-=:+: RIDE NOW : Riding the Green Monster : New Versys 650 2015
สวัสดีครับพี่น้องทุกท่าน
ลำพังมนุษย์เงินเดือนชนเดือน พนักงานบริษัทกระจอกๆอย่างผม แน่นอนครับว่าการจะหามอเตอร์ไซค์หลายๆคันมาขี่แล้วเล่านั้น ก็คงไม่มีปัญญาไปซื้อมาทำ CR จึงต้องบากหน้าไปขอความอนุเคราะห์จากผู้ประกอบการต่างๆเพื่อหยิบยืมมาขี่แล้วเล่า ซึ่งเงื่อนไขที่ผมขอยืมก็ทั้งยากแล้วก็ไม่ยากก็คือ ผมแจ้งว่า อะไรที่ไม่ดีไม่ชอบ ผมก็บอกนะ ถ้าไม่ตกลง ผมก็ไม่สามารถร่วมงานด้วยได้ ซึ่งน่ายินดีที่ผู้ประกอบการทุกรายที่ผ่านมาเข้าใจและยินดีตามเงื่อนไข ก็ขอบพระคุณมากๆครับที่ให้ความไว้วางใจ และเชื่อมั่นในผู้บริโภค
หลายคนสงสัย ถ้ารถที่ยืมมาขี่เกิดอุบัติเหตุจะทำอย่างไร…ในส่วนของคนขี่ก็ต้องรักษาตัวเองไปตามมีตามเกิด และความเสียหายในส่วนของรถที่ยืมมาก็ต้องชดใช้กันไปตามความเป็นจริงครับ แต่ถ้าล้มแปะนิดๆหน่อยๆส่วนมากผู้ประกอบการเขาก็หยวนๆให้
โม้ซะยาว มาถึงคันนี้ครับ KAWASAKI VERSYS 650 2015 ได้รับความอนุเคราะห์จากผู้ประกอบการใจดี Motoaholic http://www.motoaholic.com/ให้ยืมมาขี่แล้วโม้เป็นเวลาสามวัน มีน้ำมันออกมาจากศูนย์พระราม 5 ให้สามขีดครับ นอกนั้นเติมเองยาวตลอดทริปในระยะทางประมาณ 600 กิโลเมตร และไม่มีอามิสสินจ้างอื่นใดทั้งสิ้น
เส้นทางที่ใช้งานในครั้งนี้ ก็อย่างที่โพสต์ชวนเพื่อนๆไว้หน้าเฟซ (แต่ไม่มีใครตกหลุมมาด้วยสักคน ๕๕๕) ก็คือ กรุงเทพ > กาญจนบุรี > น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ไปกลับก็เฉียดๆ 600 กิโลเมตร ก็ถือว่ากำลังสบายๆสำหรับเวลาสองวันหนึ่งคืน
ทริปนี้ออกเดินทางสายมากครับ เพราะต้องรอกล่องตบพาพ่อไปกินข้าววันพ่อกันก่อน กว่าจะได้ออกกรุงเทพก็ปาไปบ่ายสองแล้ววววววววว
จากมีนบุรีผมใช้ถนนรามอินทราไปทะลุแจ้งวัฒนะ แล้วก็ไปเลี้ยวเข้าราชพฤษ์ รัตนาธิเบศน์ แล้วเลือกใช้เส้นบางบัวทองไทรน้อย พออีกสัก5กิโลเมตรจะถึงบางเลนก็…
เละครับเละ ล้างรถมาสวยๆนี่หมดกันเลย ๕๕๕ ติดฝนอยู่เกือบๆครึ่งชั่วโมงครับ แว้บเข้าไปหลบฝนที่ตึกแถวข้างทาง รู้สึกจะเป็นร้านซ่อมมอเตอร์ พันไดนาโม จำชื่อร้านไม่ได้ ก็ขอบคุณพี่เจ้าของร้านที่เอื้อเฟื้อที่หลบฝนให้ครับ
ผ่านทุ่งนาสวยๆแถวพนมทวน แวะถ่ายรูปสักหน่อย
เนื่องจากเป็นทริปที่ออกซะบ่าย จึงต้องทำเวลากันสุดๆ เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมาหลังจากที่ทางเข้าห้วยแม่ขมิ้นจากน้ำตกเอราวัณได้ลาดยางเสร็จเรียบร้อย ก็เป็นที่นิยมจากนักท่องเที่ยวมากครับ งานนี้ก็เลยกลัวว่าถ้าไปถึงมืดจะไม่มีที่กางเตนท์ จากบางเลน >ผ่านกำแพงแสน >พนมทวน >กาญนะจ๊ะบุรี >ลาดหญ้า >เขื่อนท่าทุ่งนา> น้ำตกเอราวัณ…ก็ตามคาดครับ ไปถึงห้วยแม่ขมิ้นประมาณห้าโมงเย็น ลานกางเตนท์ข้างบนที่วิวสวยแน่นเอี๊ยดเลยครับ พี่ๆเจ้าหน้าที่ที่ด่านเก็บเงินเลยแนะนำให้กางลานข้างล่างที่ชั้น 1 แทน ผล…อย่างในภาพเลยครับ (มอเตอร์ไซค์ผมเข็นเข้าไปนะครับ)
ส่วนทางเข้าห้วยแม่ขมิ้นในระยะทางประมาณ 44 กิโลเมตร บางโค้งบางช่วงก็เริ่มพังบ้างแล้วครับ เอาคลิปช่วงนี้มาฝากกันนิดหน่อย (มีหลงด้วย ๕๕)
ที่กางเตนท์ บริเวณน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ชั้น 1 ครับ เป็นภาพตอนเย็นกับเช้าอีกวันผสมกันไปโลด นอนฟังเสียงน้ำตกกันทั้งคืน โซนนี้สงบดีใช้ได้เลยล่ะ
มีพูพอนงามๆด้วยนะเออ
น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลากันเลย
อย่างที่หลายท่านน่าจะทราบ บริเวณน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นจะมีป้ายประกาศห้ามอาบน้ำโดยใช้สบู่ แชมพูในบริเวณน้ำตก ในระหว่างที่ผมกับครอบครัวลงเล่นน้ำตอนเช้า ก็ยังพบเห็นนักท่องเที่ยวฝ่าฝืนข้อห้ามนี้อยู่ ผมจะเข้าไปห้ามปราบ มนุษย์แฟนก็ห้ามผมเอาไว้ จึงทำได้แค่เพียงนำภาพมาฝากเตือนกัน ถ้าท่านมาเห็นภาพนี้และจำได้ ท่านก็น่าจะจำได้ว่าผมยืนจ้องท่านอยู่ตลอดเวลาที่ท่านอาบน้ำ สระผม ถูสบู่ แปรงฟัน แล้วล้วงควักทำความสะอาดไข่ท่านนะครับ
ส่วนนี่เป็นครอบครัวแมวน้ำที่ลงเล่นน้ำครับ ลงไปตัวเปล่าๆไม่มีสบู่แชมพูอะไรก็สดชื่นจะแย่ละ
อ่อ ครอบครัวแมวน้ำมาได้อย่างไร คืองี้ ผมและกล่องตบบึ่งมาหาที่กางเตนท์กันก่อน เอาแต่เตนท์มัดท้ายรถมาด้วย ส่วนครอบครัวแมวน้ำของกล่องตบขับรถตามมาอีกคันนึงครับ อิอิ
ค่ำคืนที่ได้ดื่มด่ำนอนฟังเสียงน้ำม้วนตัวผ่านหินได้ผ่านไปอย่างเป็นสุข
อ่อ บริเวณลานกางเตนท์ชั้น 1 มีร้านอาหารให้บริการด้วยนะครับ รสชาติผมให้ผ่านเลย ราคาก็กลางๆครับ แต่ก็ให้เยอะอยู่ ข้าวผัดหมูง่ายๆแต่ก็อร่อยได้เหมือนกันนะ
ใกล้ๆกันมีชาวต่างชาติปั่นจักรยานมากางเตนท์นอน
อ่อ บริเวณลานนี้เป็นทางขึ้นลงของรถที่ขึ้นแพขนานยนตร์มาจากศรีสวัสดิ์ด้วยนะครับ
ครอบครัวแมวน้ำไปเดินเล่นริมเขื่อน
คุณเล็บสวยกิ้วก๊าวตอนรับขับสู้ดีมาก
พาพี่จิ้งจกกลางลงไปเที่ยวริมเขื่อนครับ ข้างหลังแถวๆนั้นก็เป็นที่เทียบแพขนานยนตร์นั่นแหละ
เออ ลืมเล่าไปเรื่องนึง ตอนครอบครัวแมวน้ำขับรถมา ที่ด่านเขาก็ถามว่าพาพ่อมาเที่ยวกันเหรอ เขาก็นับว่ามากี่คน แล้วก็แจ้งว่า…วันพ่อให้เข้าฟรีจ้า เย่!!!
หลังจากเก็บเตนท์แล้ว ก็ฝากของไปกับรถครอบครัวแมวน้ำ ผมและกล่องตบก็เลยมีเวลาแวะถ่ายรูปช่วงทางเข้าออกน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นกันอีกเล็กน้อย ก่อนคุณกล่องตบจะแยกไปนั่งรถยนตร์กลับกับครอบครัวแมวน้ำมีเอราวัณฟู๊ดเซ็นเตอร์ ๕๕๕
ภาพมุมมองของกล่องตบ
ให้กล่องตบจัดแอคชั่นให้สักหน่อย ถ่ายจากไอโฟนก็ได้ประมาณนี้ (วนอยู่สามรอบ ฮ่วย!!)
เชื่อว่า ณ ตำแหน่งนี้ หลายคนก็ชอบแวะมาถ่ายกัน
หลังจากแวะซัดมื้อเที่ยงที่เอราวัณฟู๊ดเซนเตอร์แล้ว กล่องตบก็ขอแยกตัวกลับไปกับราชรถ
คราวนี้ผมก็เลยแวะที่ๆเล็งไว้ตอนขามา….
เอ้า!! ไอ่พวกกล้วยเนื้อ มะรึงจะลงมาดีๆหรือให้กะรูไปไล่เตะให้กลิ้งลงมา เข้าแถวๆๆๆ เข้าแถวเป็นหมวด ปฏิบัติ!!
เมื่อล้มลุกคลุกคลานลงมาจากรถ เราต่างก็มายืนสงบอยู่เบื้องพระพักตร์ของล้นเกล้าฯ
เอ้า วิ่งไปที่กองร้อย ไปๆๆๆ
พันไหน พันอะไร!!
มุมมองของจ่านรก!!
เอ้า…เมคอัพกันหรือยังล่ะตัวเธอว์
อะไรนะ พวกเอ็งเพิ่งมาถึง ยังไม่เหนื่อยใช่ไหม ยังมีแรงใช่ไหม ไปเอาล๊อกแซคขึ้นหลัง พร้อม ปลย88 เราจะไปขึ้นเขาชนไก่กัน
(สมัยผมขึ้นยังเป็นลูกรังแดงๆ+หินลอยก้อนเบ้งๆอยู่เลย เดี๋ยวนี้ลาดยางซะกริบเลย)
ขึ้นมาดีๆไม่ดื้อไม่ซน จ่าก็จะกรุณาให้ได้ชมวิวสวยๆ แต่ถ้าดื้อถ้าซนก็หมอบชมดินบนยอดเขาไปเถอะ!!
ลงมาได้ก็คงมื้อเที่ยงพอดี เข้าแถวรับอาหารแล้วรีบฟาดให้หมด กินก่อนล้างก่อนเหว๋ยยยยยยยย
อิ่มข้าวแล้ว ถ้ามีตังค์….อย่างหรูเลย
ถ้าไม่มีตังค์…
แควน้อย!!l
สามชุก!!
3G??? หรูไป เอาไปครึ่งGพอ
เป็นอะไรก็ไม่รู้ววววว เจ็บ_วยป่วยตา…
วางแผนยุทธการกันหรือยัง
อย่าถามว่าได้อาบกี่นาที…ถามว่ากี่ขันดีกว่าไหม
หึหึหึ รู้นะว่าไม่กล้าโดดกันหลายคน
๕๕๕ ระลึกความหลังกันพอประมาณ เอาเป็นว่าใครผ่านเขาชนไก่ อยากแวะเข้าไประลึกความหลังครั้งยังหัวเกรียน ก็แวะถามที่ป้อมรักษาการณ์ได้ครับว่าขอเข้าไปถ่ายรูปได้ไหม ส่วนผมถามแล้วก็ได้ความตามภาพนั่นแหละ (หาสนามยิงปืนเป้าสะอาดไม่เจอวุ้ย)
เอาล่ะ พาเที่ยวกันไปแล้ว คราวนี้ก็กลับมาเรื่องรถบ้าง ถ่ายเจาะแต่ละจุดมาให้ชมกัน
ด้านซ้าย
ด้านขวา
ด้านหน้า
ด้านหลัง
เฉียงหน่อยๆ
ไปดูหน้ากากแฟริ่งกันใกล้ๆอีกนิด
ชิลด์หน้าใช้มือหมุนน๊อคสองตัวปรับระดับเลื่อนขึ้นลงได้เลย ผมสูง175 ถ้าปรับสูงสุดนี่ลมพ้นหัวพอดี
ด้านในเป็นรางแบบนี้
มาเจาะไฟหน้ากันบ้าง
เปิดไฟหน้า(ต่ำ) ไฟหน้าจะติดข้างขวาดวงเดียว
เปิดไฟหน้า(สูง)ไฟหน้าจะติดทั้งสองดวง
เจาะดูมิติของจากออกแบบมุมสะท้อนแสงของโคมไฟหน้ากันใกล้ๆ
เจาะหลอดไฟ
ไฟเลี้ยวหน้า
มาดูชุดล้อหน้ากันบ้าง ให้โช๊คหัวกลับมาพร้อมกับABSอีกเช่นเคย
ปั้มเบรกใช้บริการจากNissin
ยางหน้าขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 17 นิ้ว ยี่ห้อDUNLOP ขนาด 120/70 ให้หน้ายางมามากกว่าคู่เปรียบนิดหน่อย
มาชมแผงหม้อน้ำกันบ้าง
คอท่อไอเสีย
ติดอกไก่มาให้ด้วยเลย อันนี้คู่เปรียบไม่มีจร้า
พักเท้าผ็ขับขี่ด้านขวา และแป้นเหยียบเบรคหลัง
โช๊คอัพหลังระบบแก๊สปรับระดับได้
พักเท้าคนซ้อนด้านขวา
ด้านขวาของเครื่องยนต์แบบเต็มๆ
สวิงอาร์มขึ้นรูปโค้งจากอลูมิเนียมเช่นเคย
ยางหลังเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด17 นิ้ว ยี่ห้อ DUNLOP ขนาด 160/ุ60 ให้มากกว่าคู่เปรียบหน่อยนึง
ช่วงท้ายและชุดบังโคลนหลัง
มาดูช่วงแฮนด์กันบ้าง
ใกล้เข้าไปอีกนิด
ประกับขวาและกระจกข้าง
ประกับซ้ายและกระจกข้าง
ก้านเบรคขวาปรับระดับได้
อ่อ ตรงประกับซ้ายด้านหน้าก็มีปุ่มยกไฟสูงด้วยนะ ก้านคลัทซ์ก็ปรับระดับได้ตามปกติของรถในคลาสนี้
มาเจาะแผงคอกันอีกหน่อย
โช๊คหน้าปรับtension และpreloadได้
เรือนไมล์มีวัดรอบแบบเข็มพื้นขาว
เปิดกุญแจมา ก็มีมาให้พร้อมทั้งเกจน์วัดระดับเชื้อเพลิง ความเร็ว Trip A Trip B ค่าเฉลี่ยนอัตราสิ้นเปลือง แต่ไม่มีไฟบอกเกียร์มาให้จ้า อันนี้คู่เปรียบมีให้นะจ๊ะ
ได้ยินว่าไฟบอกเกียร์จะเป็นของแต่งมาเพิ่มตรงรูนี้
ส่วนรูนี้จะเป็นที่จุดบุหรี่
ส่วนบนและข้างถังน้ำมันพื้นที่เป็นโลหะน้อยไปหน่อย จะเลือกกระเป๋าติดถัง เอามาลองก่อนน่าจะดี
แตรมาอยู่ตรงนี้ (คู่เปรียบเอาไปซ่อนหลังหม้อน้ำ)
คันเกียร์และพักเท้าผู้ขับขี่ด้านซ้าย ขาตั้งนี่ต้องหาตีนเป็ดมาใส่เพิ่มอย่างแน่นอน
พักเท้าหลังคนซ้อนด้านซ้าย
ช่วงล้อหลังด้านซ้าย
ข้อมูลที่แนะนำ
สเตอร์หลัง Sunstar
เปิดเบาะดูกันหน่อย
พื้นที่ว่างใต้เบาะสำหรับใส่ของเล็กๆน้อยๆให้มาน้อยกว่าคู่เปรียบ
ปิดท้ายกันด้วยหน้าตาของเบาะ หน้านุ่มไม่ค่อยเมื่อย แต่ไม่มีแรคหลังมาให้นะเออ(จะเป็นของแต่งเพิ่มภายหลัง) อันนี้คู่เปรียบมีมาให้พร้อมเลยนะจ๊ะ
ที่มือจับกันตก มีช่องเตรียมไว้สำหรับเอากระเป๋าข้างมาเสียบได้เลย
มาถึงบทสรุปของเจ้า KAWASAKI VERSYS 650 หรือฉายาที่ผมตั้งเอง…จิ้งจกกลาง….คันนี้กัน
อินดี้ทำคันนี้ออกมาเป็นสปอร์ต+ทัวร์ริ่ง+แอดแวนเจอร์นิดๆ 130 140 นี่น่าจะมาได้ไวกว่าคู่เปรียบจากค่ายคนบ้า แต่ผมรู้สึกว่าหลัง140ไปคนบ้าจะไหลกว่านิดๆ
ตัวรถดูแล้วทำมาสั้นกว่าคู่เปรียบ ทำให้กระฉับกระเฉง เข้าโค้งได้ไว มุดในเมืองได้ไม่ยาก ส่วนของอัตราเร่งต่างๆก็ทอร์มาหนักกว่าคนบ้าตรมสไตล์ของเครื่องตระกูลนี้ของอินดี้ กระแทกกระทั้นได้มากกว่าสำหรับคนที่ชอบอะไรที่ดุๆหน่อย
ผมสูง175cm ขึ้นคร่อมแล้วก็เขย่งครึ่งเท้า มุดในเมืองก็ไม่ลำบากอะไร
ท่านั่งและฟิลลิ่งการควบคุมรถทั้งหมด เทียบกับคู่เปรียบที่ผมเพิ่งได้ลองใช้งานมา เทียบเลยว่าคันนี้เหมือนหนุ่มกลางที่ผ่านโลกมาบ้าง เบาะนั่งได้เต็มก้นหลังตรงไม่เมื่อยในระยะทางที่ลอง
ข้อดีที่ต่างจากคู่เปรียบที่พบคือหลัง180ไปแล้ว หน้ายังไม่ลอย ไม่ต้องกดแฮนด์ช่วยแต่อย่างใด
ระบบเบรคหน้าหลังทำงานได้ดีสมตัว
ไฟหน้าสว่างพอใช้ อันนี้คู่เปรียบดูจะได้คะแนนมากกว่าหลายแต้ม
ชุดเรือนไมล์ ด้อยกว่าคู่เปรียบในจุดที่มีไม่ไฟบอกเกียร์มาด้วย แต่ก็มี trip A B พร้อมการคำนวนอัตราสิ้นเปลืองเขื้อเพลิง
การใช้งานในเมือง น้ำหนักตัวไล่เลี่ยกันคู่เปรียบ แต่มิติที่ดูเล็กกว่าทำให้มุดไม่ยาก ถ้าเทียบกับคู่เปรียบเรื่องการมุดในเมือง กลายเป็นว่าผมชอบคู่เปรียบมากกว่า เพราะคันนี้ต้องเคร่งครัดเรื่องการคุมรอบเครื่องมันหน่อย ตบเกียร์ขึ้นลงก็กระแทกนิดๆประสาอินดี้ (หรืออาจเป็นเพราะแก่แล้ว)
ถังน้ำมันให้มามากกว่าคู่เปรียบนิดหน่อยคือความจุ21ลิตร อัตราสิ้นเปลือง….รอบนี้ไม่ได้วัด ๕๕๕ ขออภัย แต่เท่าที่ลองแล้วเข้าใจ ก็ดูจะซดกว่าคนบ้าอยู่บ้างแต่ก็ไม่มากมายอะไร ทดแทนด้วยอัตราเร่งช่วงต้นที่จัดจ้านกว่า ยังเป็นสัดส่วนที่สมดุลกันดี
รถคันนี้น่าจะเหมาะกับ…ผู้ขับขี่ที่เป็นหนุ่มน้อยไปถึงกลางๆที่ต้องการความเร็วแรงแบบทันใจ ต้นและกลางกระฉูดปรู๊ดปร๊าดสไตล์อินดี้ ปลายก็พอไปได้ มีช่วงยุบมาให้เพิ่มจากสปอร์ตแท้ๆทำให้เดินทางบนทางหลวงได้อย่างกังวลกับร่องหลุมบนถนนน้อยลง
สิ่งที่ดูจะได้เปรียบคนบ้าก็คือ ราคาค่าตัวที่ย่อมเยาว์กว่า และบางคนอาจชอบกันสะเทือนหน้าแบบหัวกลับมากกว่า(หล่อกว่า) ทั้งยังปรับระดับได้เลยอีกด้วย
และสำหรับคนที่ชอบหน้ายางกว้างๆ คันนี้ก็ให้มามากกว่าคู่เปรียบนิดนึงด้วยจ้า
สุดท้ายก็ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามกระทู้นี้ และเพื่อเป็นการตอบแทนภายในสัปดาห์นี้ก็จะล้างไหที่ดองอีกสองคันไว้ให้หมดเลย
ขอบคุณครับ
บทความโดย สมัญตาชีวบุตร_omega_13