Return Of R6 การกลับมาของตัวจี๊ดน้องรองแห่งตระกูล R

Return Of R6 การกลับมาของตัวจี๊ดน้องรองแห่งตระกูล R


ปีนี้ช่วงมอเตอร์โชว์เดือนเมษาที่ผ่านมา ทาง YAMAHA ได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่ต่างๆ
และวันที่ 22-24 พ.ค. 2560 ที่ผ่านมา ทาง YAMAHA RIDER CLUB
ได้เชิญทัพสื่อมวลเข้ามารวมทดสอบ มอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ จำนวน 5 รุ่นด้วยกันที่ สนามบุรีรัมย์
หรือเรียกกันอีกชื่อว่า สนามช้างนั่นเอง
แต่มีอยู่รุ่นนึงที่เป็นที่น่าจับตามองนั่นก็คือ YAMAHA R6 นั่นเอง

เหตุที่บอกว่าน่าจับตามองก็เพราะว่า R6 นี่ได้หายไปจาก ศูนย์ยามาฮ่าไปนานหลายปีนั่นเอง
มีที่มาที่ไปก็เพราะว่า รถ BigBike ของ YAMAHA ในศูนย์ที่นำมาขายนั้นจะนำสเปค US มาขายนั่นเอง
เนื่องด้วยช่วงนึงเศรษฐกิจโลกไม่ค่อยจะดี R6 รุ่นใหม่ๆจะมีแต่สเปค Japan ของทาง US จะไม่มี
ทาง YAMAHA ไทยจึงไม่มีวางจำหน่าย

 

R6 ก่อนที่จะหายหน้าหายตาไปจากศูนย์ยามาฮ่า มีชื่อเล่นที่เรียกกันว่า ตัวจี๊ด
เหตุมันมาจากช่วงนั้นเป็น 600 CC
ที่ออกตัวไปฟัดกับพวก 1000 CC ได้สบายนั่นเอง
เรียกได้ว่า รอบต้นและรอบกลางออกมาอย่างจัดจ้าน
1000 CC รุ่นเก่าออกตัวตามไม่ทันกันเลย
การกลับมาครั้งนี้จึงได้เป็นพี่รองแห่งตระกูล R  เพราะ CC น้อยกว่า R1 แค่รุ่นเดียว

 

ดั่งคำโบราณว่าไว้ เวลาเปลี่ยน คนเปลี่ยน ใจคนเปลี่ยน R6 เองก็เช่นกัน
หลังจากไม่ได้เปลี่ยนโฉมมานานคราวนี้ก็จัดการเปลี่ยนโฉมใหม่ให้เข้ากับ R1โฉมใหม่ซะเลย
หน้าตาเรียกได้ว่าเป็นน้องของ R1 จริงๆ มีหน้าตาคล้ายกันมาก ถ้าไม่สังเกตดีๆ มีเรียกกันผิดแน่
โดยจะต่างกันแค่ช่องแรมแอร์นิดหน่อยเอง



กระจกข้างแบบมีไฟเลี้ยวในตัวด้วยนะจ๊ะ

 

โช๊คหน้ามาแบบ USD พร้อมกับคาลิเปอร์แบบ YAMAHA  หรือบ้านเราเรียกกันง่ายๆว่าปั๊มดาว
จากรุ่นก่อนๆขนาดโช๊คหน้าจะ 41mm ตัวใหม่นี่ให้ขนาดของรถ 1000cc มาเลย นั่นคือขนาด 43mm


โช๊คหน้า KYB แบบใหม่ ปรับแต่งง่ายที่ด้านบน


ระบบเบรกมี ABS นะจ๊ะ

เรือนไมล์เป็นแบบเข็มผสมดิจิตอล และบอกค่าต่างๆของรถ


ประกับสวิทช์ฝั่งซ้ายจะมีการตั้งค่า แทรคขั่คอนโทรล


ฝั่งขวา สวิทช์ Off-Run และ Start จะอยู่ด้วยกัน

ถังน้ำมันแบบมีฝาครอบมาพร้อมความจุ 17 ลิตร


ท้ายแบบลู่ลมตามหลังแอร์โร่ไดนามิก เพรียวลมตามยุคสมัยของรถทรงสปอทรุ่นใหม่
มาพร้อมกับเบาะคนซ้อนที่จะซ้อนได้เหรอ?


สวิงอารม์หลังให้สีดำมาคาดว่าจะได้เห็นคราบสกปรกจากโซ่ที่ดีดมายากหน่อย
ล้อหลังให้ขนาดยางติดล้อมา 180 หากใครคิดว่ายังไม่หย่ายยยยยยพอ ก็เอาไปเปลี่ยนเป็น 190 ได้นะ
ตามสบายกระเป๋าตังท่านเลย

ถึงจะเรียกกัน 600 CC แต่ขนาดเครื่องยนต์จริงๆคือ 599 CC 4 สูบเรียง DOHC 16 วาลว์
ใช้วาลว์แบบไทเทเนียม ถึงจะแค่ 600 CC แต่ที่ 14,500 รอบจะให้แรงม้าถึง 124 แรงม้าเลยทีเดียว
ระบายความร้อนด้วยน้ำ อันนี้จะต่างจากพี่ใหญ่R1 เพราะพี่ใหญ่จะมีระบบระบายความร้อนแบบ ออยคูลเลอร์มาด้วย
เครื่องยนต์หน้าตาบล็อคเดิมแต่ปรับปรุงข้างในใหม่ โดยกำลังอัดอยู่ที่ 13.1:1 หัวฉีดแบบ YCC-T และ YCC-I เกียร์แบบ 6 สปีด พร้อมชุดสลิปเปอร์คลัชท์
เวลาเปลี่ยนน้ำมันเครื่องพร้อมไส้กรองน่าจะใช้น้ำมันเครื่องประมาณ 2.5ลิตร


มีระบบควิกชิฟมาให้ด้วย เป็นเทคโนโลยีจากสนามแข่งใส่เข้าช่วยตอนเปลี่ยนเกียขึ้นโดยไม่ต้องกำคลัชท์


ท่อไอเสียมาแบบไม่ยาวเฟี้อย แต่ก็ไม่สั้นกุด
เสียงที่ออกมาอาจจะไม่เร้าใจแต่ก็ไม่เป็นมลภาวะทางเสียงให้กับผู้อื่นบนถนน

และแล้วก็ถึงเวลาได้ควบเจ้า R6 วินาทีที่บิดคันเร่งผมรู้สึกตัวเองพุ่งทะยานเป็นจรวดแบบ ลอเรนโซ่


เวลาเข้าโค้งรู้สึกพลิ้วไหวแบบ รอสซี่


ขออภัยตะกี้ลืมเขย่าขวดก่อนกินยา กลับมาสู่โลกแห่งความจริง

วินาทีที่ได้ขี่เจ้า R6 2017 ขอแบบเลยว่าท่าขี่ไม่ธรรมดา เพราะต้องก้มมากกว่าหลายเท่า
เรียกได้ว่าถ้าใจไม่รักหมอบ หรือหลังไม่ดี มีเกลียดกันเลยแหละ
ถ้าชอบการหมอบขี่เป็นชีวิตจิตใจ ก็จะเกิดอาการตกหลุมรักกันเลยล่ะ
ความสูงของเบาะ R6 ใกล้เคียงกับ R1 รุ่นใหม่มาก ตัวผู้เทสสูง 174 เวลายืนคร่อมขานี่ยืนสุดขาแล้ว
หากส่วนสูงน้อยกว่านี่มีโอกาสยืนเขย่งตอนจอดติดไพแดงได้


ถึงจะแค่ 600 CC แต่เวลาออกตัวบิดคันเร่งก็แสดงถึงพลังออกมา เรียกได้ว่าถ้าไม่บอกว่า 600 CC จะคิดว่าขี่ 1000CC อยู่
เรียกว่ากำลังเครื่องที่ออกมาช่วงต้นกลางหากไปขี่กับ 1000 CC ที่คนขี่มือพอกันนี่ มีหนีกันไม่ออก
แต่ความเร็วปลายจ้านี่ อาจจะสู้ไม่ได้เพราะ CC น้อยกว่า
เนื่องจากจากเป็น 600CC รอบจะสูงกว่าพวก 1000 CC อยู่แล้ว
ความมันส์ของ R6จะอยู่ที่รอบ 10000 ขึ้นไป

เมื่อถึงเวลาเล่นโค้ง ด้วยความที่บาลานซ์ของรถทำออกมาดี ทำให้เวลาเลี้ยวรถรู้สึกเบา ง่ายต่อการเข้าโค้ง
+เทคโลโนยีต่างๆที่ใส่เข้ามา เช่น  แทรคขั่นคอนโทรล  สลิปเปอร์คลัทช์ ทำให้การเข้าโค้งง่ายและสนุกกว่าเดิม
โดยก่อนเข้าโค้งมีการเปลี่ยนเกียลง เครื่องจะมีกำลังดึงรถ แต่ล้อหลังจะไม่ล๊อคเนื่องจากมีสลิปเปอร์คลัทช์ในการช่วย
และการออกจากโค้งสามารถบิดคันเร่งได้มากขึ้นโดยรถไม่สะบัดเพราะมีระบบแทรคชั่นคอนโทรบช่วยตรงนี้ไว้
การบิดคันเร่งก็บิดได้ดั่งใจเพราะเป็นคันเร่งไฟฟ้า


เนื่องจากมีสื่อจำนวนมากเข้ามาร่วมทดสอบทำให้มีเวลาขี่กันแค่คนละ 2 รอบ
ก็ขอบอกตามความรู้สึกที่ได้ขี่  เป็นรถที่ขี่ในสนามแล้วดีคันนึง ไม่ว่าจะเป็นกำลังเครื่อง บาลานซ์ของรถ
เทคโนโลยีต่างๆที่ใส่เข้ามา โดยรวมแล้ว ขี่ในสนามดี เหมาะสำหรับคนที่ชอบขี่สนาม จะรู้สึกสนุกเมื่อได้ขี่คันนี้

แต่หากไปขี่บนถนน ก็ไม่รู้ว่า ท่าขี่ที่หมอบจ๋าแบบนี้หากขี่ระยะทางไกลๆจะมีปัญหาไหม
เกิดหลอกสาวไปซ้อนท้ายได้ สาวเจ้าจะยอมซ้อนอีกหรือเปล่า อัตราการกินน้ำมันจะเป็นเช่นไร
หวังไว้ลึกๆจะมีผู้ใหญ่ใจดีให้รถมาลองขี่เทสพร้อมสาวซ้อนท้าย

อันนี้เป็นคลิปเมาส์มอย์หลังขี่ R6  (คลิกที่ภาพเพื่อชมคลิป)
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

 

สุดท้ายนี่ต้องขอขอบคุณ ผู้ใหญ่ใจดี YAMAHA RIDER CLUB ที่ให้โอกาสเข้าร่วมทดสอบครั้งนี้ด้วย

http://www.yamaha-motor.co.th/RidersClub/

และขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน   หากมีโอกาสได้เทสอะไรอีก จะมาเม๊าส์มอยส์ให้อ่านกันอีกนะครับ

ก่อนจากกันขอฝากเพจและ web ของทีมงานนะครับ

https://www.facebook.com/justrideitteam/

https://www.just-ride-it.com/

ขอบคุณครับ

อ่อ เกือบลืมของฝากสวยๆงามๆจากสนาม







คราวนี้ไปจริงๆแล้วครับ

บทความโดย cbrzoom

Linkต้นฉบับ https://pantip.com/topic/36535215