
สกู๊ตเตอร์สายใช้งานที่ฉลาดขึ้น เรียบหรูขึ้น และตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองกว่าเดิม
ในตลาดรถจักรยานยนต์ออโตเมติกขนาดเล็กถึงกลางที่เน้นการใช้งานในชีวิตประจำวัน
“Honda Lead 125” ถือเป็นหนึ่งในรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยจุดขายที่เน้นความสะดวก ใช้งานง่าย ประหยัดน้ำมัน และมีกล่องเก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่ที่สุดรุ่นหนึ่ง
ในปี 2025 Honda ได้เปิดตัว Lead 125 รุ่นใหม่ ที่ไม่ได้แค่ปรับโฉมให้ดูทันสมัยขึ้น แต่ยังอัดแน่นด้วยฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ชีวิตยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง มาดูกันว่ารุ่นใหม่นี้มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง และคุ้มแค่ไหนเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า





⸻
ดีไซน์ภายนอก: พรีเมียมขึ้นแบบพอเหมาะพอดี
Honda Lead 2025 มาพร้อมกับการปรับปรุงดีไซน์ที่ทันสมัยและมีความลงตัวมากขึ้น
•เส้นสายตัวรถได้รับการออกแบบใหม่ให้ดูโฉบเฉี่ยวมากขึ้น แต่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็น Lead ที่ดูเรียบร้อยและใช้งานง่าย
•ไฟหน้าและไฟท้ายเป็น Full LED เส้นสายเฉียบคมช่วยให้หน้าตารถดูหรูหรา ทันสมัยมากขึ้น
•ล้อแม็กขนาด 12 นิ้วด้านหน้า และ 10 นิ้วด้านหลังยังคงเดิม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ประจำรุ่นไปแล้ว
• บังโคลนด้านหน้ามีการปรับเป็นแบบสองชิ้น โดยด้านหลังเป็นชิ้นพลาสติกสีดำ
• ใต้เบาะเพิ่มไฟส่องสว่างพร้อมที่คั่นสำหรับจัดระเบียบสิ่งของ




⸻
ฟีเจอร์และอุปกรณ์ใหม่:
จุดที่น่าสนใจที่สุดของรุ่น 2025 คือการอัปเกรดฟีเจอร์เพื่อการใช้งานในชีวิตจริงได้สะดวกสบายมากขึ้น
1. Smart Key System (กุญแจรีโมทอัจฉริยะ)
•ใช้งานง่าย ไม่ต้องเสียบกุญแจ แค่พกรีโมทไว้ใกล้ตัว สามารถสตาร์ท เปิดเบาะ ล็อกรถได้
•เป็นฟีเจอร์ที่เคยมีแค่ในรุ่นใหญ่ ตอนนี้มีใน Lead ตั้งแต่รุ่น standard แล้ว ถือว่ายกระดับชัดเจน
2. ช่องชาร์จ USB Type-C
•รุ่นก่อนหน้าพอร์ตชาร์จเป็น Type-A
•ฝาปิดกันน้ำพร้อมช่องใส่บัตร และหูเกี่ยวของตรงกลางแบบใหม่
3. ระบบ Idling Stop ที่พัฒนาขึ้น
•ปิดเครื่องอัตโนมัติขณะจอดรอไฟแดง แล้วติดเครื่องทันทีเมื่อบิดคันเร่ง
•รุ่น 2025 ปรับซอฟต์แวร์ให้ทำงานนุ่มนวลขึ้น ไม่มีอาการกระตุกตอนติดเครื่อง




⸻
สมรรถนะเครื่องยนต์:
แม้ว่าเครื่องยนต์จะยังเป็นแบบเดิมกับรุ่นก่อนหน้า แต่มีการปรับเล็กน้อยเพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น:
•เครื่องยนต์ eSP+ ขนาด 125cc 4 จังหวะ SOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ
•ระบบหัวฉีด PGM-FI ที่ขึ้นชื่อเรื่องความประหยัด
•ปรับ ECU ให้มีการตอบสนองดีขึ้น โดยเฉพาะเวลาออกตัว และรอบต่ำในเมือง
•ความประหยัดเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 55–58 กม./ลิตร (ขึ้นอยู่กับการใช้งาน)
การขับขี่โดยรวมยังคงความนุ่มนวลแบบ Lead เดิม ขี่ง่าย เหมาะกับคนที่ใช้รถในเมืองจราจรหนาแน่นเป็นประจำ







⸻
พื้นที่เก็บของ: จุดเด่นตลอดกาลของ Lead
•พื้นที่เก็บของใต้เบาะยังคงขนาดใหญ่ ประมาณ 37 ลิตร ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบได้ 1 ใบ พร้อมสัมภาระจุกจิก
•เพิ่มตัวคั่น ช่วยให้จัดระเบียบสิ่งของต่างๆได้ง่ายขึ้นพร้อมไฟส่องสว่างใต้เบาะ


⸻
ภาพรวม













ฟิลลิ่งหลังจากทดสอบ
ความคล่องตัวในการควบคุมยังคงเป็นจุดเด่นและทำงานได้อย่างดีเยี่ยม แม้ความเร็วปลายเหมือนจะมาถึงช้ากว่ารุ่นก่อน
แต่ช่วงต้นกับกลางนั้นทำออกมาได้อย่าดี และอย่างที่ทราบๆกันดีว่ามันคือ BUG แห่งวงการ AUTOMATIC
เอาไปตุกติกเพิ่มได้ไม่ยากหากต้องการ ล้อหลังขนาด 10″ อาจต้องปรับตัวสักนิดในการขับขี่ช่วงแรก แต่ก็แค่แป๊บเดียวจริงๆ
พอชินมือแล้วบอกเลยว่ามันโคตรจะพลิ้ว วงล้อที่เล็กในด้านหลังเสริมพลังในการสปริ๊นออกตัวได้มันส์ทีเดียว
ในรถเดิมๆเติมน้ำมันเต็มถังขี่กันลืม



⸻
ข้อดี
•ฟีเจอร์ทันสมัยขึ้นแบบรู้ใจผู้ใช้งาน
•ดีไซน์ดูดีขึ้นแต่ยังเรียบร้อย ไม่หวือหวาเกินไป
•พื้นที่เก็บของใหญ่ที่สุดในคลาส
•ระบบ Smart Key ทำให้ใช้งานทุกวันสะดวกกว่าเดิม
ข้อสังเกต
•เครื่องยนต์ไม่ได้แรงขึ้น เหมาะกับขี่ใช้งานทั่วไป
•ล้อหลังยังเล็ก (10 นิ้ว) ขี่เร็วอาจรู้สึกไม่มั่นคงเท่ารุ่นที่ล้อใหญ่กว่าต้องใช้เวลาปรับตัวในช่วงแรก


⸻
สรุป: เหมาะกับใคร?
Honda Lead 125 ปี 2025 คือรถที่เหมาะกับ
•คนเมืองที่ต้องขับรถทุกวัน หาที่จอดบ่อย ต้องการความคล่องตัว
•คนที่ต้องพกของเยอะ เช่น เด็กนักเรียน นักศึกษา หรือพนักงานออฟฟิศ
•ผู้หญิงหรือมือใหม่ ที่อยากได้รถขี่ง่าย ไม่แรงเกินไป และดูดีพอสมควร
•คนที่ต้องการรถใช้งานจริงจัง มากกว่ารูปลักษณ์หวือหวา
สรุปแบบง่ายๆ มันเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย ที่ถูกใจมัน
ถ้าคุณชอบรถที่ “ใช้งานได้จริง ฟีเจอร์ทันสมัย ดีไซส์เฉียบๆ”
HONDA Lead 125 ปี 2025 คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์แบบไม่ต้องคิดมากเลยครับ


ราคา Honda LEAD125 2025
Honda LEAD125 Standard ราคา 61,500 บาท
Honda LEAD125 Special Edition ราคา 62,500 บาท
หากสนใจ สามาารถติดต่อได้ที่ HONDA Wing Center ทุกสาขา ใกล้บ้านท่าน
⸻
เรื่องบล็อก