Y A M A H A . . A E R O X . 1 5 5 . R . Ver. . . . พ า แ อ่ ว น ค ร พิ ง ค์

Y A M A H A . . A E R O X . 1 5 5 . R . Ver. . . . พ า แ อ่ ว น ค ร พิ ง ค์

คนเราเมื่อแก่เฒ่าชราลงบางครั้งก็โหยหาอดีต…

เคยเป็นกันไหมครับ…

ในวัยเยาว์ที่ครั้งนึงชีวิตของเรานั้นงดงามเสมอเมื่อได้นึกถึง

เพราะเราหัวเราะได้เต็มเสียง..

ร้องไห้ได้เต็มสะอื้น…

และชีวิตเต็มเปี่ยมด้วยความฝัน . .

ในวันนี้เราระลึกถึงมันเพื่อใช้เป็นน้ำหล่อเลี้ยงให้กับชีวิตอันแห้งผาก

เราเก็บเวลาอันแสนอบอุ่นไว้ในขวดแก้วแห่งความทรงจำ…

ในตลับเพลงที่เปิดฟังบ่อยๆในสมัยนั้น เมื่อได้ยินเสียงเพลงนั้นอีกครา

ภาพและเรื่องราวอันสวยงามในอดีตก็จะลอยมาอีกครั้ง

บางครั้งเพ้อไปจนถึงกระทั่งได้กลิ่น บรรยากาศยามเช้าที่อบอวลนั้นหวนมา

ในอัลบั้มรูปถ่ายเก่าๆ ที่เรายืนยิ้มอยู่ท่ามกลางคนที่รักและเพื่อนฝูง ณ สถานที่แห่งความทรงจำ

ที่เรานับที่นั้นเป็นเสมือนหนึ่งคือ “บ้าน” ของเรา

ครั้งนึงเฉียดๆ 20 ปีมาแล้ว ผมเคยอาศัยอยู่ในดินแดนแห่งหนึ่งทางภาคเหนือของประเทศไทย

นามในกาลเก่าว่า “นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่”

ซึ่งก็คือเชียงใหม่ ณ ปัจจุบัน นั่นเอง…

และผมเองก็ศึกษาในสถานศึกษาแห่งหนึ่งเชิงดอยสุเทพ

ใช่ครับ ผมเป็น “ลูกช้าง” แห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

และไม่ใช่อาการที่แปลก ที่ลูกช้างหลายๆคนจะคิดถึง มอชอ

เพราะหลายๆ คนมีช่วงชีวิตที่มีความสุขที่สุด ณ ดินแดนแห่งนี้…

คราวนี้คิดถึง มอชอ ขึ้นมาและอยากจะย้อนรอย ย้อนเวลาไปใช้ชีวิตแบบนั้นอีกสักครั้ง…เพี้ยนเพลีย

จำได้ว่าในสมัยนั้นผมขี่ Scooter คันน้อย 2 จังหวะไป เรียน กิน เที่ยว อยู่ในเวียง “นครพิงค์” แห่งนี้

กลับมาคราวนี้เพื่ออัญเชิญกลิ่นไอ เก่าๆ รถที่เลือกใช้คราวนี้ต้องเป็น Automatic Scooter เท่านั้น

ว่าแต่ขอรุ่นที่ดูสปอร์ตหน่อยละกันจะได้บิวท์อารมณ์ให้มันใกล้เคียงเข้าไปอีก

และก็เป็น Yamaha Aerox 155 R Ver.  เราเลือกนาย  นายวัยรุ่นที่สุดแล้วหัวเราะหัวเราะ

เอาหล่ะ  ขึ้นไทม์แมชชีนกันไปหาสายลมหนาวแห่งวัยเยาว์กันยิ้ม

ป.ล. ขอขอบคุณ Just-Ride-it และ Yamaha สำหรับการสนับสนุนการเดินทางในครั้งนี้ครับ


https://www.facebook.com/justrideitteam/?fref=ts
https://yamaha-motor.co.th/automotive/index.php/

เบื้องต้นเลย หาพาหนะก่อน

ผมไปได้เจ้า Yamaha Aerox 155 รุ่น R Ver. อย่างที่คาดหวังมาจากร้าน Bikky สาขาถนนห้วยแก้วครับ

กระซิบนิดนึงว่า เจ้า Aerox เนี่ยหาตัวยากมาก ณ โมเมนต์นี้ 5555

กว่าจะหารถได้ก็เย็นย่ำแล้ว พรุ่งนี้ค่อยออกเที่ยวละกัน …

ลืมตาตื่นขึ้นมายามเช้า

อาบน้ำล้างหน้าแต่งตัวแล้วเดินออกจากบ้าน

เจ้า Yamaha Aerox จอดรอผมอยู่แล้ว


ผมเปิดเบาะหยิบหมวกกันน็อคแบบเต็มใบออกจากกล่องเก็บของใต้เบาะและก็เสื้อคลุมและถุงมือคู่โตที่ยัดๆ อยู่บริเวณพื้นที่ด้านหลังต่อจากหมวกกันน็อค

เสร็จแล้วก็แต่งตัวเตรียมออกเดินทางกัน…

แสงแดดเริ่มสาดส่อง

สายลมหนาวแห่งเดือนกุมภาอ่อนแรงลงเรื่อยๆ

ดอกเครือออนสยายพุ่มดอกใบริมถนนที่ผมขี่รถพุ่งพาดผ่าน

ผมคร่อมเจ้า Aerox มาได้ไม่กี่กิโลเมตรก็รู้สึกว่า

เอ… นี่มันไม่ใช่เบาะของรถ Automatic แบบสปอร์ตนะเนี่ย

อารมณ์มันเบาะนั่งสบายๆ กว้าง ใหญ่ เชฟบ๊ะรับกับก้นพอสมควร

ปกติเบาะรถสปอร์ตมันต้องเล็กๆ แคบๆ แข็งๆ สิ จะได้สไลด์ก้นซ้ายขวาและรับรู้ฟีลที่ส่งผ่านช่วงล่างจากท้องถนนได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย…

สงสัยเจ้านี่คือลูกผสม..

สปอร์ต..แต่ยังไม่ยอมทิ้งความสบายนะยิ้มยิ้ม


บนถนนสายลำพูน – เชียงใหม่ . .

ผมบิดคันเร่งผ่านต้นยางอายุรวมกันคงหลายพันปีบนถนนสายนี้

เข้าสู่ตัวเวียงและไปสุดที่ มอชอ เพื่อไปเรียนคาบเช้า ( พยายามมโนเหตุการณ์ให้เหมือนจริง )

แต่เปล่าหรอก ผมไม่เข้าเรียนหรอกไปร่อนเสียหน่อยดีกว่า 55

ผ่านคันเร่งของเจ้า Aerox

เมื่อวาล์ว VVA เปิด รถ Auto ทุกคันในท้องตลาดราคาไม่เกิน 1 แสนนั้น

จะถูกทิ้งให้อยู่เบื้องหลังอย่างไม่ต้องสงสัย

และบนถนนสายนี้ก็เช่นกัน…

ไม่ต้องเชื่อผม เพราะผมสาวกแยม 55

ชีวิตยามเช้าของชาวเชียงใหม่ดำเนินไป เนิบๆ เหมือนกับคำพูดของชาวเชียงใหม่นั่นแหล่ะ…

ร้านกาแฟข้างทางมีให้พบเห็นอยู่ทั่วไปในเมืองแห่งนี้

และผมก็มักจะเป็นลูกค้าเพราะนิยมในการดื่มกินน้ำชากาแฟมาแต่ไหนแต่ไร

บนโต๊ะไม้เก่าๆ เคล้ากับชาร้อนและขนมปัง

ลมหนาวโชยอ่อนๆ

ณ จุดสิ้นสุดของถนนสาย ลำพูน-เชียงใหม่

ผมควบเจ้า Aerox ผ่านสะพานที่เป็นประตูสู่เชียงใหม่

“นวรัฐ”  คือชื่อของสะพานนั้น

ทอดสายตาไปด้านซ้ายยาวๆ  จะพบกับ “ขัวเหล็ก” หรือสะพานเหล็ก แซมกับทิวทัศน์ต้นจามจุรีขนาดยักษ์เบื้องหลัง

คราใดที่ได้เห็นทิวทัศน์แบบนี้

ผมรู้สึกได้ถึงวันวานนั้นหวนคืน

และผมกลับมาดินแดนอันเคยเป็นบ้านหลังที่สองแล้ว อมยิ้ม01อมยิ้ม01


“รถแดง”

สัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของนพบุรีศรีนครพิงค์ที่อยู่คู่เมืองมาช้านานจากอดีตจนกระทั่งปัจจุบัน…

ถนน “ห้วยแก้ว” ที่เคยเงียบเหงาในอดีต

หากแต่ในปัจจุบัน กลับคลาคล่ำไปด้วยรถราและผู้คนจากทั่วสารทิศที่มาเยือนเมืองเชียงใหม่

มิใช่เพียงนักท่องเที่ยวในประเทศและฝรั่งตาน้ำข้าวเท่านั้น หากแต่ไม่กี่ปีมานี้

นักท่องเที่ยวจีนกลับมาเยือนเชียงใหม่อย่างมิขาดสาย..

แม้จะมี cc ถึง 155cc และยางที่ใหญ่โตมโหฬาร แต่ด้วยน้ำหนักตัวเพียง 117 กิโลกรัม

เจ้า Aerox ยังไม่สูญเสียความคล่องตัวในถนนที่แสนรถติดไปแม้แต่น้อย

ซ้ำวงเลี้ยวของเจ้า Aerox ยังให้ความรู้สึกมั่นคงแบบประหลาด คงเป็นเพราะยางหน้าขนาด 110 และหลัง 140 อันอวบอัดที่รัดล้อขอบ 14
ไว้เป็นแน่

การลัดเลาะไปตามช่องว่างของรถยนต์บนนถนนที่คลาคล่ำไปด้วยรถ


เจ้า Aerox ทำได้เป็นอย่างดี ตัวแฮนด์แบบสปอร์ตเล็กๆ ที่ติดมานั้นไม่ได้เป็นปัญหาเลย  จะมีเพียงปลายแหลมเล็กๆ ของกระจกเท่านั้น
ที่อาจจะไปเกี่ยวเข้ากับกระจกรถกระบะเอาได้

แก้ไขด้วยการยกปลายแหลมขึ้นเล็กน้อย เพิ่มความมั่นใจได้อีกโข

การเลียเบรกหลังเพื่อควบคุมรถให้ผ่าน ช่องว่างแคบๆ และลัดเลาะซ้ายขวาต้องบอกว่าพอใช้ได้ แต่ต้องออกแรงมากนิดหน่อยเพราะ
เบรกหลังเป็นดรัมเบรก มิใช่ดิสก์เบรก

โดยรวมการใช้งานในเมือง ผมให้คะแนนเจ้า Aerox 4.5 เต็ม 5 ไปเลยอมยิ้ม01อมยิ้ม01

หลุดจาก “แยกรินคำ”

ผมบิดคันเร่งเจ้า Aerox เพื่อเร่งอย่างรวดเร็วจนกระทั่งหลุดออกจากฝูงรถกลุ่มหน้ามาได้

ทันใดนั้นเอง ผมต้องเบรกอย่างหนักเมื่อผ่านร้านกาแฟร้านหนึ่ง

. . .


สำหรับระบบเบรกของเจ้า Aerox155 รุ่น R Ver. นี้มาพร้อมกับจานเบรกแบบคลื่นกับคาลิเปอร์แบบลูกสูบเดี่ยว

ถามถึงฟีลลิ่งนั้น เมื่อควบรวมกับยางหน้าขนาด 110 / 80 ขอบ 14 ที่ใหญ่โตมโหฬารกว่า Scooter ทั่วๆไปในพิกัดนี้มาก

ซ้ำยังประกอบกับการวางจุดศูนย์ถ่วงแบบสปอร์ต( เล็กๆ )และการเซ็ทโช้คหน้าที่กำลังพอดิบพอดี

ฟีลการเบรกนั้นทำออกมาได้ดี  ฟีลหน้าทิ่มแบบจิกๆ นิดๆ  เท่าที่เคยใช้เบรกรถ Automatic ราคาไม่เกิน 1 แสนมีรถเพียงคันเดียว เท่านั้นที่ปลื้มกว่า
นี้ ( Yamaha Tricity )

ตรงจุดนี้เอาคะแนนไปเลย 4 เต็ม 5 จ้า เยี่ยมเยี่ยม

ร้านเป้าหมายที่ทำให้ต้องเบรกกะทันหันในครั้งนี้

เป็นร้านของเด็กบ้ากาแฟคนหนึ่ง ถึงได้ตั้ง LAB ทำกาแฟขึ้นมาจนโด่งดัง

นามว่า Ristr8to ( อ่านว่า ริสเทรสโต้ )


ไม่มีอะไรจะอธิบายมากมายสำหรับกาแฟร้านนี้

ผมไม่เคยเจอกาแฟร้านไหนในประเทศไทยที่ “ถึง” ขนาดนี้มาก่อน จุ๊บๆจุ๊บๆ

เนียน นุ่ม หอม และมีสไตล์ ไปเชียงใหม่ทีไรก็ไม่เคยพลาดครับ


เข้าสู่เขตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ . .

สถานที่แห่งหนึ่งที่ผมนึกถึง

กลิ่นไอของวันวานที่โชยผ่านมายาวนานหากแต่ยังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจำ

ภาพนักศึกษาปีหนึ่งผูกเนคไทสีม่วงถูกต้อนเดินบนซุ้มทางเดินอันมืดสลัวสู่สนามหญ้ากลางคณะวิศวกรรมศาสตร์

“หมอบลง”

เสียงรุ่นพี่ที่ยืนรายล้อมดังขึ้นอย่างมีอำนาจ..

ท่ามกลางความคิดอันสับสนของนักศึกษาปี 1 ที่ยังไม่เข้าใจลึกซึ้งในความหมายของคำว่า SOTUS..

และท่ามกลางความเหนื่อยล้าในแต่ละค่ำคืนใน ห้องเชียร์ที่แสนจะอบอ้าวแล้วเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความเครียด…

วันวานเหล่านั้นเมื่อผ่านมากลายเป็นความทรงจำอันล้ำค่าและตราตรึงอยู่ในหัวใจมิรู้ลืม

เป็นเวลาบ่าย 3 กับอีก 52 นาที ณ ใจกลางคณะสถาปัตฯ แห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ดวงตะวันสาดฉายลงบนแผ่นเหล็กประดิษฐ์และทอดเงาลงฉายเป็นพระพักตร์ของกษัตริย์ผู้หนึ่งที่มองลงมาจากเบื้องบนฟากฟ้า

ซึ่งเวลาดังกล่าว ก็เป็นเวลาเดียวกันกับวันที่ปวงประชาแห่งสยามประเทศนั้นร่ำไห้ในวันที่ 13 ตุลาคม

กับการจากไปของพ่ออันเป็นที่รักของพวกเรา

ปฏิมากรรมแสงอาทิตย์นี้ให้ความรู้สึกว่า ท่านยังคงมองดูเราอยู่เสมอจากเบื้องบน..

ตายจริง ตรูลืมแฟ้มแดงไว้ที่บ้านว่ะ ….

เย็นนี้โดนรุ่นพี่จัดหนักแน่…

ตรูขอยืมมอเตอร์ไซค์กลับไปบ้านหน่อย เดี๋ยวไปทางเส้นซุปเปอร์  รีบไปรีบมา …

ว่าแล้วบรรยากาศการแว๊นรถแบบเร่งด่วน ก็เริ่มขึ้นบนถนนสายที่ใหญ่ที่สุดซึ่งชาวเชียงใหม่เรียกว่า “ซุปเปอร์”

ป.ล. แฟ้มสีแดงคือ แฟ้มที่เด็กปีหนึ่งคณะวิศวะต้องถือไว้ตลอดและต้องนำมาเข้าเชียร์ตอนเย็น

หากไม่นำมาเป็นเรื่องแน่นอน

#นั่นคือภาพในอดีต

………………………..

แต่ในความเป็นจริง เป็นเพื่อนของผมที่ขี่รถออกจาก มอชอ เพื่อไปเอาของที่บ้านแถวสารภีและก็ย้อนกลับไป มอชอ อีกทีแบบเร่งด่วน

เจ้า Aerox 155 R Ver. วิ่งที่ความเร็วหมดปลอกได้นิ่งพอสมควรไม่มีอาการปัดเป๋หรือไม่น่ามั่นใจแต่อย่างใด

และด้วยอัตราเร่งที่จี๊ดและจัดจ้านยามเมื่อรอบแตะ 6,000 ซึ่งเป็นรอบที่ระบบ VVA ทำงาน

ความเร็วไต่ขึ้นอย่างรวดเร็วจนถึง 100 กม./ชม. และจากนั้นรอไหล จนกระทั่งไปจบที่ 121 กม./ชม.  ถ้าหมอบอาจจะได้มากกว่านี้อีกเล็กน้อย

กับค่าความเพี้ยนของไมล์ไม่เกิน 3% ซึ่งถือว่าแข็งกว่ารถคันอื่นในท้องตลาดปัจจุบันพอสมควร ( ส่วนใหญ่จะอ่อน 5-7% )


เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าขี่มาตั้งนานยังไม่ได้สำรวจเรือนไมล์ไฟสีแดงฉานของเจ้า Aerox155 R Ver. กันเลย

เรือนไมล์ชุดนี้ ต้องยอมรับว่า เป็นเรือนไมล์ที่ “ครบครัน” มากเลยทีเดียวถ้าเทียบกับราคาค่าตัว

สิ่งที่มีมากกว่ารถ Automatic คันอื่นๆ ก็เช่น

– วัดรอบ  อันนี้ชอบมาก มีรอยหยักขึ้นลง ทำให้เรารู้ว่าตอนนี้เราใช้รอบต่ำย่านประหยัดน้ำมันอยู่
หรือ รอบสูงย่านกำลังอยู่

– ไฟแสดงระบบ VVA   เมื่อระบบ VVA ทำงานไฟจะแสดงขึ้นเหมือนตรงบริเวณเหนือนาฬิกา

– ระยะทริป

– อัตราการกินน้ำมันทั้งแบบ Realtime และ Average

– Volt Meter ( 0___+ )

บอกเลยว่าครบกว่านี้ เห็นจะไม่มีแล้วหล่ะครับ

ข้อติเพียงอย่างเดียวคงจะเป็นที่อาจจะมองยากไปสักนิดหากแสงแดดแรงๆ เท่านั้นเอง

ตรงนี้ให้ 4.5 เต็ม 5 คะแนนไปเลย จุ๊บๆจุ๊บๆ

สรีระศาสตร์และการควบคุม

สำหรับสรีระศาสตร์ท่านั่งของเจ้า Aerox  ซึ่งเป็นรถ Automatic ที่มีแฮนด์แบบค่อนข้างจะสปอร์ตที่ให้การควบคุมในความเร็วสูงได้ดีกว่าแฮนด์แบบยกสูงที่เป็นที่นิยมใน Automatic คลาส Premium 150cc รุ่นอื่นๆ

ท่วงท่าการนั่ง ยังคงออกแบบมาใกล้เคียงกับรถ Automatic แบบครูเซอร์เพียงแต่ว่าไม่มีฟลอบอร์ดแบบเฉียงด้านหน้าให้เรายืดขาไปแตะได้เท่านั้นเอง โดยท่านั่งโดยรวมถือว่านั่งได้สบายๆ ขี่ได้ทั้งวันโดยที่ไม่รู้สึกเมื่อยล้าแต่อย่างใด

และด้วยรูปทรงของรถที่เป็นลิ่มแหลม หน้าต่ำ ท้ายยกนิดๆ ทำให้ได้ฟีลลิ่งการควบคุมแบบสปอร์ตมากขึ้น แต่อย่างไรก็ดีด้วยความที่ท้ายค่อนข้างสูง อาจจะทำให้ผู้ซ้อนท้ายขึ้นลงลำบากเสียหน่อยและตำแหน่งพักเท้าคนซ้อนให้ความรู้สึกเกะกะไปนิดนึงและรูปทรงค่อนข้างแหลมตามความคิดผมถ้าจะให้ดี อยากให้เป็นฟลอบอร์ดมากกว่า ( หรือไม่ก็อยากให้พักเท้ามันสั้นๆและมนกว่านี้ )

โดยรวมๆ ถือว่า Yamaha Aerox155 นั้นออกแบบมาได้ยอดเยี่ยม ผสานความสบายและการควบคุมที่ดีเข้าด้วยกันได้หมดจด ถ้าสดชื่น  เอ้ยไม่ใช่ … ให้ไป 4.8 เต็ม 5 คะแนนไปเลยครับถ้าขับคนเดียว   แต่ถ้ามีคนซ้อน ให้ 4 เต็ม 5 ละกัน


รถควบคุมได้ดีอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ

คนขี่เองก็ต้องมีทักษะที่ดีควบคู่กันไปด้วย

จากความรู้ที่เรียนมา

การเข้าโค้งในมหาลัย  สายตาต้องมองที่นักศึกษาสาว….

แล้วผมก็เอี๊ยดดด!!! โคร๊มมมม!!! ชนท้ายนักศึกษาสาวเข้าอย่างจัง ณ วงเวียนหอสมุด!!!!

หัวเราะหัวเราะ

และอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมตลอดกาลของลูกช้างมอชอที่ขาดไม่ได้

“อ่างแก้ว”

อ่างน้ำที่ใสเหมือนแก้วตั้งตระหง่านหน้าดอยสุเทพอันสูงใหญ่

บรรยากาศเย็นสบาย สายลมโชยอ่อนปะทะหน้า


ยามที่เราวัยรุ่นจิตใจว้าวุ่น

หลายๆ อย่างที่คิดไม่ตกว่าจะเอาอย่างไรดีกับชีวิตในหลายๆเรื่อง

ก็ได้ทิวทัศน์ของอ่างแก้วนี่แหล่ะ ที่ช่วยสงบสติและอารมณ์

ให้คิดตรองสิ่งต่างๆอย่างมีสติ จนผ่านมาเป็นผู้เป็นคน ( หรือเปล่า ) ได้จนจวบจนทุกวันนี้


กาลก่อน..นั่งพิจารณาใจ

แต่กาลนี้..นั่งพิจารณาไฟละกันกัน หัวเราะหัวเราะ

เอ้อ ไฟเจ้า Aerox155 มัน LED นี่หว่า

ยามค่ำคืนไฟหน้าเรียกได้ว่า สว่างใช้ได้เลยหล่ะ ลืมรถยุคเก่าๆที่ไฟหน้าไม่ค่อยจะสว่างไปได้เลย

ตรงนี้ให้คะแนนไป 4.8 เต็ม 5 ไปเลย ยิ้มยิ้ม

เชียงใหม่เป็นเมืองที่ผมชอบอย่างนึงเพราะว่า

มีที่ให้ทอดสายตายาวๆ และทำใจสบายๆ ได้หลายที่เลยดอยสุเทพก็เป็นอีกหนึ่งที่

ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน

เด็กมออย่างผมก็มักจะใช้ดอยสุเทพนี่แหล่ะเป็นที่พักใจ

พูดถึงภูเขา.. ถ้าเป็นคนขี่มอไซค์เรานึกถึงทางโค้ง

พูดถึงทางโค้ง.. ถ้าเกี่ยวกับมอไซค์ก็จะนึงถึงช่วงล่าง

พอมาสำรวจช่วงล่าง ของเจ้า Aerox155 R Ver. จะพบกับของดี


โช้คอัพหลังแบบมีซับแทงค์สีทอง ตระหง่านอยู่ใกล้เคียงกับยางหลังเส้นโตขนาด 140 / 70 ขอบ 14 นิ้ว

อยากจะสัมผัสความหนึบสักหน่อย แต่อนิจจาดอยสุเทพนั้นรถเยอะและถนนมันลื่นเกินไปไม่น่าเหมาะ

แต่ยังมีอีกสถานที่หนึ่ง…

“สะเมิง”

เส้นทางวงกลมหลัง ดอยสุเทพ จากเชียงใหม่ – สะเมิง – เชียงใหม่

อีกหนึ่งเส้นทางพักใจของเราชาวเด็กมอที่มีถนนพับซ้ายพับขวาและรถราไม่ขวักไขว่ ( เกินไปนัก )

ถนนเองก็ไม่มันแผล๊บแบบดอยสุเทพ

กับเส้นวงกลมสั้นๆ ให้เรามันส์ได้พอประมาณ

สำหรับเจ้า Aerox155 นั้น ก็คงต้องบอกว่า ใครชอบในการเข้าโค้ง

สมรรถนะการเข้าโค้ง ไม่มีคันไหนกินคันนี้ลงแล้วครับ..ชั่วโมงนี้

ด้วยหน้าลู่ต่ำ ท้ายยกนิดๆ ผสานช่วงล่างแน่นหนึบ และยางเส้นโตๆ

รถเข้าโค้งได้ค่อนข้างมั่นคงและเสถียรมาก

การรักษาไลน์ในโค้งเอง ก็ถือแม่นยำเหนือรถ Automatic ทั่วๆ ไป

ฟีลลิ่งการเบรก หนักๆ เพื่อเอาหน้าทิ่มเข้าโค้งไปถือว่าทำได้ดี ( แต่ถ้าเบรกหนึบ กว่านี้อีกสักนิด น่าจะดี )

กำลังเร่งออกจาก โค้งอันนี้ต้องยก ให้ ขอเพียงกระแทกคันเร่งให้มากพอที่ VVA จะทำงาน ( 6 พันรอบ ) แรงดึงในการออกโค้งนั้นไม่เคยเรียกได้ว่าขาด แม้จะเป็นการขึ้นเขาที่เป็นจุดอ่อน ของรถ Automatic ก็ตามที

เอา ไป 4.5 เต็ม 5 ละกัน แฮ่ จุ๊บๆจุ๊บๆ

ขี่ไปขี่มา ด้วยรวดลายของ เจ้า Aerox155 บางครั้งก็เผลอตัวนึกว่าตัวเองเป็น วินยาเลส เหมือนกัน 555

ขี่รถมาเกือบทั้งวัน เจ้ากรรมแบตมือถือใกล้หมด

กับชีวิตยุคใหม่ ไม่เหมือนยุคเก่าแต่กาลก่อน

เราต้อง Connect กับ Social ตลอดเวลา

ก็มีโอกาสได้พึ่งพาช่องเสียบชาร์จไฟที่ซ่อนกายอยู่ในกล่องเก็บของหน้าคอนโซลด้านซ้ายก็คราวนี้


ร้านกาแฟน้ำหวาน สวยๆ มีอยู่ทั่วเมืองเชียงใหม่ไปหมด

ว่าแล้วก็ถ่ายรูป อัพโซเชียลเสียหน่อย ไหนแบตมือถือก็เต็มแล้ว ฮาา


ย้อนกลับมาที่มอชอเพื่อตามหาอีก สิ่งหนึ่งที่คิดถึง..

คือ สลัดฝายหิน   ( สลัดที่ตลาดที่ชื่อว่า ฝายหิน ที่อยู่ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ )

นี่คืออาหารในตำนานที่อยู่เคียงคู่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มาเนิ่นนาน

วันนี้จะอ้วน( ไม่ทันแล้ว ) หรือท้องแตกก็ยอม ต้องได้กินทุกอย่างที่คิดถึง

ในที่สุดดวงตะวันลาลับ

ฝูงนกร้องระงมและกลับรัง

หากแต่ชีวิตเด็กมอ มันเป็นเวลาออกโบยบิน

สายลมหนาวโชยผ่าน เสื้อกันหนาวตัวอุ่น ขี่มอเตอร์ไซค์ท่องไปเรื่อยๆ กับเพื่อนฝูง

ภาพบรรยากาศวันวานอันแสนเนิ่นนาน หากแต่ยังคงชัดในมโนความคิดปรากฏขึ้นมา


“ศาลาธรรม”

ศูนย์กลางแห่งการประกอบพิธีกรรมแห่งมหาวิทยาลัย เชียงใหม่

และศูนย์รวมน้ำใจของลูกช้างเช่นกัน

ค่ำคืนนี้มีงานขันโตกของคณะแมสคอม( สื่อสารมวลชน )เลยมาขอแจมด้วยสักหน่อยเพราะคิดถึงเหลือเกิน

ป.ล. ขออนุญาตินำภาพถ่ายของน้องๆที่ผมถ่ายมามา ลง ณ ที่นี้ด้วยครับ

คิดถึงบรรยากาศขันโตกแบบเก่าๆ ที่ห่างหายไปจากชีวิตมาหลายปี



คิดถึงการแต่งตัวแบบดั้งเดิมของล้านนา


คิดถึงบรรยากาศพี่ๆ น้องๆ

จบงานขันโตกยังไม่หนำใจ

ควบเจ้า Aerox155 ไปเตว ( เดิน ) กาด ( ตลาด ) หลังมอกันต่อเพื่อตามหาสิ่งหนึ่งซึ่งหาไม่เจอ ณ กาดฝายหิน


นี่งัยเจอแล้ว สตรอเบอรี่คลุกเกลือและน้ำตาล ที่ผมกินประจำสมัยเรียนที่นี่

น่าเสียดายนะที่ลูกยังไม่ใหญ่ ต้องรอปลายฤดูก่อน ( แถวๆ ช่วงปลายมีนา ต้นเมษา )ช่วงนั้นสตรอเบอรี่จะลูกโตมากๆ  ช่วงซัมเมอร์ผมมักจะกินเจ้านี่เป็นประจำ


“หม่าล่า”
อาหารจีนรสชาติจัดจ้าน ที่เพิ่งจะมีให้เห็นในเชียงใหม่ได้ไม่นาน  สมัยผมเรียนอยู่นี่ไม่เคยเจอนะ

ลืมเหลาไปเรื่องนึง ก่อนจะท่องราตรียาวๆ

ณ ปั๊มแห่งหนึ่งหน้าโรงพยาบาลสวนดอก

ที่ช่วงหัวค่ำจะมีเสียงนกร้องเซ็งแซ่ดังกังวาลไปทั่วทิศทาง

เพียงเราแค่ตบมือดังๆ เสียงนั้นจะเงียบกริบเป็นเวลา 2 วินาทีทีก่อนที่จะเริ่มประสานเสียงกันต่อ…

และขี่มาทั้งวันก็มาหมดเอาตอนหัวค่ำ

ซึ่งถ้าขี่คนเดียวน้ำมันโซฮอล์ 91 หรือ 95 และรักษารอบไว้ไม่ให้ VVA นั้นทำงาน  เชื่อว่า 45-50 กิโลเมตร / ลิตร น่าจะทำได้ไม่ยาก


กับถังน้ำมันที่ซ่อนตัวอยู่ระหว่างกลางหว่างขาขนาด 4.6 ลิตร การเข้าถึงถังน้ำมันแม้นั่งคล่อมอยู่ก็ทำได้โดยง่าย เติมน้ำมันได้สะดวก ไม่ต้องลงจากตัวรถก็ได้  แต่ลงเถอะครับ เพื่อความปลอดภัย

พิกัดทำการของถังลูกนี้อยู่ระหว่าง 130 – 200 กิโลเมตรโดยประมาณแล้วแต่น้ำหนักข้อมือที่บิดคันเร่งลงไป
สำหรับสาย Touring ที่อาจจะบ่นว่าถังน้ำมันเล็กไปก็เข้าใจดี แต่ถ้าทำถังใหญ่เพื่อตอบสนองสาย Touring ที่อาจจะมีเพียงหยิบมือที่เอารถคันนี้ไปท่องเที่ยวทั่วไทย

ก็อาจจะทำให้ต้องสูญเสียความใหญ่โต ของ U-Box ไปแล้วก็รถก็จะสูญเสีย ความกระทัดลัดและน้ำหนักก็จะเยอะขึ้นไปด้วย  ผมเข้าใจว่าอย่างน้น
ดังนั้นข้อสรุปในการให้คะแนนทั้งเรื่องการกินน้ำมันและเรื่องถังน้ำมันถือว่าทำได้ดีและสมเหตุสมผล ให้คะแนนไป 4 เต็ม 5 ละกันครับ

ท้องไม่แตกเราไม่นอน… เอ้ยไม่ใช่    ตลุยกินรอบดึกกันต่อ

“ข้าวต้มย้ง”


สุดยอดข้าวต้มรสชาติเลอเลิศ กินมาตั้งแต่สมัยเรียน ตั้งอยู่ใกล้ๆ กาดต้นพยอม

แต่ละเมนูสั่งไปเถอะ อร่อยเกือบทุกอย่าง…

และสุดท้าย เด็กมอต้องกินนม…

นมโคนะ ไม่ใช่นมคน แฮ่ๆ

ป.ล. เหมือนร้านนมหลายๆ ร้านที่คุ้นเคยจะปิดกิจการไปแล้ว

ผมเลยได้มากินที่ร้านอ้อนนมสด ( เมื่อก่อนเหมือนจะชื่ออ้อยนะ ) หลังประตูเกษตร

งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา  สุดท้ายเรากลับบ้านนอนดีกว่า

ขากลับผ่าน “ประตูท่าแพ”  ที่นี่เปลี่ยนไปมาก สมัยก่อนเวลาดึกสงัดนี่เงียบกริ๊บ แต่ยุคสมัยเปลี่ยนไป
แสงไฟสว่างไสวสาดส่องตลอดคืน . .

และสิ่งสุดท้ายที่สุดของเจ้า Aerox155 ที่จะกล่าวถึง

มันคือ เครื่องยนต์ Blue Core 155cc  SOHC 4วาล์วแปรผัน ( VVA – Variable Valve Actuation )  ที่เป็นเครื่องยนต์
สายพานที่น่าจะเป็น Block ที่ทันสมัยและครบครันที่สุดในตลาดรถบ้านปัจจุบันนี้
ยิ่งถ้าเป็นตัว ABS จะยิ่งเหนือล้ำขึ้นไปอีกเพราะมีระบบ Start & Stop System  และ Smart Key

เครื่องยนต์ Block นี้ก็น่าจะใกล้เคียงกับ Block ที่ประจำการในรถ NMAX  แต่ Setting อาจจะมีแตกต่างกันบ้างตามรูปแบบ
ของรถในเรื่องสมรรถนะก็น่าจะไม่หนีกันมาก

แต่เจ้า Aerox155 นี้น่าจะไปได้เร็วกว่าเล็กน้อยในย่านรอบกลางและสูงขึ้นไปเพราะรถลู่ลมกว่าและเบากว่า
อ้อ ระบบสตาร์ทก็เงียบขึ้นด้วยนะ

โดยรวมเครื่องยนต์ Block นี้สำหรับผมถือว่าชอบมาก ขี่สนุก จี๊ดจ๊าด ดึงดีจนคนซ้อนหงายเงิบได้เหมือนกันในแง่สมรรถนะและอัตราการกินน้ำมันถือว่าเข้าขั้นดีไม่มีอะไรให้น่าติติง
จะมีเล็กๆก็เพียงเรื่องเดียวคือพิกัด 155cc มัน พรบ แพงไปนิดนึง แฮ่ๆ  ถ้าเป็น 149cc ได้ก็จะดีนะ
ตรงนี้เอาไปเลย 4.8 เต็ม 5 คะแนน ยิ้มยิ้ม

เหมือนจะลืมไปเรื่องนึงกับจุดเด่นของเจ้า Aerox155

นั่นคือ บั้นท้ายอันอวบอั๋น มองผาดๆ นึกว่าบั้นท้ายของรถ Bigbike เสียอีก

อย่างไรก็ดี เดี๋ยวกระทู้จะยืดเกิน 7 บรรทัด ขอตัดจบกับบทสรุปของเจ้า Aerox155 เลยละกัน



สำหรับเจ้า Aerox155 R Ver. มันเป็นรถ Automatic สายสปอร์ตที่ถือว่าครบเครื่องทั้งในแง่รูป ลักษณ์ สมรรถนะเครื่องยนต์ ช่วงล่าง เบรก มาพร้อมกับฟังก์ชั่นที่ครบๆ ไม่ว่าจะเป็นเรือนไมล์ กล่องเก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่ ช่องเก็บของพร้อมช่องชาร์จไฟ  12V

สรีระศาสตร์การขับขี่เองก็สะดวกและสบาย ที่สำคัญราคาที่ตั้งกับสิ่งที่ได้มันคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม    ไม่ต้องเชื่อผมหรอกฮะ เพราะผมติ่งแยม

แต่อย่างไรก็ดีไม่มีสิ่งใดในโลกที่ไร้ข้อ บกพร่องสำหรับผมเองจุดที่ใหญ่ที่สุดคงจะเป็น พักเท้าคนซ้อนที่ทำให้ขึ้นรถลำบากมาก ( คนซ้อนเขาว่างั้น ) และมันแหลมจนรู้สึกน่ากลัวว่าจะเป็นอันตราย กับถังน้ำมันอยากได้เท่าๆ NMAX ก็ยังดีสำหรับรถคันนี้โดยรวม ผมให้คะแนน 4.75 เต็ม 5 คะแนนไปเลยฮะ

มีพบก็ต้องมีจาก

อดีตที่ผ่านมาก็เป็นความทรงจำอันแสนหวานที่เก็บไว้อย่างดีในขวดโหลแห่งความทรงจำ

แต่อดีดก็คืออดีตวันยังค่ำ   ชีวิตของเราก็ยังคงต้องมุ่งหน้ากับปัจจุบันและก้าวเดินต่อไปสู่อนาคต


อย่างไรก็ดี คำพูดที่ผมอยากจะบอกก็คือ

มอชอ.. และนครพิงค์ . . .ฉันรักแกว่ะ

เพื่อความอิน

ขอเพิ่มเพลง มช รำลึก นะครับ ยิ้มยิ้ม

(คลิกที่ภาพเพื่อชมคลิป)

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

บทความโดย เตี้ย ล่ำ ดำ แก่
Linkต้นฉบับ https://pantip.com/topic/36161199