Honda Forza 300 โลมาสีน้ำเงิน


Honda Forza 300
หลังจากที่กลายร่างจากปลาวาฬปุ้มปุ้ยกลมๆน่ารักตั้งแต่ปี 2013 ถูกจับมาปรับโฉมใหม่หมดทั้งคันตั้งแต่หัวจรดท้าย
กลายร่างเป็นโลมาสีน้ำเงินรูปร่างปราดเปรียวเพียวลม เพิ่มเส้นสาย เหลี่ยมมุม ทั้งยังลดขนาดโดยรวมของตัวรถให้เล็กลง
น้ำหนักลดลงจากปลาวาฬปุ้มปุ้ย 12 กิโลกรัม ต้องยอมรับว่าสวยเปรียวขึ้นทุกมิติจริงๆ


นอกจากปรับโฉมใหม่ทั้งหมดแล้วเจ้า Forza 300 โฉมปัจจุบัน ก็ยังมีออฟชั่นต่างๆเพิ่มเติมขึ้นมาอีกหลายส่วน
จะค่อยเหลาให้อ่านกันนะครับ…สำหรับเจ้า สกูตเตอร์ขนาดกลางที่น่าจะถูกตาต้องใจใครๆหลายๆคนอยู่
รีวิวนี้ก็อาจจะบอกได้ว่า ไม่ว้าวไม่ใหม่อะไรเพราะก็เปิดตัวกันมานานพอสมควรแล้วล่ะ
ตัวเป็นๆก็ออกมาวิ่งให้เห็นกันแล้ว ก็เพียงอยากมาบอกเล่าความรู้สึกที่ผู้เขียนได้ไปลองสัมผัสเจ้า Forza 300
ในการใช้งานเดินทางแบบจริงๆจังๆ กรุงเทพ – บุรีรัมย์ ไปปฎิบัติภาระกิจที่สนามช้าง เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า……


เจ้าโลมาสีน้ำเงินถูกปรับโฉมใหม่แต่ยังคงใช้เครื่องยนต์บล๊อกเดิมทุกกระเบียดนิ้ว
เครื่องยนต์สูบเดียวความจุ 279cc. SOHC ระบบหัวฉีด PGM-Fi ระบายความร้อนด้วยน้ำ
กำลังวังชาอยู่ที่ 24.8 แรงม้าเท่าเดิม….เพิ่มเติมออฟชั่นต่างๆเข้ามาแทน


ไฟหน้า LED ดีไซน์เส้นสายเฉียบคมตามสมัยนิยม อยู่ในโทนเดียวกับรถออโต้หลายๆรุ่นของ Honda ในยุคนี้
ที่สำคัญ LED ใน Forza ไม่แยงตาเหมือนในหลายรุ่นที่ Honda เริ่มปรับเปลี่ยนมาใช้ LED แล้ว
ไฟเดย์ไลท์สวยงามโฉบเฉี่ยวไฟสูงอยู่ด้านล่างระหว่างกลางไฟทั้งสองข้างให้แสงกำลังดีในยามค่ำคืน


ไฟเลี้ยวติดมากับกระจกมองข้าง ติดค้างตลอดเวลาและจะกระพริบเมื่อใช้งานเป็น LED เช่นกัน
เอาเป็นว่าดวงไฟทั้งหมดของเจ้า Forza 300 เป็น LED ทั้งคันครับ



ไฟท้ายมาพร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยวล้ำสมัยพร้อมไฟเลี้ยวในโคมเดียวกันไปเลยแบบจบๆ



มาดูแดชบอร์ดด้านบนกันบ้าง กระจกมองข้างแบบตายตัวขนาดเขื่องให้มุมมองที่ชัดเจนแข็งแรง
ไม่มีอาการสั่นสะท้านมากวนใจทุกจังหวะ อ้อ กระจกพับขึ้นได้ถ้าต้องการความคล่องตัวตอนมุดรถติดๆ
ด้วยการจับบิดพับขึ้นมาได้เลย….ถ้าพับไฟฟ้าด้วยคงจะเท่กว่านี้อีก



เรือนไมล์ซ่อนอยู่หลังชิลด์หน้าขนาดใหญ่ มีมาตรวัดรอบและวัดความเร็วเป็นแบบเข็ม ส่วนตรงกลางจะบอก
บอกสถานะต่างๆครบครัน ตั้งแต่ TripA TripB อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน อุณหภูมิภายนอก วัดโวล์ท รวมไฟถึงไฟสัญญาณต่างๆ


ระบบกุญแจแบบสมาร์ทคีย์ไม่มีรูกุญแจ เพียงแค่เอารีโมตใส่กระเป๋ากางเกงไว้กดลูกบิดลง1ครั้งไฟ LED สีฟ้าสดใสจะติด
พร้อมเสียงสัญญาณ บี๊บๆ ก็พร้อมที่จะบิดลูกบิดไปในตำแหน่งต่างๆได้อย่างง่ายดายทั้งตำแหน่งล๊อค หรือ ตำแหน่งสตาร์ท
มีปุ่มเปิดปิดเบาะและถังน้ำมันอยู่ข้างๆกัน สะดวกในการใช้งาน….และหายห่วงเรื่องการโจรกรรมไม่มีรูกุญแจให้โจรงัดแล้ว


ช่องเก็บของด้านหน้าซ้ายใต้แฮนด์ค่อนข้างลึกใส่ขวดน้ำ โทรศัพท์มือถือ หรือ ถุงมือข้อยาวลงไปได้สบายๆ
พร้อมช่อง A/C แบบที่จุดบุหรี่ในรถยนต์ไว้ให้เสียบชาร์ตมือถือ  ปั๊มลมไฟฟ้า หรือ อุปกรณ์อื่นได้ด้วย


ประกับฝั่งซ้ายจะเป็นศูนย์ควบคุมหลักๆของระบบต่างๆในเจ้า Forza 300 แทบทั้งหมดจะควบคุม
ผ่านประกับฝั่งซ้าย แรกๆจะงงกับตำแหน่งแตร ที่สลับกับไฟเสี้ยวหน่อยพอกดๆเล่นไปซักพักก็ จะเลี้ยวจะกดแตร
พอจะกดแตรก็จะไปรัวไฟเลี้ยวแทน…..555+ สำหรับคนที่ยังไม่คุ้นเคยกับตำแหน่งปุ่มกดของ Honda นะครับ


มาฝั่งขวากันบ้างจะดูเบสิคไปในทันที เพราะปุ่มควบคุมอยู่ซ้ายหมดแล้ว
ขวาก็จะมีแค่ Run/off ไฟฉุกเฉิน แล้วก็ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์เท่านั้น


ฝาถังน้ำมันจะอยู่ตรงคอนโซลกลางใต้แฮนด์เปิดปิดด้วยการกดปุ่มข้างลูกบิดนั่นแหละ
เวลาเติมน้ำมันก็ไม่ต้องยุ่งยากเปิดเบาะแล้ว ฝาถังเป็นแบบเขี้ยวบิดเปิดออก ระวังหลุดมือหล่นด้วยนะจ๊ะ


พูดถึงเบาะก็ใหญ่โต นุ่มกำลังดีนั่งสบายเต็มก้น กลไกปิดเปิดก็ติดกับเจ้าฝาถังน้ำมันนั่นแหละจ้า


ใส่ของขนสมบัติได้จุใจ หมวกเต็มใบใส่ลงไปได้สบายๆไม่ต้องกลัวเปียกถ้าฝนตกเป็นข้อดีมากๆของรถออโต้
ที่มี U box ใหญ่โตแบบว่าไปไหนมาไหนคนเดียวซัก2-3วัน ขนสัมภาระไปได้แบบไม่ต้องแบกอะไรเพิ่ม


พูดถึงรายละเอียดตัวรถเริ่มไหล เชื่อว่าน่าจะรีวิวกันจนทะลุปรุโปร่งไปทั้งคันแล้วก็ขอตัดไปเรื่องการขับขี่กันเลยดีกว่า
Forza 300 หลักๆคือ น่าจะถูกออกแบบมาให้ความสบายในการขับขี่ด้วยขนาดเบาะที่กว้างนั่งสบาย
ซึ่งสัมพันธ์กับตำแหน่งแฮนด์ รวมไปถึงตำแหน่งในการวางเท้า……ที่ผู้เขียนขับขี่จากกรุงเทพ ถึง บุรีรัมย์
จะบอกว่าขี้โม้ว่าขี่สบายเหลือเชื่อก็คงไม่เกินไปนัก
ตัวรถถูกวางจุดศูนย์ถ่วงให้ต่ำที่สุดกอปรกับยางติดรถ พิราลี่ ก็ถือว่าทำได้ดีในการยึดเกาะถนนในทุกๆช่วงความเร็ว
พ่วงมาด้วยระบบ Traction Control และ เบรค ABS ป้องกันล้อฟรี ล้อล็อค ที่ตอบสนองได้อย่างดีมาครบครันหายห่วง
ถังน้ำมันความจุ 11.5 ลิตร อัตราการบริโภคแบบบิดหมดปลอกแช่กันยาวๆก็ประมาณ 27-28กิโลลิตร
ความเร็วสูงสุดที่ผู้เขียนทำไว้ก็อยู่ราวๆ 140-145 กิโลเมตรต่อชั่วโมงวัดรอบกวาดอยู่ที่ประมาณ 8000รอบ

 

ความเร็วสูงสุดในช่วงที่ขับขี่เดินทางแบบทางตรงๆโล่งๆแช่ยาวๆ

ร่ายซะยาวเดี๋ยวจะเบื่อกันซะก่อน…ขออนุญาตสรุปตามที่ผู้เขียนได้สัมผัสกันเลยดีกว่าข้อดี
– นั่งสบายนั่งนานๆไม่เมื่อย
– ชิลด์บังลมหน้าปรับไฟฟ้าอยากสูงอยากเตี้ยแค่ปลายนิ้ว
– อัตราการบริโภคเชื่อเพลิงแบบหวดๆอยู่ในเกณท์น่าพอใจ
– คล่องตัวกว่าเจ้าForzaโฉมเก่า ตามสไตล์ฮอนด้ารถดีขี่ง่าย
– แทรคชั่นคอนโทรลตอบสนองได้ดี
– ระบบคีย์เลสใช้งานง่ายสะดวกปลอดภัยจากการโจรกรรมข้อติ
– อาการแฮนด์สั่นเล็กๆในช่วงความเร็วต่ำ
– ช่วงล่างกระด้างไปหน่อย คงต้องจับไปเซ็ทกันบ้าง
– เบาะกว้างไปนั่งสบายแต่ความกว้างสบายแลกมาด้วยต้องเขย่งนิดๆ
– น้ำหนักตัวรถค่อนไปข้างหลังเยอะไม่คุ้นเคยหักคอสุดที่ความเร็วต่ำ พับเอาง่ายๆ***เป็นความคิดเห็นจากผู้เขียนล้วนๆ ซึ่งแต่ล่ะคนก็ชอบไม่เหมือนกัน ขออนุญาตบอกเป็นความรู้สึกเอาไว้ให้พิจารณากันคร่าวๆนะครับส่วนใครสนใจจะจับจองเป็นเจ้าของเจ้า Forza300 โฉมโลมาสีน้ำเงิน
ก็อดใจรอโปรโมชั่นในงาน Motor Expo 2018 ที่จะถึงในไม่กี่วันนี้ มาดูกันว่าฮอนด้า
จะมีโปรอะไรเด็ดๆมากระตุ้น กิเลสสายออโต้กันบ้าง

ข้อมูลเพิ่มเติมของเจ้า Forza 300 ……… All New Forza (2018)


ขอบคุณที่ติดตามพวกเราทีมงาน JUST RIDE iT กันมาด้วยดีตลอด
โอกาสหน้าจะหารถมาเหลาให้อ่านกันอีกครับผมขอบคุณครับ