รีวิวยาง Pirelli Diablo Rosso IV ขี่ทริปมาเลเซีย 3,500 กิโลเมตร

ทริปนี้ผมอยากไปตั้งแต่ก่อนโควิด มีแพลนอยากขี่รถเที่ยวต่างประเทศสักครั้งนึง ประกอบกับยางเดิมติดรถนั้นได้เวลาเปลี่ยนแล้ว เดิมตั้งใจจะเปลี่ยนยางใหม่ตั้งแต่ต้นปี 2022 ที่ผ่านมาแล้วครับ แต่ก็ลากยาวยางชุดเดิมติดรถถึง 15,000 km เพราะไม่ค่อยได้ขี่ไปไหน

มานั่งดูยางรุ่นต่าง ๆ และดูจากนิสัยการขับขี่ตัวเอง จึงไปจบกับยาง Pilrelli Diablo Rosso IV สาย Super sport
เจเนเรชั่นที่ 4 ของตระกูล Rosso ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2021 ถูกวางตำแหน่งให้เป็นยางเวอร์ชั่นถนน 100% ที่ดีที่สุดของตระกูลนี้ ด้วยรูปแบบดอกยางรูปร่าง ‘Flash’ ที่เป็นเครื่องหมายการค้า ซึ่งมีอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์  Diablo ทำให้รีดน้ำออกมากขึ้นเมื่อความเร็วเพิ่มขึ้น เหมาะสำหรับสภาพอากาศที่เลวร้าย ในขณะเดียวกันยังใช้เทคโนโลยีลดเสียงรบกวนจากพื้นผิวถนน สารประกอบซิลิก้าทั้งด้านหน้าและด้านหลังให้การยึดเกาะที่แข็งแกร่งกับถนนในทุกสภาวะ

เพื่อเตรียมรถก่อนออกทริปมาเลเซีย ผมเข้าไปใช้บริการร้าน Showpow Performance สาขาอ่อนนุช มีคาเฟ่ให้นั่งรอ มีคำแนะนำ-เปลียนยางโดยช่างมืออาชีพ ละเอียดทุกขั้นตอนตั้งแต่เช็คลิสต์ก่อนรับบริการและหลังการบริการ พร้อมเช็คสภาพรถโดยรวมให้ฟรีก่อนเดินทาง ใครหาร้านยางมอเตอร์ไซค์ดี ๆ อยู่ แนะนำเลยครับ

เปลี่ยนยางเรียบร้อยพร้อมเดินทาง รถสีแดงตัดกับยางลายเหลือง หล่อเชียว ระหว่างนี้ก็ขี่กลับบ้านพร้อม ๆ กับรันอินยางไปในตัวครับ
ซึ่งสัมผัสแรกที่พบได้เลยคือ การพลิกรถง่ายกว่าตัวเดิม Rosso III มาก นั่นเป็นเพราะยางรุ่น Rosso IV ใหม่นี้โครงสร้างยางจะเป็นรูปตัว V มากกว่ารุ่นเดิม

เทียบกับยางเดิม Rosso III ติดรถมา ขนาดเดิมคือ 180/55-17 ยางเดิมผมใช้มาประมาณ 15,000km ดูจากดอกยางแล้วยังใช้ต่อได้แหละ แต่ความสบายใจต้องมาก่อนครับ
สำหรับยางหลังที่มีขนาดไม่เกิน 190/55  Diablo Rosso IV (ผมใช้ยางเวอร์ชั่นนี้ 180/55 ไซส์เดิม)เป็นยางแบบ 2 คอมปาวด์ 3 โซน และใช้เส้นลวดเรยอน 2 เส้น ทำให้มีความแข็งกว่า Diablo Rosso III ถึง 30% ทำให้มีการยึดเกาะมากขึ้นและรูปแบบการสึกหรอที่สม่ำเสมอยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับ Diablo Rosso III
สำหรับขนาดที่ใหญ่กว่า 190/55 จะใช้โครงสร้างยางสไตล์รถแข่ง World superbike แต่มาในรูปแบบพร้อมใช้งานสำหรับท้องถนน เป็นยาง 3 คอมปาวด์ 5 โซน โดยคอมปาวด์ที่ 3 ด้านนอกบริเวณไหล่ยาง จะเป็นคอมปาวด์แบบคาร์บอนแบล็ก เป็นคอมปาวด์ที่นำมาจากรุ่น Supercorsa SC ที่ใช้ในการแข่งขัน ช่วยรองรับการแบนเข้าโค้งจนหมดขอบ

ทริปนี้ผมใช้เวลา 15 วันไปกับรถ Ducati Hypermotard 950 ของผม ระยะทางรวมทั้งหมดประมาณ 3,500 km ด้วยยาง Pirelli Diablo Rosso IV ขนาด 120/70 และ 180/55 ชุดใหม่นี้ โดยในระยะทางเหล่านั้น ผมใช้รถตามปกติ  ขี่ในเมืองสั้น ๆ ขี่บนทางด่วนในมาเลเซีย ขี่ขึ้นลงทางในหุบเขาสู่ Genting highland

วันเดินทาง
วันแรกผมตั้งใจไปพักที่หาดใหญ่ก่อน 1 คืนครับ 950km โดยประมาณ ระหว่างทางนั้นเจอถนนหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเรียบ รอยปะถนน หลุมบ่อเล็ก ๆ ทางดินขรุขระช่วงสร้างถนน


วันที่ 2 ออกจากหาดใหญ่ มุ่งหน้ากัวลาลัมเปอร์ ผมใช้เส้นทาง E1 AH2 ของมาเลเซีย ซึ่งเป็นทางด่วนพื้นเรียบไร้ที่ติ หินที่ใช้ทำถนนค่อนข้างคม สามารถทำความเร็วได้สูง
แถมน้ำมันที่นี่ราคาถูกมาก ทำให้เจ้าถิ่นขับรถกันเร็ว  ทำให้เราต้องขับขี่เร็วตามคันอื่น
ด้วยความที่ถนนดี และสภาพอากาศแดดจัด ยาง Rosso IV นั้นแสดงประสิทธิภาพของมันได้อย่างดี เกาะถนนแทบเรียกว่าจิก ผมเข้าโค้ง high speed บนทางด่วนด้วยความเร็วมากกว่า 130km/h
ด้วยความรู้สึกที่ดี ไม่มีอาการเหวอเล็ก ๆ เหมือนรุ่นเดิม
ขับ ๆ ไปครึ่งทาง 250km ผมเจอฝนตกอย่างหนัก และหาที่จอดพักไม่ได้บนทางด่วนในหุบเขาแถว Ipoh ต้องขี่รถฝ่าฝนเปียกยันน้องชายแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้
คิดอีกแง่ก็เป็นโอกาสดีที่ได้ลองยาง Rosso IV บนทางเปียก ยางตัวนี้รีดน้ำดีมากครับ เจอโค้งเปียก สลับเส้นขาวที่ตีมาหนา ๆ บนทางด่วน ยางยังให้การยึดเกาะทางเปียกที่ดี
ไม่สิ..ต้องบอกว่ายางตัวนี้ขี่ทางเปียกแล้วอุ่นใจ วางใจได้ครับ

ระหว่างทางตั้งแต่หน้าด่านถึงกัวลาลัมเปอร์นั้น มีจอดรถกินข้าว เติมน้ำมัน ทำตัวโอ้เอ้ ๆ ไม่รีบร้อน ขี่มาเรื่อย ๆ
จนถึงที่พักในกัวลาลัมเปอร์ราว ๆ 2 ทุ่ม -*-

วันต่อมา ผมเอารถมาขี่ชมเมืองสวย ๆ ใน KL หาข้าวกิน และดูเส้นทางขึ้นไปยัง Genting highland ระยะทางประมาณ 50 km ซึ่งไม่ไกลมาก
จากนั้นออกเดินทาง ผ่านทางด่วน E8 และขึ้นเขาตามแมพ เอาตรง ๆ เหมือนขี่รถที่แม่ฮ่องสอน ฟิลเดียวกัน อากาศเย็น โค้งเยอะ หักศอกกันเป็นว่าเล่น การขี่บนถนนแบบนี้ด้วยยาง Rosso IV นั้น เน้นให้เห็นถึงสิ่งที่ Pirelli ทำได้ดีในการออกแบบยาง นั่นคือเลี้ยวง่ายและตอบสนองทันที เมื่อเปรียบเทียบกับ Rosso III ที่ติดรถก่อนหน้านี้ คือจะพลิกรถ เลี้ยวเข้าโค้ง เลี้ยวหลบสิ่งกีดขวาง ทุกอย่างนั้นทำได้ง่ายและเป็นธรรมชาติมาก

ต่อที่มะละกา เมืองท่ามรดกโลก แน่นอนว่าต้องวิ่งบนทางด่วนอากาศร้อน ๆ เหมือนเดิม เส้นนี้จะทางตรงยาวสลับโค้ง High speed เหมือนตอนมา KL ครับ
ผมค่อนข้างแน่ใจว่า ด้วยสภาพถนนที่หินค่อนข้างคม หากขี่บนทางที่ยาวและความเร็วสูง การสึกหรอจะมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากการเข้าโค้งที่ยาวและเร็ว (และความร้อนที่เกิดขึ้น) จะรุนแรงกว่าการใช้บนถนนปกติ
แน่นอนว่าผมใช้ความเร็วสูงมาก และเข้าโค้งด้วยความเร็วในสภาพอากาศร้อนระอุ ยาง  Rosso IV ยังให้ลักษณะการสึกหรอที่ดี ประสิทธิภาพไม่ดรอป และยังยึดเกาะสัมผัสได้ดี การควบคุมนั้นเป็นธรรมชาติเมื่อเข้าโค้งเบา ๆ และแม่นยำเมื่อเข้าโค้งความเร็วสูง

สรุป
ถ้าไม่นับยาง Rosso Corsa IV ที่เน้นใช้งานแบบ Racing Street 50/50 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว Rosso IV เป็นยาง Super sport ถนน 100% ของตระกูล Rosso ที่ดีที่สุดเท่าที่ Pirelli เคยผลิตออกมา เป็นยางที่มีคุณสมบัติรอบด้าน
และถ้าใช้ความดันลมยางที่เหมาะสม ยาง Rosso IV นั้นจะให้การยึดเกาะที่ดีเยี่ยม ทำให้มั่นใจในทุกสภาวะบนถนนที่คุณน่าจะเจอ ประสิทธิภาพในสภาพอากาศเปียกแฉะที่ดีทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมการยึดเกาะและการตอบสนองที่ดี ไม่มีส่วนที่ทำให้ผมผิดหวังหรือเซอร์ไพรส์  
โดยรวมแล้ว ผมชื่นชอบยางชุดนี้มากครับ ผมจะเรียก Diablo Rosso IV ว่าเป็นยางสปอร์ตขั้นสูง ณ วันที่ผมเขียนรีวิวนี้ ผมใช้ยางไปแล้วประมาณ 4,000 กม.  ประสิทธิภาพของมันยังคงเหมือนเดิมทุกประการ
และความสมดุลระหว่างสมรรถนะกับความคุ้มค่า ก็เหมาะสมสำหรับมอเตอร์ไซค์อย่าง Hypermotard 950 และรูปแบบการขับขี่ของผม หากคุณยังไม่เคยลองยาง Pirelli ผมขอแนะนำให้คุณลองดูครับ และถ้าคุณเป็นแฟนของ Pirelli อยู่แล้ว คุณจะต้องประทับใจกับยางรุ่นนี้อย่างแน่นอน

และรีวิวนี้จะจบลงไม่ได้ ถ้าเรายังไม่มีโบนัส จากใจทีมแอด คืนกำไรให้แก่ผู้อ่านที่ไถลงมาจนจบ
Bonus track