สวัสดีจ้า พ่อแม่พี่น้อง
ยินดีต้อนรับฤดูหนาวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับประเทศไทยในช่วงปลายปีแบบนี้
TopsaVage ก็เลยชวนหวานใจว่า เธอจ๋า เราไปกางเต็นท์นอนนับดาวกันสักคืนดีมั้ยจ๊ะ
แต่เนื่องจากวันหยุดไม่ค่อยตรงกัน แถมเวลาว่างก็มีไม่มากนัก ระยะทางที่จะไปกางเต็นท์คราวนี้จึงขอให้อยู่ในพิกัดไปกลับไม่เกิน 600 กิโลเมตรจากกรุงเทพฯ
พ่วงมาด้วยอีกข้อแม้ “ไม่อยากเจอวิวกองทัพเต็นท์นะ” เอาละสิ งานนี้เลยต้อง Unseen กันสักหน่อยแล้ว
จุดชมวิวเนินสวรรค์
ตั้งอยู่ในเขตอำเภอทองผาภูมิ การเดินทางจากนิวาสถานย่านนนทบุรีของ TopsaVage ก็ง่ายดาย
โต๋เต๋โอ้เอ้ กว่าจะออกเดินทางก็สิบเอ็ดโมงเข้าไปแล้ว (แว๊กกกกกกก)
ใช้เส้นทาง นครอินทร์ มุ่งออกถนนกาญจนาภิเษก ต่อด้วยถนนบรมราชชนนี
แล้วก็พุ่งจู๊ดดด ผ่านจังหวัดนครปฐม มองตามป้ายบอกทาง กาญจนบุรี ไปได้เลย
ก่อนถึงตัวเมือง กาญจนบุรี จะมีป้ายให้เลี้ยวขวาบอกว่า ไป อำเภอไทรโยค ถ้าไม่อยากเข้าไปติดไฟแดงกลางเมืองบนถนนแสงชูโต ก็เลี้ยวไปใช้ถนนเลี่ยงเมืองเถอะนะจ๊ะ
ขับตามทางเลี่ยงเมืองกาญฯมาเรื่อยจนถึง สี่แยกแก่งเสี้ยน ก็พุ่งตรงไปอำเภอไทรโยค (ถนนหมายเลข 323) ได้เลย
ขี่เรื่อยๆ เมื่อยก็พักบ้าง เพราะคนซ้อนแบกของเต็มอัตราทั้งเสื้อผ้า เต็นท์ กราวน์ชีท ถุงนอน แวะเติมน้ำมัน เข้าห้องน้ำไปตามเรื่องตามราว
จนเมื่อถึงช่วงพุน้ำร้อนหินดาด เข้าเขตอำเภอทองผาภูมิ สังเกตุซ้ายมือจะมีร้านโรงนากาแฟ ตั้งเด่นเป็นสง่า ทางเข้าจุดชมวิวเนินสวรรค์จะอยู่ขวามือ
แต่ช้าก่อน ขับตรงเลยไปอีกนิด จะมีปั๊ม ปตท. ใหม่เอี่ยม อยู่ซ้ายมือ แวะเติมเสบียงเช่นน้ำดื่ม น้ำแข็ง และอาหารเล็กน้อยเสียที่นี่เถิด หรือใครอยากลุ้นไปอุดหนุนร้านชำของชาวบ้านในถนน 3091 ก็ตามสะดวก
จากถนน 323 เมื่อเลี้ยวเข้ามาเส้นทาง 3091 ก็จะเริ่มมีเนินน้อยใหญ่กับทางโค้งเบาๆมาต้อนรับ หลายช่วงยังผ่านชุมชนหมู่บ้าน เส้นทางราดยางอย่างดี
ขี่เข้าไปราว 18 กิโลเมตร ใช้เวลาไม่น่าเกินครึ่งชั่วโมง ก่อนถึงจุดชมวิวเนินสวรรค์ ประมาณ 1 กิโลเมตรสุดท้ายก็จะเจอทางลูกรังแบบมีหินปน ไม่โหดร้ายนัก รถเก๋งอิโคคาร์ก็ยังขึ้นไหว
บอกแล้วว่าโอ้เอ้ มาถึงลานกางเต็นท์ก็ใกล้จะสิ้นแสงแล้ว รีบกางเต็นท์เถอะ จะมืดแล้ววุ้ยยย
กางเต็นท์เสร็จแล้ว ชวนกันมานั่งปล่อยตัวปล่อยใจ ร่ำลาแสงอาทิตย์ของวันนี้ด้วยกัน แค่นี้ก็หวานจนคนโสดที่อ่านอยู่ตอนนี้ดีดดิ้นแล้วม้าง 5555+
ขอขอบคุณเทคโนโลยีกล้องมิลเรอร์เลสบวกสมาร์ทโฟน และขาตั้งที่อุตส่าห์แบกมา ถึงไม่มีคน ก็กดชัตเตอร์เองได้ โฮะๆๆๆ
เต็นท์ที่กางไว้เก๋เมื่อตอนเย็น ถูกถอนสมอบก แล้วยกขึ้นหนีเข้าที่ร่ม ถึงจะมีทั้งกราวน์ชีท และฟลายชีท ก็เถอะ
ในเมื่อคืนนี้มีแต่เราแค่สองคน ลานกางเต็นท์นี้เป็นของเรา ย้ายๆ โยนเต็นท์เข้าใต้ร่มชายคาด่วน
ที่หลับที่นอนพร้อมแล้วก็มาว่ากันเรื่องของกินมื้อค่ำ มากับพี่ไม่ต้องกลัวอด จัดนี่ไปเลย ข้าวสวย ปลากระป๋องสูตรราดพริก แก้เลี่ยนความรัก 5555+
หึ เมฆมาก แต่ก็มีลมเรื่อยเฉื่อยเป็นระยะ ฝนลงเม็ดไม่พอ สลับด้วยจันทร์ดวงโต ลอยเด่นเป็นสง่าเชียวนะ หัวค่ำคืนนี้ไม่ต้องหวังจะเห็นดาวกันแล้ว ปิดไฟ ใส่กลอน แล้วเข้ามุ้งนอนก็ได้ ชริ
ดัน iso 6400 แล้วลากสปีดชัตเตอร์ไป 6 วินาที สว่างยังกับกลางวัน
ลด iso กับ สปีดชัตเตอร์ลงสักหน่อยเถอะพ่อคู๊ณณ ให้มันดูเป็นกลางคืนหน่อย
ก่อนนอนคืนนี้ไม่ลืมที่จะตั้งนาฬิกาปลุกไว้ช่วงตีสี่ครึ่ง หัวค่ำไม่เห็น ตอนใกล้รุ่ง อาจจะมีดวงบ้างก็ได้น่าาาา
หัดถ่ายดาวครั้งแรก มีไฟกวนจากห้องน้ำใกล้ๆ ลมก็เป็นใจพัดดีจัง อุณภูมิหน่ะไม่เท่าไหร่หรอก 18-20 องศาเซลเซียส แต่ลมนี่สิ พัดโชยจนขนลุกไปหมดแล้วววว
บ่นจังวุ้ย โชคดีแค่ไหนแล้ว ที่พระจันทร์หัวค่ำ กับ เมฆฝนที่ลอยไปมาเค้าหลีกทางให้ถ่ายหน่ะห๊าาา
กล้องที่ใช้ก็ มิลเรอร์เลสรุ่นเริ่มต้น กับเลนส์คิตที่ติดกล้องมา บวกกับทักษะเท่าหางอึ่งที่ฝึกมาจากใน google กับ youtube ถ้าหากมีโอกาสจะพยายามหัดถ่ายให้มันงามใกล้เคียงกับที่ตาเห็นนะ TopsaVage ขอเกี่ยวก้อยสัญญา