D.I.Y.กับชายชราชื่อน้าหยอย(มาซ่อมแบตเตอรรี่กันเน้อ)
……ซัวสะได ไอเลิฟยูครับ เพื่อนพ้องน้องหลานที่คิดถึง…..
ครูน้าหยอยเข้ามาเขียนเรื่องเกี่ยวกับเทคนิคให้อ่านกันได้สัก4วันแล้วมั้ง(หลังจากหายเงียบไป4-5เดือน)..สาเหตุก็เพราะผมมัวแต่ไปเห่อเหิมกับรถใหม่ที่เพิ่งได้มาเมื่อ2เดือนก่อนนั้นเข้า….มันเป็นรถฮอนด้าสมัยพระเจ้าตาก CB 160 สมัยที่ครูน้าหยอยยังเป็นวัยรุ่นอายุแค่ 20ปีมาเสริมกำลังได้อีก1คัน(ดังที่ได้บอกไปแล้วเมื่อ4วันที่ผ่านมา….(ดูรูปรถรุ่นนี้เอาจากกระทู้เดิม D.I.Y.กับชายชราชื่อน้าหยอย-ตอนตั้งโซ่เอานะครับ…
ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมไปช่วยทีมงาน Just ride it อบรมขับขี่ปลอดภัยกันที่ศูนย์ฮอนด้ารามคำแหงทั้งวัน…ก็เฮฮากันน่าดู คนที่สนุกกว่าใครเพื่อนก็คือครูน้าหยอยแหละ เพราะเที่ยวได้แซวคนนั้นคนนี้เขาไปทั่ว(ประมาณว่าช่วยกระตุ้นกำลังใจและให้แสดงศักยภาพของแต่ละคนออกมาให้มากๆหน่อย)
ก็ได้ผลดีครับ….ภาคบ่ายๆตอนปฏิบัติรอบสุดท้าย ผู้อบรมทุกคนต่างโชว์ฝีมือกันอย่างเต็มที่….หลายคนทิ้งโค้งกันจนไหล่แทบจะเช็ดพื้น(มากไปป่าวฟะเนี่ย….)
กลับมาที่เรื่องของเราต่อนะครับ…
.หลังจากเอารูปรถฮอนด้า CB160 สมัยพระเจ้าตากลงไปเมื่อ4วันก่อน…..ก็ให้มีแฟนคลับของผมเข้ามาร้องขอให้ช่วยทำรีวิวของรถรุ่นนี้ให้ดูหน่อยว่า มันมีที่มาและที่ไปยังไง…..ฯลฯ…ตามแนวๆของการรีวิวนั่นแหละ…..เอางี้ครับ…ขอเวลานอกแป็บนึง….ขอให้ผมขี่รถไปเที่ยวเหนือในอาทิตย์นี้เสียก่อน….ขอเอาตัวไปแช่ความหนาวให้เต็มอิ่มอีกสักครั้ง(หลังจากขี่ไปเที่ยวเมื่อปลายเดือนก่อนแล้ว1ครั้ง….มันหนาวได้แค่2วันเองแหละ…ยังไม่สะใจคนแก่น่ะ)……….ขอกลับไปล้างตาก่อน อาทิตย์ปลายๆเดือนจะฉลองศรัทธาให้ครับ
รูปข้างบนนั้น ผมยืมเอามาจากคลังรูปภาพเดิมของผมนะครับ ต้องขออภัย เนื่องจากรูปที่เพิ่งไปอบมรมกันมา มีขนาดใหญ่เกินขนาดที่จะส่งเข้ามาประกอบเรื่องได้ เลยต้องค้นเอารูปเก่ามาใช้ไปก่อน…และสาระของเราวันนี้คือการทำสาวให้แบตเตอรี่….ไม่เกี่ยวกับการอบรมขับขี่ปลอดภัยแต่อย่างใด…เข้าใจตามนี้นะครับ
คราวนี้ก็กลับมา D.I.Y.กับครูน้าหยอยต่อไป……
อ้อ….ขอแทรกตรงนี้หน่อยนะครับ…เกี่ยวกับชื่อเรื่องในแต่ละตอนที่ผมนำมาเสนอในห้องนี้แหละ…ผมเริ่มปวดหัวที่จะคิดชื่อในแต่ละตอนแล้วแฮะ…เอาเป็นว่า ผมเขียนให้อ่านกันมาสัก7-8ปีกว่าๆแล้วละ เรื่องราวทั้งในอดีตและปัจจุบันมันก็ยังไหลออกมาได้เรื่อยๆ….
.เอาเป็นว่า ผมขอใช้ชื่อ D.I.Y. กับชายชราชื่อน้าหยอยเป็นเทรดมาร์คก็แล้วกัน…มันง่ายดี ส่วนผมจะทำอะไรหรือจะพาไปเที่ยวไหนก็จะวงเล็บต่อท้ายเอาจะดีกว่า…..เอาตามนี้นะครับ ….
จากรูปของรถฮอนด้า CB160 ที่ผมเอามาลงให้ดูกันไปเมื่ออาทิตย์ก่อนนั้น….เป็นรถที่ผลิตในปี(ประมาณ)ค.ศ.1965….มันมีอยู่2รุ่นครับ คือ CB125และCB160….เป็นรถ2สูบทั้งคู่ (รายละเอียดเอาไว้อ่านกันตอนที่ผมกลับจากเมืองเหนือในอีก10วันข้างหน้านะครับ)
ผมจะเอารายละเอียดของรถและเส้นทางการท่องเที่ยวของผมมารีวิวให้อ่านกัน…..ก็ผจญภัยตามประสาคนโบราณเช่นเคยแหละ…
รถรุ่นนี้มีทั้งสตาร์ทมือและสตาร์ทเท้าครับ….ต้องใช้แบตเตอรี่ขนาด5 A และแบตเตอรี่อยู่ใต้เบาะ(ต้องใช้เครื่องมือ# 12 คลายน็อตออกวุ่นวายพอสมควร)….มันจะเปลี่ยนแบตฯมาแล้วกี่ลูก ผมไม่ทราบ….แต่วันนี้แบตฯ(แห้ง)ของมันเริ่มหมดสภาพ ไม่สามารถกดสตาร์ทได้เหมือนเคย…..
.(ข้อสังเกตง่ายๆสำหรับรถที่ใช้สตาร์ทไฟฟ้าก็คือ เมื่อบิดสวิทส์กุญแจแล้วลองกดแตรดู…หากเสียงแตรไม่สดขื่นแจ่มใส ก็หมายความว่ากำลังไฟของแบตฯลดลงจนเหลือประมาณสัก5-6 โวลท์แล้วละ…อย่างนี้กดปุ่มสตาร์ทไปให้มือหัก เครื่องยนต์ก็ไม่สามารถผลิตกำลังงานออกมาให้เราได้อย่างแน่นอน)
ตรงนี้น้าหยอยเลยจำเป็นต้องทำสาวให้แบตเตอรี่สักครั้งแล้วละ เพราะปลายเดือนอย่างนี้กำลังเงินในกระเป๋าทำท่าไม่ฟิตปึ๋งปั๋ง(มันไม่เคยฟิตมานานแล้วละครับ…ฮ่วยๆๆๆ)
ปกติแล้ว แบตเตอรี่แห้งนี่ พอมันไม่เก็บไฟแล้ว เรามักจะไปหาซื้อมาเปลี่ยนใหม่นะครับ แต่คนอย่างน้าหยอย เป็นคนเบี้ยน้อยหอยสังข์มานานแล้วละ….
.เพราะงั้น เราจะต้องหาทางประหยัดเอาไว้ก่อนแหละ….ขืนทำซ่าเป็นคนจ่ายเงินง่ายๆ ชีวิตผมคงไม่รอดสันดอนหรอก….หาวิธีซ่อมแบตฯประคองเงินในกระเป๋าไว้ก่อนดีกว่า..
อย่างแรกที่คุณจะต้องไปหาซื้อมาไว้แก้ปัญหาคราวนี้คือ น้ำกลั่น….ไซริ้นจ์ฉีดยา(ซื้อเอาจากร้านขายยาได้ในราคาหลอดละ5บาท)….แล้วก็กาว(ไม่มีกาวก็ใช้ขวดพลาสติคหนาๆ-เอามาเผาเพื่ออุดรูน้ำกลั่น)….นอกนั้นก็ตะปูและค้อน เอาไว้เจาะ
พร้อมแล้วใช่ไหมครับ……
จัดการเอาแบตฯที่จะเติมพลังให้มันกลับมามีชีวิตใหม่….มาเตรียมไว้…แล้วจัดการเอาหมึกเมจิค ขีดเส้นแบ่งให้เป็น6ช่อง….(แบตฯ6โวลท์ก็มี3ช่อง….แบตฯ12โวลท์ก็มี6ช่อง)….ของคุณเป็นแบบ6หรือ12 ก็ ขีดทำเครื่องหมายไว้ตามที่บอกไปแล้ว
จากนั้นใช้ตะปูขนาดเล็กๆ หรือจะมีอะไรแหลมๆคมๆก็ใช้ได้เช่นกัน….ใช้ค้อนตอกตะปูลงไประหว่างกลางเส้นแบ่งขีดทั้ง6นั้น…ตอกไม่แรงนะครับ มันเป็นแผ่นพลาสติคบางๆประมาณไม้บรรทัด..(มี2ชั้นนะครับ ชั้นบนแรก เจาะลงไปประมาณ1ซม.ก็ตัน(มันคือฝาปิดชั้นนอก)….ให้ตอกลงไปอีกชั้นหนึ่ง…..คราวนี้ตะปูจะจมลงไปอีก1ซ.ม…….แสดงว่า เราเจาะทะลุเปลือกแบตฯไปจนถึงแผ่นธาตุของมันแล้วละ
คราวนี้เราก็ใช้ไซรินจ์สูบเอาน้ำกลั่น(จะสูบหรือจะเทเข้าไปในหลอดก็ตามใจจ้าผมใช้วิธีเทลงไปในหลอดไซริ้นจ์…..13 ซี.ซี.(กำหนดให้เติมไม่เกินช่องละ13ซี.ซี.นะครับ เราดูปริมาตรของมันได้จากขีดข้างหลอดฉีด-ถ้าเติมมากเกินไปมันจะล้นทะลักออกมาเด้อ)
จากนั้นก็ชาร์จไฟ(ยังไม่อุดรูนะครับ-ชาร์ตไฟก่อน อากาศร้อนมันจะได้ออกมาจากห้องประจุ)…
….สังเกตุดูว่าแบตฯที่เราซ่อมแบบอนาถาไปนั้น มันร้อนขึ้นไหม….ถ้าร้อนขึ้น ก็แสดงว่าแผ่นธาตุของมันยังใช้ได้อีกนานทีเดียวแหละ….แต่ถ้าไม่ร้อน..แปลว่าแผ่นธาตุมันหมดอายุแล้วละ
….ถ้ามีแบตฯลูกใหม่ที่หมดสภาพแล้ว ลองเอามาเติมน้ำกลั่นดูอีก(มันต้องมีสักลูกนะที่ยังใช้ได้)….ถ้าไม่มีก็แปลว่าต้องเสียเงินซื้อใหม่แน่นอนแล้วเน้อ….
เท่าที่ครูน้าหยอยลองแก้ปัญหาอย่างนี้มานาน…พบว่าส่วนมากใช้ได้ครับ(แบตฯที่ใช้อยู่กับรถทั้ง7คัน ส่วนมากผมไปขอมาจากร้านมอเตอร์ไซค์นัดพบแถวๆเตาปูนนะครับ….ไม่เคยได้ซื้อของใหม่ใช้กับเขาหรอก..)
……..หลังจากผมกลับจากเที่ยวเหนือแล้ว จะเอาตัวรถและเส้นทางท่องเที่ยวของผมมารีวิวให้อ่านกันนะครับ……อาทิตย์หน้า( 18-20 ม.ค.)มีใครจะขี่รถไปเที่ยวเมืองเหนือและอยากขี่รถเล่นด้วยกัน ก็หลังไมค์มาบอกกันได้ครับ กำหนดการของผมจะออกเดินทางตั้งแต่เช้าวันศุกร์ ไปค้างคืนแถวๆเถิน-สายๆของวันเสาร์ ก็จะขี่รถไปนั่งชมดอกนางพญาเสือโคร่งแถวๆเกษตรแม่วาง(ดอยอินทนนท์….)
หรือหากไม่ไปดอยอินทนนท์ ผมอาจจะขี่รถไปลำปางแล้วตัดออกพะเยา…เลยไปเที่ยวเชียงราย-แม่สาย-แล้ววนไปออกไชยปราการ-อ่างขาง….หู้ยยยย..แค่คิดก็สนุกแล้วววว
สนใจอยากขี่รถเที่ยวเล่นด้วยกันก็หลังไมค์มานัดแนะกันได้นะครับ….ยังมีเวลาเตรียมตัวอีก2วัน…
บทความโดย วิชิต บางซ่อน
Linkต้นฉบับ https://pantip.com/topic/37288486