[RIDE NOW] RIDE to the Frist Dive with SUZUKI V-STROM 1000 ABS
คำเตือน!!! กระทู้นี้รูปเยอะเป็นไปได้ก็เปิด wifi นะจ๊ะ
เรื่องของเรื่อง ก็คือ ปีที่แล้วแมวน้ำที่บ้านได้ไปลงเรียนดำน้ำ (Scuba) เอาไว้ กะว่าได้ใบอนุญาตมาก็จะไปทำงานอาสาสมัครเก็บขยะใต้ทะเลตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ จากนั้นก็ไปเรียนภาคทฤษฎีกันก็แล้ว ไปเรียนภาคปฏิบัติในสระว่ายน้ำก็แล้ว คราวนี้ก็ถึงทีสอบภาคปฏิบัติในทะเล เมื่อนัดหมายครูต้อมแห่ง happy dive ได้วันที่ 2 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สถานที่สอบคือพรัสเซียยาปุระจังหวัดใหม่ของรัสเซียที่อยู่ใกล้ๆชลบุรีเรานี่เอง ได้ดังนี้แล้วก็อย่าให้เสียเที่ยว ก็เลยไปยืมเจ้าวีกะปอมพันมาจากไทยซูเพื่อเอามาลองขี่แล้วเหลาให้เพื่อนสมาชิกได้พิจารณากัน
รับเข้าบ้านมานอนคุยเล่นกับส่งแก๊สคุง 1 คืน
ออกเดินทางจากกรุงเทพประมาณห้าโมงเย็นของวันที่ 1 พฤษภาคม 2558 และเพื่อหลีกเลี่ยงมวลมหาประชาชนบนถนนสุขุมวิท เราจึงเลือกวิ่งสุวินทวงษ์แล้วไปโผล่พนัสนิคม ออก331 แล้วไปเลี้ยวเข้าสาย 7 ตรงศรีราชา เพื่อมุ่งหน้าสู่พรัสเซียยาปุระสืบไป
ช่วงนี้มีคลิปมาให้ดูกันเล็กน้อย จะเห็นได้ว่าช่วงที่พอเข้าบายพาสสาย 7 แล้วเลยแยกที่ซ้ายไประยอง พอตรงมาทางพรัสเซียยาปุระ จะมีโค้งขวาไฮสปีดอยู่หลายโค้ง ก็เลยลองให้ดูว่าเจ้านี่มันไปได้แค่ไหน (ซ้อนสอง สิริน้ำหนักบรรทุกรวมแล้วประมาณ160กิโลกรัม)
ออกจะดูยากสักหน่อย เพราะเอากล้องติดสายรัดหน้าออกไว้แล้วไม่ได้ปรับสายให้ตึง เอาเป็นว่าถ้าดูไม่ออกก็บอกละกันว่าโค้งไฮสปีดยาวซ้อนสองเข้าไปเกือบๆ180คนได้สบายๆนิ่งๆไม่มีส่ายเลยจ้า (ไม่กล้าไปเร็วกว่านี้เพราะรถเยอะ แต่ในมือก็ยังเหลืออยู่พอสมควร)
เมื่อเข้าที่พักแล้วก็…หลับไหล ตื่นมาอีกวันก็ร่อนไปบาลีฮายเพื่อลงเรือไปสอบดำน้ำกัน
มาถึงแล้ว นี่คือนาวาที่จะพาเราไปทดสอบชะเอิงเอยยยย (ชื่อเรือ….ไม่ค่อยอยากเจอตอนออกทะเลนะเนี่ย)
ลาก่อยยยยชั่วคราวพรัสเซียยาปุระ พี่จะไปเกาะริ้นแป๊บเดียวเดี๋ยวมา (เมฆทางขวาไม่ค่อยน่าไว้ใจ)
เรือแล่นมาประมาณชั่วโมงนึง ก็ถึงเกาะริ้น
การทดสอบภาคทะเลก็ทดสอบกันหลายไดฟ์ แต่ไดฟ์แรกๆครูห้ามเอากล้องลง(แหงสิ ไปสอบนะยะ) น่าเสียดายนิดนึง เพราะไดฟ์แรกนี้ครูต้อมเจอะเจ้า pygmy sea dragon (ตาดีจริงครูช้านนนน) ครูก็ลงไปสอบนักเรียนก็เลยไม่ได้เอากล้องลงไปคือกัน…เลยอดถ่ายรูปมาอวดเลยยยย
จนเมื่อไดฟ์สุดท้าย ที่ North Rock ครูเห็นว่าสอบผ่านกันแล้ว ก็เลยเป็นไดฟ์ที่ดำน้ำเล่นกันอย่างเดียวไม่มีการสอบskillต่างๆ จึงอนุญาตให้เอากล้องลงน้ำได้ อนิจจา ตอนแรกว่าจะถ่ายเป็นวีดีโอ พอลงน้ำไปแล้วถึงเห็นว่า…ตั้งเป็น photo เอาไว้ อะ…โอเค๊ ไงก็ได้ ภาพนิ่งก็ได้เนอะ แต่ปรากฎว่าน่าเสียดายไปนิดหนึ่งที่ไดฟ์สุดท้ายนี้กระแสน้ำค่อนข้างแรง น้ำก็ขุ่น แสงก็ค่อนข้างน้อย…ภาพอาจจะไม่สวยเท่าไรนะจ๊ะ แต่ก็พอให้เห็นได้ว่า Underwater Housing MPK-AS3 ตัวนี้เมื่อใช้งานใต้น้ำแล้วเป็นอย่าไร (ภาพเดิมๆไม่มีการตบแต่ง แค่resize ใน acdsee เท่านั้นเองจ้า)
น้องสองคนนี้ก็มากับครูต้อมเหมือนกัน มารีเฟรชก่อนจะไปเที่ยวดำน้ำกัน (ประมาณว่าร้างไปนาน เพื่อเป็นการไม่ประมาทก็เลย กลับมาซ้อมก่อนไปเที่ยวจริง)
ครูต้อมมมมมมรอนู๋ด้วยยยยยยยย
หลังจากดำเล่นกันพอสมควร ก็ค่อยๆขึ้นสู่ผิวน้ำอย่างปลอดภัย
เรียนจบแล้วจ้า!!
ขอบพระคุณครูแหม่ที่ดูแลเราในภาคทฤษฎีและสระน้ำ
ขอบพระคุณครูต้อมที่ดูแลเราในสระน้ำและภาคทะเล
หลังจากสอบเสร็จก็กลับสู่ฝั่ง ช่วงนี้แมวน้ำมีอาการปวดข้างในหู และเวียนหัว จากที่วางโปรแกรมไว้ว่าจะโผล่ไปเซอร์ไพร์สน้องชายคนนึงที่ระยอง ก็เลยต้องนอนที่พัทยาอีกคืน
ข้ามมาอีกวัน นอนให้เต็มที่ ตื่นสายๆ เช็คเอาท์สายๆ (ก็เกือบเที่ยงนั่นแหละ) แล้วออกมาขี่รถกินลมชมวิวเล่นกันก่อนกลับบางกอก
จากนั้นก็ยังไม่หนำใจ ขี่เลยไปสัตหีบต่อซะเลย
ก่อนกลับก็หาแวะที่น่าสนใจถ่ายรูปเล่นกัน
ลงไปลองทางหินๆสักหน่อย
เลี้ยวไปกินลมเล่นแถวเขาชีจรรย์
ลงไปลองทางแดงๆบ้าง
ก่อนถึงบ้าน มีมาให้ดูกันเล่นๆอีกคลิปนึงจ้า ท้ายๆจะเป็นโค้งเนียนๆแถวสุวิทวงษ์
มาๆ มาต่อกัน คราวนี้มาเจาะส่วนต่างๆที่น่าสนใจของ SUZUKI V-STROM 1000 ABS กันบ้าง
ส่วนของเรือนไมล์ จะให้วัดรอบแบบกลมๆมา ซึ่งอันนี้ชอบมา ดูรอบง่ายดี (แบบดิจิตอลของบางรุ่นบางยี่ห้อดูไม่ค่อยถนัดตา) อ๊ะๆ คันนี้ให้ช่องเสียบไฟที่จุดบุหรี่มาเลยนะจ๊ะ คู่เปรียบอีกยี่ห้อคลาสเดียวกันต้องซื้อเพิ่มนะเออ
การแสดงผลต่างๆก็มีครบถ้วนตามที่ควรจะมีครับทั้งเลขไมล์หลัก trip A B อัตราเฉลี่ยการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง TC 1 2 มิเตอร์วัดอุณหภูมิ เกจน์วัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิง เรียกได้ว่ามากันครบๆ
ชิลด์บังลมปรับได้ 3+3ระดับ ปรับยังไงมีคลิปให้ดูด้วย (อันนี้ก็ปรับได้ดีกว่าของคู่เปรียบ)
ชุดไฟหน้าและบังโคลนหน้าแบบปากนก เรียกได้ว่า”จิก”มาตั้งแต่เกิด
เจาะให้ดูในส่วนของชุดโคมไฟ
ไฟเลี้ยวโคมเป็นสีขาวแบบเรียบๆขนาดกำลังดี
ชุดหน้ารวมๆ ดูแล้วเอาไว้”จิก”ได้ดีมาก๕๕๕
ชุดแผงคอไม่หนาไม่บาง และจะเห็นว่าโช๋คปรับรีบาวด์ได้ ปรับแข็งอ่อนได้
แว้บมาดูแฮนด์ซ้าย กระจกมองข้างหน้าตาคล้ายๆตัว650 (เอ๊ะหรือใส่กันได้)
เจาะไปที่ประกับซ้าย ปรับตั้งการใช้งานต่างๆของหน้าจอแสดงผลกันตรงนี้เลย กดบนจะเป็นส่วนของเลขไมล์และทริปต่างๆ กดล่างเป็นการเรียกดูข้อมูลค่าเฉลี่ยการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ส่วน sel เป็นการล๊อคเพื่อเลือกระดับของ TC
ก้านคลัทช์ปรับระดับได้ ที่ประกับซ้ายด้านนอกก็จะมีสวิทช์ยกไฟสูงให้อีกปุ่ม
แว้บมาที่แฮนด์ขวา
ประกับขวา ก็ทั่วไป off-run start hazard light
ก้านเบรคหน้าปรับระดับได้เช่นกัน
เครื่องยนต์สี่จังหวะแบบสองสูบ วี-ทวิน 1000cc DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ ดูงามไปอีกแบบ
ชุดฝาของถังน้ำมันเชื้อเพลิงขนาดความจุ 20 ลิตร ดูสวยลงตัว
เบาะโดยสารแบบชิ้นเดียวที่ให้ความเป็นสปอร์ตมากกว่าตัว650 พูดง่ายๆ แข็งกว่า และช่วงระหว่างขาแคบกว่า ถ้าเอาความสบาย เบาะตัว650สบายกว่าในระยะทางยาวๆ
ชุดแรคหลังอลูมิเนียมขึ้นรูปสวยงามแข็งแรง ออกแบบได้ดูบึกบึน
ชุดไฟท้ายหลังมาพร้อมกับแผงทับทิมสะท้อนแสง และไฟเลี้ยวโคมสีขาวขนาดพอเหมาะ
ชุดล้อหน้า ล้อแม็กซ์หลังขนาด 19 นิ้ว รัดไว้ด้วยยางขนาด 110/80 Bridgstone BW-502 ยัดไว้กับกันสะเทือนหน้าแบบหัวกลับขนาด43mm พร้อมดิสก์เบรกคู่หน้าใช้บริการปั้มเบรคสูบคู่แบบเรเดี่ยลเมาท์ของ TOKICO
มาดูชุดล้อหลังบ้าง ล้อแม็กซ์หลังขนาด 17 นิ้ว รัดไว้ด้วยยางขนาด150/70 Bridgstone BW-502 มาแขวนไว้กับสวิงอาร์มอลูมิเนียมขึ้นรูปสีดำ รอยเชื่อมหนาๆดูแล้วก็อุ่นใจ
ปั้มเบรคหลังใช้บริการของ TOKICO มาตรฐานสไตล์ญี่ปุ่นใช้งานทั่วไปก็เอาอยู่เหลือๆ
กันสะเทือนหลัง ปรับแข็งอ่อนได้ประสารถคลาสนี้ เท่าที่ลองก็ใช้งานได้ดี
ชุดท่อไอเสียขนาดกำลังดี ซุ่มเสียงก็ไม่ใช่เงียบกริบ มีแผดนิดๆแต่ไม่หนวกหู พอได้อารมณ์เลยจ้า
ระบบคายไอเสียให้อารมณ์แบบตัวสปอร์ตด้วยชุดควบคุมขนาดท่อไอเสียด้านใน
จากที่ได้ลองขี่เจ้าตัวนี้เป็นระยะทางกว่าพันกิโลเมตร ก็พอจะจับจุดได้ประมาณนึง ขอเหลาเท่าที่เจอนะ ไอ่ที่ไม่เจอแต่ไปอ่านเจอมาไม่ขอเหลานะจ๊ะ
เครื่องยนต์สองสูบแบบวีทวิน ปริมาตรความจุ 1,037 cc ก็ยังเป็นเครื่องยนต์ที่เป็นบล๊อคเดียวกับ ตระกูลTL1000 แต่ถูกตอนแรงม้าจากพีคสุดประมาณ135ตัวลดลงมาเหลือประมาณ 100 ตัว แต่ซูซูกิหันมาพัฒนาเทคโนโลยีในส่วนของวัสดุและระบบอื่นๆในเครื่องยนต์เพิ่มทำให้แข็งแรงขึ้นและน้ำหนักเบาลง
แน่นอนที่สุดสำหรับคนบ้า กระบอกสูบก็ต้องเป็นอลูมิเนียมเคลือบสูตรพิเศษ SECM หรือ Suzuki Composity Electrochemiacal Material เรื่องความทนทานไม่เป็นรองใครแน่นอน และเรียกแรงบิดที่กระชากใจออกมาด้วยระบบจ่ายเชื้อเพลิงที่มีประสิทธิภาพสูงโดยหัวฉีดจะมีรูจ่ายน้ำมัน 10 รู ช่วยกระจายน้ำมันเป็นฝอยละเอียดยิบ
เครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำ หรือง่ายๆคือใช้หม้อน้ำนั่นเอง อันนี้ต้องขอชมเลยว่าควบคุมอุณหภูมิได้ดีเยี่ยม ทั้งใช้ขณะขับขี่และจอด รู้สึกได้ว่าความร้อนกระจายออกมาจากเครื่องน้อยกว่าตัว650เสียอีก
ให้เกียร์มาทั้งหมด 6 เกียร์เดินหน้าตามมาตรฐาน ซึ่งเป็นระบบเกียร์ซูซูกิออกแบบเองคือ SCAS (SUZUKI Clutch Assist System) ทำให้การเปลี่ยนเกียร์ขึ้นลงเป็นไปอย่างแม่นยำและนุ่มนวล และลดน้ำหนักได้การบีบคลัทช์ได้อีกด้วย
จากที่ร่ำลือกันเสมอมาว่าค่ายนี้เป็นรถที่คนบ้าขี่ นั่นคือขึ้นชื่อเรื่องการควบคุมยาก แต่ในV-Strom 1000 ABS ตัวนี้ ซูซูกิได้ให้ระบบ (TC)Traction Control มาด้วย ซึ่งเลือกเปิด-ปิดได้ และเลือกใช้งานได้สองระดับ ด้วยการสัมผัสสวิทช์ที่ประกับด้านซ้าย จากการลองใช้งาน ในขณะที่รถทรงตัวปกติพบว่ามันช่วงหน่วงอัตราเร่งได้ดีในระดับหนึ่ง และหากรถเสียการทรงตัว เซนเซอร์ที่ล้อหน้าและหลังจะส่งสัญญาณไปยังระบบควบคุมการจ่ายไฟและจ่ายเชื้อเพลิงให้ลดระดับการทำงานในทันที(ตามระดับ1,2)
ว่ากันที่อัตราเร่งของเครื่องยนต์ หากปิดTCและซัดไล่คันเร่งและรอบตั้งแต่เกียร์1-5 เครื่องยนต์จะให้ความสนุกและกระชากความมันส์ได้อย่างต่อเนื่อง และจะเริ่มแผ่วลงบ้างในเกียร์6(ถ้าเทียบกับคู่เปรียบ) จากการทดสอบวิ่งรถเปล่าไม่มีปี๊บผู้โดยสารสองคนและสัมภาระรวมน้ำหนักประมาณ170กิโลกรัม ขี่แบบธรรมดาไม่หมอบ ลองเร่งไปได้ถึง210กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าถ้าหมอบคงทำได้ที่220กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเรื่องอัตราเร่งและความเร็วสูงสุด เอาเป็นว่าช่วงต้นและกลาง สี่สูบคลาสเดียวกันของอีกค่ายกินไม่ลงแน่ แต่ถ้าปลายไหลยังไงสี่สูบอีกค่ายก็ไปได้มากกว่า (แต่ในการเดินทางจริงก็ใช้MAX SPEEDกันไม่บ่อยหรอกน่า)
จากการลองขี่ในทางดำ ปรากฎว่าแม้ขนาดหน้ายางจะเล็กกว่าคู่เปรียบอย่างชัดเจน แต่ในการใช้งานทั่วไปและเร่งด่วนบ้าง หน้ายางที่ให้มาก็ยังรองรับงานได้สบายมาก และได้เปรียบกว่าในเรื่องการพลิกโค้งที่ลองแล้วทำได้เร็วกว่าคู่เปรียบ เพราะจากการวางเครื่องยนต์วีทวินที่ขนาดไม่ได้กว้างมากแบบคู่เปรียบที่เป็นสี่สูบ ก็ทำให้เป็นข้อได้เปรียบข้อหนึ่งเลยล่ะ
แต่เมื่อลองขี่ในทางที่เป็นหินบดขนาดใหญ่และทางแดง กลับพบว่ามันยังไปได้ไม่ดีเท่าที่หวัง(จากการทดสอบด้วยทักษะแบบบ้านๆ แต่ถ้าเป็นมือโปรก็ต้องทำได้ดีกว่านี้แน่นอน) แต่โอเค มันไปได้ดีกว่าคู่เปรียบ ทั้งเรื่องของช่วงล่างที่เซ็ทล้อหน้า19นิ้ว ล้อหลัง17นิ้ว ซึ่งให้อารมณ์แอดเวนเจอร์ได้ดี ทำให้ ความสูงใต้ท้องรถ(Ground Clearance) สูงกว่าคู่เปรียบอย่างชัดเจน 150mmส่วนคู่เปรียบความสูงใต้ท้องรถอยู่ที่165mm น้ำหนักของเจ้าV-strom1000ABSก็ยังน้อยกว่าคู่เปรียบอีกด้วยคือ 228กิโลกรัม ส่วนคู่เปรียบมาที่250กิโลกรัม จากรายละเอียดทางเทคนิคทั้งหมด และการได้ลองขับขี่ ขอฟันเลยว่าไปในทางแดงได้ดีกว่าคู่เปรียบพอควร
ข้อดีที่เหนือกว่าคู่เปรียบอีกจุดก็คือบังลมหน้า(ชิลด์หน้า) ที่ปรับเอนหน้าหลังได้3ระดับด้วยมือล้วนๆ(ตามคลิปด้านบน) แต่การปรับขึ้นลงในแนวตั้งด้อยกว่าตรงที่ต้องใช้หกเหลี่ยมในการปรับแต่ง แต่เท่าที่ใช้งานในความเร็ว210กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็ไปได้ดีไม่มีหน้าส่ายแต่อย่างใด
ระบบช่วงล่างทั้งหมดทั้งมวลให้ความมั่นใจในทางตรงและทางโค้งได้ดีเยี่ยม เบรคหน้าหลังรู้สึกทื่อน้อยกว่าV-Strom650 และรู้สึกว่าทำงานได้ดีกว่าของคู่เปรียบที่ขนาดเครื่องยนต์ใกล้เคียงกัน ซึ่งควรเป็นผลมาจากขนาดหน้าจานเบรคหน้าหลังที่คนบ้าให้มาเยอะกว่า กล่าวคือ ดิสค์เบรกหน้าขนาด 310 มม. และดิสค์เบรคหลังขนาด 260 มม. ส่วนของคู่เปรียบให้มาที่ ดิสค์เบรกหน้าขนาด 300 มม. และดิสค์เบรคหลังขนาด 250 มม.
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ประมาณ16-19กิโลเมตรต่อลิตร ขึ้นอยู่กับข้อมือแต่ละคนว่าใครจะโหดกว่า
เจ้าตัวนี้เหมาะกับใครกันหนอ…
ในราคาที่จ่าย กับการได้รถประกอบจากญี่ปุ่น ราคานี้ยังไม่ถือว่าแพงมาก แต่หากไปเทียบแรงม้าและMAX SPEED กับคู่เปรียบก็อาจจะรู้สึกกว่าแพงกว่านิดหน่อย แต่หากต้องการความกระชับ คล่องตัว และใช้ความเร็วเดินทางเฉลี่ยไม่เกิน180กิโลเมตรต่อชั่วโมง เจ้าตัวนี้ยังตอบโจทย์ของคุณได้ดี ที่แน่ๆคนใช้ไม่เยอะ ขี่แล้วหาเจอรถซ้ำกันค่อนข้างยาก แต่คุณภาพโดยรวมของตัวรถ ชื่อและชั้นของคนบ้าในระดับโลกนั้นถือได้ว่าอยู่ในขั้นน่าพอใจ แม้เครื่องยนต์จะเป็นบล๊อคที่ไม่ใช่ใหม่ แต่ก็ได้รับการพัฒนาให้เหมาะสมกับรถมาโดยตลอด เทคโนโลยีต่างๆก็ให้มาเรียกได้ว่าไม่มีอั้น
และแน่นอน ถ้าคุณเป็นคนบ้า…ยังไงคุณก็รักมัน
(เจ้าของกระทู้ก็เป็นคนบ้านะเว้ยเฮ้ย๕๕๕)
ขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่ติดตามรับชมครับ
บทความโดย สมัญตาชีวบุตร_omega_13