GPX Legend Gentleman Review by lotteidol
…
เคยมีความรักครั้งแรกกันแบบไหนบ้างครับ
เคยตกหลุมรักอะไรสักอย่างตอนแรกพบหรือเปล่า?
ถ้าเคย บทความนี้เมื่อคุณๆอ่านกันจนจบ คุณอาจเจอ รักแรกพบ แบบผมก็ได้
แล้วหากมีรถสักหนึ่งรุ่น ที่ทำให้เราได้ครุ่นคิดและนิมิตถึงในแบบข้างต้นที่ยกมาล่ะ
รถแบบที่ทรงความคลาสสิค และ โมเดิร์น ตามสมัยนิยมได้อย่างไม่เคอะเขิน
รถที่ใช้เดินทางได้แบบหล่อๆ จอดตรงไหนคนก็มองตรงนั้น
รถที่ช่วงล่างดีๆ ยางดีๆ
รถที่รีดกำลังแล้วแซงได้แบบไม่ต้องมาลุ้นมากนัก
รถที่มีคุณสมบัตืทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ ในราคาที่เหมาะสม
GPX LEGEND GENTLEMAN 200
คงเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่หลายๆคนกำลังสนใจ
ในบทความนี้ แม้เราจะไม่ได้พาเดินทางไกล แต่เราจะพาไปรู้จัก เจ้า GENTLEMAN ให้มากขึ้นไปพร้อมๆกันครับ
….. ….. …..
ปล.ถ้าบทความนี้ผลตอบรักดี เดี๋ยวมีภาพเซ็ตนี้แถมให้ครับหุหุ
…
นอกจากเจ้า GENTLEMAN ในวันนี้ เราขอนำเสนอร้านสุดชิค ที่ทำให้ชีวิตของเราคูลดาว์น หรือโซฮอตขึ้นอันนี้ก็มิทราบได้ครับ
ต้องไปลุ้นดูกันเอาเอง 55
ร้านแห่งนี้ ถ้าบอกชื่อไป ก็คงไม่ค่อยมีใครรู้จัก
เพราะความบังเอิญ ในวันที่ทีมงานหาสถานที่ถ่ายภาพรถ แล้วไปเจอร้านนี้แบบงงๆ
ก็เลยอยากมาเล่าสู่กันฟังสลับกับเนื้อหาของตัวรถไปด้วยกันเลยทีเดียว
แรกเริ่มทีม just-ride-it คิดกันว่า รถแบบนี้ไปสถานที่แบบไหนถึงจะสวย แถวไหนที่มันจะทำให้รถดูกลมกล่อมกับสถานที่ได้บ้าง
ผลที่ได้คือ ตากล้องอินดี้ของทีมงาน ระบุมาว่านี่เลย ชุมทางสยามยิบซี แม้จะดูว่าเปิดมาพักใหญ่และไม่ค่อยมีอะไรให้เราได้ชมแล้วก็เถอะ
อันที่จริงวันที่เราไปถ่ายภาพกัน ร้านรวงก็ปิดกันเกือบหมดด้วยแหล่ะครับ เพราะตรงกับวันพระใหญ่พอดี
แต่ก็นั่นแหล่ะทำให้เราได้พบกับร้าน Attic diary Cafe ที่มีเจ้าของเป็นแนว gentleman อย่างชัดเจน
ร้านถูกออกแบบมาแนวเดียวกับ GPX Legend Gentleman เด๊ะ นี่อาจเป็นความบังเอิญแบบร้ายกาจ
เพราะในวันที่เราไปถึงร้านอื่นๆปิดหมดเหลือเพียงร้านของพี่เค้าที่ยังเปิดไฟดึงให้เราแวะเวียนเข้าไป
ก็คงเหมือนมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ที่ดึงสายตาเราให้เพ่งมองนั่นเองครับ
เจ้ใหญ่พรสิบประการที่ตามมาสมทบ ก็เสร็จกาแฟที่ยังไม่เปิดขายอย่างเป็นทางการของพี่เค้าไปแก้วนึง
ส่วนผมก็สอบถามพี่เจ้าของร้านไปเรื่อยครับ
ได้ความมาว่าจริงๆแล้วพี่เค้าก็เป็นคนที่ชอบรถมอเตอร์ไซค์ตัวยงคนนึงเหมือนกัน
ส่วนร้านที่เปิดมาเนี่ย เพราะอยากเปิด อยากให้คนได้กินอาหารที่ตัวเองตั้งใจทำ
ก็คงคล้ายความตั้งใจในการทำรถของGPX เช่นกัน มันช่างสอดคล้องกันจริงๆสิน่า
ว่าแล้วก็มาชมบรรยกาศรวมๆของร้านกันสักนิด
อ่ะเดี๋ยวจะหาว่าใจร้าย
ใครผ่านไปแถวนั้นปุบปับจะเข้าไปกินเลยไม่ได้นะครับ ถ้าจะทานอาหารต้องจองคิวจองโต๊ะไว้ก่อน
วิธีจองและเบอร์ติดต่อก็กดดูใน IG ของชื่อร้านที่ผมพิมพ์ไปนั่นเอง
อีกอย่างที่สำคัญและดู gentleman แบบสุดๆของร้านคือ
ร้านนี้เรามีหน้าที่บอกแค่ว่าเราจะไปกินไปทานกันกี่คนเท่านั้นครับ
ส่วนกับข้าวกับปลาพี่เค้าจะจัดหามาให้ทานเองงงง
พี่เค้าแน่นอนจริงๆ ฮ่าๆๆ
…
ก่อนจะเข้าสู่เรื่องของตัวรถ เรามาทำความรู้จักกับเจ้าเลขสิบ ที่ติดข้างรถกันก่อนครับ
ว่ามันมีที่มาที่ไปอย่างไร ทำไมถึงเป็นเลขสิบ เป็นเลขอื่นได้มั้ย
เชื่อว่าหลายๆคนก็คงสงสัย รวมถึงตัวผมเองด้วยครับ 555
ด้วยความนิสัยเสีย ก็เลยไปหาข้อมูลมาแบบคร่าวๆ อาจจะไม่ได้แม่นเป๊ะเต็มร้อยนักนะครับ
จริงๆแล้ว เลขสิบก็คือเลขสิบครับเป็นเลขที่ต่อจากเลขเก้าและเป็นเลขที่อยู่ก่อนเลขสิบเอ็ด
พอๆ กลับมาสู่สาระกันสักแป๊บบบ
เอาจริงบริษัทที่ผลิต GPX มาให้เราๆได้ขับขี่กันเนี่ย แม้เราอาจจะเริ่มรู้สึกคุ้นเคย
แต่ทว่าจริงๆแล้ว บริษัทนี้อยู่กับคนไทยเรามาปีนี้เข้าสู่ปีที่สิบแล้วครับ
ก็นับได้ว่าการันตีตัวเองท่ามกลางดงรถญี่ปุ่นและรถยุโรปหลายๆค่ายมาอย่างเรียบเนียน
เลขสิบที่อยู่ทางด้านท้ายของตัวรถก็เปรียบเหมือนเป็นรถรุ่นแทนคำขอบคุณลูกค้าที่อยู่และอุดหนุนกันมาถึงสิบปีนั่นเอง
คร่าวๆก็ราวๆนี้แหล่ะครับ
—
บทความครั้งนี้เราจะเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆนะครับ
ไม่เร่งรีบอะไร
ท่ามกลางความวุ่นวาย เราก็หยุดนิ่งๆเพื่อดูสิ่งรอบๆกายเราบ้าง
ให้รอบๆตัวเราหันกลับมามองเราบ้างก็แค่นั้น
…
มาบอกเล่าเกี่ยวกับเรื่องตัวรถกันบ้าง
LEGEND GENTLEMAN 200 มาในรูปทรงแบบสไตล์โมเดิ้น คลาสสิค ผสมผสานดีไซน์ ระหว่างความทันสมัยและความคลาสสิกไว้ได้อย่างลงตัว
ไฟหน้าเป็นแบบวงกลม LED เป็นการนำเอาไฟวงกลมในสไตล์คลาสสิกมาผสมกับไส้หลอดแบบ LED ที่ถือว่าทันสมัยเข้าด้วยกัน
ส่วนใส้หลอดไฟส่องสว่างจะเป็นหลอดแบบฮาโลเจน H4 ครับ
ตำแหน่งของการวางแฮนด์รถนั้นค่อนข้างต่ำกว่ารถในแนวเนกเกต ทำให้ท่านั่งในการขับขี่จริงๆ แอบมีความเป็นสปอร์ตอยู่ในตัวสูงทีเดียว
ซึ่งมันก็ต้องเอาความหล่อแลกมากับความเมื่อยอยู่บ้างเวลาที่ใช้ขับขี่เดินทางไกลๆขึ้นมาหน่อย
กระจกเป็นแบบทรงกลมร่วมสมัยและใช้งานได้ดีมุมมองค่อนข้างกว้าง
หน้าจอแสดงผลนั้นเป็นแบบดิจิตอลเต็มรูปแบบ ดีไซน์ยังคงเป็นทรงกลมเช่นเดียวกับไฟด้านหน้า
มีมาตรวัดต่างๆมาให้เกือบจะครบครันดีขาดก็แค่นาฬิกาบอกเวลา แต่ที่ชอบมากก็จะเป็นเรื่องมาตรวัดแบตเตอรี่ที่มีมาให้ครับ
…
ส่วนพละกำลังเจ้า gentleman นั้นมีมาให้ขนาด 200cc แบบ 1 สูบ 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วย OIL Cooler
ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด
ซึ่งกำลังเครื่องเท่านี้ก็เพียงพอต่อการใช้งานหลายๆรูปแบบละครับ ส่วนความคงทนนั้นก็อย่างที่แจ้งไปช่วงต้นๆว่า
บล็อกเครื่องรุ่นนี้มันการันตีตัวมันเองได้แล้วล่ะผมว่านะ ^^
ดิสก์เบรกหน้าคู่แบบ “เรเดี้ยนเมาท์” ที่นอกจากจะทำให้การเบรกนั้นหนึบมากขึ้น ยังเพิ่มความหล่อให้กับตัวรถด้วย
และ ณ ตอนนี้น่าจะเป็นรถรุ่นเดียวในย่านพิกัดนี้ราคาเท่านี้ ที่มีเบรคแบบเรเดี้ยนเมาท์มาให้
เบรคหน้าคู่นี้จากที่ทดสอบมาจัดว่าตามมือดีครับ ไม่มีอาการหยาบกระด้าง ให้ฟิลลิ่งเหมือนเราเอามือไปบีบผ้าเบรคเองยังไงยังงั้น
ส่วนเบรคหลังถือว่าใช้ได้ไม่ถึงกับโดดเด่นอะไรมากเมื่อเทียบกับเบรคด้านหน้า
และอีกหนึ่งไฮไลท์แบบรุ่นใหญ่ไฟกระพริบก็คือโช้คอัพหน้าแบบหัวกลับ (Upside Down)
บังโคลนหน้าเป็นแบบ Long Mudguard
ส่วนโช้คหลังเลือกใช้บริการของ YSS เสริมความแน่นของช่วงชุดด้านล่างด้วยอกไก่สีเข้ากับตัวถัง
ที่เบาะท้ายนั้นก็ครอบตูดมดมาให้เลย
สามารถถอดออกได้ง่ายๆเพื่อใช้ซ้อนได้ด้วยนะครับเติมความคลาสสิกเข้าไปให้เต็มตัว
ส่วนเลข 10 ที่ตัวถังนั้น บ่งบอกถึง 10 ปีของการก่อตั้งค่าย GPX ที่บอกไว้นั่นแหล่ะครับ
ส่วนของถังน้ำมันนั้นให้ความจุมามากถึง 13 ลิตร
ที่ตัวถังมีลวดลายเสริมความโมเดิ้นด้วยหนังที่แซมมา
โดยความจุของน้ำมันเชื้อเพลิงจะแยกกันดังนี้นะครับถังหลักที่อยู่ด้านบนจะจุได้ประมาณ 11.5ลิตร
ส่วนที่แยกมาตรงก็อกสองอีก 1.5ลิตร เอาเป็นว่าเดินทางไกลกันสบายๆ แค่อย่าเผลอเปิดก็อกสองไว้ล่ะ
แม้จะมีเกจบอกระดับน้ำมันเราก็ควรระวังตรงนี้ไว้บ้าง
อีกจุดที่เสียดายคือฝาปิดถังสำหรับเจ้าตัวนี้ยังเป็นแบบต้องถือด้วยมือไม่ใช่แบบบานพับ
…
อีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจก็คือรถ GENTLEMAN 200 นั้นใส่เกียร์โยงมาให้จากโรงงานเลยครับ
สามาารถปรับระดับได้ตามมุมตามตำแหน่งการวางเท้าของแต่ละคนได้ไม่ยาก
ส่วนล้อนั้นแน่นอนว่าเมื่อมาในแนวคตลาสสิกอย่างนี้ จะต้องเลือกใช้ล้อแบบซี่ลวดขนาด 17 นิ้วทั้งหน้าและหลัง
รัดมาด้วยยางจากค่ายอิตาลี่นามว่า Pirelli นับว่าให้ของดีมาประจำการตั้งแต่ต้นกันเลย
ส่วนขอบยางนั้นด้านหน้าอยู่ที่ 110/70 ส่วนหลังอยู่ที่ 140/70
โซ่นั้นเป็นของยี่ห้อ RK รุ่น 560
ระบบสตาร์ทนั้นเป็นแบบสตาร์ทมือไฟฟ้า สวิทต่างๆมีมาให้เหมาะสมกับการใช้งานเอื้มมือถึงได้ไม่ยากเย็น
ด้วยดีไซน์ที่โดนใครหลายๆคน ทำให้แน่นอนว่าคำถามที่ตามมาก็คือแล้วราคาล่ะ
ทางค่าย GPX ได้แจ้งราคาออกมาอย่างเป็นทางการแล้วครับ โดย LEGEND GENTLEMAN 200 นั้นมีราคาอยู่ที่ 69,800 บาท
ซึ่งราคาก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับตัวแทนจำหน่ายในแต่ละที่เล็กน้อย
…
เมื่อเล่าถึงข้อมูลต่างๆของตัวรถเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เรามาต่อในส่วนฟิลลิ่งการขับขี่โดยรวมๆกันบ้างครับ
ด้วยความที่ความหล่อของรถต้องถูกแลกมาด้วยความเมื่อย แต่นั่นคงไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรถ้าใจรักรถทรงแบบนี้
ซึ่งหลายๆคนก็คงทราบกัน วิธีแก้ไขเยอะแยะมากมายไม่ว่าจะเป็นการปรับแฮนด์ให้เข้ามาใกล้ตัว หรือกระทั่งการเปลี่ยนแฮนด์ไปเลย
อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคลละครับ
แต่ฟิลลิ่งที่จะกล่าวถึงในที่นี้คือรถแบบเดิมๆที่ออกมาจากศูนย์กันเลย
ทันทีที่เดินคันเร่ง แม้ว่าเครื่องบล็อกนี้จะถูกยัดมาในหลายๆรุ่น แต่คาแรคเตอร์ของเครื่องยนต์ที่ถูกนำมาใช้ ก็ไม่ได้เหมือนกันไปซะทั้งหมด
เจ้า Gentleman มีซุ่มเสียงที่ไม่ก้าวร้าว นุ่มดุดันเข้ากับสไตล์รถได้เป็นอย่างดี รอบของเครื่องยนต์ที่ทำงานได้ดีในช่วงต้นและกลาง
แม้ปลายจะแผ่วๆและต้องรออยู่บ้าง ท็อปสปีดตามหน้าไมล์ไหลไปได้ถึง 150 เมื่อเทียบ GPSจากมือถือแล้วจะอยู่ที่ราวๆ 135 ครับ
ช่วงล่างทั้งหน้าและหลังเมื่อทำงานร่วมกันกับยางที่ให้มา มันเป็นอะไรที่ลงตัวกลมกล่อม
สำหรับคนตัวเล็กๆหน่อยขับได้สบายๆครับ น้ำหนักของรถไม่ได้มากมายควบคุมได้ง่าย
แต่อาจมีหงุดหงิดบ้างเวลาที่ต้องจอดรถเนื่องจากตำแหน่งพักเท้าจะอยู่ตรงกับตำแหน่งที่เราหย่อนขาพอดี
ถ้าถามถึงความแรงให้ลืมเจ้า Gentleman ไปก่อน
แต่ถ้าถามถึงความหล่ออย่างแรง Gentleman มาเต็มๆ
เคยอยากขับรถหล่อๆสักคัน ที่ขับใช้งานได้ทุกวี่ทุกวันแล้วมีแต่คนถามมั้ย?
แล้วคุณเจอรักแรกพบแบบที่ผมเอ่ยไว้ข้างต้นหรือเปล่า?
ถ้าใช่ มันคืออีกหนึ่งรุ่นที่คนต้องถามคุณเมื่อเป็นเจ้าของมันหลายๆคนเป็นแน่แท้ เพราะความหล่อของมันเกินจะห้ามใจไหวจริงๆ
ฟิลลิ่งในการขับขี่โดยรวมๆแล้วอันที่จริง ขับๆไปเถอะครับยังไงมันก็หล่อ
ความสุขุมของเครื่องยนต์ และเสียงไพเราะๆของท่อไอเสียที่รูปทรงที่เป็นแบบคลาสสิคโมเดิร์นแบบเต็ม
ที่ให้ซุ่มเสียงเป็นทำนองแบบ EDM แบบซอฟท์ๆ
ระบบช่วงล่างทั้งด้านหน้าและหลัง ประสานสอดคล้องเป็นดนตรีบรรเลงโอเปร่า
ทำให้ท่วงท่าในการซับแรงกระแทกต่างๆออกมาแบบสวยงาม
กับรถที่มีค่าตัวแบบว่าเจ็ดหมื่นมีทอนแบบนี้ บอกได้เลยว่าของเค้าดีจริงครับ
…
มาถึงช่วงสุดท้ายนี้ ก็ไม่มีอะไรมากครับอยากให้เปิดใจกับค่ายรถไทยกันดู
หลายๆปี หลายๆรุ่นที่ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านฝนกันมา ก็พอพิสูจน์ได้ว่า จริงๆแล้ว
รถของค่ายไทยเรานั้นก็ไม่ได้ด้อยเลย จริงอยู่ว่าในบ้างด้านอาจเปรียบกับค่ายยักษ์ใหญ่ไม่ได้
แต่ทาง GPX เองก็ไม่ได้หยุดพัฒนา มีรถออกมาให้เราได้ยลกันอยู่เสมอพร้อมกับปรับปรุงมาเรื่อยๆ
ถ้าระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาก็พิสูจน์GPX ได้ด้วยเช่นกัน
ส่วนเจ้า Legend Gentleman นั้น จะเหมาะหรือไม่เหมาะกับใคร
อันนี้ผมคงตอบแทนให้ไม่ได้ ผู้อ่านต้องลองถามใจตัวเองดูแล้วล่ะครับ
แต่สำหรับผม ผมรักมันตั้งแต่แรกพบแล้วล่ะ แล้วคุณล่ะ รักมันแบบที่ผมรักมั้ย
ในท้ายที่สุด บทความนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่มีผู้สนับสนุนดังนี้ครับ
Just-Ride-it ต้นสังกัดผู้สนับสนุนมอบหน้าที่ให้ทดสอบและนำมาเล่า ครับ
https://www.just-ride-it.com/
http://www.facebook.com/justrideitteam/
GPX RACING ที่ให้เจ้า legend gentleman มาใช้เพื่อจัดทำบทความ
http://www.gpxthailand.com/
http://www.facebook.com/gpxracingthailand/
ภาพสวยๆจากตากล้องอินดี้ผู้ไม่มีล็อกอิน ToTo_Graph
http://www.instagram.com/kitkun_toto/?hl=th
…
ฮั่นแน่ หลายๆคนคงกำลังคิดทวงถามในใจ
รูปเซ็ตแรกตามคำที่บอกไว้ จัดให้โดยพลัน
และขอบคุณทุกๆท่านมากๆครับ ที่คอยติดตามทีมงาน just-ride-it กันมาโดยตลอด
รูปรถเพื่อประกอบการพิจรณาค่อนข้างเยอะ ตรวจสอบความไวของเน็ตท่านให้ดีๆกันก่อนกดรับชมด้วยนะครับ แฮ่ๆ
และปิดท้ายด้วยภาพที่ถูกร้องขอมามากที่สุดละกันครับ
แถมอีกนิดด้วยคลิปสั้นๆ
ขอบคุณอีกครั้งที่รับชมครับ ^^
บทความโดย lotteidol
Linkต้นฉบับ https://pantip.com/topic/36457894/