เมื่อข้าพเจ้าตกหลุมรักสาว 3 ตา แห่งอิตาลี Aprilia RSV4 RF/RR & TUONO

หากเอ่ยถึงค่ายมอเตอร์ไซค์ในบ้านเราแล้วนอกจากรถทางฝั่งญี่ปุ่นแล้ว ก็จะมีมาจากทางยุโรปมาหลายค่าย
1 ในรถ 2 จังหวะ ที่ขาออโต้ลูปในไทยจะอดนึกถึงไม่ได้นั่นก็คือ Aprilia นั่นเอง
ในไทยจะมีชื่อเล่นเรียกรถค่ายนี้ว่า 3 ตา เนื่องมาจากหากเป็นรถที่มีแฟริ่ง ส่วนใหญ่จะมีไฟหน้า 3 ดวง เลยเป็นที่มาของชื่อนี้
โดย Aprilia นั่นเป็นรถที่มือชื่อเสียงในสนามแข่งระดับโลกมานาน แต่ทีผ่านมาในไทยยังเคยมีศูนย์จำหน่ายอย่างเป็นทางการสักที จนกระทั่งที่ผ่านมา VESPIARIO (Thailand) Co., Ltd. ได้เปิดศูนย์อย่างเป็นทางการขึ้นมา
โดยมีชื่อว่า MOTOPLEX BANGKOK มีฐานที่ตั้งอยู่บริเวณ A square สุขุมวิท

ทาง Aprilia ได้จัดงานทดสอบขี่รถขึ้นมาโดยมีการเชิญสื่อมวลชนกับลูกค้า เข้ามาร่วมทดลองด้วย
โดยการขี่ทดลองในครั้งนี้จัดที่สนามพีระ (พัทยา)

โดยมีรุ่นสอบ 3 รุ่นดังนี้

-APRILIA RSV4 RF
-APRILIA RSV4 RR
-APRILIA TUONO V4

โดย RF กับ RR จะมีพื้นฐานเหมือนกัน แต่สิ่งที่ต่างกันคือลายกับสีรถ และ RF จะให้โช๊คหน้าหลังมาเป็น โอลิง
เครื่องยนต์ขนาด 1000 CC (จริงๆ 999.6 CC) แบบ 4 สูบ V รถทรงสายหมอบ
ส่วน TUONO หากออกเสียงสำเนียง อิตาลี ว่า ตูโอโน แต่เนื่องด้วยหน้าตาผู้ขี่ไม่ได้ออกทางยุโรปเลยจึงขอเรียกสั้นๆว่า โตโน่ (จริงๆขี้เกียจพิมพ์ยาว) รูปร่างหน้าตาจะคล้ายๆ RF/RR แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือ เครื่องยนต์เป็นแบบสูบ V ขนาด 1100 CC (จริงๆ 1077 CC) เป็นแฮนด์บาร์ แต่ก็ท่าหมอบนิดๆ โช๊คหน้าหลังเป็นโอลิงเช่นเดียวกับ RSV4 RF

ก่อนจะได้ลองขี่ 1 ในผู้บริหารของ VESPIARIO (Thailand) Co., Ltd. ก็ได้มีการแนะนำลายละเอียดต่างๆของรถ
ว่าเป็นอย่างไรมีระบบอะไรบ้าง

ในวันนี้ก็มีเด็กน้อยตามผู้ปกครองมาร่วมงานนี้ด้วย แต่ขี่ไม่ได้นะ ถ่ายรูปแทนล่ะกัน

สื่อมวลชนและลูกค้าที่เข้าทดลองขี่ครั้งนี้ต้องใส่ชุดหนังแบบแข่งเพื่อความปลอดภัย

ทาง Aprilia ก็ดูแลลูกค้าและสื่อมลชนเป็นอย่างดี มีการเตรียม อาหาร เครื่องดื่ม และขนมไว้ให้ด้วย

และแล้วก็มาถึงการทดลองขี่ ก็ขอบอกก่อนเลยว่า เป็นติ่งเครื่องแบบ 4 สูบเรียง รถที่มีที่ใช้ของตัวเองก็มีแต่4 สูบ
เครื่องสูบ V แบบ 4 สูบ ก็เคยลองของขี่มานานมากตั้งแต่สมัยขี่ใหม่ๆแค่ครั้งเดียว VFR 400 NC 30 จำความรู้สึกไม่ได้แล้ว ก็อดคิดไม่ได้ตอนลองขี่นี่ เครื่องมันจะสั่นสะท้านแบบ 2 สูบ V 1000 CC  ที่เคยลองขี่ไหมนะ
รถที่เลือกขี่คันแรกก็เลือกเอาสายหมอบ RSV4  RF แบบใส่ท่อแต่ง
โดยนิสัยส่วนตัวแล้ว ไม่ใช่คนที่หลงรักอะไรจากรูปลักษณ์ภายนอก (ยกเว้นอาหมวย) ฉะนั้นจึงไม่คาดหวังอะไรอยู่แล้ว
แต่พอได้ขี่ไป 1 รอบ อดในร้องเพลงนี้ในใจไม่ได้
เธอสวยยยย ทุกนาทีที่เคยสัมผัส เผื่อใครอยากจะอิน ก็กดเข้าไปฟัง https://www.youtube.com/watch?v=ecD7rrzQWFg
ฟิลลิ่งการขี่อะไรหลายๆอย่าง เหมือนรถที่ตัวเองใช้ จึงเกิดความคุ้นเคยได้ง่าย + เทคโนโลยีใหม่ๆที่ใส่เข้ามาในรถทำให้เข้ามือง่ายมาก  จนต้องร้องเพลงในใจเลยว่า   ใช่เลยยยยยยย เพื่อความอิน https://www.youtube.com/watch?v=TFxgvRkBAGc
จากที่รถตอบสนองอะไรได้หลายๆอย่าง ความมันส์จึงบังเกิด

จากสายหมอบก็มาลองขี่เจ้าโตโน่ถึงแม้ CC จะเยอะกว่า แรงบิดจะมากกว่า RSV4 ก็ยังมิอาจทำอะไรบางอย่างได้เท่า RSV4 เพราะไม่ใช่ Sport จ๋า นั่นเอง แต่ถึงกระนั้น ก็ยังสร้างความมันส์ให้กับผู้ขี่ที่เข้าใจในรถได้เหมือนกัน
แฮนด์บาร์ก็มันส์ในการเข้าโค้งได้

สรุปจากการที่ได้ลองขี่น้อง 3 ตา ทั้ง 2 รุ่น 3 แบบ กล้าบอกได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า เผลอนอกใจ 4 สูบเรียงเฉยเลย
เกิดอาการตกหลุมรัก 4 สูบ V แบบไม่รู้ตัว ตกหลุมรักจริงๆ รักเธอจริงๆ

ถ้าเรียงลำดับรถในใจที่ลองขี่ อันดับ 1 นี่ยกให้ RSV4 RF เลย เนื่องจากคันที่ลอง เป็นรถทีมีเจ้าของ
ซึ่งเจ้าของชอบขี่สนามตัวรถจึงมีการปรับแต่งมาเพื่อการขี่สนามโดยเฉพาะ ทั้งช่วงล่าง ยาง การเกาะถนน อัตตราการเร่ง
+การเทคโลโนยีรถที่ใส่เข้ามาทำให้การขี่ในสนามนี่ถึงขั้นฟินกันเลยทีเดียว

อันดับ 2 ในใจนี่ขอยกให้ โตโน่ ทั้งๆที่ความแรงสู้ทั้ง RSV4 RF และ RR ไม่ได้ แต่ระบบโช๊คหน้าหลังให้โอลิงมา
เวลาเข้าโค้งหนักๆก็ยังนิ่งไม่ส่าย ทำให้สนุกกับการเล่นโค้งในสนามมากกว่า RR
อันดับ 3 ได้แก่ RSV4 RR หากเทียบอัตราการเร่ง จะสู้ RF ไม่ได้ เพราะเป็นท่อเดิม แต่ดีกว่าโตโน่
แต่เรื่องช่วงล่างนี้ สู้ทั้ง 2 ไม่ได้ เวลาเข้าโค้งแบบใช้ความเร็ว รถจะมีอาการส่ายนิดๆ ทำให้ไม่กล้าขี่เร็วแบบ RF
ตอนแรกคิดว่าเป็นที่ยาง ยางของ RR น่าจะด้อยกว่า แต่พอมาดูยางของโตโน่ อ้าวตัวเดียวกันเลยนี่หว่า
จึงสรุปได้ว่า โช๊คของ RR ไม่ซับแรงกระแทกเท่าของ RF และโตโน่
หลังขี่ 4 สูบ V นี่ถึงกับเพ้ออยากได้มาครอบครองสักคัน แต่พอรู้ราคาเท่านั้นแหละ
กลับมาสู่โลกแห่งความจริง ขี่ 4 สูบเรียงเหมือนเดิม

แต่นี่คือการขี่ในสนาม ซึ่งมีเวลาจำกัดรถสามารถปรับแต่งตั้งค่าระบบอะไรต่างๆได้มากมาย
แต่ไม่ได้ลองอะไรสักอย่าง เค้าปรับมาอย่างไรก็ขี่อย่างนั้นเลย หากมีโอกาสได้ลองขี่บนถนน
อาจจะเห็นความต่างกันก็ได้ หากมีผู้ใหญ่ใจดีให้โอกาสตรงนี้คงจะดีไม่ใช่น้อย

ทั้งนี้ขอขอบคุณ Aprilia Thailand ที่เชิญเข้าร่วมทดลองขี่ในครั้งนี้ด้วย
หากใครอยากทราบข่าวสารในเครือของ Motoplex เชิญติดตามได้ที่
https://www.facebook.com/motoplexbangkok/

และที่ขาดไม่ได้ ขอขอบคุณผู้อ่านทุกคนที่เข้ามาอ่านจนจบ ตัวผมไม่ขออะไรมาก ขอแค่จิ้มเข้าไปเบาๆแต่ไม่ต้องนานๆแค่ขอให้เข้าไปบ่อยๆ เพื่อรับชมข่ารสารและข้อมูลต่างๆได้ที่
https://www.just-ride-it.com/ และ https://www.facebook.com/justrideitteam/notifications/
สุดท้ายนี้ขอลาไปก่อน หากมีโอกาสได้ลองขี่อะไรจะเล่าสู่กันฟังอีกนะครับ
ขอบคุณครับ