สวัสดีครับ นี่เป็นโอกาสดีอีกครั้ง ที่เรียกว่าโอกาสดีที่หาได้ยากเลยก็ว่าได้
เพระว่าทาง Bridgestone ได้ชักชวนทีม just-ride-it ให้เข้าร่วมทดสอบยางที่มีวางจำหน่ายในขณะนี้
ที่ต้องเกริ่นนำเช่นนี้นั้นเพราะว่า ในการทดสอบครั้งนี้ทาง Bridgestoneได้นำรถจักรยานยนต์กว่า 30รุ่นมาให้ทดสอบ
โดยมีค่ายรถเข้าร่วมกิจกรรมอย่างมากมายและมีรถหลากหลายรูปแบบมาให้ทดสอบยางกันแบบจุใจ
การแบ่งช่วงเวลาขับขี่แบ่งเป็น 8รอบ รอบละ20นาที ใครไหวก็ขับกันไป ใครไม่ไหวก็พักก่อน
และแน่นอนครับ โอกาสมาแบบนี้ทีมจัสมาทั้งที่ ก็หวดเต็มเวลาแบบสาสม ซึ่งคละรุ่นคละแบบกันไป
โดยยางจะแบ่งเป็นรุ่นตามนี้ครับ
1.RACE & SPORT ยางที่ผู้หลงใหลความเร็วต้องใช้ ได้แก่ RACING BATTLAX V02, BATTLAX RACING R11, BATTLAX RACING STREET RS11, BATTLAX HYPERSPORT S22, BATTLAX HYPERSPORT S21 ,
2.TOURING ยางที่ครอบคลุมทุกสภาพถนนเพื่อการเดินทางไกล ได้แก่ BATTLAX SPORT TOURING T32
3.ADVENTURE ยางสำหรับลุยบนเส้นทางที่ท้าทาย ได้แก่ BATTLAX ADVENTURE A41, Battlax Adventure Trail AT 41, BATTLAX ADVENTURECROSS SCRAMBLER AX41S,
4.CRUISER ยางที่รองรับน้ำหนักได้มากกว่าเพื่อการเดินทางอันแสนสบาย ได้แก่ BATTLECRUISE H50
5. VINTAGE&CUSTOM ได้แก่ BATTLAX BT46
6.SCOOTER ยางพรีเมี่ยมเพื่อชาวสกูตเตอร์ ได้แก่ BATTLAX SCOOTER SC2, BATTLAX SC
แต่ที่น่าสนใจและทางทีมจัสเองทดสอบแล้วชอบมากๆ
นั่นก็คือ Battlax Hyper SportS22 และ Battlax Racing R11 ซึ่งเป็นยางที่จัดอยู่ในกลุ่ม Race &Sport
รีวิวจะแยกตามความรู้สึกแรกที่ได้ทดสอบครับ
รถที่เราได้ใช้ในการทดสอบก็คือ HONDA CBR600RR ที่รัดมากับยางชุดนี้ครับ
Battlax Hyper SportS22
เป็นยางชั้นนําของบริดจสโตนสําหรับสตรีทไบค์ยุคใหม่ ที่ครบ จบในคู่เดียว
ซึ่งพัฒนาต่อยอดจากยางรุ่นเอส 21 โดยมีการพัฒนาทั้งในส่วนของเนื้อยางและการออกแบบลายยางที่ทําให้สามารถ
บังคับรถได้ดียิ่งขึ้นในการขับขี่ในทุกสถานการณ์ รวมทั้งยังลดการสึกหรอเพื่อระยะเวลาการใช้งานที่นานยิ่งขึ้น
• ยางหน้าและยางหลังมีการใช้เนื้อยางตัวใหม่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะบนถนนแห้งและถนนเปียกได้ดียิ่งขึ้น
• การออกแบบดอกยาง ช่วยเพิ่มประสิทธภาพในการรีดน้ําได้มากขึ้น เพิ่มการยึดเกาะบนถนนเปียก
• เพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมรถ ด้วยความแข็งแกร่งของดอกยางที่เพิ่มขึ้น
ในช่วงรอบแรกก็ใช้ความเร็วสูงและเบรคหนักในช่วงทางตรงเลยครับตามคำแนะนำของโค็ชสาเหตุที่ต้องทำเช่นนี้เนื่องจากไม่ได้มีการวอร์มยาง จึงใช้ความเร็วสูงและเบรคหนักเพื่อช่วยนวดและวอร์มยางนั่นเองครับ
อีกหนึ่งองค์ประกอบที่ต้องทำเช่นนี้คือเรื่องของอุณภูมิพื้นผิวแทร็คก่อนทำการทดสอบ อากาศมวลรวมเรียกได้ว่าเย็นถึงขชั้นหนาวกันเลยในช่วงเช้าถึงสาย
ฟิลลิ่งแรกที่ได้คือยางเอาอยู่ตั้งแต่เบรคหนัก มาถึงตรงนี้หลายท่านที่อ่านอยู่อาจจะคิดว่าก็แหงแหล่ะยางใหม่อะไรก็ดี
แต่ถ้าคนที่เล่นกับรถเล่นกับยางมา จะทราบได้ว่า การที่ยางสามารถเอาเบรคหนักๆอยู่ได้ตั้งแต่รันแรกๆ คุณภาพและเนื้อยางต้องไม่ธรรมดา
พอพ้นช่วงรอบแรกได้ต่อมาก็เป็นฟิลลิ่งในการเข้าโค้ง
สุดทางแอบตรงก่อนถึงโค้งสามของสนาม พอเริ่มทำความรู้จักยางในช่วงรอบแรกแบบสั้นๆ ทางทีมจัสก็แอบมีความมั่นใจขึ้นมาเล็กๆ
CBR600RR ที่เค้าว่ากันว่าแรงแต่ควบคุมง่าย เมื่อรัดด้วยยาง S22 มันทำให้การควบคุมจากเดิมที่เฉียบคมอยู่แล้ว ตีบวกขึ้นไปอีก
การพลิกรถหากเทียบกับยางเดิมๆที่ติดมากับรถ ให้ความรู้สึกต่างอย่างเห็นได้ชัด
จุดเด่นที่อ้างอิงจากสเป็คเบื้องต้นที่น่าสนใจก็มีตามนี้ครับ
ยางตัวนี้ถือว่าเป็นยางที่ครอบคลุมสามารถใช้ได้ทั้งบนท้องถนนและขับขี่ในสนาม
เรียกว่าคุ้มกับเงินที่ต้องจ่ายอย่างแน่นอนครับ
มาต่อกันที่ยางสายสปอร์ทจ๋าที่ดุดันไม่แพ้ตัวท็อปของทางค่าย BATTLAX RACING R11
ซึ่งรุ่นนี้ประกบคู่กับ Aprilia RS 660
ยางรุ่นนี้ถ้าจะให้อธิบายแบบเข้าใจได้ง่ายบๆแบบเห็นภาพชัด มันก็คือยางสลิคที่มีการแ
กนั่นเองครับ
แต่มันไม่ใช่แค่นั้น ตัวเนื้อยางมีเทคโนโลยีที่แทรกซึมอัดแน่นเพิ่มเข้ามาด้วยเช่นกัน
แม้การทดสอบอาจจะยังไม่เห็นความต่างชัดนักแต่จากสเปคที่ระบุบ ก็ต้องร้องว๊าวกันเลยทีเดียว
เทคโนโลยีที่น่าสนใจนั้นคือ V-MSB หรือ โครงสรางยางแบบขดลวดเดียวแบบใหม่
ปรับระยะหางความถี่ระหวางขดลวด HTSPC ใหอยูในระดับที่เหมาะสมสําหรับส่วนตาง ๆ ของยาง
ปรับความยืดหยุนของยางให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมที่สุดทั่วบริเวณดอกยาง
ยางหนาเพิ่มพื้นช่องว่างบริเวณขอบยางเพื่อช่วยในการเข้าโค้งและลดช่องว่างพื้นที่หน้ายางเพื่อลดระยะเบรคใหสั้นลง
เรื่องระยะเบรคสั้นลงโดยส่วนตัวต้องบอกว่าไม่สามารถให้คำอธิบายได้เองเนื่องจากพึ่งมีโอกาสได้ขับเจ้า
RS660 ครั้งแรก จึงได้สอบถามกับคนในกลุ่มร่วมทดสอบที่เคยจับเจ้าตัวนี้หวดมาบ้างได้ความว่า
ระยะเบรคสั้นลงจากเดิมจริงและสั้นกว่ายางเดิมๆติดรถมาก ระยะเบรคสั้นลงดียังไง
การที่ระยะเบรคสั้นลงส่งผลต่อเวลาในการแข่งขัน จุดยกคันเร่งสามารถถลำลึกไปได้อีกจากจุดเดิมที่เคยยก
ในส่วนของการพลิกรถในโค้งต่างๆ ด้วยความที่พื้นฐานของยางมันคือยางสลิคหรือยางสนามโดยแท้
ให้อารมณ์แบบตัวเราโดนดึงเข้าหาโค้งได้เองจากการดึงของยาง คือเอียงตัวนิดหน่อยไม่ต้องถึงกับต้องใช้ความพยายามในการโหน พลิกรถไปยังจุดที่หมายตาได้อย่างแม่นยำ
เอาง่ายๆว่าถ้าคุณกำลังจะหายางไว้ใส่ลงสนามและใส่ซ้อม ตัวนี้ถือว่าเป็นตัวที่น่าสนใจ
จากสเปคมันสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่ายางสลิคแบบปกติ ถึงจะไม่ทนทานเท่ากับยางที่ใช้บนท้องถนนก็ตาม
รุ่นอื่นๆที่ได้ทดสอบ บอกได้ว่าครบทุกแบบเลยจริงๆครับ
ซึ่งปัจจุบัน Bridgestone ก็มียางทางเลือกอีกมากมายหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้งาน
สามารถหาซื้อได้ที่ ตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านหรือสั่งผ่านออนไลน์ก็ได้เช่นกัน
สุดท้ายต้องขอขอบคุณ Bridgestone Thailand มากๆครับ ที่ให้โอกาสทีมงาน just-ride-it
ได้เข้าร่วมทดสอบยางรุ่นต่างๆในครั้งนี้