ในปัจจุบัน สถานการณ์ยานยนต์ในหลายประเทศทั่วโลก
ยานพาหนะเครื่องยนต์สันดาปภายใน เริ่มโดนเบียดแย่งพื้นที่จากประชากรรถไฟฟ้าและก็มีหลายประเทศที่ประกาศออกสื่อเสียงดังฟังชัด ว่าในอนาคตอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะเปลี่ยนให้รถที่วิ่งในประเทศทั้งหมด กลายเป็นรถไฟฟ้า 100%
ครั้งนี้ TopsaVage จาก Just Ride it ได้รับเกียรติเพื่อทดสอบรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
“ตัวต้นแบบ” จาก KEEPCOOL!
ชื่อรหัส Project-E1 หลายชิ้นส่วนของตัวรถ คุณแอนดี้ ผู้ออกแบบได้สร้างมันขึ้นมาเอง
รายละเอียดรอบคันจะเป็นอย่างไร เชิญรับชมกันครับ
KEEPCOOL! Project-E1 ใช้มอเตอร์ 4kW ปั่นพลังไปสู่ล้อ
จ่ายกระแสไฟจาก แบตเตอรี่ ลิเธียม nmc 5.2 kWh
หน้าตารูปทรงรถโดยรวม มีความดุดันขององศาแฮนด์กับท่านั่งสไตล์ Cafe Racer
ยึดหลัก Modern Classic ผสมผสานความเรียบง่ายดั้งเดิมคลาสสิค เข้ากับ เทคโนโลยี รถไฟฟ้าสมัยใหม่เข้าไว้ด้วยกัน
ระบบไฟส่องสว่าง ทั้งคันแบบ Full LED ไฟหน้าตากลมคลาสสิค
ไฟท้ายแบบเส้น รวมเอาไฟเลี้ยวเข้าไว้ด้วยกัน
ไฟเลี้ยวด้านหน้า แอบซุกไว้ตรงตุ้มปลายแฮนด์
ไฟสูง
ไฟต่ำ
มุมมองจากผู้ขับขี่ เรียบโล่ง สบายตา แบบไม่มีอะไรกั้น
ความยาวถังน้ำมัน (ที่ไม่ได้มีไว้ใส่น้ำมัน) กำลังดี
เบาะนั่งปักลายข้าวหลามตัดสีแดง ได้อารมณ์คาเฟ่ เรเซอร์ สุดๆ
มาตรวัดความเร็วแบบเข็ม มีจอบอกระยะทางรวมที่วิ่งไปทั้งหมด และมีจอแสดงความจุแบตเตอรี่ แยกไปไว้ต่างหากทางด้านซ้าย
ช่วงล่าง
ด้านหน้าให้ช็อคอัพแบบ Up Side Down ขนาดแกนช็อคอัพ 40มม. ความนุ่มนวลหนึบแน่น กำลังดี
ด้านหลังเลือกใช้ช็อคอัพคู่แบบสปริงพร้อมมีกระปุกซับแทงค์แก็ส ปรับระดับความแข็งอ่อนของสปริงตามน้ำหนักบรรทุกได้
ยางหน้า ขนาด 120/70 – 17
ยางหลัง ขนาด 160/60 – 17
ระบบเบรก บอกเลยว่าเหลือกินเหลือใช้
เบรกหน้า ใช้จานดิสคู่แบบเรเดียลเม้าท์ คาลิปเบอร์แบบ 4 พอร์ต ขนาดจาน 320มม.
เบรกหลัง ใช้จานดิสเดี่ยว คาลิปเปอร์เดี่ยว ขนาดจาน 260มม.
มือเบรกหน้าแบบก้านเหรียญปรับระดับได้
สเตอร์หลังขนาด 50 ฟัน เห็นทีแรก นึกว่ารถสตั้นท์ แต่นี่คือการคำนวนหาจุดเหมาะสมจากกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้า ที่จะปั่นกำลังลงสู่พื้นถนน
ชุดอุปกรณ์ชาร์จไฟ เสียบไฟบ้านจากปลั๊กไฟปกติ
ใช้เวลาชาร์จจนเต็มประมาณ 2-3 ชั่วโมง แล้วระบบจะตัดเองอัตโนมัติ
ตำแหน่งท่านั่ง นายแบบ สูง 173 น้ำหนักชั่งเมื่อเช้า 72 กิโลกรัม
คร่อมแล้ว วางเท้าลงพื้นแบบเต็มๆได้ทั้งสองเท้า แบบเข่ายังงอเล็กน้อย
ลองขี่ทดสอบ
ความง่ายดายที่นานๆทีจะได้สัมผัส ไม่ต้องเข้าเกียร์ ไม่ต้องกำคลัชท์ ไม่ต้องคิดเยอะ บิดแล้วเบรก แค่นั้นนนนน
กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าส่งออกมา เป็นไปในแนว นุ่ม สมูท ค่อยๆดึงพาตัวเราไต่ระดับความเร็วขึ้นไป ตามแรงที่เรากระทำต่อคันเร่ง
เริ่มทำความรู้จัก ปรับตัวเข้าหากันสักพัก ก่อนจะเพิ่มความดุดันในการกระแทกคันเร่ง
มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 4kW พาเข็มความเร็วกวาดขึ้นไปหาตัวเลข 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แบบพรวดพราดไม่ต้องลุ้นอะไรเยอะ
และจะเริ่มมีอาการเนือย หลังจากความเร็วผ่านตัวเลข 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะเป็นการค่อยๆไต่ความเร็วขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงช่วงความเร็ว 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงตามหน้าไมล์
ซึ่งก่อนออกมาจากจุดสตาร์ท ผู้ทดสอบก็ยัดมือถือพร้อมเปิดตัววัดความเร็วกับ GPS ใส่กระเป๋าไปด้วย
ความเร็วสูงสุดที่ทำได้ อยู่ที่ 133.34 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
จากนั้นจึงลดความเร็ว มาใช้ความเร็วเดินทางปกติ ตามหน้าไมล์ก็คือป้วนเปี้ยนอยู่ที่ 80-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
และแช่ไว้แบบนั้น เป็นระยะเวลาประมาณ 1ชั่วโมง
ทั้งทดสอบหาความเร็วสูงสุด 2 ครั้ง
ผ่านจังหวะคับขันตามถนนตลอดเส้นทาง ซึ่งต้องมีการเบรก ยกคันเร่ง เร่งขึ้นไปใหม่ สลับกันไปตามการใช้งานปกติช่วงเวลากลางวัน
แบตเตอรี่จึงฟ้องออกมาว่า นายยยย เราไม่ไหวแล้ววว ที่ระยะทางรวม 72 กิโลเมตร
เชื่อแน่ว่าถ้าหากเปลี่ยนเป็นการขับขี่แบบนุ่มนวลลงกว่านี้ ระยะทางที่รถคันนี้จะสามารถพาไปได้ น่าจะไกลออกไปอีกเยอะ
การตอบสนองจากช่วงล่าง
ด้านหน้า นุ่ม แน่น หนึบ กำลังดี
ด้านหลัง แน่นเฟิร์ม ออกแนวกระด้าง มีความตึงตังยามเจอพื้นผิวขรุขระ แต่บนความเร็วสูง มันเกาะพื้นนิ่งสนิทดี
การตอบสนองจากระบบเบรก
บอกเลยว่าเหลือเฟือ จานเบรกหน้ากับคาลิปเปอร์ขนาดอลังการ แล้วยังจัดจานแบบดิสคู่มาให้ อย่าเผลอขยำแรงเกินไปละกัน
ด้านหลัง กะน้ำหนักเท้าดีๆ การเกลี่ยน้ำหนักจากแป้นเบรกทำได้ดี แต่ด้วยคาลิปเปอร์และขนาดจานที่ใหญ่โตโอฬาร ล้อหลังจะล็อคง่ายแน่นอน
และนี่ก็คือ KEEPCOOL! Project-E1 Prototype คันนี้
มันคือรถต้นแบบที่ถูกออกแบบมาจาก passion และมันยังต้องมีจุดที่ต้องผ่านการขัดเกลาเพิ่มเติมให้ดียิ่งขึ้นกว่านี้อีกแน่นอน
สำหรับช่องทางการติดต่อ สำหรับผู้สนใจ อยากคุยกับคุณแอนดี้ เจ้าของแบรนด์ KEEPCOOL! ก็คลิกตามนี้ได้เลย
https://www.facebook.com/Andy-Keepcool-294532704743336
แล้วพบกันใหม่ Just Ride it สวัสดีครับ
#รถไฟฟ้าไทยเพื่อชาวไทย #KEEPCOOL #Project_E1
#JustRideit
