D.I.Y. ทำบังลมอนาถา กับชายชราชื่อน้าหยอย
ซัวสะได ไอเลิฟยูครับ เพื่อนพ้องน้องหลานที่คิดถึงของครูน้าหยอย……..
ผมหายไปจากห้องรัชดาแห่งนี้ได้กว่าครึ่งปีแล้วนะครับ ซึ่งหลายคนก็แสดงอาการเป็นห่วงเป็นใย ถามไถ่อาการมาทางหลังไมค์และทางเฟซบุ๊คตลอดเวลา ตอนนี้อาการป่วยของผมเริ่มฟื้นตัวขึ้นตามลำดับ…..ส่วนน้องๆหลานๆที่เพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องราวในห้องนี้อาจจะนึกไม่ออกว่าผมเป็นใครและมาจากไหน ลองย้อนอ่านเอาได้จากลิ้งค์ที่ผมเอามาแปะไว้บรรทัดข้างล่างแล้วนะครับ…..ส่วนใครที่ทราบแล้วก็เลยผ่านไปได้
https://pantip.com/topic/34939826
คราวนี้กลับมาถึงเรื่องการสร้างงานอลังการณ์ที่สุดจะมหาลำบากยิ่งกว่าสิ่งใดในสามโลกมารวมกันสักที…..เพราะเมื่อร่างกายแข็งแรงพอจะเดินได้ ผมก็เริ่มออกท่องเที่ยวไปตามประสาคนอยู่ไม่สุขเหมือนเดิม…..นั่นก็คือทำบังลมอนาถาตามประสาคนชอบเที่ยวนั่นแหละครับ…..
จากรูปหัวเรื่อง ที่ผมเอามาลงให้ดูกันนั้น เป็นเรื่องของการท่องเที่ยวต่างกรรมต่างวาระ และรถทั้ง2คันนั้นก็เป็นรถคนละรุ่น ภาพบนนั้นเป็นรถ CBR 300 ที่ผมขี่ไปเที่ยวปีใหม่ของชาวไตใหญ่ที่เมืองเปียงหลวง….เมื่อต้นปี2548 เป็นตอนที่ผมยังไม่ได้ผ่าตัดกระดูกสันหลัง…ส่วนภาพของรถคันต่อมาเป็นรูปรถ GPX 150 ที่ยอดชายนายโอมพาคนแก่ไปตลุยป่าเขาแบบอ้อมโลกเกือบ2,000 กม. (ดูดู๋มันทำกันได้ รู้ก็รู้ว่าเราอายุ70กว่าปีผ่านมาแล้วแถมผ่าตัดสันหลังมาใหม่ๆ จะนั่งจะยืนก็ร้องโอดโอยระงมไปสามบ้านแปดบ้าน…คิดแล้วสมน้ำหน้าตัวเองอยู่เหมือนกันที่ดันใจอ่อนไปกับคนมือหินตรีนโหดอย่างนายโอม…หึหึ)
อย่างที่บอกไปแหละว่า รถที่ผมขี่ไปเที่ยวเมืองเหนือทั้ง2ครั้ง เป็นรถคนละรุ่นกัน แต่สิ่งที่น่าสังเกตก็คือมันเป็นบังลมอันเดียวกัน (ไม่ว่าจะขี่รถคันไหน ผมก็จะย้ายบังลมตัวนี้ไปรับใช้ราชการอยู่ทุกครั้ง….) จนกระทั่งมีแฟนๆของคอลัมน์ Ride Now หลังไมค์มาถามผมว่าช่วยนำเอาวิธีการมาเผยแพร่หน่อยจะได้หรือไม่และอย่างไร…..จัดให้
อย่างที่บอกแหละว่า อายุผมเริ่มย่างเข้าวัยรุ่นมากว่า10ปีแล้ว…..ดังนั้นหากขี่รถประเภทแน็กเก็ตไปเที่ยว โดยไม่รู้จักคิดค้นหาอุปกรณ์ทุ่นแรงมาเสริมเติมแต่งให้กับรถคู่ขาของเราเองแล้ว อนาคตการท่องเที่ยวของครูน้าหยอยคงไม่ก้าวเดินมาจนถึงบัดนี้ได้อย่างโสภาสถาพรค่อนข้างแน่ เพราะเซียนนักเดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซค์ก็คงจะรู้แล้วว่า ตอนที่ขี่รถต้านลมหนาวนั้นมันโหดร้ายรุนแรงขนาดไหน…..นี่เป็นสาเหตุให้ผมต้องหาวิธีทำบังลมอนาถามาแนะนำกันสำหรับการเบิกโรงแนะนำตัวเองในวันนี้ และจะมีวิธีการอื่นๆในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า อันเกิดจากการใช้รถใช้ถนนติดต่อไปเรื่อยๆเหมือนเดิม
ช่วงไหนผมเบื่อนั่งเล่าเรื่องสมัยเก่าๆ ก็จะหาเรื่องขี่รถข้ามไปเที่ยวลาว….เที่ยวเขมร ย้อนรอยการเดินทางในอดีคของผมมาเล่าให้ฟังเหมือนเดิม…..ขอสัญญา
วัตถุดิบของการผลิตบังลมอนาถาของผมนั้น เน้นเรื่องการใช้งานได้จริง ทำง่ายๆ ประเภท ประโยชน์สูง ประหยัดสุดเป็นสำคัญ…อย่างบังลมชุดนี้ ผมลงทุนไปทั้งหมดประมาณ 50 บาท…..แล้วสามารถย้ายไปใช้กับรถได้เกือบทุกรุ่น(ที่เป็นรถแบบแน็กเก็ต-ไม่มีแฟริ่ง)….ดังตัวอย่างจากรูปข้างบนนั้น
ชิ้นส่วนหลักก็คือ แผ่นพลาสติกแข็ง(ผมไม่รู้ว่าเขาเรียกพลาสติคหรืออะคลีลิคยังไงนะครับ คือแยกไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร)…..มันเป็นแผ่นบังลมของรถตำรวจสายตรวจรุ่นเก่าที่ติดมากับรถคาวาซากิ GTO นั่นแหละ หวังว่ายังคงจำกันได้…..ร้านขายอะไหล่รถคงดีใจที่มีคนหลงยุคไปถามหาแผ่นบังลมของรถย้อนยุค(แต่พอคนขายเขาหันมาเห็นหน้าของน้าหยอย ก็รู้คำตอบอยู่ในทีเหมือนกัน)……เขาขายให้แผ่นละ150บาท…มันใหญ่ประมาณ1.5 ฟุตX2 ฟุต……(ผมเอามาตัดแบ่งใส่รถ ZX 150 …..ซูซูกิเรดเดอร์125……และPCX 150…และอีกชิ้นหนึ่งคือส่วนที่เหลือมาทำสำหรับใส่รถได้หลายๆรุ่น อย่างที่กำลังจะเอามาอธิบายนี่แหละ)
สรุปแล้ว บังลมของรถสายตรวจที่ผมบอกว่าซื้อมาในราคา150 บาทนั่น เอามาตัดใช้ประโยชน์ใช้งานได้ 4 คันนะครับ เฉลี่ยชิ้นละไม่ถึง50บาท…ส่วนชิ้นอนาถาที่กำลังจะแนะนำให้ทำสำรองเอาไว้นี่เสียเงินไปประมาณ50บาท แบ่งเป็นค่าเหล็กรูเส้นละ7บาท 3 อัน(เขามีขายที่ร้านอะไหล่รถมอเตอร์ไซค์ครับ บอกคนขายว่าเหล็กรู….ปกติแถวเตาปูนนี่เขาขายอันละ 5บาท แต่ครูน้าหยอยเลือกซื้ออย่างหนา เขาเลยขาย 7 บาท….
ได้เหล็กรูมาแล้วก็ตัดแบ่งเป็นเส้นละ 5 นิ้ว 2เส้น….ลองเอามาทำท่าให้เป็นตัวV……ส่วนอีกเส้นหนึ่ง ไม่ต้องตัดครับ แต่ดัดให้เป็นรูปตัวL ดูรูปเอาเน้อ
เหล็กรูที่ตัดแบ่งครึ่ง5นิ้ว2เส้นนั้น เมื่อเอามาไขว้ให้มันเป็นตัวV กายภาพของมันก็บ่งบอกให้รู้แล้วว่ามันสามารถถ่างออกให้ยึดลงไปในรูยึดแฮนด์ของรถได้ทุกรุ่น ไม่ว่ามันจะแคบหรือกว้างยังไง……..
ส่วนเหล็กเส้นที่เป็นตัวL จะถูกนำมาบรรจบกับปลายของเหล็กตัวV …….แล้วเพื่อแสดงมันสมองให้ชาวบ้านรู้ว่าเรามีกึ๋นเหมือนกัน ก็หาน็อตยาวๆมาทำแขนค้ำยันกันลมตีไม่ให้บังลมกระพือเสียหน่อย ….น็อตยาวๆอย่างนี้ผมซื้อมาจากรถซาเล้งแดงกิโลละ20บาท มันยาวประมาณ1ฟุต ใช้เกลียวเบอร์10ตรึงให้แน่น
น็อตที่ยึดในชิ้นส่วนทั้งหมดที่กล่าวนี้ เราควรตัดยางในมาเจาะรูทำเป็นแหวนนะครับ ความยืดหยุ่นของเนื้อยางจะเป็นตัวกันไม่ให้พลาสติคอนาถาแตกด้วยแรงบีบของน็อต และส่วนที่เป็นเหล็ก ก็จะเป็นเหมือนแหวนสปริง กันไม่ให้น็อตคลายได้อีกทางหนึ่ง…..ลองทำดูนะครับ ติดขัดอะไรและตรงไหนก็หลังไมค์มาถามผมได้
ยังมีอีกอย่างหนึ่งที่ครูน้าหยอยอยากเอามาฝากสำหรับคนที่ชอบขี่รถที่มีอาการพิการทางขา(อย่างผมนี่แหละ ปลายขาไม่มีแรงพอที่จะงัดเกียร์ได้….ยังไม่ทราบว่าอีกกี่ปีมันจะมีแรงเหมือนเดิม….แต่ผมว่าคงไม่มีโอกาสแล้วละ)….แต่ในเมื่อใจยังรักที่จะเดินทางอยู่ ต่อให้มีภูเขาขวางอยู่ข้างหน้า ก็ห้ามผมไว้ไม่อยู่….เพราะฉะนั้น เมื่อมีความจำเป็นจะขี่รถสปอร์ต(เกียร์1 กดลง เกียร์2-3-4-5 งัดขึ้น)…ตอนใส่เกียร์1ที่ใช้ปลายเท้ากดลง มันไม่มีปัญหาครับ
แต่ตอนจะงัดเกียร์ 2-3-4-5….ผมงัดเกียร์ไม่ได้ เลยใช้เวลาว่างๆ หาเหล็กมาเส้นหนึ่ง สร้างเป็นกระเดื่องสะพานให้แรงกดข้างหลังเป็นแรงงัดเกียร์แทนปลายเท้า ใครอยากจะเอารูปแบบการสร้างงานไปปรับใช้กับรถของคุณก็ไม่หวงห้ามแต่อย่างใดครับ……ดูรูปเอาตามนี้
รูปนี้จะเห็นว่า ผมต่อคันเกียร์ให้ยาวออกมาอีก1เท่า เพื่อให้ก้านคันเกียร์มีความกว้างกว่าปกติ เผื่อฉุกเฉินใช้ส้นเท้างัดเกียร์แทนใช้ปลายเท้างัดเกียร์นะครับ
ส่วนเหล็กชิ้นนี้ครูน้าหยอยไปค้นเอาขายึดเกียร์โยงของรถแข่งมาตัดเอาส่วนที่มีรูของมันออกมาใช้งาน….ใช้ยังไงก็ตามอ่านให้เข้าใจนะครับ
จากนั้น ผมเอาก้านเหล็กส่วนที่ตัดออกมาไปสร้างจุดหมุน เอาจากรูน็อตของพักเท้า…….เพื่อกดด้านหลังของก้านเกียร์อนาถาให้ส่วนหน้าของมันมางัดเกียร์แทนปลายเท้าของผม…..โดยมีสปริงรั้งตำแหน่งของกระเดื่องคันเกียร์ให้อยู่ในตำแหน่งพร้อมที่จะทำหน้าที่งัดเกียร์แทนปลายเท้า
.
คันเกียร์ชุดนี้ผมติดตั้งใส่รถ ZX150 เสร็จแล้วก็ลองพามันไปขี่วอร์มร่างกายเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา…..ขี่ไปเกือบถึงบ้านปางอุ๋ง….แล้วกลับมากรุงเทพอีกครั้งหนึ่ง….ค่อยสบายใจขึ้นนิดหน่อยที่ได้ปะทะลมหนาวในช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา….รูปชุดนี้ยังไม่ใช่ทริปที่ผมเอาZX150 ไปบ้านปางอุ๋งนะครับ เป็นทริปที่ไปกับยอดชายนายโอมที่ผมบ่นอยู่ในพารากร๊าฟแรกๆนั่น……..สรุปแล้วก็คือว่าในช่วง2อาทิตย์นั้นผมไปแม่ฮ่องสอนด้วยรถ GPX 150 กับนายโอม1ครั้งและขี่ZX 150 อีก1ครั้ง ขอผลัดเป็นพรุ่งนี้จะเอารูปชุดZX 150 มาเล่าต่อ วันนี้ดึกเกินไปแล้ว พรุ่งนี้เช้าผมจะไปเป็นกรรมการแข่งขันครูฝึกที่สนามฮอนด้าสุขาภิบาล……ไม่อยากไปยืนหลับกลางสนามให้คนดูถูกเอา
บทความโดย วิชิต บางซ่อน
Linkต้นฉบับ https://pantip.com/topic/36073402