ในความฝัน ในความมืด ในความหลงใหล เคยมีสักครั้งมั้ยที่คุณจะคิดฝันถึงการล่องลอยไปกับยานพาหนะเท่ๆ บนถนนสุดพิเศษที่ไหนสักแห่งในโลก
แอดท๊อปเคยฝันไว้นะ ว่าครั้งนึงในชีวิต อยากลองไปขี่รถมอเตอร์ไซค์ ยังดินแดนที่ให้กำเนิดมันขึ้นมา ณ “ประเทศญี่ปุ่น”
ในครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ล้ำค่าในชีวิตอีกครั้ง จัดสรรโดย AP Honda และทีมงาน Just Ride it ได้มอบโอกาสในการไปทำตามฝัน
กับทริป Riding Passion Year 2 ที่จะพาแอดท๊อปบินข้ามฟ้า ข้ามทะเล ไปเสพสัมผัสสุดพิเศษกันที่ญี่ปุ่น
ตามมาครับ วันนี้แอดท๊อปจะเล่าให้ฟังคร่าวๆ ว่ากิจกรรมครั้งนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง
โดยกิจกรรมครั้งนี้นอกจากจะมีลูกค้า ทีมงาน และนักข่าวแล้ว
AP Honda ยังได้จัดให้มีการเฟ้นหาเหล่านักขับขี่ผู้มี Passion ในการเดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์ ได้มาร่วมตามฝันในครั้งนี้ด้วย
โดยตอนนี้ยังมีโอกาสร่วมสนุกเพื่อลุ้นไปขับขี่ตามเส้นทางในฝันอีกหนึ่งกิจกรรมนั่นคือ #NewZealandPassionYear2
กติกาต่างๆจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ทางเฟสบุ้ค https://www.facebook.com/HondaBigBikeTH/
หลังจากที่ทำตามกติกาแล้ว ติดตามวันประกาศผลรายชื่อ และวันรับการทดสอบดีๆนะครับ
ในวันทดสอบ ก็จะต้องผ่านด่านต่างๆเหล่านี้
สถานีเบรก
สโลว์ บาลานซ์
ยิมคาน่า
และด่านสุดท้าย สลาลอม
และนี่คือโฉมหน้าผู้โชคดี ทั้งสี่ท่าน ที่แข่งขันทำแต้มได้สูงที่สุดในการครั้งนี้ พร้อมไปลุยญี่ปุ่นด้วยกัน
จากวันทดสอบ เราเปิดวาร์ปมาที่วันเดินทางกันเลย ทุกคนมาพร้อมแล้ว ญี่ปุ่นจ๋าา พวกพี่มาแล้วววววว
และอีกหนึ่งคนที่มีPassion ในการขี่มอเตอร์ไซค์ก็มาร่วมด้วย พี่เต้ ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์ คุยกันไป คุยกันมา เอ้า คนบ้านเดียวกับแอดท๊อป แหลงใต้กันมันส์ไปเลย 555+
ญี่ปุ่นใกล้นิดเดียว เพียง 6 ชั่วโมงเราก็มาถึงแล้วจ้า
โดยในค่ำคืนแรกก็เป็นการเริ่มต้นแบบชิลๆ รับประทานอาหารร่วมกัน ทำความรู้จักกันไปก่อน
หลังจากที่เมื่อคืนนอนพักผ่อนกันเต็มที่ดีแล้ว เช้ามาปุ๊บ ก็นี่เลยจ้า พามาช็อปปิ้งซะเลย หึหึ บอกเลยว่าเรานี่แหละ ลูกค้ากลุ่มแรกของวัน
RICO LAND แดนสนธยาของเหล่าไบเกอร์ เข้าไปแล้วจะหน้ามืด ตาลาย พาลจะจ่ายตังอยู่เร่าๆ
บอกเลยว่าแต่ละคนนอกจากจะพก Passion กันมา ยังพกเงินเยนมาเยอะซะด้วย พามาถึงแหล่งแบบนี้ ใครเล่าจะอดใจไหว
เสร็จจาก RICO LAND เราก็ยกขบวนกันไปสู่ย่านฮิตของโตเกียวอีกแห่ง นั่นก็คือ ชินจูกุนั่นเอง โดยที่นี่จะเป็นการไปเดินเล่นแบบฟรีทาม ทางใครทางมัน ชอบแบบไหน ไปส่องแบบนั้น แอดท๊อปเองก็เลยเดินไปเกร่ดูร้านกล้อง และ เลนส์มือสองดู
แต่เหมือนฟ้าจะยังเห็นใจ ว่ายังต้องอยู่ญี่ปุ่นอีกหลายวัน ไม่ยอมส่งของถูกใจทั้งสภาพและราคามาให้เสียตัง เลยยังรอดอยู่ 555+
ตัดฉับมาเช้าของอีกวันเลย วันนี้ก็พิเศษสุดๆอีกเช่นกัน เป็นวันอาทิตย์ที่ท้องฟ้าแจ่มใสอย่างยิ่ง
ผิดจากปีก่อนๆ ที่เช้าวันอาทิตย์ เดือนตุลาคม แบบนี้จะฉ่ำไปด้วยสายฝน ซึ่งถ้ามันมาพร้อมกับอุณภูมิประมาณ 10-15 องศาเซลเซียสแล้วละก็
มันก็ทารุณเอาเรื่องอยู่นา
แดดดี ฟ้าใส แบบนี้แหละดีแล้ว วันนี้เราจะไปดู Moto GP ที่ TWIN RING MOTEGI กัน!!!
จากที่พักเรานั่งรถบัสมุ่งหน้าเข้าสนามกัน ขอแอบเม้าท์ให้ฟังว่าการจัดการเรื่องการจราจรรอบสนาม บุรีรัมย์เราเหนือกว่าเห็นๆ 555+
เมื่อลงจากรถบัสแล้วก็ต้องเดินผ่านรถดงรถเก่า รถใหม่ รถนู่นนี่ เพียบไปหมด ละลานตาอ่ะครับ บอกเลยแต่ละคน พี่เอ้ยย ซี้ดแล้วซี้ดอีก
ก่อนจะปล่อยให้เข้าไปลันล๊ากับความฟินของ Moto GP ก็โดนจะ Hall นี้ดักไว้ก่อน
นี่คือ Honda Collection Hall ที่ซึ่งเก็บรวบรวมตำนานต่างๆของ Honda ในโลกแห่งการแข่งขัน และแทบทุกอย่าง ยัดเข้าไว้ในอาคารสามชั้น
ข้างในจะมีอะไรบ้าง วันนี้ขอเอาภาพมาให้ชมแบบน้ำจิ้มก่อนนะ ไว้แอดท๊อปจะขอแยกเป็นสกู๊ปเจาะให้อีกทีเลยว่าข้างใน มีอะไรน่าสนใจบ้าง สัญญา!!!
ใช้เวลาใน Honda Collection Hall กันพอประมาณแล้ว เราก็มุ่งหน้าเข้าสู่บรรยากาศ Moto GP กัน!!!
ราคาบัตรเข้าชม MotoGP ที่ญี่ปุ่น ในจุดที่พวกเรานั่ง คือช่วงโค้งสุดท้ายที่ลอดอุโมงค์ออกมาเพื่อเข้าสู่ทางตรง ราคาอยู่ที่ 17,550 เยน คิดเป็นเงินไทยในขณะนี้ก็ราวๆ 4,900 บาท
ป่ะ ไปดูกันว่า Event JAPAN GP มีอะไรให้ส่องนอกจากรถแข่ง
ไปโลดดด
โอ้ คุณพระ นี่แค่ทางเข้างานนะครับ การละเล่นพี่จะเยอะไปไหนเนี่ย
วันนี้ฟ้าดี มีเมฆมาบังแดดให้เรื่อยๆ ถือว่าเฉียบมาก เพราะถึงแม้อากาศจะเย็น แต่แดดช่วงบ่ายของที่นี่ก็แยงตาได้โหดสุดๆเหมือนกัน
ความมันส์ของการแข่งขัน ท่านที่ติดตามชมคงรู้ผลกันไปเรียบร้อยแล้ว แอดท๊อปไม่เล่าซ้ำละกัน ขอพาไปเดินชมบูธกิจกรรมในงานดีกว่าเนาะ
หึหึ มาร์คก็มาร์คเถอะว๊าา เจอแอดท๊อปหน่อยปะไร 5555+
โอ้ยย CrossCup 110cc. คุมะมง นี่ก็น่ารักเกิ๊นน แถวๆนี้มีคนอยากให้มาอยู่น๊าาาา
Just Ride it มาเยือนทั้งที ถ้าไม่มีรูปสาวๆ ไม่ใช่ Just !!!!!
และอีกหนึ่งภาพประทับใจที่แอดท๊อปมองว่า นี่แหละทำให้ Passion ในโลกมอเตอร์สปอร์ตของญี่ปุ่นพัฒนาไปไกล และไม่มีที่ท่าจะว่าหยุดลงได้เลย
นี่คือประสบการณ์ การชม MotoGP ที่นับได้ว่าเป็นที่สุดในชีวิตอีกครั้งนึง
เป็นการนั่งดู Moto GP ครั้งแรกที่ต้องหยิบเสื้อกันหนาวมาใส่ ทั้งๆที่นั่งตากแดดอยู่
เป็นการมาดู Moto GP ครั้งแรก ที่เจอรถของผู้เข้าชมสวยๆเยอะมาก ทั้งรถมอเตอร์ไซค์ และรถยนต์
เป็นการนั่งกินเบนโตะแท้ๆ แกล้มเสียงรถแข่ง Moto3 ที่วิ่งผ่านหน้าไป
และที่สำคัญ การจับเอาคนบ้ารถ มานั่งรวมกัน แล้วดูรถแข่ง เม้าท์มอยกันถึงนักแข่งที่เราตามเชียร์ มันเป็นอะไรที่แฮปปี้สุดๆในทุกๆครั้งอยู่แล้วล่ะ
จบจาก Moto GP วันอาทิตย์
ก็มาต่อด้วยเช้าวันจันทร์อันแสนสดใส วันนี้จะเป็นวันที่เราทั้งคณะ จะออกเดินทางกัน โดยใช้เส้นทางจากโอไดบะ ลัดเลาะเส้นทางไปจนถึงที่พักแถวๆ จังหวัดยะมานาชิ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เที่ยวสุดฮิตอย่าง คาวากุจิโกะ ซึ่งเป็นจุดชมวิว ภูเขาไฟฟูจิ ที่สวยงามและเดินทางง่ายอีกแห่งหนึ่ง
ซึ่งสภาพเส้นทางวันนี้ ช่วงแรกจะเริ่มด้วยการขับขี่จากย่านเมือง ออกสู่ชนบท
โดยรถที่ร่วมขบวนในครั้งนี้หลักๆเลยก็จะมี Honda CB1000R และ CB1100RS แล้วก็ยังมี CB1300bold’or แต่ละคัน การันตีความหล่ออ่ะครับ
อ้อ แล้วก็ทุกคันจะมีการติดตั้งการ์ด ETC แล้วก็มีตัวส่งสัญญาณ ETC ที่รถกันทุกคันเลย โดยเจ้า ETC เนี่ย จะเป็นระบบการจ่ายเงินของทางด่วนญี่ปุ่นเค้าละ ไม่ต้องมัวควัก คุ้ย หาเงินสดให้เสียเวลา เพียงขับมุ่งหน้าเข้าด่านที่มีป้ายว่า ETC ด้วยความเร็วไม่เกิน 30 กิโลเมตร แล้วก็มาคิดค่าใช้จ่ายกันตอนคืนรถอีกที สะดวกสุดๆ
อาการเหมือนอยากเอากลับบ้านนะครับเนี่ย
บรรยากาศเส้นทางในวันแรกจ้า ชิล สวย เพลิน โดยในช่วงที่เดินทางไป เป็นช่วงกลางเดือนตุลาคม กำลังจะเปลี่ยนจากฤดูฝน เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง อุณภูมิเฉลี่ยจะประมาณ 10-20 องศาเซลเซียส และอาจเจอฝนได้เป็นบางวัน
ใบไม้เปลี่ยนสีจะเริ่มมีให้เห็นบ้าง รวมถึงใบไม้ที่ร่วงกองอยู่ตามเส้นทางด้วย
จากนั้นก็เข้าที่พัก คืนนี้เรานอนพักในสไตล์เรียวกัง นอนดี กินอร่อย วิวจากหน้าต่างห้องพักก็งามขน๊าด
เช้าวันที่สองของการ Riding Passion ก่อนนอนคืนที่แล้ว เราเช็คสภาพอากาศกันไว้ล่วงหน้าแล้ว
และไม่ทำให้ผิดหวัง กับการพยากรณ์อากาศของญี่ปุ่น บอกว่าจะมีฝน ฝนก็มาจริงๆ ตั้งแต่ช่วงเช้า
ทำให้อุณภูมิลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว จากค่ำวานก่อนอยู่แถวๆ 10องศาเซลเซียส เช้านี้ดิ่งลงมาเหลือเพียงเลขตัวเดียว
ยิ่งพอบวกกับน้ำฝนโปรยๆแล้ว คุณเอ๊ยยย หนาวสุดใจ ชุดกันฝนสีสุดจี้ดจากเมืองไทย ได้ออกมาโชว์ตัวก็วันนี้ละจ้า
สีสวยเด่น เห็นสง่า มาแต่ไกล 5555+
การเดินทางวันนี้จะเป็นการชมความงามในบริเวณรอบภูเขาไฟฟูจิ และเลยเถิดขึ้นไปเยือน 5 station เหยียบตีนดอยฟูจิกันด้วย
ขี่กันออกมาจากที่พักได้เกือบชั่วโมง ทุกคนลงความเห็นตรงกันว่า แวะหาที่อุ่นๆพักก่อนเถิด ก่อนจะแข็งโป๊กกันไปหมด
คนเราเขาว่าพอผ่านความลำบากอะไรมาด้วยกัน มันจะทำให้สนิทแน่นแฟ้น และสานสัมพันธ์กันได้ไวยิ่งขึ้น เหตุการณ์นี้ทำให้ผมประจักษ์แก่ใจ แก่ตาตัวเองก็คราวนี้แหละ ทุกคนพร้อมใจกันมายืนมุง ฮีทเตอร์ ในร้านกาแฟ ปานรักกันมาหลายปีเชียวละครับ
เติมกาแฟ อังฮีทเตอร์จนตัวแห้งดี ก็ขับเล่นเลื้อยลัดเลาะแนวภูเขาไฟกันต่อไป เส้นทางโดยรวม เรียบ เนียนกริบเช่นเคย แต่ทุกคนก็เพิ่มความระวังมากขึ้น เพราะสภาพทางที่ยังชื้นๆ และกองใบไม้ที่ปกคลุมเส้นทางเอาไว้ บางช่วงของการเดินทางเราก็เจอแดดลงมาส่องให้หายหนาวไปได้บ้าง
วิวฟ้าหลังฝนก็สวยงามจริงๆ
ในบางครั้ง ฟูจิซัง ก็ออกมาเยี่ยมเราอยู่ไกลๆ มาแว๊บๆ ให้รู้ว่า “ฉันอยู่ตรงนี้นะจ๊ะ”
หลังทานมื้อเที่ยงกันเสร็จ พวกเราก็มุ่งขึ้นสู่ถนนที่สูงขึ้น เพื่อไปเยือน 5 station ที่ระดับความสูง 2400เมตร เหนือระดับน้ำทะเล บวกกับมีความชื้นจากฝน ทำให้หมอกแน่นตั้บ ขับฝ่าหมอกขึ้นไปเรื่อยๆ สวนทางกับอุณภูมิที่ลดลงเช่นกัน ฮีทกริ้ปความร้อนระดับสูงสุดของเจ้า CB1000R CB1100RS ดูจะไม่พอเสียแล้ว หลายคนเลยหันไปใช้บริการเสื้อสูบแทน เอามือพร้อมถุงมือฉ่ำๆนั่นแหละครับ ซุกเข้าไปโลดด อาาา ฟินนน
ในความหนาวก็ยังมีความสวยงามปนอยู่
ในการขับขี่ของวันที่สองนี้ก็จบลงไปแบบฉ่ำอุราเช่นนี้จ้า คืนนี้กลับเข้าพักที่เดิม เพื่อรอลุ้นอีกทีว่าเช้าพรุ่งนี้อากาศจะเปิดให้ได้ยลโฉมของ ฟูจิซัง เต็มๆมั้ย
และแล้วเราก็มาถึงการเดินทางในวันสุดท้าย เช้าวันนี้มาพร้อมอากาศดีเยี่ยม เห็นแดดตั้งแต่ตอนออกเดินทาง
แล้วรางวัลของพวกเราก็มาถึง วิวฟูจิซังแบบเต็มที่ ไม่มีเมฆมาบดบังเลย รับความสุขสมอารมณ์หมายกันไปตามใจของแต่ละคน
ส่วนตัวแอดท๊อป นี่ถือเป็นของขวัญวันเกิดที่แจ่มมากๆเลยละครับ
ความสวยอีกอย่างของวันนี้คือ วิวแม่น้ำ ภูเขา บวกกับท้องฟ้าสีคราม ที่บอกเลยว่า โคตรคราม มันสวยจริงๆ
จากทะเลสาบคาวากุจิโกะ เรามุ่งหน้าสู่ฮาโกเน่ สภาพเส้นทางสวยงาม พร้อมวิวฟูจิซังที่คอยโผล่มาจากเหลี่ยมเขามาทักทายเราอยู่เรื่อยๆ
และจุดชมวิวอีกจุดที่ทำให้ทริปนี้ประทับใจเราอย่างแรงอีกครั้ง ที่นี่เป็นแหล่งรวมรถซิ่งของหนุ่มสาวแถวนี้แน่นอน เอาพวกเรามาทิ้งให้นั่งเล่นที่นี่เป็นชั่วโมงๆก็ไหวนะเนี่ย
ร่ำลาฟูจิซังด้วยรอยยิ้มเต็มหน้า ทะลุหมวกกันไปเลย
ช่วงสุดท้ายของการเดินทาง เราใช้ทางด่วนเพื่อกลับไปคืนรถที่เกาะโอไดบะกัน ครบรสเลยล่ะ ไฮเวย์สวยๆ โค้งงามๆ อุโมงค์ สะพาน จัดเต็มจ้ะ
เมื่อ Passion มันยังไหลเวียนอยู่ในใจ
เมื่อความฝัน ยังคงอยู่ในสมอง
ทำไมคุณไม่ลองดูล่ะ!!!
อย่าลืมไปสมัคร #NewZealandPassionYear2
ทางเฟสบุ้ค https://www.facebook.com/HondaBigBikeTH/ กันนะครับ
ขอขอบคุณ
AP Honda และ HONDA BIGBIKE สำหรับทริปสุดพิเศษครั้งนี้
ทีม Just Ride it ที่เราร่วมกันผลัก ดัน ดึง จนมาถึงวันนี้ได้
Over Ride ทีมภาพ และวีดีโอ มือตึง ถึงไหนถึงกัน
พี่ๆน้องๆ ที่ร่วมทริปความสุขครั้งนี้ด้วยกัน
ขอบคุณครับ
#HondaBigBike
#ExcitesTheWorld #RidingPassionYear2
#JapanPassion
#มีpassionมันส์ต้องมาลองขี่สักครั้ง
#CB1100RS #CB1000R
#Lazerhelmetsthailand
#Protectyourfreedom
#JustRideit