Ducati XDiavel S . . เ ท ว า ร่ า ง ซ า ต า น . .

Ducati XDiavel S . . เ ท ว า ร่ า ง ซ า ต า น . .

มันอยู่ในมโนความคิดมาเสมอ…

สำหรับคำถามที่ว่า

รถแบบไหนให้สัมผัส “อิสระแห่งสายลม” มากที่สุด

คำตอบส่วนตัวของผม

ยังคงเป็น “ครุยเซอร์” อยู่เช่นเดิม ยิ้มยิ้ม

จากที่เคยผ่านการขี่รถครุยเซอร์มาเกือบๆ 7-8 รุ่น

แต่ละคันให้อารมณ์แตกต่างกันไป  แต่ก็ไม่ทิ้ง DNA แห่งสายพันธุ์

ความรู้สึกและอารมณ์ที่ส่งผ่านมาสู่ผู้ขี่โดยส่วนใหญ่ยังเป็นท่วงทำนองเดียวกัน

หากแต่….

ยังมีครุยเซอร์คันหนึ่งจากแดนมะกะโรนี

ที่ให้ท่วงทำนองอันแตกต่าง

ประหนึ่งซื้อแผ่นซีดีเพลงคลาสสิคมา แต่เปิดฟังแล้วข้างในมันเป็นเพลงร๊อคซะงั้น!!!!

เจ้ารถคันที่ว่า นั้นคือ

Ducati XDiavel

รถที่มีวิญญาณรถสปอร์ตซ่อนอยู่ในร่างครุยเซอร์

รถที่มีพลังหนุ่มซ่อนอยู่ในร่างชายกลางคน

รถที่มีทำนองร๊อคซ่อนอยู่ในเพลงคลาสสิค

เพื่อค้นหาจิตวิญญาณที่แตกต่างให้ถึงรากเหง้า

เรามาเดินทางกับเจ้า XDiavel รุ่นพิเศษ ( รุ่น S ) กันครับ  ประหลาดใจประหลาดใจ

ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว

ทาง Just-Ride-it ก็ได้มีโอกาสสัมผัส Ducati Diavel

ซึ่งจะบอกว่า เป็นพี่ของเจ้า XDiavel ก็พอจะได้

แต่เอาจริงๆ แล้ว เจ้า XDiavel แทบจะไม่มีชิ้นส่วนที่ใช้ร่วมกับ Diavel เลย

ที่ชัดเจนที่สุดก็คงจะมีแค่คำว่า Diavel  ยางและคาลิเปอร์เบรกเพียงเท่านั้นกระมังที่สืบต่อกันมา!!! ประหลาดใจประหลาดใจ

เอาหล่ะ

ก่อนออกเดินทางไปเที่ยวกัน

มาดูรูปกายภายนอกกันไปพลางๆ ละกันนะครับ

สำหรับเรื่องรูปทรง บอกตรงๆ ว่า งดงามราวกับปฏิมากรรมชั้นเอกจากอิตาลี

คงมีรถไม่กี่คันในโลกนี้ ที่จอดข้างๆมันแล้วจะมีสิทธิ์ได้รับความสนใจจากผู้ที่เดินผ่านไปผ่านมาเหนือกว่าเจ้า XDiavel

เส้นสายของตัวรถมีความลื่นไหลและเฉียบคมมากขึ้น

ความรู้สึกและอารมณ์ที่ส่งผ่านออกมาให้ความรู้สึกว่าเป็นครุยเซอร์มากขึ้นกว่าผู้พี่

สำหรับคันที่ทดสอบนี้ ท่อที่ติดรถมาไม่ใช่ท่อเดิม

หากแต่เป็นเป็นท่อ Termignoni  ที่ปลายท่อออกคนละข้างกันของตัวรถ

ต่างจากดีไซน์ของเดิมที่มีปลายท่อไอเสียออกข้างเดียวกัน 2 ท่อ

และสุ้มเสียงต้องบอกว่า “โหด” กว่าท่อเดิมแบบคนละโลก อมยิ้ม11อมยิ้ม11

ส่วนที่เด่นที่สุดน่าจะเป็นล้อหลังเนี่ยแหล่ะ จุ๊บๆจุ๊บๆ

ซึ่งเด่นสุดๆ ไปเลย เพราะล้อลายนี้มีให้เฉพาะรุ่น S นะครับ

ถ้าเป็นรุ่นธรรมดาจะได้อีกลายหนึ่ง

เอ้า แต่ละส่วน  แนะนำตัวหน่อยซิ มีอะไรพิเศษบ้างสำหรับ XDiavel S หัวเราะหัวเราะ

ทักทายกันด้วยแผงหน้าปัดสไตล์ Minimal ดีไซน์เรียบง่ายตามสไตล์ครุยเซอร์ควรจะเป็น…

เอาจริงๆ ถ้าให้เข้าถึงจิตวิญญาณครุยเซอร์  เรือนไมล์นี่แทบจะไม่ต้องมีข้อมูลอะไร เลย อาจจะมีแค่วัดความเร็วแค่นั้นเลย  วัดรอบ เกจน้ำมันอะไรไม่ต้องมี ดิบๆ ไปเลย อมยิ้ม15อมยิ้ม15

แต่คงไม่ใช่กับรถที่มีสมญานามว่า “เทคโนครุยเซอร์” อย่าง XDiavel

เรื่องนี้ยอมไม่ได้  ทักทายช๊อตแรกด้วย ระบบ Keyless!!!

เพียงแค่เข้าใกล้รถและกดปุ่ม  แผงเรือนไมล์หน้าจอ TFT สีสันสดใสก็จะโผล่หน้ามาทักทายท่าน

ไม่พูดพร่ำทำเพลงมีอะไรให้ใช้สอยบ้างก็ดูกันเอง

มาเว่ากันถึงหมดการขับขี่ที่จะแสดงขึ้นมากันก่อน   ผมขี่ครั้งแรกก็เจอโหมดสปอร์ตโผล่หน้ามาทักทายเลย

156 แรงม้ามาเต็มแบบบิดปุ๊บตอบสนองปั๊บ

Ducati Traction Control ที่ระดับ 2 ซึ่งไม่ค่อยจะไม่ค่อยรุกล้ำการขับขี่ของเรานัก ( พูดง่ายๆ ใกล้เคียงกับการไม่มี TC มากขึ้น )

ระบบ Cornering ABS ที่ทำงานร่วมกับ IMU ภาษาบ้านๆ ก็ ABS แบบฉลาดๆ หน่อยที่ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์วัดแรงเฉื่อยของตัวรถ นั้นถูกเซ็ทไว้ให้ทำงานช่วยเหลือเรา เพียงน้อยนิดที่ระดับ 2

เอ่อ… เดี๋ยวๆ อมยิ้ม24อมยิ้ม24

เพิ่งเริ่มขี่  เดี๋ยวได้มีคว่ำ

ขอปรับเป็น URBAN  100 แรงม้า แบบตอบสนองนุ่มนวล

DTC เยอะๆ ( ช่วยอั๊วะหน่อย อั๊วะกลัวลื่น ) ที่ระดับ 6

ABS เซ็ทไปเลยเต็มที่

แบบนี้ค่อยเบาใจหน่อยเนอะ ยิ้มยิ้ม

อ้อ ลืมบอก  ยังมี Mode Touring แรงม้ามาเต็มแต่ตอบสนองนุ่มนวลกว่าให้เลือกอีกโหมดหนึ่งด้วยหล่ะ

ปุ่มให้เล่นหน้าจออยู่บริเวณแฮนด์ด้าน ซ้ายมือปุ่มใหญ่ๆ ที่มีคำว่า MENU ENTER นั่นหล่ะ

ส่วนอีกปุ่มที่เป็นรูปคล้ายๆวัด รอบ  นั่นคือ ปุ่มสำหรับเซ็ทล็อคความเร็ว  หรือ Cruise Control โดยเฉพาะเลย

ออกเดินทางกันดีกว่า

สำหรับเส้นทางที่ใช้คือ

กทม – อุทัย – ช่องเย็น – บ้านไร่ – กทม

เส้นนี้ก็เป็นอีกเส้นหนึ่งที่เหมาะกับ การขี่รถเล่นเหมือนกัน

สำหรับผม การที่จะทำความรู้จักกับรถสักคัน ต้องให้เวลาและระยะทางกับมันหน่อย

อย่างน้อยๆ ก็ต้อง 500 กิโลเมตรขึ้นหล่ะ ยิ้มยิ้ม

สุนทรียสัมผัสความเร็วต่ำ

สิ่งที่ถ่ายทอดกันมาเสมอจากรุ่นสู่รุ่น ของรถ Ducati คือ DNA แห่งความเร็ว ( สูง )

แล้วความเร็วต่ำหล่ะ  ย้อนไปในอดีตรถของ Ducati มักจะมีปัญหาด้านความสมูธในช่วงความเร็วต่ำ ความชิลในการขับขี่ไม่มี

แต่ๆๆๆๆ  สุนทรีย์แห่งความเร็วต่ำมันเป็น “ต้องมี” ของรถครุยเซอร์เลยนะ

ในเมื่อ Ducati บอกว่านี่คือรถครุยเซอร์ ดังนั้น สิ่งนี้ขาดไม่ได้

และด้วยความช่วยเหลือของเครื่องยนต์  Testastretta DVT 1262 ใหม่ที่ยกมาจาก Multistrada มายืดชัก

เพิ่มกำลังอัด ทำอะไรอีกเยอะแยะ ทำให้คาแร็คเตอร์ที่ว่านั้นมันเป็นจริงขึ้นมา

จากรอบเดินเบาถึง 3 พันรอบ การขับขี่ให้ความนุ่มนวลผิดคาดเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ L-Twin ที่ผ่านๆ มา

มันนุ่มนวล น่ารัก สุภาพ ดื่มง่าย กินง่าย แบบที่ครุยเซอร์ควรจะเป็นแล้วจุ๊บๆจุ๊บๆ

และเมื่อส่งกำลังผ่านสายพาน ซึ่งนี่ก็ควรจะมีในรถครุยเซอร์  เพราะโซ่มันอยู่ใกล้หูเราเหลือเกิน

มันน่ารำคาญนะที่ต้องคอยได้ยินเสียงโซ่

มันก็น่ารำคาญที่มันให้ความรู้สึกที่กระชากบ้าง

และก็น่ารำคาญที่ต้องคอยมาหยอดโซ่ ระหว่างทางและรถครุยเซอร์เงาวับของเรา

ต้องเลอะเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำมันหยอดโซ่ที่สะบัดขึ้นมา

และนี่คือ รถคันแรกของ Ducati ที่ใช้สายพาน!!!!

Ducati เข้าถึงจิตวิญญาณของครุยเซอร์ขึ้นอีกระดับแล้ว….

สุนทรีย์แห่งรถมาแล้ว

มาสุนทรีย์แห่งเครื่องดื่มกันบ้าง

ขาดไม่ได้เลยกับการเดินทาง….

ด้วยจิตวิญญาณของความเป็น “Dragster”

การออกตัวไฟแดงระยะไม่ไกลมากนัก หากนึกสนุกจะตบรถ สปอร์ตตัวพัน ซัก 400 เมตร ก็ถือเป็นงานที่ไม่น่าจะยาก ( หรือเปล่า ) หัวเราะหัวเราะ

ด้วยระบบ Ducati Power Launch ( DPL ) ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างระบบ Inertial Measurement Unit ( เซ็นเซอร์วัดแรงเฉื่อย ) และ Traction Control

เพื่อให้สามารถออกตัวได้ “เร็ว” และ “แรง” ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้  ผสานกับฐานล้อที่ย๊าว ยาว และ ล้อหลังขนาดยักษ์

ตบท้ายด้วยเครื่องยนต์ L-Twin ลูกโต 1262 cc ที่ส่งผ่านกำลังทอร์คแบบราบเรียบ ( Flat torque )ได้มหาศาลตั้งแต่รอบต่ำยันสูง

ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามา แม้จะเป็นมือใหม่ คุณแค่กดปุ่มเริ่มระบบ DPL ที่แฮนด์ด้านขวา

จากนั้น   บิด ชิมครีม แล้วจุ่มนม

เอ้ย ไม่ใช่  บิดเต็มที่ ใส่เกียร์  แล้วปล่อยคลัชท์!!!!!!!

การออกตัวระดับน้องๆ นักบิด MotoGP เกิดขึ้นได้ไม่ยาก!!!!   ประหลาดใจประหลาดใจ

เดินทางมาถึงเมืองสุดชิค

นามว่า “อุทัยธานี”

วันนี้พักที่นี่หนึ่งคืนครับ

เช้ามาอีกวันก็ออกเดินทางกันต่อ

จุดหมายการเดินทางในครั้งนี้ คือ

“ช่องเย็น”

ไม่ใกล้…

ไม่ไกล…

เป็นสถานที่แห่งนึง ที่ถ้าต้องการสัมผัสความเย็น

ไม่ค่อยจะผิดหวังกันหรอก… จุ๊บๆจุ๊บๆ

ถนนสายนี้ อย่างที่รู้ๆกันอยู่

ว่าเป็นทางตัน

ไปสุดที่เขตแดนระหว่างจังหวัดกำแพงเพชรและตาก

ลงจากเบาะชิลๆ ของ XDiavel ที่สุดปลายทาง “ลานกางเต้นท์ช่องเย็น”

สถานที่พักของพวกเราชาว Ride Now

เช้ามาไม่ทำอะไร นั่งปล่อยใจไปกับทิวทัศน์ที่อยู่ตรงหน้า

วิวประมาณนี้

ทอดสายตาให้ไกลๆ

แล้วปล่อยใจไปกับสายลม

สัมผัสเจ้า XDiavel มาสักพัก

ผมก็เริ่มเข้าใจนิยามของ X

เทวา กับ ซาตาน  ยากจะอยู่ร่วมกันได้ฉันใด

ครุยเซอร์ กับ สมรรถนะแบบสปอร์ต  อยู่ร่วมกันได้ยากฉันนั้น

แต่กฏมีไว้ให้แหก

เป้าหมายมีไว้ให้พุ่งชน

เส้นชัยมีไว้ให้ไปถึง

เมื่อเทวา X ซาตานได้ ฉันใด

ครุยเซอร์ X สปอร์ต = XDiavel ฉันนั้น

เอาหล่ะ เจ้าซาตานเอ๋ย  วันนี้ขอลองด้านมืดของเจ้ากันหน่อย ประหลาดใจประหลาดใจ

ก่อนจะพิสูจน์เชิงสมรรถนะ

มาเหลาสรีระศาสตร์กันเสียหน่อย

ท่านั่งของเจ้า XDiavel นั้นชัดเจนในท่วงทำนองว่าทำตัวเป็นครุยเซอร์

ให้ความสบายในระดับหนึ่ง

แต่ถามว่าสบายแบบครุยเซอร์เต็มสูบไหม

ต้องตอบว่าไม่

แต่ก็ใกล้เคียง

อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่จะมาช่วยเสริมความสะดวกสบาย

และได้ความประหยัดน้ำมันเป็นของแถม

สิ่งนั้นคือ  Cruise Control  หรือระบบล็อคความเร็ว จุ๊บๆจุ๊บๆ

เพียงคลิ๊กเดียวบนแป้นความคุมด้าน ซ้าย รถก็วิ่งไปเองโดยมิต้องบิดแล้ว

ระบบจะปลดล๊อคความเร็วอีกทีก็ตอบเบรก บิดคันเร่งหรือกำคลัทช์

ผมสามารถทำอัตราความสิ้นเปลืองได้ถึง 24 กม/ลิตร โดยล็อคความเร็วที่ 106 กิโลเมตร/ชม

แต่อัตราการสิ้นเปลืองโดยทั่วๆไปก็แล้ว แต่ข้อมือ อยู่ที่ 15-20 โลลิตร

ก็ตามปกติของเครื่องที่ใหญ่เกือบๆ 1,300 cc นะ

อนึ่ง  ความสะดวกสบายที่เจ้า XDiavel มีให้นั้น เฉพาะเพียงคนขับแต่อย่างเดียว

คนซ้อนของผมหลังจากผ่านมา 500 กิโลเมตร บอกคำเดียวว่า  นี่คือรถที่นั่งแล้ว ทรมานที่สุดในโลก 555

มันก็คงเหมือนความจริงของโลก เวลาที่เรา Lucky in game

เราก็มักจะไม่ Lucky in love

เวลาที่เราสบาย  ความมันส์มันก็ย่อมหดหาย

เวลาที่เราจะมันส์ ความสบายมันก็ไม่ค่อยมี

แต่เดี๋ยว!!!!

เจ้านี่คือสิ่งที่ X ( Cross ) กันของโลกสองด้าน

เมื่อ ครุยเซอร์ X สปอร์ต  เกิดขึ้นแล้ว….

การยัดทางตรงมาด้วยความเร็วสูง

เบรคหนักๆ ด้วยพลังของ Brembo M50 จนโช๊คหน้ายุบตัวให้ฟีลใกล้เคียงรถสปอร์ต

บรรจงบีบคลัทช์น้ำมันที่นุ่มมือแล้วถอนเกียร์อย่างรวดเร็วเพื่อใช้แรง Engine Break เป็นตัวช่วงตัวหนึ่งในการเข้าโค้ง

ด้วยเฟรมและ CG ที่ออกแบบมาใหม่หมด แม้ยางหลังจะใหญ่ถึง 240 ก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใดกับการพลิกรถเพื่อเข้าโค้ง

ช่วงระหว่างกลางโค้ง  เสถียรภาพที่ส่งผ่านช่วงล่างชั้นดีและยางใหญ่เบิ้ม ให้ความรู้สึกว่าเสถียรและมั่นคงมาก

และเมื่อผ่านยอด Apex ไปทันใดนั้น ก็เปิดคันเร่ง Ride by Wire อย่างรุนแรงได้ทันที

และด้วยอานิสงค์ของ DTC และยางหลังใหญ่เบิ้ม  การเร่งออกจากโค้งเป็นอะไรที่รุนแรง แต่กลับง่ายดาย

และเมื่อกลับเข้าสู่ทางตรง ก็จงใช้อานิสงค์อันประหนึ่งก้อนพลังงานมหึมาของเจ้า Tettastretta DVT 1262 ที่มีวาล์วแปรฝันมาช่วยส่งกำลังแรงบิดหนักๆ ตั้งแต่รอบต่ำยันรอบสูงให้เต็มที่

กระบวนการแห่งการเข้าโค้งของรถสปอร์ตที่ ว่ามาด้านบน

มันก็พอจะเกิดขึ้นได้กับครุยเซอร์คันนี้ อย่างไม่เคอะเขิน

และที่สำคัญ นี่ยังเป็นรถครุยเซอร์ที่เอียงได้ถึง 40 องศาเลยนะ ขุ่นพระ!!!! ประหลาดใจประหลาดใจ

เราเดินทางกลับ กทม โดยใช้เส้นทาง

ผ่านอำเภอบ้านไร่  และแวะขึ้นไปแก่นมะกรูดแป๊บนึงเพื่อเล่นโค้งกันหน่อย

ขี่ไปฮัมเพลงในหมวกไป อมยิ้ม02อมยิ้ม02

เข้าโค้งไปเรื่อยๆ เพลินดีเหมือนกันนะ

ส่วนหนึ่งของสมรรถนะแบบสปอร์ตคงต้องขอบคุณ

ระบบเบรกและช่วงล่างระดับ “ขั้นเทพ”

สำหรับเบรก Brembo M50  ซึ่งเป็นคาลิเปอร์ระดับท๊อปๆ ยอดนิยม  ความรู้สึกในการจิกของเบรคหน้านั้นไม่ได้คมจัดแบบกดเป็นจิกอย่างที่คิด แต่กลับให้ฟีลแบบค่อยเป็นค่อยไปแต่หนัก แน่น

ทำให้การใช้เบรคหน้าใช้งานได้ง่ายแต่ทรงพลังมาก

ประสานกับช๊อคหน้าแบบอัพไซด์ดาวน์ที่มีระยะเทรลไม่ได้มากมายเหมือนครุยเซอร์ทั่วไป และแถมยังปรับได้ทั้งรีบาวน์และคอมเพรสชั่น

องค์ประกอบทั้งคู่ไม่ต้องถามว่าสมรรถนะ ช่วงล่างด้านหน้านั้นดีขนาดไหน เรียกว่าน้องๆ รถสปอร์ตเลยก็ว่าได้

เจ้า XDiavel นั้นเหมาะกะใคร

ถ้าคุณเป็นผู้ชาย ที่หลงไหลครุยเซอร์

รักอิสระแห่งสายลม

ชอบการเดินทางแบบมีสไตล์

แต่ก็ยังแอบรักความ สปอร์ต เร็ว แรง…

รถคันนี้ก็เป็นอีก ตัวเลือกหนึ่งไม่ เหมือนใคร และ ไม่มีใครเหมือนยิ้มยิ้ม

อย่างไรก็ดี

รถจะดีแค่ไหน ก็ไร้ความหมาย

หากขาดมิตรสหาย ผู้ร่วมเดินทาง

ขอขอบคุณทุกๆคนที่ร่วมเดินทางกันครับ อมยิ้ม17อมยิ้ม17

มีพบก็ต้องมีจากลา

กับบทสุดท้ายของเจ้า XDiavel S

ขอสรุปข้อดี ข้อเสียเป็นข้อๆ เลยละกันนะครับ

ข้อดี

+ หล่อระเบิด

+ ขี่ชิลและสบายสไตล์ครุยเซอร์

+ อยากซิ่งแบบสปอร์ตจัดให้ได้

+ เร็วแรงนรกแตก

+ แฮนด์ลิ่งเป็นธรรมชาติ เข้าโค้งง่าย เสถียรภาพในโค้ง สาบานนะว่านี่ครุยเซอร์

+ เบรก Brembo M50

+ ช่วงล่างเซ็ทมากำลังพอดีมาก

+ ระบบออกตัวที่ทำให้เราๆออกตัวแบบ MotoGP ได้ ( ขนาดนั้นเลย!!! )

+ ครูสคอนโทรล ( ไอ้เจ้านี่ทำให้ขี่สบายมากๆ )

+ เครื่องยนต์ใหญ่แต่นุ่มนวล แรงบิดที่มาแบบไม่กระโชกโฮกฮาก

+ บังโคลนหลังทำหน้าที่ได้ดีแบบไม่น่าเชื่อ

+ ขับเคลื่อนด้วยสายพาน นุ่มนวลและเงียบเชียบ

ข้อเสีย

– คนซ้อนไม่สบายเอาเสียเลย ( ก็ไม่ได้ทำมาให้ซ้อนนี่นะ )

– พักเท้าคนขี่ยังไกลไปสำหรับสรีระคนเอเซีย ( แม้จะปรับใกล้สุดแล้วก็ตามที )

– ไฟหน้าอยากให้สว่างกว่านี้

–  เสียสละความสบายแบ่งให้ความสปอร์ตไปบ้าง

ข้อสังเกตุ

– ลมปะทะความเร็วสูง ถ้าติดชิลด์เพิ่มคงจะดี

กับราคาค่าตัว 1,058,000 บาท  ในเรื่องความคุ้มค่าทางเงินคงไม่ต้องหา!!!!

แต่ความคุ้มค่าทางใจนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องตอบโจทย์กันเอง หากคุณพร้อมด้วยฐานะ

นี่คือรถที่มีเอกลักษณ์ความงดงามในตัวเองขั้นสุดแถมมาพร้อมแพ็คเกจสมรรถนะการขับขี่ที่ไม่เป็นรองใครในโลกครุยเซอร์แน่นอน!!!

และสุดท้ายนี้

ขอขอบคุณ ดูคาติ  ไทยแลนด์ ที่สนับสนุนรถทดสอบแถมยังช่วยซัพพอร์ทสิ่งต่างๆ ด้วยมิตรไมรตรีที่ดีเสมอมา

แถมยังบริการพวกผมเองประหนึ่งลูกค้าคนหนึ่งเลยทีเดียว

อยากจะบอกอย่างตรงไปตรงมาว่า ศูนย์นี้น่ารักมากๆๆๆ ( ก ไก่ ล้านตัว )

ดีก็บอกว่าดีครับ ขอบคุณอีกครั้งจริงๆ อมยิ้ม17อมยิ้ม17


และที่ขาดไม่ได้ ก็ Just-Ride-it ที่สละแรงและกำลังช่วยหารถมาให้ครับ

ถ้าชอบถ้าถูกใจ ช่วย Support Just-Ride-it เราในหน้าเพจเพื่อเป็นกำลังใจในการทำงานต่อๆไปด้วยครับ อมยิ้ม17อมยิ้ม17


https://web.facebook.com/justrideitteam/?fref=ts

 

ขอบคุณที่อ่านถึงบรรทัดนี้ครับ =/\= อมยิ้ม17อมยิ้ม17

บทความโดย เตี้ย ล่ำ ดำ แก่

Linkต้นฉบับ http://pantip.com/topic/35856466