Honda CB 1100RS เวลาเปลี่ยนแต่ความเก๋ายังคงอยู่
กราบสวัสดี พี่ๆน้องๆลุง ป้า น้า อา ทุกท่านครับ
กลับมาจั่วหัวทักทาย ทุกๆท่านกันอีกครั้ง
รอบนี้พาเจ้า4สูบร่างใหญ่จากแดนอาทิตย์อุทัยมาด้วย
เป็นยังไงจะเล่าให้ฟังครับ
Honda CB1100RS
ในยุคหนึ่งที่รถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ หรือ ที่เราๆท่านๆเรียกกันติดปากว่า 4สูบ
ยังวิ่งฉวัดเฉวียนบนท้องถนนเมืองไทย….ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเจ้ารถตระกูล CB จากค่ายปีก
ก็เป็นหนึ่งในใจ พวกเราสายสองล้อที่นิยมชมชอบในสุ้มเสียง ที่รีดเร้นพลังจากเครื่องยนต์4สูบเรียง
จากคาบูเรเตอร์4ตัว เข้าห้องเผาไหม้ผ่านการสันดาปจนระเบิดออกมาเป็นไอเสียพุ่งผ่านปลายท่อออกมา
เป็นเสียงที่ช่างไพเราะซะเหลือเกิน…..คนที่เข้าใจฟิลลิ่งนี้อาจจะต้อง 30+นิดนึงนะ อิอิ
ปล.ไม่นับท่อลั่นท่อกระป๋องนะครับ ในสมัยนั้นท่อกระป๋องยังไม่เกิดหรือเกิดแล้วแต่ไม่ฮิตหว่า
แต่ที่แน่ๆฮิตปลายท่อยาวๆ 18นิ้ว ไปยัน 20นิ้วนู่น ยิ่งยาวยิ่งเท่ว่างั้น
พอก่อนเดี๋ยวจะยาวไปเรื่องปลายท่อซะก่อน…..วกกลับมาที่ตัวรถกันต่อ
หลังจากที่ฮอนด้าไม่ได้สร้างเครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยอากาศใดๆ ในกว่า 20 ปีที่ผ่านมา
ยังคงเห็นรุ่นพี่ของเจ้า CB1100RS ได้ที่พิพิธภัณฑ์ฮอนด้าคอลเลคชั่นฮอลล์ที่ Motegi(โมเตกิ)
อย่างเช่น CB750 เริ่มตั้งแต่ตัว8วาวล์SOHC CB750F DOHC 16วาวล์ และยังมีเจ้า CB900F และ CB1100F
และอีกหลากหลายรุ่นในตระกูล CB ที่เป็นเครื่องยนต์แบบระบายความร้อนด้วยอากาศนะครับ
ยังไม่นับรวม CB ในโมเดลที่เป็นหม้อน้ำในยุคหลังซึ่ง เป็นอีก1รุ่นที่เป็นตำนานกล่าวขานกันมายาวนานจนถึงปัจจุบัน
อดีตเป็นเรื่องที่น่าจดจำ…เรากลับมาอยู่กับปัจจุบันกันดีกว่า
Honda CB1100RS โมเดลนี้เปิดตัวครั้งแรกในปี 2017ก็ปีที่แล้วอ่ะนะก็ไม่ใช่รถใหม่
ที่ชวนให้ฮือฮาหวือหวาอะไรในตอนนี้ ตอนเปิดตัวใหม่ๆก็เป็นฮือฮาอยู่ จะแปลกมั้ยที่ผู้เขียนดันไปจับเอา
รถที่ออกมาพักใหญ่แล้ว มาบ่นให้อ่านกัน…..ก็ทำใจไว้แล้วว่าอาจจะแป๊ก แต่ไม่เป็นไรอยากเขียน อิอิ
CB1100RS ผู้เขียนจัดอยู่ในใจให้เป็นรถในแนว เรโทรสปอร์ต ก็ประมาณว่ารถหน้าตาคลาสสิก
แต่จับเอาออฟชั่นสมัยใหม่ยัดใส่เข้าไป เพื่อให้ทันยุคทันสมัยและสะดวกสบายกับผู้ขับขี่มากกว่ารถเก่า
ไม่ใช่ว่ารถเก่าไม่มีเสน่ห์นะครับ…..รถเก่ามันมีคุณค่าในตัวของมันเองเอา
ง่ายลองๆไปค้นหาดูว่า CB750 8วาวล์ สภาพนิ้งๆตอนนี้ราคา ซื้อ-ขายกันที่เท่าไหร่ หุหุ
มาลองขี่แล้วโม้ให้อ่านกันต่อดีกว่า
CB1100RS
เครื่องยนต์หัวฉีด PGM-Fi ขนาด 1140 ซีซี 4สูบเรียง DOHC 16วาวล์ ระบายความร้อนด้วยอากาศ
รีบเร้นสายลมเย็นแล่นผ่านครีบเครื่องอลูมิเนียม
พร้อมออลย์คูลเลอร์ขนาดกำลังพอเหมาะติดมาอีกลูก
เป็นเครื่องยนต์ระบายอากาศโดยสมบูรณ์ในแบบฉบับ CB ส่งผ่าน DNA จากอดีตมาถึงปัจจุบัน
กำลังสูงสุดอยู่ที่ 88 แรงม้า ที่ 7,500 รอบ 6 เกียร์ ฮอนด้ายังใส่ระบบสลิปเปอร์คลัชมาให้อีกด้วย
อันนี้เด็ด…โช้คหน้าโชว่าสีทองอร่ามประกบคู่ด้วยปั๊มเบรกคาลิเปอร์สี่ลูกสูบแบบเรเดียลเม๊าท์ โทคิโกะ
พร้อมABSเต็มระบบ ก่ะว่าจัดเบรคมาให้สยบม้า 88 ตัวได้อยู่หมัดแน่นอน
โช้คหลังคู่แบบซัพแท๊งค์สีทองปรับได้จากโชว่าเช่นเดียวกัน ทองอร่ามงามตากันไปทั้งหน้าและหลัง
ปั๊มเบรคหลังลูกสูบเดี่ยว นิชชิน สีทอง
ล้อหน้าแม็กอลูมิเนียมขอบ 17 นิ้ว ขนาดยางหน้า 120/70ZR17
ล้อหลังขอบ 17 ขนาดยางหลัง180/55ZR17 ล้อหลังอวบอ้วนเต็มซุ้ม
ขยับขึ้นมาดูเรือนไมล์กันบ้าง ขออภัยถ้าลำดับจะมั่วๆไปบ้างตามอารมณ์ผู้เขียนอยากจะกล่าวถึงส่วนไหนก็ไปส่วนนั้นๆก่อน แฮ่
เรือนไมล์กลมๆมาคู่กับวัดรอบ ถ้วยกลมชุบโคเมี่ยมเงาแววาว ให้อารมณ์รถเรโทรไมล์ให้มาสุดที่ 200 Km/h เท่านั้นนะจ๊ะ
ที่มาของความเป็นโมเดิลเรโทร ด้วยระบบไฟแบบ LED ทุกส่วนเริ่มจากไฟหน้ากลมเป็นเอกลักษณ์ของรถแนวนี้
รวมไปถึงไฟเลี้ยว LED หน้าตาโฉบเฉี่ยว กลมกลืนกลับความคลาสสิกได้อย่างลงตัว
ไฟท้าย LED ทรงรีๆมนๆสวยงามตามท้องเรื่อง
ท่อโครเมี่ยมคู่แบบ 4-2-2 ขนาดเขื่องเอาเรื่องให้สุ้มเสียงทุ้มๆนุ่มละมุนในรอบต่ำ และ พร้อมจะแผดเสียงทุ้มดุดันในรอบสูง
ถังน้ำมันขนาดความจุ 16.8 ลิตร ฝาถังสมัยใหม่ติดตั้งไว้อย่างลงตัว
แฮนด์เดิ้ลบาร์ทรงต่ำ ความกว้างกำลังดีแฮนด์ของเจ้า CB1100RS จะต่ำกว่า CB1100EX นะครับ
ให้อารมณ์สปอร์ตกว่า EX ซึ่งเป็นเรโทรจ๋านั่งหลังตรงขี่กันเลยอันนี้ก็แล้วแต่คนชอบนะครับ
ส่วนตัวที่ได้ลองเอาเจ้า CB1100RS ไปหวดมาท่าทางการขับขี่อยู่ในช่วงกลางๆไม่ก้มไม่ตั้งตรงจนเกินงาม
ขี่ไกลๆไม่เมื่อย จะหมอบจะโหนก็ไม่เคอะเขินแต่อย่างไร
สวิตท์บริหารไฟต่างๆในฝั่งซ้ายก็มีไฟเลี้ยว ไฟPass ไฟสูง/ต่ำ ตำแหน่งแตรก็แบบฮอนด้ายุคใหม่นั่นละครับ
คือแตรอยู่กลางไฟเลี้ยวอยู่ล่างถ้าจับรถยี่ห้ออื่นบ่อยๆเวลาเผลอๆก็มีกดแตรก่อนเลี้ยว กดไฟเลี้ยวแทนแตรกันบ้างเล็กน้อย ฮา
อ้อลืมไปว่า CB1100RS ใช้คลัชน้ำมันนะครับนุ่มนวลเหมาะกับขนาดตัว ถ้าเป็นคลัชสายคงจะหนักเอาเรื่องอยู่
สวิตท์ฝั่งขวาบ้าง สวิตท์สตาร์ท ไฟฉุกเฉิน สวิตท์รันออฟหรือฝรั่งเรียก Killing engine Switch
มือเบรค มือคลัช แบบก้านเหรียญ….ปรับระดับได้ด้วยการดันก้านไปด้านหน้าแล้วหมุนแป้นกลมๆตามเบอร์
เบอร์น้อยก็จะกว้างขึ้น เบอร์มากก็จะแคบเข้ามาสะดวกดีไม่ต้องมานั่งปรับให้ยุ่งยาก แถมสวยดีด้วย
ว่ากันไปซะยืดยาวแล้วก็ขออนุญาตบอกกล่าวในส่วนที่ผู้เขียนได้ลองสัมผัสมาแล้วชอบไม่ชอบตรงไหนกันเลยกว่า
เพราะถ้ายังเล่ากันต่อไป จิตนาการจะเตลิดเปิดเปิงไปจนงัดเอาเจ้ารุ่นพี่ๆ CB มาเหลากันกันไม่จบเป็นแน่แท้
รวบรัดตัดความกันเลยดีกว่ากับเจ้า CB1100RS ปี2017
ในส่วนของการขับขี่นั้น……สัมผัสแรกคือ หนัก!!!
ข้อดีของรถที่น้ำหนักมากคือ นิ่ง กอปรกับช่วงล่างที่ให้มาแบบจัดเต็ม ออกไปทางแนวสปอร์ต
มากกว่ารถขี่ชิลทำให้การพาเจ้า CB1100RS ไปโลดโผนโจนทยานบนรู๊ท12เซอกิต
สามารถเรียกกำลังวังชาลงพื้นได้ดี กำลังเครื่องในรอบต้นไม่ได้จัดจ้านอะไรมากมีแรงดึงให้หน้าหงายได้พอสมควร
กำลังวังชาจะมาได้เต็มที่ในรอบสูง ตามสไตล์รถ4สูบเรียงช่วงล่างถูกเซ็ทมาให้แข็งนิดๆ ในโค้งไม่มีอาการโยน
ดีดเด้งอะไรมากวนใจให้เสียอารมณ์…….บอกเลยว่าขี่แบบอัดๆหวดๆก็ได้ หรือ จะขี่ชิลๆกินลมชมวิวดี
ระบบเบรคที่ให้มาเพียงพอที่หยุดพี่เบิ้มไว้ได้อย่างราบคาบ ABS ทำงานได้คมเป็นที่น่าพอใจทั้งหมดทั้งมวลแล้วถ้าได้ลองขี่
รับรองว่าจะติดใจ…..ที่สำคัญคือ ขี่ไปไหนใครก็มอง มันหล่อจริงๆ
ข้อดี
– ระบบช่วงล่างที่ให้มาในย่านความเร็วสูง รวมถึงในโค้งก็เกาะถนนจัดว่าเยี่ยม
– งานประกอบ งานสี งานชุบโครเมี่ยม จากญี่ปุ่นไม่มีผิดหวังเนี๊ยบทุกจุดหาตำหนิไม่ได้
– กำลังเครื่องขนาด1100cc 88ม้า ขี่สนุกจนลืมไปว่ารถหนัก 250กว่ากิโล
– เห็นหน้าตาแล้วนึกว่าจะดื้อมือ แต่กลับขี่ง่ายสไตล์คนดีขี่ฮอนด้า
– อัตราการบริโภคแบบหวดๆอยู่ที่ 20-21กิโลลิตร
ข้อติ
– โดนตัดตอนมาจากแจแปน สุดอยู่ที่180+ นิดๆอันนี้น่าจะมีวิธีปลดล๊อคพลังขั้นสองได้ช่างไทยทำได้แหละ
– น้ำหนักรถค่อนข้างเยอะ ไม่คุ้นเคยหักคอสุดที่ความเร็วต่ำ พับเอาง่ายๆ
– เบาะกว้างไปนั่งสบายแต่ความกว้างสบายแลกมาด้วยต้องเขย่งนิดๆ
***เป็นความคิดเห็นจากผู้เขียนล้วนๆ ซึ่งแต่ล่ะคนก็ชอบไม่เหมือนกัน ขออนุญาตบอกเป็นความรู้สึกเอาไว้ให้พิจารณากันคร่าวๆนะครับ
ในปี2017 ต่อเนื่องมาถึงปีนี้ 2018 ฮอนด้าลงมาเน้นรถในสไตล์เรโทรมากขึ้นดังที่เห็นกัน
ขอบคุณที่ติดตามพวกเราทีมงาน Just Ride it กันมาด้วยดีตลอด
โอกาสหน้าจะหารถมาเหลาให้อ่านกันอีกครับผมขอบคุณครับ