REVIEW Chevrolet Colorado High Country Storm สัมผัสสังขละบุรีวันธรรมดาแต่รู้สึกไม่ธรรมดา


สวัสดีครับ นับเป็นครั้งแรกเลยที่ login TopsaVage มาตั้งกระทู้ในห้อง Pantip รัชดา รถยนต์

TopsaVage ขอฝากเนื้อฝากตัวต่อผู้เยี่ยมยุทธ์ทั้งหลายด้วย หากมีข้อมูล และข้อเสนอใดให้ปรับปรุง ก็คอมเม้นท์พูดคุยกันได้เลยนะครับ

วันนี้ผมขอนำเสนอรีวิวรถกระบะท่องเที่ยวแบบชิลๆ สบายๆ ค่อยๆปล่อยเวลาเลื่อนไหลไป

แต่ไอ้จะไปคนเดียวเดี่ยวโดดมันก็กลัวจะเหงา ชวนเพื่อนชวนแฟนไปปาร์ตี้ด้วยกันเลยน่าจะดีกว่า


ท่านแรกอาจารย์วิชิต บางซ่อน จากห้องมอเตอร์ไซค์


ท่านต่อมาคุณลูกหว้า สาวมอญสุดสวย ลูกสาวป้าหยิน ขนมจีนหยวกกล้วย เชิงสะพานมอญ ฝีมือขี่รถเครื่องพริ้วน่าดู


พรสิบประการ (พี่หว่อง) หนุ่มตี๋มาดไหหลำ ไปที่ไหนเจอทักว่า หนีห่าว ตลอด

lotteidol ชายหนุ่มอารมณ์ดี ผู้มีเชิงกลอนไม่แพ้ใครในโลกา

สุดท้ายก็แฟนเจ้าของกระทู้ ตามมาช่วยถ่ายรูป และช่วยกินกับข้าว ซึ่งนางขอไม่ออกสื่อในช่วงนี้ เพราะบ่นว่าตัวเอง ตัวโตเกินพิกัดไปหน่อย 5555+

ทริป กระบะยักษ์ กับ สามมอเตอร์ไซค์ ไปเที่ยวสังขละก็บังเกิดดดดด

ก่อนออกเดินทางงงงง


ขอเปิดกระโปรงมุดดูสภาพความพร้อมเครื่องยนต์เล็กน้อย Colorado High Country Storm จะเป็นเครื่องยนต์ดีเซล ดูราแมกซ์ 2500cc. ติดเทอร์โบแปรผัน VGT มีม้าในคอกทั้งหมด 180 ตัว แรงบิดอื้อซ่า 440 นิวตัน-เมตร

น้ำหล่อเย็น และน้ำมันเบรก อยู๋ในระดับปกติ

ช่วงนี้เจอฝนบ่อย เติมน้ำฉีดกระจกไว้ให้เต็มไปเลย เพื่อความสบายใจ

ระดับน้ำมันเครื่องก็ปกติเช่นกัน

แบตเตอรี่แห้ง เอ้า อดเช็คระดับน้ำกลั่นเลย 555+ สภาพปกติดีเช่นกัน

กระปุกน้ำมันไฮดรอลิกสำหรับพวงมาลัยไม่มีนะฮะ คันนี้พวงมาลัยไฟฟ้าEPS แถมเอาชุดมอเตอร์ไฟฟ้าไปแอบติดตั้งไว้บนชุดแกนแร็ค แล้วซีลรอบตัวเพื่อกันน้ำ กันฝุ่นไปเลย

แรงดันลมยางทั้งสี่ล้อ ผมเติมไว้ตามสเปคที่ระบุตรงข้างประตูคนขับที่ 35psi ที่หน้าจอมาตรวัดดิจิตอลก็มีข้อมูลตรงนี้บอกแต่จะแสดงเป็นหน่วย ปาสคาล

ส่วนอันนี้คืออุปกรณ์สร้างความบันเทิงทางอาหาร ปกติถ้าขี่มอเตอร์ไซค์กันมา ขนแบบนี้ไม่ได้นะเนี่ย 555+

พร้อมแล้วครับพี่น้อง เดินทางได้…….


เราเลือกใช้เส้นทาง บางใหญ่ บางเลน กำแพงแสน แล้วทะลุไปโผล่ตรงสี่แยกแก่งเสี้ยน กาญจนบุรีเลย

รถยนต์กับมอเตอร์ไซค์ นัดจุดแวะพักครั้งต่อไปให้ชัดเจน ใช้ความเร็วเดินทางปกติ รับรองว่าถึงก่อนหลังกันไม่เกิน 5 นาทีแน่นอน (นอกจากจะเจอรถติดขนาดหนักนะครับ)

เช้าวันธรรมดาก็จะมีรถเยอะนิดหน่อยช่วงบางใหญ่ แต่พอพ้นมาได้ ทางก็จะโล่งงงงยาวววววววว ผมเลยชอบใช้เส้นทางนี้มากกว่า ศาลายา นครชัยศรี บ้านโป่ง กาญฯ

แวะเติมน้ำมันเต็มถังกันที่ปั๊มบางจากหน้าเมืองมัลลิกา แล้วรีเซททริปไว้ ขาลงมาจะเติมเต็มอีกครั้งเพื่อตรวจสอบอัตราสิ้นเปลือง
ส่วนมอเตอร์ไซค์ร่วมทริป ต้องจอดเติมกันที่ไทรโยค และปากทางทองผาภูมิ

จากหน้าเมืองมัลลิกา สู่ทองผาภูมิ เส้นทางตรงงงงง มีเนินสลับ ขึ้นๆลงๆ และโค้งไฮสปีดเล็กน้อย ความเร็วที่ใช้ก็ราวๆ 100-120 รอบเครื่องที่เกียร์ 6 อยู่ในช่วง 1500 – 2000 รอบต่อนาที

เทอร์โบทำงานรอเบาๆตั้งแต่ช่วง 1500 รอบ ต้องการความเร็วเพิ่มก็กดคันเร่งลงไปได้เลย ความรู้สึกคือไม่ดึงกระโชกโฮกฮาก แต่พอเหลือบตามองจอมาตรวัดปุ๊บ อ้าว อีกนิดก็จะ 140 แล้วนี่หว่า พอๆ


อากาศดีฟ้าใสๆ ใช้เวลาไม่นานนักเราก็มาถึงตลาดทองผาภูมิ แวะซื้อปลาคังสดหนึ่งตัวล่ำๆ พร้อมด้วยเครื่องปรุง

ทุกครั้งที่ผมขึ้นสังขละฯ อดไม่ได้ที่จะแวะไหว้พระพุทธรูปตรงจุดนี้ เพื่อความสบายใจ  จากแยกทองผาภูมิขึ้นสู่สังขละฯ จะมีระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร

การเดินทางในวันธรรมดา รถร่วมสัญจรมีน้อย แต่ก็ต้องระมัดระวัง เพราะถนนแคบ และผ่านจุดชุมชนหลายครั้ง

สภาพเส้นทางช่วงนี้จะเป็นโค้งหลากหลายรูปแบบ มีขึ้นและลงเนินชัน ผิวถนนมีรอยแตกเป็นบางจุด (มีน้อยมากกก)

ลองเปลี่ยนมาเล่นเกียร์ Manual Mode ดูบ้าง ผลักขึ้นเป็น + ผลักลงเป็น – หลักๆก็ใช้เกียร์ 3 – 4 นานๆครั้งจะลงถึงเกียร์ 2

การเปลี่ยนเกียร์ทำออกมาได้ราบรื่นดี เพียงแต่ยังไม่ถึงใจนัก เพราะด้วยความที่ TopsaVage เองขับรถเกียร์กระปุกธรรมดามาโดยตลอด

การใช้เกียร์ในการขึ้น ลง เนิน หรือเข้าโค้งแบบถนนเส้นนี้ จึงทำให้นึกอยากได้เกียร์ธรรมดากับคลัชต์นุ่มๆขึ้นมาตะหงิดๆ แหะๆ

ใช้เวลาไม่นานนัก เราก็ถึงจุดหมาย สังขละบุรี

ปอลอ. จากสามแยกด่านเจดีย์สามองค์ เข้าอำเภอสังขละฯ กำลังทำถนนเพิ่มเป็นสี่ช่องจราจร ระยะทางประมาณ 2-3 กิโลเมตร ระมัดระวังด้วยนะจ๊ะ

 


สะพานมอญในวันเหงา แต่เรามากับเพื่อนจ้าาา

พี่หว่อง พรสิบ ถึงกับพร่ำเพ้อไปเลย โห… นี่หรอวันธรรมดา ไม่มีคนเลยวุ้ย สะพานนี้เป็นของข้า กระดี๊กระด๊ากันใหญ่


นี่ถ้าเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ คนคงเต็มสะพานแน่ๆ


มองไปไกลๆ เห็นสายฝนกำลังเริงระบำลงสู่พื้นเบื้องล่าง โอ้ยย ฉ่ำจิตเป็นที่สุด

 

ที่พักชื่อ แกงอ่อม ผักหนาม ราคาห้องพักคืนละ 700 บาท ถ้าเพิ่มชุดเครื่องนอนก็บวก 100 บาท ห้องกว้างมากกกกก

ห้องเดียว นอนสัก หกคน ก็ได้ และด้วยความที่เรามากันในวันธรรมดา เลยมีแค่คณะพวกเราเองเท่านั้น

สบายเลยครับ ทำกับข้าวกินกันที่ศาลาของทางที่พักโลดดดด


กำกับโดยอาจารย์วิชิต  ปลาคัง ลวกจิ้ม ต้มยำปลาคัง คอหมูทอด วุ้ย เพียบ

กับข้าวคืนแรก

กลัวไม่ซี้ด ทำน้ำจิ้มเพิ่มหน่อย

มือกลางวันทำง่ายๆ ไข่เจียว กับ ผัดยอดฟักแม้วริมรั้วที่พัก

กับข้าวคืนที่สอง

หน่วยรอกิน 555+

 

เช้ารุ่งขึ้นมาอีกวัน พยาธิในพุงเริ่มก่อม๊อปประท้วงเร่งเร้าก็ต้องนี่เลย โจ๊กหมู โรยหมี่กรอบ

หึหึ หนมจีนหยวกกล้วยก็ส่งยิ้มหวานมาให้ ไหนลองเรียกมาเชยชมสักหน่อยซิ

ยังๆ ยังไม่จบ ตบท้ายด้วยไข่ลวกเข้าไปอีก

แม่ค้าหน้ามลส่งยิ้มหวานจ๋อยยังงี้ มีอะไรในร้าน กินให้เรียบทุกเมนู 555+

มาสังขละก็ต้องแว๊บมาเที่ยวด่านเจดีย์สามองค์ซะหน่อย

ช๊อปปิ้งงงง

ทำไมภูเขาฝั่งนู้นเค้าดูสูงกว่าเขาฝั่งบ้านเรานะ

ระหว่างทางเจอป้ายบอกน้ำตกและหน่วยพิทักษ์ป่าตะเคียนทอง ลองเลี้ยวเข้าไปดูหน่อย แต่ด้วยความที่ฝนตกมาตั้งแต่เช้า สภาพทางเดินเข้าไปลื่นเละ เลยขอฝากไว้ก่อน หากมีโอกาสคราวหน้าค่อยมาใหม่

จุดแวะพักต่อมาก็นี่เลย แม่น้ำซองกาเรีย ในวันที่ไป น้ำไหลเชี่ยวแรง ไม่เหมาะกับการลงไปแช่น้ำ ถ้าเป็นช่วงหน้าร้อน ละก็รับรองว่าสุดยอดแห่งความฟินเลย
วิถีคนท้องถิ่น

สถานีความชิลต่อไป เจดีย์ พุทธคยา

เชื่อมั่น ศรัธทา

ทั้งหมดนี้คือเศษเสี้ยวหนึ่งเท่านั้นของ สังขละบุรี ดินแดนไทย มอญแห่งนี้ ยังมีสถานที่สวย เงียบ สงบ อีกเยอะมากที่ผมเองก็ยังไม่ได้ไปสัมผัส

เอาไว้เรากลับมาพบกันอีกนะ สังขละบุรี

 

เที่ยวเสร็จแล้ว มาดูรายละเอียดรถกันบ้างนะครับ

เริ่มจากด้านหน้าก่อนเลย โคมไฟหน้าแบบ มัลติรีเฟลกเตอร์ฮาโลเจน
ไฟส่องสว่างตอนกลางวัน แบบ LED Tube มองเห็นชัดตั้งแต่ระยะไกล
มีระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติตามสภาพแสงมาให้ด้วย

ใต้ไฟตัดหมอกจะมีเซนเซอร์ฝังอยู่ มีระบบเตือนการชนด้านหน้า
เตือนเมื่อขับออกนอกช่องจราจรโดยไม่ได้เปิดไฟเลี้ยว ที่ความเร็ว 60km/h ขึ้นไป

คานบนหลังคาไว้สำหรับขนสัมภาระเพิ่มเติมได้อีกเอ้า

ล้ออัลลอย 18 นิ้ว ควงคู่ยาง Bridgestone Dueler ขนาด 265/60 R18
ตอนเห็นยางทีแรกนึกในใจไอ้หยาา มันต้องโดดเด้งแหงๆ แต่พอขับจริง เอ้ออ ผิดคาดแฮะ ช่วงล่างทั้งหน้าและหลังประสานสัมพันธ์ช่วยกันรับมือได้เยี่ยมเลย
ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น พร้อมเหล็กกันโคลงขนาดบิ้กเบิ้ม
ช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบแหนบซ้อน 4 แผ่น
บุคลิกช่วงล่างช่วงความเร็วต่ำนุ่มๆแน่นๆ ไม่ค่อยมีอาการตึงตังให้รู้สึกมากนัก
ความเร็วเดินทางระดับปกติ แล้วเจอหลุมหรือสภาพพื้นไม่เรียบ จะพบอาการยวบเล็กน้อยตามแบบกระบะยกสูง แต่ก็ไม่นุ่มเกินไปจนย้วยแน่นอน
ซึ่งอาการดังกล่าวก็ไม่มากมายเลย ช่วงล่างหน้าหลังชุดนี้จัดการต่ออาการที่เกิดขึ้นได้อย่างดีเลย

น้ำหนักจากพวงมาลัยไฟฟ้า ที่ความเร็วต่ำ มันเบาดีจัง เบาจนติดใจ (ขับรถเก่ามานานก็งี้แหละ พอเจอรถพวงมาลัยเบาๆก็ติดใจ 555+)
เพิ่มความเร็วในย่านเดินทาง น้ำหนักพวงมาลัยหนืดขึ้นในระดับที่กำลังดีแล้ว
ส่วนความแม่นยำของพวงมาลัย อยากให้เพิ่มความเฉียบคมมากกว่านี้อีกนิด


ระบบเบรก หน้าดิส หลังดรัม มีระบบป้องกันล้อล็อค ABS ระบบกระจายแรงเบรกอัตโนมัติ และ ระบบเสริมแรงเบรกรองรับการเบรกกะทันหัน
ความรู้สึกของแป้นเบรก ต้องกดลึกกว่าปกตินิด ไม่ตื้นแบบกดนิดหัวทิ่มปั๊บ
ความเร็วแบบใช้ในเมือง น้ำหนักเบรกนุ่มนวลดี
ความเร็วเดินทางบางจังหวะ อย่างที่บอกไป มันต้องกดลึกสักหน่อย การหน่วงความเร็วทำได้ในระดับดี
ทดลองในสถานที่เหมาะสม กระทืบเปรี้ยงแบบเต็มเท้าจากความเร็วราวๆ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะการหยุดน่าพอใจ


หน้าตากุญแจ ล็อค และ ปลดล็อคประตู กับอีกปุ่มคือออออ ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์
กดล็อคประตูรถก่อน แล้วกดเจ้าปุ่มตรงกลางแช่ไว้ เครื่องยนต์ก็จะติดขึ้นมา พร้อมเปิดแอร์ไว้รอต้อนรับ
เมื่อกดปลดล็อคและขึ้นนั่งบนรถแล้ว ก็เสียบกุญแจแล้วบิดเหมือนสตาร์ทเครื่องยนต์ตามปกติ ถึงจะเคลื่อนรถออกไปได้

ระบบอัตโนมัติอีกอย่างที่น่าสนใจมากนั่นก็คือ
กระจกหน้าต่างจะลดลงมานิดนึงตอนที่เราเปิดประตูรถคู่หน้า เมื่อปิดประตูเรียบร้อยกระจกก็จะเลื่อนขึ้นเอง
ลดแรงดันอากาศภายในห้องโดยสาร แก้อาการหูอื้อ หูวิ๊ง ตอนปิดประตูได้ชะงัดนัก


เบาะนั่ง หุ้มด้วยหนัง เฉพาะฝั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง
ส่วนที่รองนั่ง ยาวรองรับต้นขากำลังดีแล้ว
แต่ส่วนพนักพิงหลัง ปีกข้างของเบาะที่ควรทำหน้าที่โอบช่วงลำตัวยังไม่ให้ความรู้สึกที่กระชับนัก


เบาะนั่งด้านหลัง ติดตั้งเบาะนั่งสำหรับเด็กได้ มีเข็มขัดนิรภัยครบทั้งสามตำแหน่ง ถ้าขึ้นมานั่งแล้วไม่คาด เซนเซอร์ก็จะร้องเตือนด้วย
TopsaVage สูง 173 ลองขึ้นไปนั่งแล้ว กว้างขวางเพียงพอสำหรับการเดินทางไกล ถ้าผู้โดยสารด้านหน้าไม่ได้มีไซส์ยักษ์ๆ ไม่ปรับเบาะเลื่อนมาด้านหลังจนสุด พื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังก็ยังสามารถนั่งไขว่ห้างได้อย่างสบายๆ
ช่องเสียบอุปกรณ์ไฟฟ้าด้านหลังก็มีให้ กลัวคนนั่งด้านหลังจะเหงาจนแชทมือถือเพลินแล้วแบตหมดไง


ความรู้สึกด้านพละกำลัง 2500cc.  180ม้า เป็นอย่างไรบ้าง
ลองเหยียบคันเร่งแบบเต็มเท้า แรงดึงมาแนวหล่อนุ่มสุภาพ ไม่ดึงหน้าหงายหลังติดเบาะ
ช่วงรอบความเร็วต้น(ก่อน 2000รอบ) อาจจะรู้สึกเหมือนง่วงๆหน่อย ห้ะ อะไรนะขอรับเจ้านาย จะเรียกใช้ผมหรือขอรับ รอสักครู่นะขอรับ
ช่วงรอบความเร็วกลาง ถึงปลาย(เลย 2000รอบขึ้น) กระฉับกระเฉงขึ้นมามาก ได้เลยขอรับเจ้านาย ถึงไหนถึงกัน ปริ้ดๆ

อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง

เนื่องจากถังน้ำมันขนาดใหญ่มากกกกก และความแกลบของTopsaVage จึงขอวัดแค่ครั้งเดียวพอนะครับ แหะๆ
ระยะทางที่วิ่งไป 510.1 กิโลเมตร
(ตั้งแต่ปั๊มบางจากเมืองมัลลิกา สู่สังขละ ขับโต๋เต๋ในสังขละ แล้วกลับมาเติมกลับเต็มถังที่ปั๊มปตท.ไทรโยคน้อยใกล้ๆรางรถไฟ)
เติมน้ำมันกลับเข้าไป 45.369 ลิตร

เลขที่ออกกกก  11.24336 กิโลเมตร ต่อ ลิตร

ระบบความปลอดภัยก็อัดมาเต็มพิกัด
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESC (Electronic Stability Control)
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS (Traction Control System)
ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control)
ระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางชัน HSA (Hill Start Assist)
ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกช่องจราจร Lane Departure Warning
ระบบเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning จะทำงานต่อเมื่อความเร็วเกิน 40km/h

เมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ ผมได้มีโอกาสขับ Chevrolet Colorado ของญาติ ตอนนั้นความรู้สึกเราก็บอกว่า มันก็คือรถกระบะธรรมดานี่แหละ ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร

ผ่านมาหลายปี Colorado ได้รับการปรับปรุงหลายด้าน ทั้งรูปลักษณ์ ความสะดวกสบาย เกียร์ ช่วงล่าง เครื่องยนต์ และระบบช่วยเหลือด้านความปลอดภัย

แค่ก้าวขึ้นรถ เราก็ตื่นเต้นกับลูกเล่นมากมายที่รถยุคนี้มีให้
กว่าจะเรียนรู้หลายๆอย่างได้ นอนอ่านคู่มือเพลินไปเลย


ไว้หากมีโอกาสคราวหน้าได้ลองขับรถอะไรแปลกใหม่อีก จะนำมาแบ่งปันให้ท่านผู้อ่านได้เสพกันอีกนะครับ

รีวิวนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวและเกิดจากประสบการณ์ของเจ้าของกระทู้เท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจด้วยนะครับ

ขอขอบคุณ
Chevrolet (Thailand) เอื้อเฟื้อรถทดสอบ
ทีมงาน Just Ride it ที่ยังพร้อมจะเดินทางด้วยกัน แม้จะไม่ใช่มอเตอร์ไซค์ล้วนๆก็ตาม
แฟนสาวสายลุย สายกิน 555+
และท่านผู้อ่านทุกๆท่านที่ติดตามรับชม

 

บทความโดย TopsaVage