ว่าวมั้ยCUB ขี่CUBไปเล่นว่าวกัน By Just Ride it

ว่าวมั้ยCUB ขี่CUBไปเล่นว่าวกัน By Just Ride it


สวัสดีCUB วันนี้ TopsaVage จะพาไปย้อนวันวานวัยว่าวกัน

เล่นว่าว วิ่งว่าว วางว่าว คำต่างๆเหล่านี้ ในยุคปัจจุบันนี้ กลับกลายเป็นคำแสลง ความหมายอะไรคงไม่ต้องอธิบาย เพี้ยนเพลีย

แต่หากลองย้อนเวลาไปสักหลายปีหน่อย (หึหึ หน่อยที่ว่านี่ก็ราว 20 ปีฝ่าๆเอ๊งงงงงงง)

ท่านผู้อ่านทั้งหลาย ก็คงคิดถึงการละเล่นของไทยอย่างเดียวกัน

แล้วพอดี๊ พอดี เมื่อวัยกระเตาะ TopsaVage ก็ใช้รถ Honda Dream คุรุสภา สีเดียวกะเจ้า CUB คันในกระทู้นี่แหละ

มันก็ช่างพอเหมาะเสียนี่กระไร ตอนขี่รถมุ่งหน้าไปเล่นว่าวนี่แบบว่า ในใจมันตื่นเต้น

อาา นี่หรือคือวันวาน ความชรามันมาเยี่ยมเยือนตูข้าเข้าให้แล้วสินะเนี่ย เม่าโศก

 

ไหนๆก็ไหนๆ จะย้อนวัยเด็กกันแล้วก็ขอยกเอาภาพศิษย์พี่ร่วมสำนัก คู่ซี้คู่ขา TopsaVage เมื่อวัยเยาว์เอามาให้ยลแก้คิดถึงสักหน่อยเถิด เม่าดี๊ด๊า

ตอนนั้นดรีม คุรุสภา มีสองรุ่นคือรุ่นสตาร์ทเท้า กับ สตาร์ทมือ

รถของ TopsaVage นั้น คุณพ่อท่านซื้อมาไว้ใช้ตั้งแต่ราวปี 2534 เป็นสีน้ำเงินเข้ม สตาร์ทเท้า กระทะล้อเหล็ก ซี่ลวดธรรมดา

แล้วก็ถูกยึดมาเป็นกรรมสิทธิ์ สนองรับใช้ พาไปเล่นว่าว ไปโดดน้ำคลอง ไปเรียน ไปร่อนเหล่สาว

เครื่องยนต์100cc. ของรถคันนั้น ในยุคนั้น เติมน้ำมัน 20 บาท เกือบเต็มถัง วิ่งกันเพลินเพราะมันประหยัดมาก

ซ่อมบำรุงก็แค่ถ่ายน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนผ้าเบรก(เป็นดรัมเบรกหน้าหลัง) เปลี่ยนยางเท่านั้นแหละ

แรงฉุดกระชากที่ดีในรอบต่ำ เปลี่ยนเกียร์ 1ไปเกียร์ 2 เปิดคันเร่งหนักหน่อยล้อหน้าก็ลอยแล้ว

น้ำหนักไม่ถึง100กิโลกรัม ช่วงล่างนิ่มนวล รูดถนนลูกรัง ได้ไม่มีหวั่น

รับใช้กันอยู่นานหลายปี จนถึงวันต้องลาจาก อิท๊อปต้องจากบ้านมาเรียนในเมืองหลวง

เจ้าของตัวจริงเห็นว่ารถจอดอยู่เฉยๆไม่ได้ใช้งานอะไร ก็เลยจับขายซ๊าาา เต่าเอือม


***เกร็ดปลามหาสนุก ทำไมรุ่นนี้ถึงชื่อ “ดรีม คุรุสภา”

คุรุสภา คือ ??
คุรุสภา เป็นนิติบุคคล สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติครู 2488 หน้าที่โดยหลักของคุรุสภาคือ

ให้คำปรึกษาและความคิดเห็นแก่กระทรวงศึกษาธิการในเรื่องนโยบายการศึกษาทั่วไป

ส่งเสริมฐานะของครูในทางความรู้ ความประพฤติความเป็นอยู่ของครู และรักษาประโยชน์ส่งเสริมฐานะของครูให้มั่นคง

การจัดหาสวัสดิการครู ทั้งเรื่องที่อยู่อาศัย สถานพยาบาล ร้านค้าสวัสดิการซึ่งขายของสารพัดสิ่ง ซึ่งตรงนี้เองคือจุดเริ่มต้น

ของโครงการจัดหามอเตอร์ไซค์ให้ครูที่ต้องเดินทางไปกลับระหว่างโรงเรียนกับที่พัก โดยเฉพาะครูในท้องถิ่นทุรกันดาร

โครงการนี้เริ่มขึ้นเมื่อปี 2526 คุรุสภาจะจัดหามอเตอร์ไซค์ให้ครูซื้อในราคาถูกกว่าท้องตลาด หรือถ้าผ่อนก็ต้องผ่อนถูกกว่าที่อื่น

โดยครั้งแรกที่จัดเนี่ยทางคุรุสภาก็ขอความร่วมมือไปทางสยามยามาฮ่า

ซึ่งก็ใจดีให้ความร่วมมือโดยขายมอเตอร์ไซค์รุ่น Y 80 MATE ให้ครูผ่านคุรุสภาในราคาเพียง 14,800 บาท

ในขณะที่ราคาท้องตลาดยืนอยู่ที่ 18,000 บาท

ยอดซื้อถล่มทลายเลยจ้าา ตอนแรกตั้งเป้ากันไว้ที่ 5,000 คัน

เงื่อนไขก็คือให้ผ่อนชำระผ่านธนาคารทหารไทย ซึ่งให้ดอกเบี้ยต่ำที่สุดคือ 16.5% ไม่มีเงินดาวน์ ให้ผ่อนชำระเดือนละ 790 บาท เป็นเวลา 24 เดือน รวมเงินผ่อนทั้งหมด 18,960 บาทเท่านั้น

ทำให้ยอดสั่งจองพุ่งปรี้ดดดไปที่ 30,000 คันเม่าเคาะซื้อ

โครงการที่ 2 ตั้งเป้าไว้ 8,000 คัน แต่ด้วยความฮิตของแคมเปญ ทางสยามยามาฮ่าก็ต้องเบ่งโควต้าเพิ่มจำนวนรถให้คุรุสภาไปถึง 10,000 คัน ธนาคารทหารไทยต้องตั้งวงเงินกู้เพิ่มเป็น 17,500 บาท กำหนดผ่อนชำระ 865 บาท 24 งวด ในอัตราดอกเบี้ย 16.5%

โครงการที่ 3 ก็ยังเหมือนเดิมเกือบทุกอย่าง แต่ตัวเลขจำนวนรถที่ขายผ่านคุรุสภาลดจำนวนลงไปอยู่ที่ 8,000 คัน

โครงการที่ 4 พี่มาแล้วจ้าาาา
ในปี 2531 เมื่อ เอ.พี.ฮอนด้าเข้าเสนอเงื่อนไขแก่คุรุสภาด้วยหลังจากที่สยามยามาฮ่ากวาดไปแล้ว 3 โครงการ รวมทั้งสิ้น 23,000 คัน
เอ.พี.ฮอนด้าได้รับการคัดเลือกจากคุรุสภาให้เป็นผู้จำหน่ายรถผ่านคุรุสภาในโครงการที่ 4

โดยเสนอฮอนด้า ดรีม 100 ในราคา 20,950 บาท สำหรับธนาคารก็เปลี่ยนจากธนาคารทหารไทยมาเป็นกสิกรไทย

ซึ่งให้เงื่อนไขดีมาก คือ วงเงินกู้ 22,000 บาท ไม่มีเงินดาวน์ ผ่อนชำระ 36 งวดๆ ละ 720 บาทในอัตราดอกเบี้ย 11%

รวมค่าดำเนินการต่างๆ ค่าประกัน จดทะเบียน เคาะราคาเป๊งออกมาที่ 25,920 บาท

ขณะที่ราคาฮอนด้าดรีมในท้องตลาดคือ 27,000 ถึง 28,000 บาท ราคาเงินผ่อนคือดาวน์ 5,000 บาท ผ่อน 24 งวดๆ ละ 1,435 บาท
รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 39,440 บาท จึงทำให้ใครต่อใครสนใจโครงการดรีมของคุรุสภาเป็นจำนวนมาก

เมื่อสรุปโครงการแล้ว ตัวเลข Honda Dream100ที่ขายผ่านคุรุสภาก็ไปจบที่ 49,836 คัน เจ้าหอบเงิน

และผลพลอยได้ที่เอ.พี.ฮอนด้าได้รับก็คือ ฐานะของครูเป็นที่ยอมรับมากในหมู่ชาวบ้านต่างจังหวัด
เมื่อครูใช้สินค้าตัวใด ยี่ห้อใด ก็ย่อมได้รับความสนใจและยอมรับไปด้วย กลายเป็นงานประชาสัมพันธ์ที่เอ.พี.ฮอนด้าบอกว่า “ได้ผลเป็นอย่างมาก”

แหะๆ กะจะหารูปมาแปะให้ชมกันเฉยๆ แต่ไปเจอบทความนี้เข้า เลยอยากเอามารวบรวมเก็บไว้ให้ได้อ่านกัน

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลอ้างอิงด้วยจ้า
http://boranindy.blogspot.com
http://www.hotleasing.com
ข้อมูลจาก น้าเดียว ไบค์ฮีโร่
เขียนโดย ดช นภัช
เรียบเรียงใหม่โดย TopsaVage

แว๊บไปซะยาวเลย มาๆ กลับมาเล่นว่าวกันต่อดีกว่า

แล้วจะไปหาซื้อว่าวจากไหนละเดี๋ยวนี้ เมื่อสมัยละอ่อนตอนนั้นร้านของชำแถวบ้านก็มีว่าวขายยังจำราคาได้มาจนถึงวันนี้

ว่าวปักเป้าไซส์มาตรฐานตัวละ 1 บาท เม่าบัลเล่ต์

อยากเล่นว่าวยุคนี้ ก็ต้องไปงานว่าว นอกจากจะได้ซื้อว่าวแล้ว ยังได้ดูว่าวแปลกๆแบบอื่นด้วยไง (เพื่อการเที่ยว เราต้องมีข้ออ้าง) เม่าเริงร่า

งานเทศกาลว่าวนานาชาติจัดเมื่อช่วงวันที่ 23-25 มีนาคม โรงเรียนนายสิบทหารบก อ.หัวหิน นี่เอง

มาเล่นว่าวย้อนวัยเด็ก แถมรถก็ยังวินเทจซะขนาดนี้ จะแต่งตัวแบบธรรมดาก็กระไรอยู่ใช่มะ จัดโจงกระเบนไปสิCUB เม่าอดีต

มาเลือกซื้อว่าวกันก่อน

งูดีมั้ย เอ้ออ มันขึ้นยากนะ ตอนเด็กไม่เคยเอางูขึ้นฟ้าแบบสวยๆได้เลย

แบบไหนดีน๊อออ จักรยานก็สวยน๊อออ (ช่วงก่อนนี้โดนหลอกไปเชือดด้วยจักรยานเสีย 50 กิโลเมตร ชักจะติดใจ เดี๋ยวคงหาไว้ขี่เองสักลำ)

ว่าวประกวด และว่าวยักษ์

ไปดูว่าวแปลกจากเมืองนอกกัน
กระเบนยักษ์

พี่หมีตัวแดง

ครอบครัวเสมิฟก็มา

ก๊อซซิลล่าาาา

ว่าวแบบนี้ใช้เล่นโชว์ประกอบจังหวะเพลง

บินเรี่ยพื้นได้ขนาดนี้

ลีลานักบินว่าว

นักบินว่าวสาวชาวต่างชาติ

ว่าวพร้อมเป็นหมู่คณะ เม่าออกรถ

เฮ้… เซย์ชีสสส

ตอนเด็กๆคุณเคยประสบปัญหานี้บ้างหรือไม่?
(ในภาพนั้นว่าวค้างบนกิ่งไม้นะจ๊ะ แต่พอมาดูในภาพมันเหมือนค้างบนสายไฟซะงั้น)

“รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ”

อันนี้ของแถม พิธีกรในงาน

เดินไป เดินมา แหงนหน้าแลว่าว แดดมันก็ร๊อน ร้อน หากาแฟกินซักแก้วเถอะ

นี่เลย ร้านนี้ ยินดีนำเสนอ ถ้าใครได้มาเที่ยวหัวหิน และมีเวลาแวะไปแถวอ่างเก็บน้ำเขาเต่า ร้านนี้จะอยู่บริเวณนั้นแหละ

กาแฟคั่วบดเองอ้างอิงตามสภาพความชื้นในวันนั้น บาริสต้าผ่านการแข่งขันระดับประเทศ สนนราคาแก้วละ 60 บาท

วันแรกหมดไป ใกล้สิ้นแสง กลับเข้าที่พักกันดีกว่า คืนนี้เราพักกันที่ บ้านเพียงเพลิน อยู่ใกล้หาดเขาตะเกียบ หน้าที่พักมีร้านสะดวกซื้อพร้อม
ในห้องพักอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพียบ มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส บริการฟรีสำหรับผู้เข้าพัก
ความประทับใจอีกอย่างของที่นี่คือการต้อนรับอย่างดี
ตั้งแต่พี่ รปภ. รับรถด่านแรกที่ยิ้มแย้ม และพูดคุยทักทายลูกค้าที่เข้าออกตลอดทุกคน
สนนราคาที่พักต่อคืน 3,500 บาท มีสองห้องนอน สองห้องน้ำ หนึ่งห้องนั่งเล่น กว้างขวาง ตรงห้องนั่งเล่นนี่ก็เอาหมอนมานอนได้อีกสักสองสามคนสบายเลย
ใครสนใจที่พักแห่งนี้ สามารถติดต่อหลังไมค์ในเพจ Just Ride it ได้เลยจ้า

ดื่มด่ำค่ำคืน คลอเคลียผ้าห่มกับหมอนข้างจนสาย ได้เวลาออกหาของอะไรยัดใส่พุงกันแล้ว ไปโลดดดด
เจอร้านกาแฟน่านั่ง จะนั่งรับลม รึจะเข้าไปนั่งแช่แอร์เย็นๆก็เลือกได้

วันนี้วันว่าง วันนี้พักผ่อน ร่อนไปขึ้นวัดเขาตะเกียบกัน

ไม่สูงเล้ยยย

ตีนเขา วัดเขาตะเกียบ มีร้านขายอาหารทะเลเรียงราย ไว้คราวหน้าค่อยมาลองแวะดู

อากาศแบบนี้ ดี๊ดี …… ดีที่ไม่เป็นลม เพี้ยนไฟลุก

เมื่อวานกว่าจะได้ว่าว กว่าจะถ่ายรูปนู่นนี่ แถมลมก็เข้ามั่งไม่เข้ามั่ง วันนี้ขอมาแก้มือตรงท่าเรือเฟอรี่หน่อย
จากที่พักบ้านเพียงเพลินก็ไม่ไกล ขี่รถมา 5 นาทีถึง

ชายหาดยาว ขาวกว้าง หนุ่มร่างบาง ลงไปเล่นว่าว เม่าเริงร่า

ตอนว่าวขึ้นฟ้า แหงนหน้าดูมันล่องลอยเล่นลมไป ใจเรา มันก็พลอยจะลอยขึ้นไปด้วย

ย้อนคิดถึงวัยเด็กขึ้นมา ทำไมมันสนุกจัง เพราะเราได้อยู่กับตัวเองใช่มั้ย วู้ยย ความคิด พลังกาย มันพุ่งไปพุ่งมา เหมือนสายป่านในมือ

ใครอยากลองเอาวิธีนี้ไปเพิ่มพลังใจย้อนวัยเด็ก ลองไปเล่นว่าวดูก็สนุกเพลินใจดีนะจ๊ะ

จบส่วนเที่ยวแล้ว มาต่อในส่วนของ Honda Super CUB 110 คันนี้บ้าง

ไฟหน้าตากลม ไฟเลี้ยวก็กลม สไตล์ย้อนไป ไกลถึง ตระกูล C ที่โด่งดังมาตั้งแต่ครั้งกระโน้นนนน

มายุคนี้สมัยใหม่ ใช้ไฟแบบ LED ให้แสงสีขาว

ด้านท้ายไฟ LED เช่นกัน สว่างชัดเจนยามกลางคืน
หากแต่ว่ารถทดสอบคันที่ได้รับมานี้ บางช่วงรอบความเร็ว จะได้ยินเสียงตัวครอบไฟท้ายที่เป็นพลาสติค สั่นกระทบกันนิดๆ ถ้าถอดมาหาอะไรติดเพื่อกั้นช่องว่าง เสียงก็น่าจะหายไปไม่ยาก

เครื่องยนต์ 110cc. บุคลิกของเครื่องยนต์ก็เป็นแบบที่คุ้นเคยตั้งแต่อดีต นุ่ม เบา มีแรงทอร์คเหลือกินเหลือใช้
ไต่ความเร็วช่วงต้นได้ดี ตอนออกตัวถ้าเผลอๆ เปิดคันเร่งแรงก็ยกล้อหน้าลอยได้เหมือนกัน
แต่หน้าตาฝาครอบวาล์ว เสื้อสูบฝาสูบเปลี่ยนไปชัดเจน เปลี่ยนระบบจ่ายเชื้อเพลิงจาก คาบูเรเตอร์ มาเป็นหัวฉีด ยิ่งประหยัดเข้าไปอีก

ประกับแฮนด์ด้านซ้าย สวิทช์ถูกติดตั้งไว้ในตำแหน่งเหมือนรถฮอนด้ายุคใหม่ คือสลับตำแหน่งไฟเลี้ยวกับแตรกัน

ประกับแฮนด์ด้านขวา มีเพียงปุ่มสตาร์ทมือเท่านั้น
สายคันเร่งแบบสองสายด้วย

ตะแกรงด้านหน้ารถ เพื่อรองรับตะกร้าหน้า ซึ่งเพื่อนคู่ใจของ TopsaVage ในคราวนู้น ก็มีติดมาให้แบบนี้แหละ

เบาะนั่งแบบสองตอนแยกกัน นุ่มนวล กำลังดี ถังน้ำมันเล็กไปหน่อย ถ้าจะวิ่งไกลก็ต้องแวะปั๊มบ่อยหน่อย

รูเสียบกุญแจ ถ้าล็อคคอรถแล้วดึงกุญแจออก ฝาก็จะปิดเองอัตโนมัติ

กระจกมองข้าง รูปทางนี้จะมากับ Dream รุ่นหลังจากคุรุสภา ถ้าเป็นรุ่นคุรุสภาจะเป็นกระจกทรงเหลี่ยม ส่วนถ้า C เดิมๆจะเป็นกระจกทรงกลม
มุมมองกระจกโอเค ภาพไม่สั่นพร่าทุกรอบความเร็ว ไม่หลอกตา เรื่องนี้เชื่อใจ Honda ได้เลย

มาตรวัดข้อมูลความเร็ว น้ำมันเชื้อเพลิง ระยะทางรวม อ่านง่าย ทั้งกลางวัน กลางคืน
มีไฟบอกเกียร์มาให้ด้วย (แต่ไฟบอกเกียร์ช่วงกลางวันแดดจัด จะมองยากเล็กน้อย)

ท่อไอเสีย ทรงใกล้เคียงของเดิม ติดตั้งการ์ดกันความร้อนชุบโครเมียมมาให้
มองเลยไปด้านหน้าจะเห็นการ์ดกันเท้าชนแคร้งเครื่องด้านขวา

ช่วงล่างแบบระบบเบรก
ด้านหน้าแบบเทเลสโคปิก นุ่มนวล ซับแรงกระแทกจะผิวถนนได้ดี ขี่ไปก็คิดถึงไอ้เพื่อนยากคันเก่า มันใช่เลย
นี่แหละเราคุ้นเคยมากกับช่วงล่างแบบนี้
ด้านหลัง ช๊อคอัพคู่ เพียงแต่ปรับสปริงแข็งอ่อนไม่ได้เสียแล้ว เมื่อก่อน Dream จะมีก้านให้ปรับได้ว่าจะนั่งคนเดียวหรือ สองคน
แต่ถึงปรับไม่ได้ ช๊อคอัพคู่หลังนี้ก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวัง
ลองเอาแฟนซ้อนแล้ว (น้ำหนักสองคนรวมกันราว 150 กิโลกรัม บอกเลย Super CUB2018 ก็เอาอยู่สบายๆ)

เบรกหน้าหลังแบบดรัมเบรก เหลือเฟือที่จะหยุดความแรงระดับนี้ อาจจะไม่แม่นยำเท่าระบบดิสเบรก
แต่ทรงรถมาแบบนี้ ถ้าทะลึ่งใส่ดิสเบรกมาให้คงดูแปลกพิลึก
ที่สำคัญ การซ่อมบำรุง ดูแลรักษา ระบบดรัมเบรกเนี่ย มันง่ายมาก คือแทบไม่ต้องไปยุ่งกะมัน ปรับตั้งระยะเบรกไปเรื่อยๆ จนผ้าเบรกหมดก็เปลี่ยนผ้าเบรกเท่านั้นเอง

กับราคา 42,500 บาท ช่วงวันเปิดตัว ส่งรูปไปให้คุณพ่อดู ก็เม้ามอยกันใหญ่ประสาพ่อลูกบ้ารถ
เอ้ย เอาดีมั้ย จะโดนแม่ด่ามั้ยถ้าเอาเข้าบ้านอีกคัน ขายWave คันแดง แล้วเอาเจ้านี่เข้ามาดีมั้ย
ระหว่างคันนี้กะไอ้ซีส้ม (พ่อมี C70 อีกคัน 555+) เอายังไงดี ว่ากันให้วุ่นเลยวันนั้น

วันนี้ผมมีคำตอบให้พ่อแล้ว ถ้าพ่อจะเอาคันนี้ ผมเชียร์เต็มที่ เม่าเคาะซื้อ

ขอขอบคุณ
A.P.Honda เอื้อเฟื้อรถทดสอบ
น้าโต้ ป้าตุ้ย และน้าเต้สำหรับรูปประกอบบทความสุดสวย
ที่พักสุดสวยคอนโดเพียงเพลินได้รับความอนุเคราะห์จากเจ๊อย ฮอนด้านัดพบ บางใหญ่
และสำคัญที่สุดท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน