“แรงเท่าที่ใจอยากแรง”

นี่คือคำเชื้อเชิญที่รถจักรยานยนต์ HONDA รุ่นใหม่นามว่า CBR 150 R ท้าให้คุณได้สัมผัส และครั้งนี้ทีมจัส(just ride it)ก็ได้มีโอกาสร่วมทดสอบมันมาเป็นที่เรียบร้อยครับ
ซึ่งต้องบอกว่าการทดสอบครั้งนี้แม้จะใช้เวลาอยู่ร่วมกันไม่นานมากนัก แต่ก็พอที่จะบอกถึงจุดเด่นที่ได้รับการพัฒนาได้มากโขอยู่
หลายๆท่านอาจจะรู้จักหรือคุ้นเคย CBR150R กันเป็นอย่างดี เพราะถือว่าเป็นอีกรถในตำนานที่ฮอนด้าสานต่อวิวัฒนาการมาโดยตลอด โดยโฉมนี้มีการปรับเปลี่ยนใหม่แทบทุกจุด ดูสปอร์ตเพรียวบางและหน้าตาดุดันขึ้น ส่วนการขับขี่จะเป็นเช่นไรนั้นเดี๋ยวจะทะยอยบอกเล่าให้ได้อ่านผ่านบทความนี้กันครับ

All New CBR150R ได้รับการพัฒนาภายใต้คอนเซปต์ “For The Real Racing Heart แรงเท่าที่ใจอยากแรง”
ออกแบบใหม่ทั้งคันในแบบ Sport Aggressive Design ที่ให้ความโฉบเฉี่ยวและดุดัน

ไฟหน้า LED 2 ชั้น แบบ Double-Layered ทั้งหน้าและหลัง มาพร้อมกับ Position Light คู่บน และไฟเลี้ยว LED


รูปทรงตัวรถที่บ่งบอกความเป็นสปอร์ต ออกแบบตามหลัก Aero Dynamics ให้มีแรงเสียดทานต่ำที่สุด
จึงทำให้ดูเพรียวบางมากขึ้นกว่าตัวก่อนๆหน้าที่ทำออกมา และละม้ายคล้ายกัยอีกรุ่นตัวแรง CBR250RR นั่นเอง
แต่ถึงกระนั้น CBR150R ก็ยังความคุมได้ง่ายและคงไว้ซึ่งความสบายอยู่ นั่นเพราะว่าทรงแฮนด์ที่ไม่ได้พาหมอบจนเกินไป
ทำให้สามารถขับขี่ในระยะทางไกลๆได้แบบไม่เหนื่อยมากนัก ถึงแม้จะวางแฮนด์จับโช็คเหมือนสปอร์ตรุ่นใหญ่ก็ตาม

ความจุถังน้ำมัน 12 ลิตร พร้อมรูปทรงที่หมอบได้มิดและมีช่องเว้าสำหรับรองตรงบริเวณคางอันนี้ชอบมากกกก

เครื่องยนต์ของ CBR150R โฉมนี้ ใช้เครื่องยนต์ 1 สูบ ขนาด 149cc DOHC 4 จังหวะ 4 วาล์วต่อสูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ
มาพร้อมกับระบบ Assist and Slipper clutch ช่วยทำให้ทุกการเปลี่ยนเกียร์มีความนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น
พละกำลังสูงสุด 17.1 แรงม้า ที่ 9,000 รอบนาที
แรงบิดสูงสุด 14.4 นิวตันเมตร ที่ 7,000 รอบ/นาที
เกียร์แบบ 6 สปีด
ซึ่งคล้ายกันกับโฉมก่อนหน้าแต่ทว่าได้มีการปรับจูนเรื่องของกล่อง ECU ทำให้รอบช่วงต้นและกลางขับขี่ได้อย่างสนุกมากขึ้น
ส่วนความเร็วปลายไม่ได้แตกต่างไปจากโฉมก่อนหน้าครับ
แต่พอมี Slipper clutch เสริมเข้ามาทำให้เครื่องยนต์บล็อคนี้ให้ความต่างไปจากเดิมได้มาพอสมควร
ส่วนความเร็วปลายไม่ได้แตกต่างไปจากโฉมก่อนหน้าครับ
แต่พอมี Slipper clutch เสริมเข้ามาทำให้เครื่องยนต์บล็อคนี้ให้ความต่างไปจากเดิมได้มาพอสมควร



ระบบกันสะเทือนได้รับการปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย แต่ไม่ใช่เปลี่ยนเพื่อความสวยงาม การใช้งานก็ใช้ได้อย่างดีเยี่ยม โดยด้านหน้าได้ชุคหัวกลับจาก Showa อยากจะบอกว่าก่อนหน้าที่เคยบอกว่าดีแล้ว ตัวนี้ดีขึ้นไปอีก ระยะยุบตัวของโช็คทำได้ที่ในทุกการขับขี่



ด้านความปลอดภัยในการใช้งานบนท้องถนนปกติ CBR150R ออกมาจำหน่ายสองรุ่น คือตัว ABS และ Standard
โดยที่ตัว ABS จะมีน้ำหนักรวมอยู่ที่ 139 และ STD อยู่ที่ 137 กรัม

ซึ่งน้ำหนักรถแบบนี้แทบจะเหมาะกับทุกช่วงน้ำหนักผู้ขับขี่ถ้าอิงตามสูตรมาตรฐานที่เราๆทราบกันนั่นก้คือ คนขับหนักเท่าไหร่ สามารถความคุมรถที่หนักกว่าตัวเราได้ 3 เท่า อย่างสบาย นอกเหนือจากนั้นอยู่ที่ทักษะและการฝึกฝนเพิ่มเติมนั่นเองครับ
ซึ่งน้ำหนักแบบนี้เลยช่วยให้เราขับขี่ได้ง่ายขึ้น และยังมี Emergency Stop Signal ระบบสัญาญไฟกะพริบเมื่อเบรกกะทันหัน
โดยไฟเลี้ยวคู่หลังและหน้าจะกระพริบทันที เพิ่มความปลอดภัย

มาตรวัดสำหรับการใช้งานก็มีมาครบๆ

สเป็คคร่าวๆก็ประมาณนี้ครับ มาต่อกันในส่วนของความรู้สึกหลังการขับขี่กันบ้าง
งานทดสอบครั้งนี้จัดขึ้นที่สนามช้างอินเตอร์เนชันเนลเซอร์กิต โดยมีโค็ชฟิล์มและโค็ชดรีม มาให้คำแนะนำต่างๆ
ซึ่งมันช่วยให้เรารีดความสามารถที่แท้จริงออกมาได้ ตามกำลังฝีมือที่พอจะทำได้


ส่วนตัวผมผู้ขับขี่ทดสอบมีความสูงจากภาคพื้นดิน 158 Cm หลังจากขึ้นไปคร่อมบนรถแล้ว เบาะก็แอบสูงนิดๆ แต่โทษรถไม่ได้ครับ ขาผมสั้นเอง 555 เบาะมีความสูงจากพื้น 788mm ภาพที่ออกมาก็จะประมาณนี้

อย่างที่เกริ่นๆไว้ครับ ช่วงต้นถึงกลางรถได้มีการปรับเปลี่ยนกราฟไปจากโฉมก่อนหน้า เอาว่าเรียกปุ๊บมาปั๊บเรียกปั๊บมาปุ๊บ ติดไม้ติดมือกว่าเดิมแบบชัดเจน ถ้าทำความรู้จักกับรอบเครื่องยนต์ที่เหมาะสม บอกเลยว่าขับสนุกมาก

มาถึงช่วงล่างที่เปลี่ยนไป ผลที่ได้จากการลงสนามช้างในครั้งนี้คือ เราสามารถหาจุดที่จะเข้าโค้งได้แม่นยำและมั่นใจขึ้น
ช่วงล่างดีย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง ไม่มีใครกล่าวไว้ครับ แต่ถ้ามาขับเองเมื่อไหร่ก็จะทราบได้ในทันที

หลายๆอย่างจากการทดสอบ ประมวลออกมาแล้วว่า CBR150R โฉมใหม่นี้
ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา ฟิลลิ่งในการขับขี่ก็ดีกว่าเดิมขึ้นมาก
ช่วงล่างที่เฉียบคม ระบบเบรคที่ไว้ใจได้ ทำให้ปลดล็อคตัวเองเรื่องความไวในสนามไปได้อีกหลายวินาทีถ้าเทียบกับตัวก่อน

ก็ถือว่าเป็นการพัฒนามาได้แบบจบๆและน่าจะถูกจริตสายสปอร์ตที่รถมิติไซส์เล็กหลายๆท่าน
ที่ต้องการรถที่ CC ไม่สูงมาก แต่ทรงสปอร์ตสวยๆสักหนึ่งคัน



All New CBR150R มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย
ได้แก่ รุ่น ABS สีแดง Tri-color

และสีดำ-แดง Mat-Gunpowder

ราคาแนะนำ 99,900 บาท
รุ่น Standard มี 3 สีให้เลือก ได้แก่ สีดำ-แดง Mat-Gunpowder(สีเดียวกันกับตัวABS)
สีแดง-ดำ Millennium

และสีเทา-เหลือง Mat-Axis Grey

ราคาแนะนำ 92,900 บาท
หากท่านใดสนใจสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ที่ Honda Wing Center ทั่วประเทศครับ
หากท่านใดสนใจสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ที่ Honda Wing Center ทั่วประเทศครับ
แล้วมาสัมผัสความแรงเท่าที่ใจอยากแรงได้ด้วยตัวคุณเอง

