[RIDE NOW] สิ้นสุดการรอคอย คลาสสิก 400 นามว่า Stallions CT400

[RIDE NOW] สิ้นสุดการรอคอย คลาสสิก 400 นามว่า Stallions CT400

สวัสดีพี่น้องสมาชิกทุกท่าน

กับกระทู้ที่คนเขียนเองก็….รอจะเขียนมานานกว่าปี…

ในที่สุด หลังจากการเปิดราคาค่าตัวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา….เชื่อว่าราคานี้ ถูกตาต้องใจหลายๆคนที่รออยู่

แต่ราคาที่เปิดมานั้น จะสมเหตุ สมผล มากน้อยเพียงใด อย่างน้อยที่สุดก็ต้องลองได้ขับขี่กันดู

จากการคลุกอยู่กับมันล้วนๆมาเป็นเวลากว่าหนึ่งสัปดาห์ ดีร้ายอย่างไรก็มาเล่าสู่กันเช่นเคย

ทีมแอดมิน motorcycpantip  https://www.facebook.com/motorcycpantip/และ just ride it https://www.facebook.com/Just-Ride-it-402680366584509/จึงอาสาเป็นตัวกลางในการสื่อข้อมูลเหล่านี้ ด้วยรูปแบบการทำงานของเราที่ยึดมั่นเสมอมา อะไรดีก็บอก อะไรไม่ชอบก็เล่า

อารัมบทกันซะยืดยาว…..ออกแขกกันเสียยาวยืด…..มาว่ากันเลยดีกว่าเนอะ

ปกติจะเขียนกระทู้ในรูปแบบการเดินทางไปด้วย ซึ่งก็ได้เอารถไปเดินทางจริงๆ โดยเริ่มตั้งแต่รับรถมาไว้ที่บ้าน

อีกวันก็ออกเดินทางไปกับทริปใหญ่ประจำปีของชาวเซนทอร์

ได้ไปกินไปนอนร่วมกับพี่น้องชาวเซนทอร์มาหนึ่งคืน .ขอเล่าเพียงสั้นๆว่า ประทับใจกับมิตรภาพของพี่น้องชาวเซนทอร์มากงานเลี้ยงดี ที่พักโอเค ดนตรีไพเราะ และอวลไปด้วยบรรรยากาศแบบพี่ๆน้องๆ เป็นมีตติ้งของชาวมอเตอร์ไซค์ที่ดีที่สุดงานนึงที่ผมมีโอกาสได้เคยไปร่วมเลยทีเดียว ต้องให้เครดิตฝึมือการบริการหลังการขายของ Stallions ที่สามารถสนับสนุนกิจกรรมและสังคมของกลุ่มผู้ใช้งานให้เป็นรูปเป็นร่างที่แน่นแฟ้นรวมกลุ่มรวมคลับต่างๆของผู้ใช้งานเข้ามาร่วมกันขนาดนี้ได้….เกินกว่าธรรมดาคือดีเยี่ยมจริงๆ

จากนั้น เราก็นำ เจ้า Stallions CT400 และ Centaur Siam วิ่งจากปากช่องแคมป์ไปร่อนบนเขาใหญ่ เพื่อดูการทำงานต่างๆของเจ้ารถทั้งสองคันว่าเป็นอย่างไร

แล้วก็มาถึงหน้าที่ของผมที่จะเล่าเรื่องเจ้า CT400 แล้วล่ะ

กับเจ้าเครื่องยนต์สูบเดียว ปริมาตรกระบอกสูบ 397cc. ระบายความร้อนด้วยอากาศ กำลังอัด 8.8: 1 ให้แรงม้าที่ 19.5 ที่ 7000 รอบต่อนาที และแรงบิด ที่30 N.m ที่5500รอบ

ที่มาแปลกตาและทำให้หลายๆคนเดาผิดกับตอนที่ภาพเปิดตัวปล่อยออกมาก็คือ มันเป็นเครื่องสูบเดียวที่ท่อไอเสียออกสองมาจากตัวเครื่องเลยนี่แหละ ที่ทำเอาหลายๆคนนึกว่าเป็นเครื่องสองสูบไปเสียนี่ เป็นเป็นว่า สูบเดียว สี่วาวล์ และจ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดนะจ๊ะ

ดีไซน์โดยรวมแล้ว…นานาจิตตัง แต่เชื่อว่าหลายๆคนคงเล็งจะเอาไปทำคาเฟ่ บอบเบอร์ แทรคเกอร์ คัสตอมกันตามงบประมาณและอัธยาศัย

แว้บกลับมาดูไฟหน้า….ให้หลอด H4 จากการใช้งาน บอกเลย สว่างดี สว่างพอ ให้ผ่านอย่างดีงาม

ล้อหน้าขนาด 19 นิ้ว ขนาดยาง 100/90 ยี่ห้อ IRC การใช้งานทั่วไป ให้ผ่านไม่มีข้อกังขา และดีงามเวลาตกหลุม ล้อใหญ่ๆนี่ช่วยได้เยอะ เนื้อยางทั้งหน้าหลังใช้งานทั่วไปได้ดี (แต่ยังไม่ได้ลองกับพื้นเปียกนะ)

ล้อหลังขนาด 18 นิ้ว ขนาดยาง 110/90 ยี่ห้อ IRC เช่นกัน โดยรวมแล้วยางหน้า-หลัง แม้จะไม่ได้ให้ยางหน้ากว้างมา แต่เป็นขนาดล้อและยางที่เหมาะสมกับรูปร่างและสไตล์ของรถ และใช้งานได้ดี อ่อ ล้อเหล็กดุ้นแข็งแรงดีจ้า แต่ถ้าให้ล้อเนียมมาก็คงยืนราคานี้ยากอะเนอะ

ช่วงหน้า กันสะเทือนแบบเทเลสโคปิด ซึ่งเป็นรูปแบบพื้นฐานที่แข็งแรงเชื่อถือได้ เบรคหน้าจานเดี่ยวกับคาลิปเปอร์แบบลูกสูบคู่ การใช้งานเอาอยู่สบายๆ บังโคลนเป็นโลหะชุบโครเมี่ยมมาแข็งแรงดี ปลอกยางกันฝุ่นที่แกนโช๊คหน้าก็ใส่มาพร้อมสรรพ งามจบโดยไม่ต้องดับไฟ

ช่วงหลัง แบบสวิงอาร์ม โช็คหลังคู่ ดรัมเบรคโตๆแบบเรโทร อาจต้องกดเบรคกันลึกนิด…แต่ก็ได้นะ เอาอยู่ๆ ปลายท่อไอเสียแบบลูกบวบคู่เรโทรได้ใจไปเต็มๆ บังโคลนหลังโลหะชุบโครเมี่ยมแข็งแรงดี และถ้าถอดก็คาเฟ่ได้ทันทีเหมือนกัน พักเท้าคู่หลังทื่อๆง่ายตามดีไซน์ในยุคสมัยนั้น โดยรวมก็งามตามสมัยไม่มีอะไรขัดหูขัดตา

ถ้าใครสังเกตรูปนี้ดีๆ หลังซุมล้อหลังเนี่ย DRY SUMP นะจ๊ะ ดีงามอีกอย่างก็เจ้านี่แหละ แจ่มจริงๆ

อัตราสิ้นเปลืองที่ลองทำได้ (ยังไม่พ้นรันอิน) อยู่ประมาณที่ 25 กิโลเมตร ต่อ 1 ลิตร ย่านความเร็วที่ใช้งาน 90-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เรื่องหน้าตาเรือนไมล์ก็ดูจากรูปนี้ด้วยเลยละกัน พื้นเรือนไมล์เป็นสีขาวดูสบายตา ให้วัดรอบมาด้วย ไฟต่างๆครบครัน มีไฟหัวฉีด และไฟเตือนน้ำมันขึ้นเมื่อไรก็แปลว่าในถังเหลือประมาณลิตรนึงนะจ๊ะ โฮ่ๆๆๆ (ถังน้ำมันความจุ 13 ลิตร) ตรงนี้ตินิด เวลากลางคืนเนี่ย เรือนไมล์ผมว่ามืดไปนิดนะ มองอะไรไม่ค่อยชัดสักเท่าไร โอวววว เจอข้อเสียละ(แอบดีใจ)

มาว่ากันเรื่องสำคัญ….ฟิลลิ่งเวลาขับขี่

หลังจากได้ลองขี่เจ้าตัวนี้…ไม่ได้ละ ขี่คนเดียวไม่ได้ และต้องลองเทียบกับหลายๆคันด้วย

จอดที่ไหนเจอใครมาถามก็ชวนเขาลองขี่ไปทั่ว…หลังไมค์ไปชวนผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่งในห้องมอเตอร์ไซค์เรานี่แหละให้มาลองขี่ พี่โหน่งก็ใจดีเอาเจ้า CL400 สุดงามมาให้ลองเทียบด้วยยยยย โอววววว ขี่แล้วฟินโคตรๆ

ยัง…ยังไม่หนำใจ กินดีหมีหัวใจเสือ บุกถ้ำเสือ YAMAHA RIDER เพื่อขอลองขี่เจ้า SR400 อีกรอบ (หลังจากที่เคยเขียนกระทู้ตัวนี้ไปแล้ว ในhttp://pantip.com/topic/33390628 )

คือหลายเดือนแล้วก็ลืมๆไปบ้าง ขอลองด้วยให้แน่ใจอีกหน่อยน่า YAMAHA RIDER  ก็ใจดีใจกว้างให้ลองตามสะดวก

โอเค จับทางได้ละ

เท่านั้นยังไม่พอ ยังหลังไมค์ไปชวนท่านสุดกระดิ่งติ่งแมว กับ @เตี้ย ล่ำ ดำ แก่ มาลองด้วยกันอีกด้วยการเทียบกับตัวเล็กกว่าอย่างน้องแหวน เราสนุกกันแบบหยุดไม่ได้จริงๆ ขอบคุณท่านปอที่มาร่วมสนุกกับเรานะครับ

เอาล่ะสิ เราสนุกกับการลองขี่ด้วยตัวเอง ชวนเพื่อนมาลอง ปิ๊งไอเดีย เฮ้ย เราอยากให้คนมาลองอีก ยกหูถามไป CEO ของ Stallions ก็ใจดี ไฟเขียว สนุกกันล่ะ ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมสนุกกับเรานะครับ มากันร่วมๆสามสิบท่านเลยเชียว (อาจไม่ได้ลงรูปทุกท่านเน้อ บางช่วงมันมืด ถ่ายไม่ติดหน้าเลย)

อ่อ ผู้ใหญ่ใจดี ยังฝากพวงกุญแจเกร๋ๆ ให้เป็นที่ระลึกกับเพื่อนๆที่มาลองด้วยจ้า

สาวๆก็มาลองขี่ด้วยนะ ขี่พริ้วดีเชียว

ท่านกรก็ตามมาจากห้องไลน์

ปักหลักกันกลางลานแบบนี้แหละ พอมืดหน่อยนี่ยุงบึ้มเลย

เรามาสรุป ฟิลลิ่งที่ได้กันดีกว่า

ในทางดำ …ทันทีที่เราเปิดคันเร่ง…โอว มันพุ่ง มันลื่น เกียร์ 1 – 2 – 3 ขี่สนุกดี แรงบิดมาดีต่อเนื่อง การใช้งานในเมือง…บอกได้เลยว่าเจ้า CT400 เป็นรถอีกคันที่ขี่ในเมืองสนุก บาลานซ์ของรถดีเยี่ยม เวลาวิ่งรถแทบไม่หนักเลยเมื่อเทียบกับรูปร่างที่ดูค่อนข้างจะใหญ่เมื่อเทียบกับรถตลาดทั่วไป การมุด การเปิดคันเร่งจากจุดคับขันต่างๆทำได้ดีและสนุก ช่วงล่างหลังจากนวดมานิดหน่อย เมื่อลองรูดกับถนนบางสายในบางกอก เช่นแถวๆจรัญ ยาวไปยันมไหนรก ให้มันสอบผ่านไปได้แบบสบายๆ เป็นเครื่องยนต์พิกัด 400 cc. คันนึงที่ใครได้ลองขี่ ส่วนใหญ่ก็จะประทับใจกับอัตราเร่งของมัน เสียงท่อคู่นี้สำหรับผม มันลงตัวและไม่อยากเติมแต่งใดๆ ผ่านด่านขึ้นเขาใหญ่แบบพริ้วๆเลยล่ะ

ช่วงความเร็วสูงสุดที่เราทำได้แบบไม่ต้องลากยาววววววววววววววให้มันไหลๆ อยู่ที่ประมาณ 130km/h เราพบอาการหน้าชกลมนิดๆ แต่ก็ไม่ถึงกับเลวร้าย ถือว่ากับล้อหน้า 19 นิ้วแบบนี้ กับช่วงล่างตามยุคสมัยของมัน ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ เมื่อคุ้นแล้วก็ควบคุมได้ไม่ยากจ้า ทั้งนี้ เรายังรู้สึกว่าถ้าลองให้มันไหล น่าจะไปได้อีกหน่อย แต่สำหรับรถสไตล์นี้ ผมว่า 120-130 ก็พอแก่การใช้งานแล้ว จริงๆความจะเน้นขี่ชิลๆเสียมากกว่า ช่วงที่เร่งดีขี่สนุกก็แถวๆ 80-120 เปิดคันเร่งแซงได้สนุกเลยล่ะ

การทรงตัวในโค้ง…เป็นรถที่เข้าโค้งดีและง่ายอีกคันหนึ่ง แรกๆอาจจะเหวอๆไปนิดถ้าคุณไม่คุ้นกับรถแฮนด์บาร์และช่วงล่างแบบคลาสสิค และเมื่อปรับตัวได้ล่ะก็ เข้าโค้งได้พริ้วๆเนียนๆเลยเชียว โค้งยาวๆหมดปลอกเข้าไปได้เลย ยางที่ให้มันรับน้ำหนักรถกับมุมเอียงโค้งในระดับทั่วไปได้สบายๆอย่าได้กังวล

เราลองลุยในทางฝุ่นดูสักนิด….สำหรับนักเดินทางด้วยสองล้อ บางทีมันก็เลี่ยงทางฝุ่นไม่ได้เนอะ

ในทางฝุ่นที่ล้อมีการปั่นฟรีบ้าง…ในส่วนของอัตราเร่ง จาก 1 -2 เราพบว่าเมื่อตบเกียร์สองแล้วบิดสุด กำลังมันตกไปนิดหน่อย ตรงนี้ฝากเป็นการบ้านให้ Stallions แก้ไขจุดนี้ให้สมบูรณ์ก่อนส่งมอบรถให้ลูกค้าในเดือนกุมภาพันธ์ 59 ด้วยนะครับ

(ว่าแต่…จะมีกี่คนเอาตัวนี้ไปลุยทางฝุ่นฟะ)

ช่วงล่างซับแรงกระแทกได้ดีประมาณนึง ยืนรูดหลุมในถนนพังๆได้สบาย เอาเป็นว่า…กลุ่มเซนทอร์ที่ผมไปรับจาก ปตท. ธนะรัตน์ เข้ามาปากช่องแคมป์ ถ้าเข้ามาเล่นพันทิปก็ช่วยมายืนยันตอนผมรูดหลุมให้ดูยาวๆได้แหละ อิอิ

เอาเป็นว่า น้ำหนักรถที่ควบคุมง่าย ทอร์คที่ขี่สนุก เปลี่ยนยางให้ดอกลึกและโตอีกหน่อย มันสครัมเบิลได้เลย…วางแผนไว้แล้วว่า…ดอยสอยมาลัย เดี๋ยวเจอกัน หึหึหึ

บทสรุป….

กับราคาที่เปิดตัว และหลังจากนี้อาจจะปรับขึ้นไปอีกนิดหน่อย

ต้องบอกเลยว่าตอนแรกผมเดาไว้ที่ 129,000.-

พอเปิดมาราคานี้นี่เฮกันทั้งในงานและนอกงาน

เทียบกับสิ่งที่ได้รับ กับราคาที่ต้องจ่าย ในความคุ้มค่า ผมให้ 9/10 คะแนน (นานๆจะให้คะแนนแบบนี้สักที)

แม้งานประกอบอาจไม่เนี้ยบเป๊ะๆ วัสดุและรายละเอียกปลึกย่อย อาจดูด้อยไปบ้างเมื่อเทียบกับค่ายใหญ่ๆ แต่ในราคาที่ทำมากับฟิลลิ่งที่ได้ ผมก็ยังบอกได้ว่า “ทอนกระจาย” จุ๊บๆ

ที่เหลือ…แน่นอนว่า มันจะทนแค่ไหน ระยะยาวจะเป็นอย่างไร

แน่นนอนเช่นกันว่ากระทู้นี้คงบอกเล่าเรื่องนี้ไม่ได้

เอาเป็นว่า หากมีโอกาส เราจะพามันไปสักสองคัน วิ่งยาวๆต่อเนื่องกับสักสองสามพันกิโลเมตร เพื่อดูว่าในระยะทางที่ต่อเนื่อง มีอะไรจุกจิกกวนใจบ้าง ถ้า Stallions เปิดโอกาสให้เรา เราขอรับอาสาเป็นตัวกลางในการส่งข้อมูลเหล่านั้นอีกแน่นอน

เรื่องบริการหลังจากขายของค่ายนี้ หลายปีที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์ตัวเองกับ CT150 ไปแล้วในระดับหนึ่งว่ามีความรับผิดชอบต่อลูกค้ามากน้อยอย่างไร ซึ่งแน่นอนจากผลเหล่านั้นย่อมตกทอดมาถึงความมั่นใจของว่าที่ลูกค้าที่กำลังคิดจะจับจอง ตรงนี้อยากให้ลองไปศึกษาดูให้ดี ไตร่ตรองให้รอบคอบ ถ้าให้ผมบอก เดี๋ยวจะหาว่าเชียร์ป่าวว๊าาาาาาา

สุดท้ายนี้ ขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่านจนจบ ขอบคุณหลายๆท่านที่มาร่วมสนุกลองขี่ไปกับเรา และเดือนมกราคม พี่น้องขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียงโปรดติดตามข่าวสารว่าจะมีให้ลองขี่กันถึงที่ขอนแก่นวันไหนนะจ๊ะ เป็นไปด้วยเราจะขึ้นไปพบปะกับพวกท่านด้วย อิอิ (ทำอย่างกะเขาอยากเจอแกร์นักนี่อินังโอม)

ขอบคุณครับ อมยิ้ม17

บทความโดย สมัญตาชีวบุตร_omega_13