วรูม ไทยแลนด์ ประกาศเดินหน้าเปิดตัว BAJAJ ครั้งแรกในประเทศไทย มาพร้อม KTM และ Husqvarna

“วรูม ไทยแลนด์” ประกาศเดินหน้าเปิดตัวรถบิ๊กไบค์แบรนด์ BAJAJ ครั้งแรกในประเทศไทย รวมถึง KTM & Husqvarna พร้อมเน้นมาตรฐานการบริการที่มีคุณภาพ รองรับกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ

บริษัท วรูม จำกัด เดินเครื่องเต็มที่รุกตลาดครึ่งปีหลังด้วยการเปิดตัวแบรนด์รถบิ๊กไบค์ถึง 3 แบรนด์นำโดย BAJAJ, KTM & Husqvarna เอาใจคนรักบิ๊กไบค์ พร้อมสร้างมาตรฐานการบริการหลังการขายที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพโดยผู้จำหน่ายจากทั่วประเทศ

มร.ฮิเดกิ ยานากิซาว่า ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วรูม จำกัด กล่าวว่า “ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ใน         ปี 2019 มีอัตราการเติบโตลดลงที่ 3.4% โดยมียอดจดทะเบียนรวมประมาณ 1.72 ล้านคัน พอมาถึงปีนี้ 2020 ทั่วโลกเจอสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรน่า ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำลง เศรษฐกิจในประเทศไทยก็เช่นกัน แต่ทางเรายังมั่นใจว่าหลังจากผ่านพ้นสถานการณ์วิกฤติในครั้งนี้ เศรษฐกิจในประเทศไทยจะเริ่มกระเตื้องขึ้นเล็กน้อยและคงต้องใช้เวลาพอสมควร”

ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ทางบริษัทฯ จะมีการเปิดตัวรถจักรยานยนต์แบรนด์ใหม่จากประเทศอินเดีย และเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกคือแบรนด์ “BAJAJ” เพื่อทำตลาดเป็นครั้งแรกในประเทศไทย “เราเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า เนื่องจากกระแสของตลาดกลุ่มรถสปอร์ตยังเป็นที่ต้องการของลูกค้าอยู่ ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่บาจาจจะสร้างตลาดกลุ่มรถสปอร์ต เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น รวมถึงในอนาคตเราจะเปิดตัวรถจักรยานยนต์อีก 2 แบรนด์ด้วยกันคือแบรนด์ KTM & Husqvarna เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้าของเรา”

นายวรท กมลโชติรส รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท วรูม จำกัด กล่าวว่า “วันนี้ทางบริษัทฯ จะทำการเปิดตัวรถจักรยานยนต์สายพันธ์สปอร์ตตัวจริงรวมทั้งหมด 4 รุ่นด้วยกัน รถของบาจาจทุกรุ่นมีเอกลักษณ์ความสปอร์ตที่ชัดเจน รวมถึงสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่แข็งแรงทนทาน และเทคโนโลยีที่ให้ความเร็ว ความแรง ตามสโลแกนของ     บาจาจ แรง แกร่ง เท่ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แนวสปอร์ตจะต้องหลงใหลในแบรนด์บาจาจอย่างแน่นอน”

ทางบริษัทฯ ได้กำหนดนโยบายที่จะทำการตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง เราตั้งเป้าหมายว่าเราจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมีผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด รวมถึงการพัฒนาศักยภาพในด้านการขาย (Sales) การบริการหลังการขาย (Aftersales Service) และอะไหล่ (Spare Parts) เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มลูกค้าของเราและตัวแทนผู้จำหน่ายของเราที่มีอยู่ทั่วประเทศ ในส่วนกลยุทธ์ทางการตลาดเรามุ่งเน้นไปที่ 3 ส่วนด้วยกันคือ

  1. การสร้างแบรนด์ “บาจาจ” ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย โดยประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของบริษัทฯ ผ่านสื่อต่างๆ ทุกแขนง เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเตรียมพร้อมกับสภาพการแข่งขันทางการตลาดยุคใหม่
  2. สร้างยอดขายที่มากขึ้นให้กับผู้จำหน่ายด้วยการเพิ่มสินค้าใหม่ที่มีศักยภาพในการแข่งขันสูง พร้อมทั้งกิจกรรมเพื่อสนับสนุนการขายให้กับผู้จำหน่ายในทุกรูปแบบ
  3. เพิ่มมาตรฐานการบริการหลังการขาย เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่มีเพิ่มมากขึ้น และสร้างความมั่นใจในด้านการบริการที่มีประสิทธิภาพให้กับลูกค้าของเรา รวมถึงแผนการขยายเครือข่ายโชว์รูมให้มีความทันสมัย และครอบคลุมทุกพื้นที่เพื่อสร้างความพอใจอย่างสูงสุดให้กับลูกค้า

ปัจจุบันนี้เรามีการขยายเครือข่ายการขายและบริการหลังการขายเพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าให้ครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ และใน 4 ภาคหลักของประเทศ ในภาคเหนือได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย พิษณุโลก ภาคอีสานได้แก่ ขอนแก่น อุดรธานี มุกดาหาร อุบลราชธานี มหาสารคาม บุรีรัมย์ ภาคกลางได้แก่ ลพบุรี สุพรรณบุรี ชลบุรี ภาคใต้ได้แก่สงขลา โดยมีผู้จำหน่ายจากทั่วประเทศรวมทั้งสิ้นจำนวน 19 แห่ง ด้วยกลยุทธ์ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ บริษัทฯ มีความมั่นใจว่าจะสามารถเพิ่มความพึงพอใจให้ลูกค้า  สร้างความแข็งแกร่งให้แบรนด์ “บาจาจ” และสามารถบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 

นอกจากนี้เรามุ่งมั่นสร้างประสบการณ์สุดเร้าใจให้กับลูกค้าของเรามาโดยตลอด ดังนั้นเราจึงได้ทำการเปิดตัวรถจักรยานยนต์บาจาจถึง 4 รุ่นด้วยกัน โดยมีรายละเอียดในแต่ละรุ่นดังต่อไปนี้

  1. BAJAJ Pulsar NS 160
    1. เครื่องยนต์ DTSI ระบบหัวฉีด
    1. ขนาด 160 ซีซี
    1. ระบบสองหัวเทียน
    1. ดิสก์เบรกหน้าและหลัง
    1. เฟรมแบบ Perimeter

ราคาจำหน่ายพิเศษช่วงแนะนำ 69,800 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม, ไม่รวมทะเบียน และพ.ร.บ.)

  • BAJAJ Pulsar NS 200 FI ABS
    • เครื่องยนต์ DTSI ระบบหัวฉีด
    • โดดเด่นด้วยตัวจุดระเบิดแบบ Triple Spark Plug
    • ขนาด 200 ซีซี 24.5 แรงม้า
    • ระบายความร้อนด้วยน้ำ
    • ระบบเบรกมาพร้อม ABS ทั้งหน้าและหลัง
    • ไฟเรืองแสงแบบ Blue Light
    • เบาะนั่งแยกชิ้นสไตล์รถบิ๊กไบค์
    • เฟรมแบบ Perimeter

ราคาจำหน่ายพิเศษช่วงแนะนำ 79,800 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม, ไม่รวมทะเบียน และพ.ร.บ.)

  • BAJAJ Pulsar RS 200 FI ABS
    • รถสไตล์สปอร์ตไบค์ รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวดุดัน
    • โดดเด่นด้วยไฟหน้าคู่แบบ Projector
    • ไฟท้ายแบบเส้นโค้งเว้าที่ไม่เหมือนใคร
    • เครื่องยนต์ DTSI ระบบหัวฉีด
    • โดดเด่นด้วยตัวจุดระเบิดแบบ Triple Spark Plug
    • ขนาด 200 ซีซี 24.5 แรงม้า
    • ระบายความร้อนด้วยน้ำ
    • ระบบเบรกมาพร้อม ABS ทั้งหน้าและหลัง
    • ท่อไอเสียดีไซน์แบบสปอร์ต
    • ไฟเรืองแสงแบบ Blue Light
    • เบาะนั่งแยกชิ้นสไตล์รถบิ๊กไบค์
    • เฟรมแบบ Perimeter

ราคาจำหน่ายพิเศษช่วงแนะนำ 89,800 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม, ไม่รวมทะเบียน และพ.ร.บ.)

  • BAJAJ Dominar 400
    • เน็คเก็ตไบค์ สไตล์ Sport Tourer
    • เครื่องยนต์ DTSI ระบบหัวฉีด แบบ Dual Overhead Camshaft
    • โดดเด่นด้วยตัวจุดระเบิดแบบ Triple Spark Plug
    • ขนาด 400 ซีซี 40 แรงม้า
    • ทำความเร็ว 0 ถึง 100 ก.ม. ในเวลา 7.1 วินาที
    • ไฟหน้าแบบ Full LED Headlamp
    • เกียร์ 6 สปีด พร้อมด้วย Slipper Clutch
    • โช้คหน้า Upside Down ขนาด 43 มิลลิเมตร
    • โช้คหลังแบบ Mono Shock
    • ระบบเบรกมาพร้อม ABS จาก Bosch แบบ Dual Channel
    • ดิสก์เบรกคู่ขนาด 320 มิลลิเมตร
    • ท่อไอเสียแบบคู่ สไตล์รถแข่ง
    • เทคโนโลยีหน้าจอ LCD คู่
    • เฟรมแบบ Solid Stamp Perimeter Frame

ราคาจำหน่ายพิเศษช่วงแนะนำ 115,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม, ไม่รวมทะเบียน และพ.ร.บ.)

และในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41 บริษัทฯ ได้เตรียมแผนส่งเสริมการขายซึ่งเป็นสิทธิพิเศษให้กับผู้ที่สนใจ สำหรับผู้ที่จองรถบาจาจทุกรุ่น ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 กรกฎาคม 2563 รับฟรีทันที!  ของแถม 3 ชั้นมูลค่ารวม 7,350 บาท

  • หมวกกันน็อครุ่นพิเศษ (ลิมิเต็ด อิดิชั่น) ดีไซน์สปอร์ตเท่ โดนใจวัยรุ่น มูลค่า 2,500 บาท
  • Bluetooth อุปกรณ์ไร้สายติดหมวกกันน็อค มูลค่า 2,900 บาท
  • Maintenance Kit เพื่อดูแลรักษาเครื่องยนต์จาก Motul มูลค่า 1,950 บาท

พบกับโฉมใหม่ของบาจาจได้แล้ว สำหรับท่านที่สนใจสามารถชม สัมผัส ทดลองขับขี่ และเป็นเจ้าของบาจาจ “Pulsar” และ “Dominar” ที่โดดเด่นด้วยสมรรถนะที่เร้าใจได้ที่โชว์รูมบาจาจแฟลกชิพลาดพร้าว และร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์บาจาจทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคมเป็นต้นไป