ขี่ Cruiser ท่องเหนือ 9 วัน 2,800 โล ไปกับ Lifan Custom V250
หลังจากท่องทั่วประเทศมาก็นาน
พักหลังชักหมดไฟ คิดไม่ออกว่าที่ไหนที่อยากไปบ้าง…
ก็ต้องมาเติมน้ำจิ้ม… น้ำเชื้อ… สักหน่อย…
ง่ายๆ ด้วยการเปลี่ยนรถ เพื่อเพิ่มรสชาติ…
โมดิฟายความแปลกใหม่ให้ชีวิต…
อย่างที่ผมเคยบอก ว่าผมอยากลิ้มลองการสัมผัสสายลม… ไปกับรถที่ขี่แล้วดูเท่ห์ๆ…
ท่านั่งกางมือ กางขา ที่ดูแล้วเหมือนเป็นคนยิ่งใหญ่….
ใช่เลย เป็นสไตล์ไหนไปไม่ได้ นอกจาก Cruiser…
คราวนี้มาลองสัมผัสสายลมกัน ยาวๆ 9 คืน 9 วัน ในช่วงหยุดยาวปีใหม่ ไปกับ Cruiser หมวยจีน
ดูซิ ว่ารสชาติที่ให้ จะเป็นเช่นไร
มาออกเดินทางกันเลยครับ
ทริปนี้ เราได้สมาชิกกิตติมศักดิ์มาร่วมทริปด้วย 3 คน แต่ละคนล้วนผ่านประสบการณ์การขับขี่ทั้งท่องเที่ยว หรือ บางคนในระดับแข่งขันมาอย่างโชคโชน
3 ท่านในที่นี้คือ
น้าหยอย วิชิต บางช่อน มากับ Yamaha VR150
ลุงอี๊ด ( login ขอลุงก่อนลุงแก่แล้ว ) กับ Yamaha Spark 110 ( แต่ลุงอี๊ดจะขี่ตามมาสมทบทีหลัง )
และลุงอนันต์ ( Login ทะุโมนเฒ่า (ลุงอนันต์) ) Kawasak ZX130 สีแดง หรือ ที่ลุงแกเรียกว่า “ไอ้วัวบ้า”
3 ท่านนี้ อายุอานาม รวมกันได้ 200 พอดีๆ เลยครับ
เป้าหมายแรก ของการเดินทางวันแรกคือ
หน่วยจัดการต้นน้ำแถวๆ ดอยสอยมาลัย จ. ตากครับ
แต่วิ่งมาได้ถึงสิงห์บุรี ทางบ้านน้าหยอย โทรมาบอกว่า ไม่มีใครอยู่บ้าน
เป็นอันว่า น้าหยอย ต้องตีรถกลับด่วนๆ ทำให้สมาชิกลดลงไป 1 คน
แอบเสียใจนิ๊สสนึง แต่ไม่เป็นไร
โอกาสหน้ายังมีครับ
หวังว่า จะมีโอกาสได้ร่วมทางกับน้าหยอยอีกครับ
วิ่งออกมาจาก กทม – กำแพงเพชร ก็เริ่มคุ้นเคยกับตัวรถแล้ว ว่าขี่ยังงัย..
อาการเป็นอย่างไร..
อย่างน้ำมันถังแรกนี่ วัดได้ 33 โลลิตร ( โซฮอล์ 95 )
เสร็จแล้วก็วิ่งต่อ แต่บอกตรงๆ ว่ามัวเอ้อระเหย ลอยชายกัน
ทำให้ไปไม่ถึงจุดหมายที่คิดไว้ สุดท้าย เลยเปลี่ยนแผน
ไปที่ อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช จังหวัดตาก
ตรงนี้แหล่ะ ที่ผมมีโอกาสได้สำรวจ ทำความรู้จักกับเจ้า Lifan Custom V250i ขึ้นอีกนิด
( บอกตรงๆ ว่า ก่อนขี่ ออกมา ยังไม่ค่อยมีเวลาได้ศึกษามัน เพราะต้องรีบออกเดินทางเลยหลังจากได้รับรถ )
Spec ของเจ้านี่ ก็มีดังนี้ครับ
ป.ล. เนื่องจากผมเอง เคยขี่ Cruiser มาบ้างหลายๆ คัน ในบางครั้งอาจจะหยิบยกมาเปรียบเปรยกันบ้าง
เพื่อให้เห็นภาพนะครับ ว่าไอ้ที่ว่าดี … หรือแย่…. มันอย่างไร ถ้ามีตัวเปรียบเทียบ จะง่ายขึ้น และเห็นภาพมากหน่อย
มาดูสิ่งที่น่าสนใจแต่ละสว่นของรถคันนี้กันดีกว่า
เริ่มกันที่ ……
เครื่องยนต์
เจ้า Custom V250 นี้ ใช้เครื่องยนต์ V-Twin 250cc หัวฉีด ระบายความร้อนด้วยอากาศ ประกบด้วยเกียร์
ธรรมดา 5 Speed แบบผู้ชายมีคลัทช์มือ
แจ้งแรงม้าไว้ประมาณ 17 แรงม้าที่ 8,000 รอบต่อนาที ( พอๆ กับ CBR150i )
แจ้งแรงบิดไว้ที่ 19N.M. ที่รอบ 6,000 ต่อนาที
พอได้ลองจริงๆ จังๆ
ให้กำลังพอใช้ได้ แรงต้นและกลางดีกว่า CBR150i , KLX150 ประมาณนึง แต่ปลายก็ตามสไตล์รถจีนครับ
คือ ปลายไม่มี Top Speed ผมเคยทำได้สุดๆ แบบไหลตามลม 125 กม/ชม ( ไมล์อ่อน 5% คิดเป็น GPS ก็ 118 กม / ชม )
ถามถึงเรื่อง สุ้มเสียง จัดว่า นุ่ม … ทุ้ม…. ไพเราะพอสมควร ตามสไตล์สูบ วี
เวลาขับขี่ ด้วยเกียร์ที่ทดมายาวววววๆๆ ทำให้ความเร็วเดินทางที่เกียร์ 5 ค่อนข้างห้อย
ใช้รอบค่อนข้างต่ำ คือ วิ่งที่ 110-115 ได้แบบชิลๆ ไม่รู้สึกว่าเครื่องครางแต่อย่างใด
และให้อารมณ์ Cruiser ได้เป็นอย่างดี
ถามถึง อัตราการกินน้ำมัน บอกเลยว่า ทั้งทริป…
ผมขี่ยังงัยก็ไม่ต่ำกว่า 30กม/ลิตร แม้จะอัดหมดปลอก แช่ที่ความเร็วสูงสุด หรือ ในเมือง หรือ บนดอย
ส่วนดีที่สุดที่ทำได้ คือ 34กม/ลิตร ที่ความเร็ว 90 ถ้าขี่ 60 หรือ 70 อาจจะได้ถึง 40 กม/ลิตร ก็เป็นได้ครับ
ถามว่า น่าประทับใจไหมในแง่กำลังเครื่องยนต์…
ถ้าเทียบกับเครื่องยนต์ของรถญี่ปุ่น
ต้องบอกว่า เครื่องยนต์ของรถจีน ยังตามรถยี่ปุ่นอยู่ห่างๆ นัก ถ้าใครเคยขี่รถจีนมาก็พอจะทราบดีว่า ความแรงของเครื่องรถจีน อาจจะต้องเอา CC ลบออกสัก 50-100cc ถึงจะเทียบกับรถญี่ปุ่นได้
เช่นเจ้า Lifan Custom V250i คันนี้ แรงปลายก็พอๆ กับ KLX150 เท่านั้นเอง ( แต่แอบประหยัดกว่านะ 555 )
แต่ถ้าเทียบกับรถจีนด้วยกัน นับว่า เครื่องยนต์ของ Lifan จูนนิ่งได้ดีกว่าเจ้าอื่นๆ พอสมควร ถ้าหาข้อมูลมาไม่ผิด เครื่องยนต์เหมือนจะบล๊อคเดียวกันกับที่ใช้ใน Keeway Blackster 250i
เครื่องยนต์ของ Lifan นั้น แรงต้นดีกว่าชัดเจน
การตอบสนองคันเร่งเองก็ดีกว่า เนียนกว่าด้วยครับ
ป.ล. สังเกตุดีๆ แม้ Lifan กับ Keeway จะใช้เครื่องยนต์ตัวเดียวกัน แต่รูปแบบการวางท่อไอเสียแตกต่างกันชัดเจน
Lifan จะใช้ท่อไอเสียแบบ 2 ออก 1 ( ท่อด้านบนเป็นท่อหลอก แอบมีท่อออกด้านหลังลูกสูบลอดใต้มาเข้าที่ท่อด้านล่าง )
ส่วน Keeway จะเป็นแบบ 2 ออก 2 ออกสูบใครสูบมัน
เป็นผลให้เครื่องยนต์ของ Lifan เนียนและแรงกว่าในรอบต่ำและกลางชัดเจน แต่ในรอบสูงๆ Keeway จะดีกว่าเพียงเล็กน้อย
มาฟังเสียงเครื่องยนต์ เสียงท่อ กันหน่อยดีกว่า
ชอบไม่ชอบ ตัดสินกันเอาเองนะครับ
ป.ล. ถ่ายโดย Sony HDR AZ1
พาไปออกเที่ยว อุทยานแห่งชาติตากสิน กันต่อ
อุทยานนี้ผมมาหลายครั้งแล้ว เพราะว่า มาง่าย สะดวกมาก และบรรยากาศดีจริงๆ
ชอบที่ที่นี่ มีต้นสนเยอะ ได้ยินเสียงลมพัดหวิวๆ
แถมลานกางเต้นท์ก็เห็นวิวแบบพานอรามา
ผมว่าบรรยากาศของที่นี่ แอบคล้าย ห้วยน้ำดัง อยู่นิดๆนะครับ
เอ้อระเหยอยู่นาน จนเกือบเที่ยง
นึกขึ้นได้ว่า วันนี้ปลายทางเกือบๆ แม่สะเรียง ตายละวา เอางัยดี รีบออกดีกว่า
แต่ก็ยังไม่วาย เอ้อระเหยอยู่ร้านกาแฟ บนเส้นทางไปแม่สอด จนได้ครับ
มีโอกาสได้เจอ Biker และได้สนทนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
นี่ก็เป็นอีกหนึ่ง ความสุขของการออกทริปหล่ะครับ ^^
แวะเที่ยว ศาลพระวอ แป๊บ
ได้เจ้าถิ่นใจดี นำเที่ยวครับ
ด้วยความที่เรา เอ้อ ระเหยกันหนักไปหน่อย ( แวะกินก๋วยเตี๋ยวที่แม่สอดอีก )
สุดท้าย คิดว่า ไม่ถึงแม่สะเรียงแน่ๆ
เราจึงตัดสินใจว่า นอนที่ อุทยานแห่งชาติขุนพะวอ แล้วพรุ่งนี้ค่อยไปต่อ
เราจึงเลี้ยวขวาจากเส้น 105 เข้าสู่ถนนสาย แม่ระมาด – บ้านตาก
ซึ่งสภาพเส้นทางไม่ค่อยดีนัก
เสร็จแล้ว ก็เกิดเหตุจนได้
ลุงอนันต์หลุดโค้งล้มสไลด์ บริเวณโค้งซึ่งมีกรวดเต็มไปหมด
กว่าจะกู้รถได้ ก็ใช้เวลาร่วมครึ่งชั่วโมง
โชคดีที่ลุงไม่เป็นไร
ทำให้แพลนต้องเปลี่ยนอีกครั้งนึง
เนื่องด้วยว่า ไอ้วัวบ้า ของลุงอนันต์ ไม่สามารถถอนเกียร์ได้ ( โชคยังดีว่าเป็นเกียร์วน )
เราจึงลงความเห็นว่า ไม่ควรวิ่งเส้นทาง 105 ต่อไป
เราจึงเปลี่ยนแผนว่า ควรไปซ่อม ไอ้วัวบ้าในตัวเมืองใหญ่ๆ จะดีกว่า
ลำปาง จึงเป็นจุดหมายของเราในครั้งนี้ครับ
ป.ล. ขณะไปลำปาง KLX150 ขอขึ้นดอยสอยมาลัยซักครั้งนึง จัดไปครับ กลับลงมาค่ำพอดี
แต่พอขี่ไปได้สักพัก
ลุงบอกว่า สงสัยลุงจะไม่ไหว กลัวจะช้ำใน ขอตีรถกลับ กทม พร้อมกับ อาร์ท KLX150 ดีกว่า
เป็นอันว่า ตอนนี้เหลือ 2 คันแล้วนะครับ
คือ บอย Nouvo SX125 และ แต๊ก Lifan Custom V250
ในภาพนี้เราแยกกัน 4 ทุ่มครึ่งครับ
ZX130 กับ KLX150 ลู่กรุงเทพ วิ่งกันทั้งคืน ถึงเช้าพอดี
ส่วน Nouvo SX กับ Lifan Custom V250 ขึ้นลำปาง ถึงเที่ยงคืน ไม่ไหวล่ะ หาโรงแรมนอน T____T
ณ โรงแรมที่ลำปาง
ยาม : พี่ๆ Harley หรอ สวยจัง กี่แสนครับ
ผม ( ในใจ ) : อ๋อ 1 ล้านครับ
ผม ( ตอบจริง ) : อ๋อ Lifan คันละ 7 หมื่นกว่าบาทครับ
ทีนี้ เหลือ 2 คนแล้ว เอางัยดี
เคว้งสิครับ คิดไม่ออกว่า จะไปไหนดี จะเลี้ยวกลับเข้าไปเส้น 105 ก็ออกมาไกลเกินไปแล้ว
เลยตัดสินใจวิ่งเข้าเชียงใหม่ก่อนละกัน
โทรบอกเพื่อนให้เช่า Tricity ขี่เล่น มารับที่ขุนตาลหน่อย….
เอาเป็นว่า ปีนี้ 2558 ผมมีรถ 2 คันที่อยากจะได้
คันนึงเป็น Cruiser
คันนึงเป็น Auto
ซึ่ง 2 คันนี้อยู่ใน List ที่ผมอยากเป็นเจ้าของพอดี
ตาม Concept ผมฮะ ผมไม่ซื้อรถที่ไม่เคยขี่ หรือ ขี่ไม่เกิน 500 กิโลเมตรครับ เพราะไม่รู้ว่า มันจะถูกใจหรือไม่ ต้องลองก่อนครับ
สรุป ผมเคว๊งคว๊าง อยู่ตัวเมืองเชียงใหม่ 2 วันครับ
ช่วงว่างๆ นี้ผมทำอะไร ก็ขี่ Tricity บ้าง Lifan Custom V250 บ้าง ทดสอบนี่ นู่น นั่น กันไป
มาเข้าประเด็นตัวรถบ้างดีกว่าในเรื่อง
สัมผัส / ท่านั่ง /
สัมผัสแรกที่รู้สึกกับรถคันนี้
“นิ่ม” ( เกิน )
คือทุกสิ่งมันนิ่มไปหมด ไม่ว่าจะเป็น เบาะ
ช๊อคหน้า หรือ หลัง
หรือเครื่องยนต์
ด้วยความที่ทุกอย่าง นิ่ม นี่ ทำให้การขับขี่ในเมือง เหมือนอยู่บนพรม
แต่ออกนอกเมือง ทางไกล High speed
ไอ้ความที่นิ่มเกินนี่แหล่ะ มันกลายเป็นข้อเสีย
เบาะนิ่มเกินไป ทำให้เมื่อยก้นบ้าง ในช่วงแรกๆ ที่ยังปรับตัวอยู่
ช่วงล่างนิ่มเกินไป ทำให้ย้วย เวลาเข้าโค้ง
เครื่องยนต์ที่นิ่มนุ่มไป ให้ความรู้สึกว่าแรงน้อย
ถามถึง ความสบาย
ก็สไตล์ครุยเซอร์ครับ แรกๆ คนขี่ที่ยังไม่ปรับตัว ก็จะบอกว่า เมื่อย ไม่เห็นสบาย
แต่พอขี่ไปซักพันกว่าโล มันขี่ได้เรื่อยๆ นะ ชิลๆ 2-3 ร้อยโล ก็รวดเดียวได้ ล้าลมต้านนิดหน่อย เพราะโดนเต็มๆ
ลองถามคนซ้อน
ตอนพาลองขี่ในเมือง ถามว่า เป็นงัยบ้าง
คำตอบคือ “สบาย” “นุ่มดี” “ที่นั่งไม่สูงเกิน ไม่เสียว” เค้าว่างั้น
ว่ากันด้วย อุปกรณ์การใช้งาน
สั้นๆ
ทุกสิ่งทุกอย่าง วางได้ถูกที่ ถูกทาง แบบที่ควรจะเป็น
แบบที่รถญี่ปุ่นเป็น
แตกต่างจากรถจีน ยี่ห้อ อื่นๆ ที่ผมเคยสัมผัสมา ที่เราจะต้องมีคำถามเสมอว่า
เอ๊ะ ทำไมพักเท้ามันอยู่ตรงนี้วะ ทำไมปุ่มนั่นมันใช้ยากจัง อะไรทำนองนั้น
แต่กับเจ้า Lifan Custom V250 ไม่มีคำถามนี้เกิดขึ้นสำหรับผมครับ
มาดูรูปท่านั่งกัน
จะเห็นว่า พักเท้าและ แฮนด์ จะอยู่สูงไปหน่อย สำหรับคนที่สูง 178 อย่างผม
ถ้าสูงซัก 160-165 น่าจะพอดี แต่ให้อภัยได้ เนื่องมุมการติดตั้งพักเท้าและเบรค รับกันดี ทำให้คันเบรคเท้า ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากเทียบกับ Keeway Blackster 250
เจ้านั้น ท่านั่ง ตำแหน่ง ขี่แล้วดูสง่ากว่า สบายกว่า ( แถมรถยังดูดีมีชาติตระกูลมากๆ ) แต่ติดตรงมุมพักเท้าและคันเบรค มันช่างไม่รับกับท่านั่งเสียเลย ทำให้ควบคุมเบรคได้ยาก
ผลัดกันได้ เสีย คนละดอกครับ
รถแต่ละคันก็มีดี เสียแตกต่างกันไป
แม้แต่ Yamaha Bolt เท่าที่ผมเคยขี่ ท่านั่งเองก็ยังมีจุดที่ไม่โดนใจเหมือนกัน
พาไปวนลูป เชียงใหม่ – สะเมิง
ดูอาการ + วัดผลการเข้าโค้งเสียหน่อย
หลังจากเข้าโค้งหนักขึ้นเรื่อยๆ สักระยะ ผมค้นพบสิ่งหนึ่งเกี่ยวกับการเข้าโค้งของรถ Cruiser ( ว่าขี่ยังงัยนะ จะเข้าโค้งไม่บาน )
และสิ่งนั้นเกี่ยวพันอย่างแรง ( เกี่ยวพันกันอย่างไร เดี๋ยวเล่าต่อภายหลังครับ ) กับสิ่งที่เรียกว่า
เบรค
สำหรับเบรคของเจ้า Custom V250 นี้ ผมต้องกด Like ให้ครับ
ทำงานได้ดี ทั้งหน้า และ หลัง
โดยเฉพาะด้านหน้า ที่ก้านเบรคสามารถปรับระดับได้ ลองปรับดูแล้ว มีผลมากครับ
ถ้าปรับเลข 1 จะทื่อๆ แข็งๆ หน่อย แต่ถ้าปรับ 4 กดนิดเดียว หน้าทิ่มได้เลย
ปรับใช้ตามเส้นทางได้เลยครับ
Feeling ในการกดให้ความรู้สึกที่ดี และแรงหยุดของปั๊มเบรคลูกสูบคู่ทำได้ดีครับ
ส่วนด้านหลัง แม้ว่า จะเป็นดรัมเบรค แต่คันเบรควางอยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานง่าย
ทำให้กลายเป็นดีไป
ตรงนี้ ถ้าเทียบกับ Keeway Blackster 250 เจ้านั้น Disc เบรคหน้าหลังก็จริง
แต่การเบรคนั้น เรียกได้ว่า ยังเทียบกับเจ้า Custom V250 ไม่ได้
( เพราะตำแหน่งพักเท้าไม่รับกับแป้นเบรคสำหรับเบรคหลัง และก้านเบรคหน้าไม่สามารถปรับได้แบบ Lifan )
หลังจากที่เคว้งคว้าง อยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่ได้ 2 วัน
มีกลุ่มจาก กรุงเทพมาสมทบ
เย้ ไม่เหงาแล้ว
เราตกลงใจกันว่า ไป อ. เวียงแหง กันดีกว่า เพราะไม่เคยไป
เริ่มออกเดินทางไป เวียงแหง
เราแวะเที่ยวกันที่ วัดบ้านเด่นสะหรีศรีเมืองแกน อำเภอแม่แตง
เป็นวัดที่สวยมากกกกกกกกกกกกกก และไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก
ผมเองประทับใจจริงๆครับ
ออกเดินทางกันต่อ
เส้นทางไป อำเภอเวียงแหง จัดว่า สวยงาม
ที่สำคัญ รถน้อยมากครับ
เข้าเขต เวียงแหง แล้ว
มีจุดพักรถน่ารักๆ อยู่ด้วย
ผมเองก็เคยอยู่เชียงใหม่หลายปี
แต่อำเภอนี้ ไม่เคยมาจริงๆ
หลังจากเดินทางถึง เวียงแหงแล้ว
ลองมาวิเคราะห์กันเรื่อง
ระบบช่วงล่าง/ แฮนดลิ่ง กันดีกว่า
อย่างที่บอก ว่าช่วงล่างของเจ้า Custom V250 นี้ออกไปในแนว นุ่มนิ่ม
ดังนั้น การเข้าโค้ง ก็ค่อนข้าง ย้วย โยน อยู่บ้าง แต่ก็อยู่ในระดับที่รับได้
ยางที่ให้มาเป็น IRC ด้านหน้า 3.00 ขนาด 18 นิ้ว ด้านหลัง 5.00 15 นิ้ว ออกแนวลื่นๆ ไม่เกาะสักเท่าไร
แอบมีท้ายสไลด์บ้างเล็กๆ
ส่วน แฮนดลิ่ง ด้วยความที่รถมีมุม Rake ค่อนข้างเยอะ อาจจะขาดความคล่องตัวไปบ้าง
ถ้าใครขี่รถ Sport หรือ Naked มาจะรู้สึกว่ารถไม่คล่องตัว เลี้ยวช้า เข้าโค้งแล้วบาน ซึ่งก็เป็นธรรมชาติของรถ Cruiser เค้า
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถามว่า เทียบกับ Naked แล้วแย่มากไหม
ตอบว่าไม่เลยครับ
ตัวรถ ไม่ว่าจอดอยู่ หรือ เคลื่อนตัว แทบไม่รู้สึกถึงความหนักของตัวรถเลย ( เพราะค่า CG คงอยู่ต่ำมาก ) ทั้งๆ ที่น้ำหนักตัว พร้อมของเหลว ก็เกือบๆ 170 ซึ่งเอาเรื่องอยู่
หลังจากผมขี่ไปซักพัก เริ่มชินมากขึ้น ก็สามารถเข้าโค้งเร็วๆ ได้ โดยการใช้เบรคช่วย ( ซึ่งเบรคนี้เป็นจุดค่อนข้างเด่น ของเจ้า Custom V250 )
ก็ง่ายๆ ครับ เข้าให้ลึกๆ กดเบรคหน้าหนักๆ จิกๆ หน่อย
เสร็จแล้วรถก็จะเลี้ยวง่ายขึ้น แต่ไม่พอ มันก็ยังบานอยู่ดี เลียหลังเพิ่มอีกนิด แค่นี้ก็เลี้ยวได้แคบพอแล้ว
ทำให้ การเดินทาง ไม่เป็นภาระ หรือ ตัวถ่วงกลุ่มแต่อย่างใด
ลองดู VDO ประกอบครับ จากการทดสอบ พบว่า เจ้า Custom V250 สามารถทำความเร็วตาม CBR250 ได้เรื่อยๆ ( บนเขานะครับ ถ้าทางราบนี้ ทิ้งเป็นจังหวัด )
แต่ใน VDO นี่ผมบิดหมดแล้วนะ ความเร็วประมาณ 70-90 แหล่ะครับ ขึ้นๆ ลงๆ เขา
เอาเป็นว่า ถ้าชินแล้ว Handling ของเจ้า Custom V250 จะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน
ป.ล. ดู VDO อย่าลืมเลือก HD720 นะครับ
ปลายทางของเราในวันนี้
หมู่บ้านเปียงหลวง
หมู่บ้านเล็กๆ ที่น่ารัก และ สงบมากๆ เลยตัวอำเภอเวียงแหงมาไม่ถึง 20 โลถ้าจำไม่ผิด
พวกเราแวะไปเที่ยว วัดฟ้าเวียงอินทร์ กัน
ซึ่งเป็นวัดที่ถูกแบ่งครึ่งด้วยชายแดนไทย – พม่า
ตัวเจดีย์อยู่ฝั่งไทย
ส่วนตัวโบสถ์นั้นอยู่ฝั่งพม่า
( แต่อนิจจา ถ่ายมาแต่ป้าย ฮ่วยยย )
ทางกลุ่มมาแบบไม่มีแผน และลงความเห็นกันว่า จะกลับไปนอนในตัวเมืองเชียงใหม่ เลยโทรแจ้งที่บ้านเพื่อนให้ทำกับข้าวรอไว้เลย
แต่เมื่อมาเจอวัดนี้ เสียดายมาก เพราะว่า น่าจะกางเต้นท์ เพื่อสวดมนต์ข้ามปีกันได้ ในคืนนี้
วัดนี้ตั้งอยู่บนเขา เห็นวิวดีมากๆ
ด้วยความที่ผมไม่อยากกลับเข้าเมืองเชียงใหม่อีกแล้ว
และอยากสัมผัส หมู่บ้านเปียงหลวง ให้มากกว่านี้
ก็เลยขอแยกตัว…
ตอนนี้เหลือคนเดียวแล้วครับ เหงารับคืนสิ้นปีเลย
ผมไม่ได้เที่ยวคนเดียวมานานแล้วเหมือนกัน หมู่นี้เลยกลัวความเหงา พยายามหากลุ่มไปด้วย
แต่พอเหลือคนเดียวเข้าจริงๆ
แป๊บเดียวก็ชิน และ ชอบด้วยซ้ำ
ผมเลยมานั่งกินกาแฟ กินข้าวชิลๆ มีร้านน่ารักๆ อยู่ร้านนึงพอดี อาหารอร่อย บรรยากาศดี
อากาศเริ่มหนาว ( ต้องบอกว่าเริ่ม เพราะช่วง 5 วันแรกที่มา 26-30 ธันวา ไม่หนาวเลย )
คืนนี้มานั่ง Count down กันดีกว่า อิอิ
คืนข้ามปีผ่านไป
ออกไปยล แสงแรกแห่งปี
ปีนี้ ผมตั้งใจว่า จะมีสติให้มากขึ้น ^^
วันนี้หมู่บ้านเปียงหลวงถูกปกคลุมด้วยสายหมอก
พร้อมกับอุณหภูมิเลขตัวเดียว
ทะเลหมอก พอจะมองเห็นได้ จากตัวหมู่บ้าน
เช้าวันปีใหม่ มีโอกาสได้ทำบุญตักบาตรกับชาวบ้านเขานิดหน่อยด้วย
เวลาล่วงมา ได้เวลาที่ต้องออกเดินทางต่อ
ไปไหนดี ….
น่านละกัน ( ถ้าวิ่งถึงนะ )
ทีนี้ต้องวางแผนการขี่ซักนิดนึง เพราะว่า ขามา ผมขี่มากับ CBR250
เพื่อให้ตามทัน ก็เลยต้องเบรคลึกๆ หนักๆ หน่อย
ผลปรากฏคือ เบรคหลังร้อนหายเกลี้ยง ดุมดรัมถึงกับเปลี่ยนสี
ขากลับ ขี่คนเดียว ชิลๆ ละ กะว่าไม่เบรคหนักๆ ไหลเข้าเอา
คราวนี้ลองปรับ Preload หลัง ให้แข็งขึ้นอีกสัก 1 ระดับ แก้อาการย้วย
ผลปรากฏว่า ช๊อคแข็งขึ้น ยางรับภาระหนักขึ้นนิดหน่อย ไม่ย้วย กลายเป็นสไลด์นิดๆ แทน
อย่างที่บอกข้างต้น
ถ้าได้ยางหลังหนึบๆ สักเส้น จะ OK ขึ้นเยอะ…
มาถึงอีกเรื่องนึง ที่มีคนถามถึง
ว่าทำไมแฮนด์มันน่าเกลียดจัง
น่าเกลียดจริงครับ ขี่แล้วดูหงิมๆ ติ๋มๆ อย่างไร บอกไม่ถูก
เทียบกับแฮนด์ตรงๆ แล้ว ขี่แล้วดู เท่ห์ ยิ่งใหญ่ ( นี่ผมคิดเองนะ 5555 )
แต่ในข้อเสียทั้งหลายทั้งปวง มีข้อดีอยู่ว่า “มันสบายดี” แค่นั้น
เอ้า ว่าแล้วก็ออกเดินทางกันต่อสู่น่าน
ป.ล. กระเป๋าผมมันออกจะดูทุเรศทุรังไปบ้าง ถ้าได้กระเป๋าเฉพาะสำหรับเจ้า Custom V250 คงจะดูเท่ห์ไม่หยอก
แต่ก็คู่ละ 3,500 บาทแน่ะ
ผ่าน หน่วยจัดการต้นน้ำขุนคลอง
สายตาชำเรืองไปเห็น อะไรชมพูๆ แว๊บๆๆ
และเข้ามาดูหน่อย
อา…. พระยาเสือโคร่งเริ่มบานแล้ว แต่ก็ยังเป็นส่วนน้อยนัก…
โอกาสหน้าว่ากันใหม่เด้อ…
วิ่งไปวิ่งมา คันเดียว โดดเดี่ยว
ผ่าน โครงการหลวงแม่ปูนหลวง บรรยากาศดีมากๆ
นี่ก็จะ 4 โมงเย็นแล้ว อยากจะเช่าบ้านที่เห็นอยู่ด้านซ้ายภาพนอนซะให้รู้แล้วรู้รอด
ตรงนี้ท่าทางจะเห็นพระอาทิตย์ตกสวยเสียด้วย
แต่ท่าทางจะแพง ไปต่อดีกว่า 5555
ก๋วยเตี๋ยวน้ำตกของแท้ ขาต้องแช่น้ำ
ที่น้ำตกปางทอง ข้างเส้นทาง เชียงใหม่ – พะเยา
ไอ้ย่ะ มัวเอ้อระเหย
สุดท้ายฟ้ามืดจนได้ หมดปลอกยาวๆ กลัวมืดแล้วหนาว
สุดท้ายนอนพะเยาแทน
เพิ่มดีกรีความเหงาให้ตัวเอง
ด้วยการแวะมามองน้ำ มองฟ้า ที่กว๊านพะเยาซักแป๊บ
ผมชอบบรรยากาศนี้นะ
แต่พะเยา วันที่ 2 มกราหนาวมากจริงๆ
พาสำรวจรถกันอีกหน่อย ( จวนจะจบทริปแล้วเพิ่งสำรวจ 555 )
ดูกันเอาเองนะครับ เหมือนรถญี่ปุ่นทุกประการ ไม่ต้องทำความคุ้นเคยเหมือน Keeway Blackster 250i ที่เลี่ยนแบบ Harley
มีเกจน้ำมันให้ด้วย ( Cruiser บางคันเป็นไฟเตือน )
มาพูดถึงอีกเรื่องนึง
ระบบเกียร์/คลัทช์
เท่าที่ขี่มาเจ้านี่แหล่ะ ที่เป็นปัญหาหลักของรถคันนี้
1. ไฟเกียร์ว่างไม่แสดง ( เคยขี่รุ่นคาร์บูไม่เป็น อันนี้อาจจะเสียเฉพาะคัน )
2. คลัทช์ลื่น เวลาบิดคันเร่งหนักๆ ทำให้การถ่ายทอดกำลังไม่เต็มที่ ( รุ่นคาร์บูไม่เป็น จะว่าระยะคลัทช์เพี้ยน เลยทำให้รถเลียคลัทช์ก็ไม่ใช่ เพราะระยะฟรีของคลัทช์ก็ยังเหลือ )
แต่ถ้าบิดคันเร่งไม่หนัก ก็ไม่ได้แสดงอาการแต่อย่างใด
3. เกียร์สุดท้าย ทดมาห้อย อาจจะเป็นความตั้งใจ ให้ขี่รอบต่ำๆ ได้อารมณ์ Cruiser หากปรับปรุงอัตราทดอีกนิด ตีนปลาย 130 อาจจะมีให้เห็น
4. จังหวะถอนเกียร์ แข็งไปนิด แต่ตอนงัดเกียร์ขึ้น นุ่มนวลปกติดี
ที่เหลือนอกนั้น ทำงานได้ OK ดีครับ เข้าเกียร์ง่าย หาเกียร์ว่างง่าย อัตราทดเกียร์ 1-4
ผมว่ากำลังดี
อ้อ มีเรื่องบ่นนิดนึง คือ ระยะถ่ายน้ำมันเครื่องช่วง Run in บางวันผมเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง 2 รอบเลยทีเดียว
ตื่นมา อากาศเย็นเจี๊ยบ ( เริ่มหนาวตั้งแต่ วันที่ 1 มกราแล้ว )
แต่วันที่ 2 นี่หนาวเข้าไส้
เผอิญมีงานดอกไม้ที่กว๊านพอดี
ผมพูดเลย ชอบมาก
จากพะเยา เข้าน่านต่อ
เอาให้ครบ
พอขี่ไปปุ๊บ แม่โทรมา นัดกินข้าวตอนเย็น
เลี้ยวกลับเข้าแพร่ เพื่อกลับพิษณุโลก โดยด่วนๆ
ดินแดนหมดปลอก
เอา VDO การเดินทางด้วยความเร็ว 115-125 มาให้ดูครับ
ป.ล. ขี่กลางถนนนิดนึง ไม่ว่ากันนะ แห่ะๆ พอดีผมอยากลอง Top Speed เลยต้องดูดตูดรถยนต์หน่อย
ถ้าไม่ดูด 115 ก็ไม่ขึ้นแล้วหล่ะ
มาถึงบทส่งท้าย
สั้นๆ นะครับ พอใช้ คุ้มค่า คุ้มราคาแน่นอน ไว้ใจได้ระดับนึง ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
คิดถึงค่าตัว 7 หมื่นปลายๆ ไร้ตัวเทียบ ( ไม่นับรถจีนด้วยกันนะ เพราะคันนั้น 9 หมื่น) หรือจะเทียบแฟนท่อม มือ 2 ตัวลายไฟ เอาใหม่ๆ หน่อย ก็ 5-6
หมื่นมีให้เห็น ซึ่งนับเป็นคู่เปรียบที่สูสีกันเป็นอย่างยิ่ง
Phantom อาจขี่ดีกว่าหน่อยนึง แรงกว่านิดนึง แต่ก็ไม่ได้ทิ้งห่าง
สิ่งที่เจ้า Cutom V250 เหนือกว่า Phantom ก็อาจจะเป็นเรื่องของ สูบ V และ สุ้มเสียง
เลือกเอาครับ
ถ้าเทียบคู่เหมือน Yamaha Dragstar ตัว 2014 ซึ่งไม่มีขายในไทยหรอก มือ 1 ญี่ปุ่นก็ แสน 7 ปลายๆ ห่างกันแสนนึง
เจ้า Custom V250 ยิ่งไม่ขี่เหร่เข้าไปใหญ่
ในเรื่องความคงทน ถ้าดูแลเรื่อยๆ ผมลองไปหาข้อมูลมา ไม่นับว่าน่ากลัว
ในสังคมคนเล่น ก็ไม่เจอปัญหากันบ่อยมากนัก ถึงขนาดให้ต้องบ่นกัน
รถซื้อมาแล้ว ขายไม่ได้ยากอะไร เพราะมีวงคนเล่นอยู่บ้าง และรถ 2-3 ปี เคยไปดู ไม่ขึ้นสนิมหรือ สภาพดูไม่ได้ แบบที่กลัวๆ กัน
ลองตัดสินใจกันดูครับ ข้อมูลที่กล่าวมา ไม่ได้อวยหรืออะไร
ผมหาข้อมูลมาได้ประมาณนี้ เพราะผมก็สนใจรถ Cruiser ระดับเริ่มต้นเหมือนกัน ซึ่งค่ายญี่ปุ่นก็ไม่ขยับตัวสักที ก็ต้องหาตัวเลือกกันไป
ใครชอบใครรัก ลองดูครับ แค่เปิดใจ ไม่เลวร้าย อย่างที่คิด
สุดท้ายจริงๆ แล้ว
ขอบคุณที่รับชมครับ
รูปภาพอาจไม่ชัด หรือ ไม่สวย ต้องขออภัยครับ
ทริปนี้ผมอยากชิล ไม่พกกล้องใหญ่แล้ว
ภาพส่วนใหญ่ก็มือถือ กับ Compact เนี่ยแหล่ะครับ
จบทริปด้วยเลขไมล์ 2,815 กม กับเจ้า Lifan Custom V250
ขอบคุณที่พากลับถึงบ้านโดยปลอดภัยนะครับ
เอาจริงๆ ถามว่ากลัวมั๊ย ก็แอบกลัวเหมือนกัน กลัวรถพัง กลัวอะไรต่างๆ มากมาย ก็เป็นการวัดใจที่เอาสวัสดิภาพของตัวเอง เข้าไปเสี่ยงพอควร
เจ็บตายขึ้นมาคุ้มมั๊ย ตอบได้เลยไม่คุ้มครับ ( คุ้มกับอะไร ผมไม่ได้ค่าตัวในการเขียนนะครับ )
แต่ที่อยากทำ แค่อยากให้พี่ๆ น้องๆ ได้อ่าน ได้มีข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับรถทางเลือกในไทยเพิ่มขึ้นเท่านั้นเองครับ
หวังว่าสิ่งที่ทำ จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับ
แต่ถึงไม่มีประโยชน์กับใครเลย อย่างน้อย ผมก็ได้ทำสิ่งที่ผมชอบล่ะครับ 5555
เอาเป็นว่าวันนี้ลาละครับ
สวัสดีครับ
บทความโดย เตี้ย ล่ำ ดำ แก่