู ให้หมดโควต้า) ในวันที่หันไปทางไหนก็มีแต่คนบ่นร้อน 

แล้วเราจะทนนอนร้อนอยู่ในเมืองกรุงทำไม เรามาพากัน หนีร้อนไปนอนช่องเย็น กันดีกว่าครับ ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน 

ช่องเย็นอยู่ไหน มันเย็นจริงมั้ย ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง มาครับ ตามมาดูกัน



เส้นทางคร่าวๆ ของการเดินทางทริปนี้ ผมกับ น้าหว่อง พรสิบประการ ตกลงกันว่า ชิลๆ นะจ๊ะ ใครใคร่รีบ ก็รีบ ใครใคร่ชิล ก็ชิล หลังจากแบ่งกันแพคของขึ้นรถ ซึ่งก็ต้องเอาไปขึ้นรถน้าหว่องซะเป็นส่วนมาก ก็ตั้งจุดนัดเจอตามปั๊มก็แล้วกัน

อ่ะจัดไป จัดให้ จัดได้ TopsaVage จึงขอชิลผ่านถนนเส้น บางบัวทอง สุพรรณ ชัยนาท พยุหคีรี สายเอเชีย กำแพงเพชร แล้วเลี้ยวฉับเข้าอำเภอ บ้านลาด ไปป๊ะกันที่ปั๊มใหญ่ แถวนั้นละกัน 

จนมาขึ้นถนน 1117 ตามป้าย ช่องเย็นไปเรื่อยๆ จะเจอ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ 
จุดนี้จะเป็นจุดสุดท้ายที่ยังพอเหลือคลื่นสัญญาณโทรศัพท์ จงรายงานตัวกับคนทางบ้านเสียให้เรียบร้อย ว่านับอีกกี่ชั่วโมงจากนี้ ฉันจะตัดขาดการสื่อสารจากโลกภายนอกแล้วนะ แต่เธอไม่ต้องเป็นห่วง 

และจุดนี้เช่นกัน ที่จะมีร้านค้าขายของจุกจิก เช่นมาม่า ปลากระป๋อง น้ำแข็ง น้ำดื่ม ค่อนข้างครบครัน จงจัดการเรื่องเสบียงให้เรียบร้อย

ระยะทางจาก หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแม่วงก์  โอ้ยยย 36 กิโลเมตร จิ้บๆน่าาาา 

พอได้ลองขี่เข้าไปจริงๆ ด้วยผิวถนนที่หลายจุดไม่ได้เรียบนัก แถมโค้งก็เอาเรื่องอยู่ หมดไปราวๆชั่วโมงนึงได้

จากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ขับเข้าไป 9 กิโลเมตร จะพบกับ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ 

ที่นี่ ท่านต้องแวะเพื่อลงทะเบียนขอเข้าพัก แจ้งจุดที่จะพัก แจกแจงรายละเอียดว่ามากี่คน เดินทางด้วยรถอะไรกี่คัน 

และท่านสามารถเช่าเครื่องนอน เช่นเต๊นท์ แผ่นรองนอน รวมทั้งสามารถมาฝากท้องมื้อกลางวันได้ด้วย

ปุเลงๆ ขึ้นเขา ชมนก ชมไม้ ขึ้นไปเรื่อยๆ TopsaVage กับ พรสิบประการ เลือกเดินทางกันช่วงวันธรรมดา เส้นทางตั้งแต่ผ่าน ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ค่อนข้างเงียบเหงา แต่ก็รับรู้ได้ผ่านผิวกาย ว่าสายลมเย็นๆ ที่พัดผ่านไป เริ่มเย็นลงเรื่อยๆ

สรุปการเดินทางวันแรก ออกจากกรุงเทพฯราว 8 โมง กว่าจะต่อนย๊ะต่อนยอน แวะกินน้ำ แวะจิบกาแฟ แวะซื้อของ 

จนมาถึงจุดกางเต๊นท์ช่องเย็นนี่ก็ราวๆ สี่โมงเย็นได้ และด้วยอากาศตลอดทางที่ผ่านมา ร้อนระอุ สมกับเป็นหน้าร้อนอย่างแท้จริง ก็เล่นเราสองคนซะน่วม 

กางเต๊นท์เสร็จ ก็ควักเอาเตาแก๊สสนามเล็กๆ ชงมาม่าคัพใส่ไข่ ชนคัพซดกันคนละถ้วยก็ขอพักร่างก่อนละจ้าาา

วิวยามเย็น อากาศช่วงเย็น ที่ ช่องเย็น ราวๆ 25 องศา กำลังสบาย วันธรรมดา ไม่ค่อยมีใครขึ้นมากางเต๊นท์นอนกันมากนัก 

คืนนี้มีเพียง TopsaVage กับ พรสิบประการ แล้วก็มีเพื่อนแก้เหงา อีกกลุ่มเดียว ใกล้ๆเท่านั้น 

อ้อ มีเจ้าหน้าที่อุทยาน นอนเฝ้าจุดนี้อีกหนึ่งท่านด้วย นับได้ว่าบนช่องเย็นคืนนี้ มีคนอยู่ไม่ถึงสิบชีวิต

เมื่อราตรีกาลมาเยือน มองนาฬิกาชี้เวลา 5 ทุ่ม แต่โอ้วว คุณพระ อุณภูมิ 15 องศา ตอนเดือนเมษานี่มันช่างแจ่มแท้ๆ 

ดีที่เราไหวตัวทัน อาบน้ำเสียตั้งแต่ก่อนจะมืด แล้วน้ำที่ช่องเย็น นี่ก็สมชื่อ เย็นเจี๊ยบ โดนเข้าไปจ๋อมแรกก็ร้องจ๊ากได้ 

ไอ้จะมานอนมุดเต๊นท์อย่างเดียวก็ใช่ที่ ฟ้าโปร่งไร้เมฆก็ต้องงัดกล้องออกมานั่งตากลมหนาว เอาภาพมาฝากซะหน่อย

ตลอดคืนก็หาได้มืดมิดกริบๆไม่ ยังมีแสงไฟจากห้องน้ำ เปิดไว้ให้หนึ่งดวงทั้งคืน

ตอนแพคของก็ไม่ได้นึกหรอกว่าไอ้ถุงนอนที่เตรียมมาจะได้เอาไว้มุดแบบเต็มที่ขนาดนี้ 

แค่กะว่าเอามากอดๆแทนหมอนข้างเท่านั้นเอง ที่ไหนได้ เล่นเอาฉ่ำใจ หายร้อนเลยแหละ

เมื่อยามเช้ามาเยือน ยังไม่ทันตื่นดี แต่เห็นวิวฟ้ายามเช้าแบบนี้ก็ขอคว้ากล้องออกไปหาอะไรส่องสักหน่อย

น่าเสียดายเล็กน้อยที่ท้องฟ้าของทั้งภูมิภาคนี้ ในยามนี้จะถูกปกคลุมด้วยหมอกจากควันไฟไปเสียมาก ไม่อย่างนั้น วิวที่จะได้เห็น คงสวยกว่านี้มากนัก

เอาหน่ะ ไม่เป็นไร ดีกว่านอนตากลมร้อนอยู่กรุงเทพ 

ใกล้จุดกางเต๊นท์ช่องเย็น ก็จะมีจุดชมวิวที่ต้องเดินขึ้นไปนิดหน่อย นั่นคือ จุดชมวิว ภูสวรรค์ 

หันไปถาม พรสิบประการว่า จะขึ้นไปมั้ย ก็ได้คำตอบกลับมาว่า “เคยขึ้นแล้ว ครั้งนี้ไม่ค่อยคึก ขึ้นไปยล คนเดียวละกันนะ”

เอ้ะ แค่ 300 เมตร ทำไมไม่ยอมไปหว่า มันชักยังไงๆ  ไหนTopsaVage ขอลองหน่อยซิ

ก่อนจะขึ้นไปก็เตรียมกล้อง พร้อมเสื้อการ์ดคู่ใจ ใส่ไปแก้หนาวอีกตัว 

เนี่ย 300 เมตรเอง ชิลๆน่าาา

ทางเดินขั้นบันไดอย่างดี แต่ก็ต้องระวังหน่อย ขั้นบันได ชันเอาเรื่อง บางขั้นก็มีฝุ่นทรายลื่นๆอยู่ด้วย ควรใส่รองเท้าที่รัดกุม 
ส่วนอิ TopsaVage ลากแตะคีบมา หึหึ เกร็งจนตะคริวจะจับให้ได้ 

ผ่านไปสัก 100 เมตรเห็นจะได้ ที่แวะถ่ายรูปนี้มา ไม่ใช่อะไรหรอก แวะหอบ แฮ่กๆ โฮ่กๆ ตรูรู้และ ทำไมพรสิบประการไม่ยอมขึ้นมาด้วย 555+

ทางช่วง ร้อยเมตรสุดท้าย จะมีช่วงที่ไม่เรียบนักแบบนี้ เพิ่มความระมัดระวังให้ดีด้วย เพราะถ้าพลาด ทั้งซ้าย ทั้งขวา หากกลิ้งลงไป คงหยุดยาก 

หึหึ ระยะทาง 300 เมตร กับความชันที่สูงยกระดับขึ้นมาจากจุดกางเต๊นท์ 100 เมตร เอาเรื่องเหมือนกัน แฮ่กกกๆๆ โฮ่กกๆๆๆๆ ยืนหอบเป็นหมาบ้าแดดอยู่คนเดียว 5555+ บนนี้วิวสวย และลมพัดแรงเอาเรื่อง ดีที่ใส่เสื้อการ์ดขึ้นมา 

กลับลงมาจากจุดชมวิวภูสวรรค์ก็ยังฟิตอยู่ ไปเดินถ่ายรูปเล่นรอบๆที่กางเต๊นท์ดูว่ามีอะไรเป็นอย่างไรบ้าง

จุดสิ้นสุดของถนนสาย 1117 ระยะทาง 93 กิโลเมตร ตรงนี้เป็นรอยต่อของจังหวัดกำแพงเพชร กับจังหวัดตาก 

ความเป็นมาของเส้นทางสาย คลองลาน-อุ้มผาง 
ก่อสร้างเมื่อปี 2518 เป็นเส้นทางเพื่อความมั่นคง ก่อสร้างเพื่อใช้ขนย้าย และส่งกำลังบำรุง ทหาร ตำรวจ ที่ปฏิบัติภารกิจต่อสู้กับกลุ่มคอมมิวนิสต์
เมื่อเหตุการณ์ความไม่สงบจบลง กองทัพภาคที่ 3 กรมป่าไม้ และจังหวัดกำแพงเพชร ได้ร่วมกันพิจารณาและลงความเห็นว่า
พื้นที่ป่าบริเวณนี้เป็นแหล่งต้นน้ำของลุ่มน้ำปิงตอนล่างและลุ่มน้ำสะแกกรัง แต่ได้พบหลักฐานว่ามีการบุกรุกทำลายป่าไม้สองข้างทางโดยตลอด
ปี 2529 จึงได้อพยพชาวไทยภูเขา และชาวไทยพื้นราบ ราว 5 พันคน ออกจากพื้นที่ป่าต้นน้ำ

และเมื่อราวปี 2530 ได้มีมติเห็นชอบว่าให้ระงับการก่อสร้างเส้นทางช่วงสุดท้ายราว 28 กิโลเมตร เนื่องจากถนนจะตัดผ่านพื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์ และไม่มีประโยชน์ในด้านความมั่นคง 

และได้มีพระราชกฤษฏีกา ประกาศให้พื้นที่บริเวณนี้เป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2530 
ใช้ชื่อเรียกว่า “อุทยานแห่งชาติแม่วงก์” 

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ 11 เมษายน 2562 เวลา 08.22 น. อุณภูมิตรงจุดวัดข้างป้ายช่องเย็น จะเป็นแบบนี้ 
ตอนเที่ยงแดดเปรี้ยงๆ ยังวัดได้เพียง 25-27 องศาเท่านั้น

ส่วนช่วงกลางดึก ลดลงเหลือเพียง 15องศาเท่านั้น!!! 
ใครที่จะขึ้นมากางเต๊นท์นอนบนช่องเย็นอย่าได้ดูเบาเรื่องเครื่องกันหนาวนะจ๊ะ จัดเตรียมมาเผื่อไว้ก่อน 
มีแล้วไม่ได้ใช้ ดีกว่าหนาวอิ๊บอ๋ายแล้วไม่มีผ้าห่มเน้ออ

สิ่งอำนวยความสะดวก ในป่าลึกไร้สัญญาณมือถือขนาดนี้ เริ่มกันที่ห้องน้ำ 
สะอาดเรียบร้อยดี มีทั้งโถแบบสุขภัณฑ์หรือชอบคลาสสิคจะนั่งยอง ก็มีให้บริการ 
ในด้านการอาบน้ำ จะถนัดแบบฝักบัวก็มีให้ หรือ อยากใช้ขันตักอาบก็มีให้เลือกเช่นกัน 
(ขอบอกว่า ฝักบัว จะไม่เย็นเท่าตักอาบนะ TopsaVage ลองเทสมาทั้งสองแบบแล้ว)

จุดนี้ไว้ล้างจานชามต่างๆ แยกกันชัดเจน ไม่ต้องไปปะปนกับอ่างล้างมือ ล้างหน้า

สำหรับทำเลที่ TopsaVage กับ พรสิบประการ เลือกเป็นชัยภูมิกางเต๊นท์ในครั้งนี้ ก็นี่เลย ศาลาสุขใจ ไม่โดนลมอัดตอนดึกๆ ไม่ต้องเปื้อนดิน 
อยู่ไม่ไกลจากห้องน้ำ สบาย สไตล์ ชายขี้เกียจ 5555

หรือหากมากันเป็นหมู่คณะ มีเด็ก หรือ ผู้สูงอายุมาด้วย ก็ติดต่อขอเข้าพักแบบนี้เพื่อความสะดวกสบายไปอีกระดับ 
ติดต่อสอบถามได้ที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ เบอร์โทรศัพท์ 090 457 9291 (เบอร์โทรศัพท์อาจมีการเปลี่ยนแปลง) 

วันนี้แผนการความชิลก็ยังเน้นความสบายเหมือนเดิม เริ่มจากอาบน้ำ แต่งองค์ เตรียมกล้อง เช็ครถอีกครั้ง 
เราจะขี่รถลงไปกินข้าวที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ แล้วก็แวะถ่ายรูปบรรยากาศเส้นทาง 1117 กัน

เส้นทางยังมีความร่มจากแมกไม้ แต่ที่เหลืองๆ แห้งๆ ก็มีมากเช่นกัน 
สภาพถนน ทางค่อนข้างแคบ ส่วนมากเป็นโค้งลับตา ความชันไม่หนักหนามาก ผิวถนนบางช่วงแตกเป็นหลุมเล็กๆเยอะเอาเรื่อง 
และที่สำคัญโปรดระมัดระวัง และใช้ความเร็วไม่เกิน 50 กิโลเมตร เพราะตลอดทางจะมีนก และสัตว์เล็กเช่น แย้ ข้ามถนนได้ตลอดเวลา

ไฟป่า มีให้เห็นเป็นช่วงๆ เห็นแล้วก็น่ากลัวนะ ไฟไหม้ภูเขาเป็นลูกๆแบบนี้เลย ทำเอาฟ้าครึ้ม ไปทั่วทั้งป่าเลย

ค่อยๆขี่ลงมาจนถึง ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ พุงก็ลั่นพอดี จัดไปสิจ๊ะ 
เมนูสิ้นคิดทั้งคู่ 5555+

กินเสร็จก็นั่งเม้าท์มอย ดูแย้วิ่งไล่กินแมลงกันสักพัก ก็ชวนกันขี่กลับขึ้นข้างบนกัน
ขากลับขึ้นนี้ เราจะแวะดูบางจุดที่หมายตาไว้เมื่อวานว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง

จุดแรกที่ใกล้กับ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ก็นี่เลย 
มีสิ่งอำนวยความสะดวกเช่น ห้องน้ำ ครบครันเช่นกัน และจุดนี้ห่างจากศูนย์บริการฯนิดเดียวเท่านั้น 
ถ้าเป็นฤดูอื่น ก็น่าจะแจ่มเหมือนกันนะเนี่ย นอนฟังเสียงน้ำไหล คงจะฟินไม่น้อย

จุดชมวิวกิ่งกระทิง ตรงนี้ถ้าไม่มีควันไฟปกคลุมก็น่าจะสวยแจ่มแน่นอน เสียดายจัง

ระหว่างทาง เจอตรงไหนสวย ก็แวะถ่ายภาพ วันธรรมดาแทบไม่มีรถสัญจรผ่านทางเลย ถนนนี้หัวใจข้าฯจอง
การเกาะโค้งของช่วงล่างเจ้า GPX LEGEND GENTLEMAN RACER200 ทำได้ดี 
ช็อคอัพหน้า up side down และ ช็อคอัพหลังเดี่ยว จาก YSS เจอหลายๆช่วงที่ผิวถนนแตกเป็นหลุมเล็กๆ ลองรูดใส่ดู ก็ยังเก็บอาการได้ดี
หรือเจอโค้งบนผิวถนนเรียบ ก็ยังแจ่ม 

เครื่องยนต์ 200cc. เมื่อยามเจอเนินชันก็ยังสบาย ระยะทดเกียร์กว้างๆ ย่านกำลังช่วงกลางกำลังดี ใส่เกียร์ 3 ขึ้นเนินแบบพริ้วๆ

ยังคงมีความชิลอย่างต่อเนื่อง 

วิวข้างทางก็แจ่ม ของัดโกโปรขึ้นมาแชะหน่อย

จุดชมวิวอีกจุดที่ทำเราเหวอไปเลย ตอนขาลงไปไฟยังไม่หนักขนาดนี้ ขากลับขึ้นมารอบนี้ ไฟลามรุนแรงมากขึ้น
เจ้าหน้าที่อุทยาน เตรียมรับมือไฟป่า
จากที่ตอนเด็กๆ ในหนังสือเรียนบอกว่า ไฟป่าบางครั้งก็เกิดจากที่ต้นไม้เสียดสีกันจนเกิดไฟไหม้ 
แต่ในปัจจุบัน เราก็ได้รับรู้มาบ้างว่า ไฟป่าในหลายๆพื้นที่ เกิดขึ้นจากมีคนไปจุดไฟ 
ควันที่ลอยปกคลุมฟ้ากินพื้นที่วงกว้างมาก กว่าจะกลับมาสดใสได้ดังเดิม ต้องรอฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลง 
สุขภาพของคนในพื้นที่ ที่สูดอากาศรับเอาฝุ่น ควันเหล่านั้นเข้าไป 

ได้โปรดหยุดเถิด คิดก่อนจะจุดไฟเผาสิ่งใด หยุดคิดสักนิดเถิด

โอ้เจ้านกน้อยเอย แล้วเจ้าจะไปอยู่ที่ใด ในเมื่อบ้านเจ้าอยู่ในกองเพลิงนั้นเสียแล้ว

สุดท้ายโลกเราก็ต้องหมุนไป หลายสิ่งเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ต้องดับไป เช่นเดียวกับไฟที่เผาผลาญป่าอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ก็ต้องดับลง
ดั่งดวงตะวัน เช้าก็ขึ้น เที่ยงก็แรง เย็นก็ลาลับ 
ดั่งฤดูกาล ตอนนี้ร้อน อีกไม่กี่เดือนก็ฝน แล้วก็หนาว

สิ่งสำคัญที่ควรจะเตรียมพร้อมก่อนขึ้นจุดกางเต๊นท์ช่องเย็น
1. อาหารการกิน น้ำดื่ม น้ำแข็ง ช่วงมื้อค่ำ และมื้อเช้า จัดเตรียมมาให้พอ เพราะบนนี้ไม่มีอะไรขาย นอกจากไปมุดเต๊นท์ชาวบ้าน ซึ่งบางทีก็ไม่แน่ว่าจะมี 

2. น้ำมันหอมระเหย ไล่ยุง และแมลง บอกเลยว่า คุ่นช่วงกลางวันที่นี่ โหดมาก กลับจากช่องเย็นมาเป็นสัปดาห์แล้วทั้ง TopsaVage และ พรสิบประการ ยังคัน ยังเกาแกรกๆกันอยู่เลย วิธีป้องกันตัวอีกวิธีที่ดีก็ ใส่เสื้อผ้ามิดชิด แขนยาว ขายาว เอาอยู่เหมือนกัน พวกนี้ไม่กัดทะลุเสื้อผ้าเลย

3. เครื่องนอน ผ้าห่ม อุปกรณ์ปกป้องคุณจากความหนาว อย่าได้ดูเบาว่า เห้ยยย เมษายังงี้ ช่องเย็นจะหนาวเร้อออ  
อย่างที่ตั้งชื่ออ่ะจ้ะ “หนีร้อนไปนอนช่องเย็น” มันเย็นจริงๆนะ

4. หนังสืออ่านเล่น เพื่อนนั่งคุย หรือกิจกรรมอะไรก็ตามแต่ ที่ไม่ต้องง้อสัญญาณไร้สายของโลกปัจจุบัน

5. ไฟฉาย อันนี้สายแค้มป์น่าจะรู้ดี คงไม่พลาด แต่เตือนไว้เป็นเช็คลิสให้มือใหม่ละกัน

คร่าวๆก็ประมาณนี้สำหรับการเตรียมตัวไปนอนเล่นกางเต๊นท์หนีความร้อน

ขอขอบคุณ
GPX เอื้อเฟื้อรถทดสอบ และสนับสนุนการเดินทาง

และขอบคุณท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน ขอบคุณครับ

Topsavage ถ่ายภาพนิ่ง เขียนบทความ เอาตัวไปเป็นอาหารคุ่นตัวเมีย (ตัวผู้จะกินเกสรจากดอกไม้เท่านั้น)
พรสิบประการ ถ่ายภาพนิ่ง และช่วยแบ่งเบาภาระเจ้าคุ่นไปครึ่งนึง 5555+

บทความต้นฉบับ https://pantip.com/topic/38794430