เมื่อช่วงบ่ายวันพฤหัสที่ผ่านมา ค่ายสัญชาติไทย GPX เปิดตัวโมเดลใหม่ล่าสุดออกมาเขย่าตลาดสกู๊ตเตอร์ในไทย
GPX DZ3 (อ่านว่า ดี ซี ทรี) จัดมาให้สองรุ่นย่อย
รุ่น Standard ส่วนลดพิเศษ 94,800 บาท จากราคาปกติ 100,800 บาท
เปิดมาสองสีคือ RACING GREY สีเทา และ SUPER BLACK สีดำ
รุ่น Sport อัพเกรดฟังก์ชัน Traction Control System ป้องกันล้อหมุนฟรี และช็อคอัพหลังคู่จาก YSS ปรับค่าพรีโหลดได้
ส่วนลดพิเศษ 99,800 บาท จากราคาปกติ 105,800 บาท
จัดเต็มมา 4สี คือ
URBAN WHITE สีขาว , ENERGETIC RED สีแดง , OLIVE GREEN สีเขียวมะกอก และ SUPER BLACK สีดำ
ทุกรุ่นมาพร้อมการรับประกันเครื่องยนต์นาน 3 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร
ไม่รอช้าเปิดตัวพฤหัสปุ๊บ จัดทดสอบศุกร์ปั๊บกันทันที
รถทดสอบที่จัดมาทั้งหมดเป็นตัวท๊อปรุ่น Sport ล้วนๆ
รูปทรงองค์เอวของตัวรถ GPX DZ3 มิติโดยรวมใหญ่กว่ารถพิกัด 150-160cc เพียงเล็กน้อย
ทำให้ DZ3 สามารถลัดเลาะเส้นทาง บางนา-ตราด ที่การจราจรคับคั่งไปได้อย่างไม่ยากเย็น
ขุมกำลังเครื่องยนต์ GPX HYPER-i ขนาด 278.2 cc
สูบเดี่ยว 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลัง 24.1 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 24.5 นิวตันเมตร
เครื่องยนต์มีกำลังให้ใช้เหลือเฟือตั้งแต่ช่วงออกตัวไปจนถึงความเร็วประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตามหน้าจอแสดงผลติดรถ
หลังจากนั้นจะค่อยๆไต่ความเร็วขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ไม่หวือหวาเร้าใจเหมือนช่วงแรก
จากที่ได้ทดสอบทำความเร็วสูงสุดตามหน้าจอ
ตัวเลขความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 157 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง
หน้าจอมาตรวัดแสดงผลการขับขี่แบบ Reverse LCD Meter ให้อารมณ์สปอร์ต บอกข้อมูลที่จำเป็นครบๆ
เทคโนโลยีปัจจุบันที่กลายเป็นมาตรฐานใหม่กับระบบ กุญแจKeyless
เพียงพกกุญแจใส่กระเป๋าติดตัวก็สามารถสั่งการรถได้เลย ไม่ต้องคุ้ยกระเป๋าเอามาเสียบกันอีกต่อไป
และยังมีฟังก์ชันซ่อนอยู่ภายในตัวเช่น เปิด-ปิด สัญญาณกันขโมยได้ด้วย
ช่วงล่างด้านหน้าแบบเทเลสโคปิค ช็อคอัพหลังจาก YSS แบบมีซับแทงค์ ปรับพรีโหลดแบบขันเกลียว
ที่ความเร็วต่ำช่วงล่างพยายามรักษาความนุ่มนวลไว้ได้อย่างดี
เวลาเจอพื้นผิวถนนไม่เรียบ ช็อคอัพทั้งหน้าและหลังดูดซับแรงกระแทกให้สลายไปได้ดี
และเมื่อพาไปสัมผัสย่านความเร็วที่สูงขึ้น ช่วงล่างชุดนี้ก็ยังทำงานได้ดีเยี่ยม
ยางหน้าหลังรัดด้วยยาง IRC iZ-S ให้การยึดเกาะพื้นผิวถนนทำออกมาได้ดี
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเราขับขี่ลุยฝนกันแทบตลอดทาง หนักบ้างเบาบ้าง สลับกันแบบนี้
บางจุดที่ผิวถนนหยาบก็ยังโอเค แต่เมื่อเจอผิวถนนบางจุดที่ลื่นนนนมากกกกก
นอกจากช่วงล่างกับยางดีๆแล้ว สิ่งที่ช่วยเราได้มากในสถานการณ์นี้เลยก็คืออออออ
Traction Control นั่นเองงงงง
เพราะเมื่อกำลังเครื่องในมือมันเหลือ แต่พื้นผิวถนนไม่เข้าใจ บางครั้งการเปิดคันเร่งที่มากเกินไปนิด ก็ทำให้ล้อหลังเกิดอาการฟรีทิ้งได้
เมื่อระบบ Traction Control จับได้ว่าล้อหลังหมุนไม่สัมพันธ์กับล้อหน้าปุ๊บบบ รถจะตัดรอบเครื่องยนต์ลงโดยอัตโนมัติ
ทำให้การขี่รถลุยทางเปียก ง่ายขึ้นเยอะ
ระบบเบรก ABS Dual ทุกคันทุกรุ่นไปเลย
ขนาดจานดิสก์หน้าขนาด 250มม. และจานดิสก์หลังขนาด 220มม.
ทางเปียก ถนนลื่น ก็ยังเพิ่มน้ำหนักเบรกได้อย่างสบายใจ
เพราะเมื่อยางมันถึงลิมิตที่ล้อจะล็อคปุ๊บ สมองกลในระบบก็สั่งการทันทีให้ ปล่อยเบรกแล้วจับใหม่ซ้ำๆแบบรัวๆ
ถึงแม้จะทำให้ระยะหยุดเพิ่มขึ้นมากกว่าเบรกเองแบบเนียนๆนิดหน่อยก็ตาม แต่มันช่วยเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้นจริงๆ
ช่องเก็บของใต้เบาะขนาดกำลังดี ใส่หมวกกันน็อคเต็มใบไหวอยู่
ถังน้ำมันขนาด 10.3 ลิตร เดินทางเพลินๆ ไม่ต้องเติมบ่อย ช่องเติมน้ำมันอยู่ตรงกลางหว่างขา ไม่ต้องรื้อของเปิดเบาะเติมน้ำมัน
สั่งเปิดฝาถังน้ำมันได้จากปุ่มคอนโทรลได้เลย
ช่องเก็บของด้านซ้ายให้ USB TYPE-C แบบ Fast Charge มาให้แล้ว
ส่วนช่องเก็บของด้านขวา เป็นช่องไว้เติมน้ำเข้าระบบหล่อเย็นของรถ
สรุป
นี่คือการเสียบแบบเปิดปุ่มเข้าไปตรงช่องว่างของราคา ด้วยรถที่ทำให้คนที่กำลังจะตัดสินใจซื้อ สกู๊ตเตอร์พิกัด 150-160cc.
ต้องหยุดคิด ด้วยราคาเปิดตัวช่วงโปรโมชั่นแบบ “ยังไม่ข้ามแสน”
แต่ได้เครื่องยนต์และเทคโนโลยีเกือบเทียบเท่า สกู๊ตเตอร์พิกัด 300cc. ราคาแสนกลางเลยทีเดียว
ความแรงของเครื่องยนต์ บวกกับขนาดรถที่ไม่ได้ใหญ่โตนัก พร้อมเทคโนโลยีรอบคันที่ให้มา บอกเลยว่า ใจหวิวเลยเชียวแหละ
ขอขอบคุณ
GPX Thailand
หมวกกันน็อคจาก REAL Helmets Thailand
เครื่องแต่งกายจาก Alpinestars Thailand
#GPX #GPXTHAILAND
#GPXDZ3 #DZ3 #TheUpperStep
#JustRideitTeam #JustRideit