เมื่อครึ่งปีที่ผ่านมา ทางทีม just-ride-it https://www.just-ride-it.com/
ได้เคย ทำบทความของขบฎรุ่นพี่ REBEL 500 ไปแล้ว
ครั้งนี้ถึงคราวรุ่นน้อง แต่ไม่สุดท้องกันบ้าง กับเจ้า REBEL 300
ที่ขนาดเครื่องลดลงอีกหน่อยแต่ไม่น้อยเรื่องความสามารถต่างๆ
” ขบฎ ” เอาเข้าจริงๆ คำๆนี้ สำหรับผมเอง มันเหมาะกับตัวสามร้อยซีซีมากกว่า ในทัศนะของผมเองนะครับ
เพราะมันมีความดื้อดึง มีความหยาบกร้านในการใช้คันเร่งมากกว่าตัว 500 ซะอีก
ให้ความรู้สึกว่าเจอเพื่อนเก่าที่เราคุยสบฏหยาบโลนใส่กันได้แบบไม่ต้องเกรงใจอะไรกันมากนัก
ความสะท้านเล็กๆที่แผ่มาที่มือ มันคือกลิ่นไอ ที่น่าหลงไหลกับรถแนวนี้ และกลิ่นมันชัดเจนเข้มข้น
เช่นเคยว่า มาบอกเล่าแบบง่ายๆ เพราะสเปคต่างๆ หลายๆท่านก็ทราบกันดีแล้วล่ะ
จะเกริ่นยาวมากๆก็กะไรอยู่ เอาเป็นว่ามาอ่านไปพร้อมๆกันครับ ^^
ประวัติความเป็นมาของรถที่ถูกขนานนามว่า ขบฎ REBEL ก็สามารถย้อนไปอ่านได้จากบทความเก่า
ตามลิ้งค์นี้ครับ https://www.just-ride-it.com/honda-rebel-500-simple-review-chill-style/
จึงขอข้ามส่วนของประวัติตรงนี้ไป
เรามาเข้าเรื่องของเจ้า ขบฎน้อยสามร้อยซีซี คันนี้เลยดีกว่า
……….
-เครื่องยนต์ความเหมือนที่แตกต่าง
คำๆนี้วนเวียนอยู่ในห้วงความคิดทันทีในครั้งแรกที่ได้ขับขี่เจ้า rebel300
ที่บอกไว้ต้นบทความว่า มันให้ความเป็น ขบฏได้มากกว่า
นั่นเพราะเอกลักษณ์ของเครื่องยนต์ ที่เป็นแบบสูบเดี่ยว
มันมีความหยาบกร้านสะท้านขึ้นมาถึงมือ มากกว่าตัวรุ่นใหญ่
เมื่อย้อนกลับไปถึงเครื่องยนต์ก่อนหน้าที่จะเป็น rebel โฉมปัจจุบันทั้งสองรุ่นนี้
ซึ่งรุ่นใหญ่จะให้ความรู้สึกสุขุมๆและนุ่มลึกได้มากกว่าก็จริง
แต่ให้ความเร่าร้อนในมือได้ไม่เท่าตัวสามร้อย
เจ้าสามร้อยตัวนี้ มีกลิ่นไอของความดิบความดื้อของ rebel แต่ดั้งแต่เดิมได้มากกว่า
แม้กำลังเครื่องยนต์จะน้อยกว่าเจ้ารุ่นใหญ่ก็ตามครับ
ก็คงตามสไตล์รถสูบเดียวสามร้อยซีซี
อัตราเร่งในช่วงต้นแทบไม่แพ้รุ่นใหญ่ เพียงแค่ปลายอาจจะไหลได้ไม่เท่า
ในย่านความเร็วเฉลี่ยที่ราวๆ 120 นี่ก็ไม่ใช่ปัญหา
ถ้าอยากได้มากและเร็วกว่านั้นก็คงต้องมองรุ่นใหญ่กันไป
ตรงนี้หลายคนก็คงชอบ และหลายคนก็คงเฉย
สิ่งนึงที่อาจดูขัดหูขัดตา แต่ผมมองว่ามันก็ไม่ได้อะไรนะ
ก็คือเครื่องยนต์เวลาที่มาวางอยู่บนเฟรมแล้ว
มันดูโล่งๆโปร่งๆ ไม่แน่น เท่าไหร่นัก
……….
-รูปลักษณ์
มองไกลๆไหนเลยจะรู้ว่าเป็น 300 CC
ถ้าไม่สังเกตุที่เครื่องยนต์ โดยรวมมวลรถทั้งคัน มันเหมือนรุ่นพี่จนแยกไม่ออก
ไม่ว่าจะเป็นเรือนไมล์ ไฟเลี้ยว ไฟเบรค บลาๆ รุ่นพี่ได้ยังไง สามร้อยก็ได้ยังงั้น
………..
-ฟีลลิ่งการขับขี่
ตรงนี้เป็นอีกจุดที่น่าสนใจ และมีผลกับการตัดสินใจของใครหลายคน
เท่าที่เคยพบและพูดคุยมา รวมถึงหลังจากการทดสอบด้วยตัวเอง
จริงอยู่ว่าภายนอก รวมถึงระบบซับแรงต่างๆของรถเหมือนกัน แต่ด้วยขนาดเครื่องยนต์ที่แตกต่าง
ทำให้น้ำหนักตัวรถนั้นน้อยกว่า การที่รถมีน้ำหนักน้อยกว่า ย่อมมีผลกับการควบคุมรถครับ
การบังคับ พับรถเลี้ยวต่างๆ จากที่เคยแปลกใจกับตัวห้าร้อยไปแล้ว สามร้อยก็ทำให้แปลกใจเพิ่มขึ้นอีก
เฮ้ยยยย มันง่ายกว่า รวดเร็ว และ แม่นยำกว่า
แต่ๆๆๆ ในความง่าย ก็ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยนกันบ้างครับ
การที่น้ำหนักตัวรถน้อย ย่อมมีทั้งดีและสังเกตุเข้ามาให้เปรียบเทียบ
การควบคุมที่ง่าย รวดเร็ว แม่นยำ แต่กระนั้นมันก็ยังแน่นสู้รุ่นใหญ่ไม่ได้
ก็คงเป็นเพราะน้ำหนักที่น้อยกว่านี่แหล่ะครับ
เวลาที่เข้าโค้งกว้างๆด้วยความเร็วมากหน่อย จะรู้สึกว่าเคว้งคว้างกว่ากันอยู่พอสมควร
แต่ไม่ได้หมายความว่าเข้าโค้งไม่ดีนะ มันดีเกินความคาดหมายไปไกล
อย่างที่เคยบอกไว้ตั้งแต่ขับตัวรุ่นใหญ่ไซส์ 500 ไว้เลยครับ ดีจนไม่คิดว่าจะเข้าโค้งได้ง่ายจากรถสไตล์นี้
สิ่งที่ทดแทนกันจากตัว 500 ก็น่าจะเป็นเรื่องการเข้าโค้ง หรือการบังคับเลี้ยวในช่วงความเร็วต่ำ
ตัว 500 จะมีอการดื้ออยู่บ้าง แต่กับตัว 300 สบายกว่าเยอะเลย
ที่สำคัญสำหรับ rebel ทั้งสองรุ่น คนตัวสั้นๆแบบผมยืนเต็มเท้านี่แหล่ะ ฮ่าๆๆๆ ชอบrebel ก็เพราะงี้
……….
-จะมุมไหนก็คล้ายๆกันแต่มันก็ไม่เหมือนกัน-
ภายใต้ความคล้ายในรูปลักษณ์ภายนอก เดี๋ยวจะสรุปแบบง่ายๆ กันนะครับ
ว่าเจ้าความต่าง ที่บางครั้งเราลืมๆไป มีอะไรบ้าง
……….
-บทสรุปง่ายๆสั้นๆ-
ในเรื่องของราคา เมื่อมองย้อนกลับมา ต่างกันราวๆ 75,000 บาท
ซึ่งถ้าซื้อไว้ใช้งานจริงๆไม่เน้นซิ่ง ผมชอบตัวสามร้อยมากกว่าด้วยนะ
ปัญหาหลักจริงๆที่หลายๆคนบอกกันคือ เมื่อต้องผ่อน แน่นอนว่าดอกเบี้ยของเจ้าสามร้อยหนักกว่าอยู่พอตัว
แต่ !!!!!! เรามองแต่เรื่องราคาตอนที่ผ่อน จนมองข้ามบางอย่างไปหรือเปล่า ???
สิ่งหนึ่งที่เจ้าสามร้อยได้เปรียบ ก็เป็นเรื่องค่าบริการยิบย่อยอื่นๆ มันเป็นเรตเดียวกับรถเล็กๆครับ
การบำรุงรักษาสำหรับคนที่คิดว่าจะขับรุ่นนี้ยาวๆ เมื่อนำมาบวกๆแล้วคิดในใจ ก็ถูกกว่ากันมากโขอยู่
ศูนย์บริการ หาง่ายกว่าสำหรับคนที่บ้านอาจจะไกล BIGWING แต่อยากได้รถทรงเท่ห์ๆขับสนุกสักคัน สามร้อยมันใช่ครับ
สุดท้ายจริงๆ มันขึ้นอยู่กับความชอบล้วนๆ ไม่ว่าจะห้าร้อยหรือสามร้อยก็ตามทีครับ
บทความนี้ก็เป็นแค่ส่วนนึง ที่ดึงข้อเปรียบระหว่างสองรุ่นนี้มาให้ได้ทราบกัน
เพราะจริงๆแล้ว มันไม่ได้สำคัญเลยว่าคุณจะขับ REBEL รุ่นไหน สำคัญแค่คุณถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัยหรือเปล่า
ไม่ว่าจะกี่แรงม้าหรือว่ากี่ซีซี ก็ขอให้ขับกันอย่างมีสตินะครับ ^^
แล้วพบกันใหม่ ในบทความต่อๆไป ที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่นะครับ ฮาาาา
สวัสดีครับ
