นิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว
คำกล่าวที่ไม่เกินจริงสำหรับสิ่งที่ผมมีโอกาสได้ขับขี่ทดสอบล่าสุด
รถที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ และยังมีความสบายแบบอเนกอนันต์พ่วงมาด้วย
รถที่ว่ามีนามว่า SUZUKI BURGMAN 650 ครับ
จริงอยู่ว่ารถบิ๊กสกู๊ตเตอร์ในบ้านเรามีวางจำหน่ายมากมายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
บักหมาน ก็เป็นหนึ่งในนั้น และมันมี DNA ที่แปลกปะหลาดอยู่ตามสไตล์พี่ซูของเรานี่แหล่ะ
ถ้ามองกันแต่เพียงภายนอกเราไม่สามารถบอกได้เลยว่าภายใต้ร่างอันอวบอั๋นของมัน ซ่อนเร้นความมันส์ได้มากขนาดไหน
เมื่ออยากรู้ ทางเดียวที่ทำได้ก็คือ นำมันมาขับขี่ทดสอบสไตล์ just-ride-it นั่นเอง
ซึ่งบทความนี้ก็เช่นเคยครับ เราไม่ได้มุ่งเน้นไปที่สเป็คของรถแบบเป๊ะปังอลังการณ์ แค่บอกต่อผ่านความรู้สึกที่ได้
ขับขี่แบบชาวบ้านธรรมดาๆเช่นเคย
เส้นทางหลักที่ใช้ในการเดินทางของบทความนี้
เป้าหมายอยู่ที่ ดอยตาปัง จังหวัดชุมพรครับ
มาดูสิว่า ดอยตาปัง จะทำเจ้าบักหมานปังพินาศได้หรือไม่ 5555
ก่อนจะถึงที่หมายเรามาเริ่มทำความรู้จักในช่วงการขับขี่ของรถกันก่อน
หนักหนาแต่ไม่สาหัส ถ้าจะใช้คำนี้ให้กับเจ้าบักหมานคงไม่ผิดนัก
เมื่อรถจอดนิ่งสนิทอยู่กับที่ น้ำหนักตัวที่มากมายของมันก็ส่งผลร้ายกับผมอยู่พอสมควรครับ
เพราะจะถอยจะเคลื่อนตัวแต่ละทีต้องประคับประคองแบบขาจิกหรือไม่ก็ต้องลงเข็นเอา
สำหรับคนตัวใหญ่ๆเรื่องนี้ไม่น่าจะใช่ปัญหาครับ
แต่… ทันทีที่รถเริ่มเคลื่อนตัวออกไป เรียกได้ว่าเป็นหนังคนละม้วนกับตอนที่จอดนิ่งสนิท
จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ บวกกับรอบเครื่องที่ค่อนข้างแปลกไปจากซูหลายๆรุ่นที่เคยรู้จัก
ทำให้ตกหลุมรักมันทันที
ตลอดเส้นทางในวันแรกผมใช้ความเร็วอยู่ที่ราวๆ 100-120ตามหน้าไมล์
และทำให้เข้าใจคร่าวๆว่า โหมด eco หรือที่ผมเรียกเองว่า โหมดไฟรูปมินิฮาร์ทนั้น มันทำงานอย่างไร
เคยเล่นลูกข่างใช่มั้ยครับ หลักการทำงานตามเงื่อนไขคงจะคล้ายๆกัน
ด้วยความสบายคล้ายไม่ใช่วันนั้นเลยครับ
ไม่ทันไรเราก็มากันถึงตัวจังหวัดชุมพร
ปกติการขับรถไกลๆ จะมีรถแค่ไม่กี่รุ่นเท่านั้นที่ผมจะลากแบบยาวๆน้ำมันใกล้หมดถึงจอด
เพราะต้องการเซฟแรงและลดการเมื่อยล้าสะสม
แต่ไม่ใช่กับเจ้าburgmanคันนี้ครับ แต่ละครั้งลากกันยาวๆ ราวสองถึงสามร้อยโลเลยกว่าจะจอดแต่ละครั้ง
ด้วยท่านั่งและความนุ่มนวลชวนนอนของเบาะ แถมปรับพนักพิงก้นคนขับได้ด้วย เลยช่วยให้การลากยาวในทริปนี้
ไม่มีอาการเมื่อยล้าถามหาเลย

อีกหนึ่งอย่างที่ระหว่างเดินทางไม่ทำให้เมื่อยนั่นก็คือ wind shilde ที่ตัดกระแสลมที่จะมาปะทะตัวนั่นเองครับ
แต่กรณีผม ไม่ต้องปรงไม่ต้องปรับอะไร ลมก็พัดผ่านพ้นข้ามทั้งหัวและตัวผมไปสบายๆแล้ว TT
ก่อนจะหาที่พักในคืนแรกก็เอาตัวไปแทรกที่จุดชมวิวเขามัทรีกันก่อน
เขามัทรีอยู่บนเส้นทาง ชุมพร – ปากน้ำ – หาดทราย
เป็นแหล่งแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวทิวทัศน์ ที่น่าสนใจไม่น้อยอีกที่นึงของชุมพรเลยครับ
สามารถชมวิวแบบพาโนรามา 360 องศา มองเห็นชายหาดของทะเลชุมพรและชุมชนปากน้ำชุมพร
บริเวณจุดชมวิวมีร้านกาแฟสดถ้ำสิงห์ พร้อมระเบียงชมวิวให้ได้ชมวิวโดยรอบอีกด้วย


ในค่ำคืนแรกก่อนจะแบกร่างขึ้นสู่ดอยตาปัง
ก็หาทำเลพักผ่อนใกล้ๆแหล่งอาหารกันครับ
โดยที่พักในค่ำคืนแรกคือ RETRO BOX เป็นห้องขนาดกระทัดรัด และอยู่กลางๆเมือง
โดยโครงสร้างหลักๆจะดัดแปลงมาจากตู้คอนเทนเนอร์












ก่อนจะเริ่มเดินทางต่อก็มาดูรายละเอียดซึ่งผมจะไม่ลงอะไรมากมายนะครับ
เพราะรายละเอียดเชิงลึกๆ รีวิวทางด้านสเป็คมีเต็มอินเตอร์เน็ตไปหมดแล้วววว
สิ่งที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้ คือรีวิวแบบบอกเล่าผ่านผู้ชายเล็กๆที่มีสกิลขับขี่แบบชาวบ้านธรรมดาๆคนนึง
ความอวบไม่ได้เป็นปัญหาเมื่อลอยลม
ยามออกตัวแม้เธอจะดูเฉื่อยชา แต่เมื่อเธอมีอารมณ์ขึ้นมาเธอก็เร่าร้อนไม่แพ้รุ่นราวคราวเดียวกันที่หุ่นดีกว่า
ทันทีที่ใช้ข้อมือสกิด เธอมีอาการดื้อดึงขัดขืนนิดๆแบบมีจริต ให้น่าค้นหา
อารมณ์เร่าร้อนในรอบสูงยังคงอยู่จนเป็นสไตล์ของซูอย่างเด่นชัด
…………………………………………………….
ที่ว่าความอวบไม่เป็นปัญหาเมื่อลอยลม
คงเพราะขนาด+น้ำหนักของเจ้าburgman 650 ลำนี้ แม้มันจะดูเป็นภาระเมื่อต้องเข็น
แต่ทันทีที่มันทะยานออกไปจนถึงย่านความเร็วที่เหมาะสม
ขนาดและน้ำหนักของมันไม่ใช่ปัญหาในการควบคุมแต่อย่างใดครับ
กลับกันมันให้ความรู้สึกสมูธและมั่นคงดีมากคงเป็นเพราะจุดศูนย์ถ่วงของรถที่ต่ำ



การเลี้ยงคันเร่ง การกรออาจไม่ถูกจริตกับคนที่ชอบเนิ้บๆช่วงออกตัว
แต่ถ้าใครสายตะบัน รับประกันว่าเจ้าเบิกแมนเนี่ย ก็ทำให้มันส์ได้แม้ว่ามันจะมาในร่างของบิ๊กสกู๊ตเตอร์ก็ตาม
อย่างที่บอกไปว่ามันลำบากแค่ตอนเข็นแหล่ะ แต่ทันทีที่รถเคลื่อนตัวออกไป
การควบคุมทำได้ง่ายกว่าคิดและกังวลไว้เยอะมาก
คนที่สูงกว่าผมขับได้สบายๆแน่นอน การควบคุมรถรวมๆคือมันสบาย มากกว่าแม่นยำ
ที่ต้องบอกแบบนี้เพราะอย่าลืมว่าช่วงตัวมันยาว ระยะฐานล้อย่อมยาวตาม
การเลี้ยวในวงแคบๆอาจจะลำบากอยู่บ้าง
และใช้พื้นที่ค่อนข้างเยอะหน่อย แต่หากเป็นถนนปกติทั่วไปที่ใช้เดินทาง


เครื่องยนต์
เป็นแบบ 2 สูบ DOHC ขนาด 638 ซีซี 4 จังหวะ
ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ผสานการส่งกำลังผ่านระบบเกียร์แบบออโตเมติก SECVT
มีโหมดเลือกใช้ได้ถึง 3 ระบบ แบบออโตเมติก 2 ระบบและแบบเมนวล
การตอบสนองในช่วงต้นและปลายอาจไม่ได้สะใจมากมายนัก แต่ย่านกลางๆมันทำได้ระดับดาวสิบดวงครับ
เห็นว่ากันว่าสายพานของรุ่นนี้มีความทนทนทานเป็นพิเศษอีกด้วย
อาจจะรู้สกว่าเบรคมันแอบทื่อไปนิด ทื่อในที่นี้ไม่ใช่ว่าเบรคไม่อยู่นะครับแค่การตอบสนองมันจะด้านชากว่ารุ่นอื่นๆไปบ้าง
แต่หากเคยชินแล้ว ระบบเบรคนับว่าไว้วางใจได้ที่จะหยุดรถที่มีน้ำหนักมากๆได้เลย
ยางติดรถมาใช้คำว่า ของโคตะระดีย์ เรื่อยางไม่พิมพ์เยอะครับ เจ็บนิ้ว








หรือจะใส่หมวกกันน็อคแบบเต็มใบก็ได้สองใบเลยครับ




สลับกลับมาที่การเดินทางกันต่อครับ
เช้าวันใหม่ก็มุ่งหน้าสู่ดอยตาปังโดยใช้เส้นทางที่มุ่งหน้าสู่เขาทะลุ















รุ่งเช้าสุดท้ายของทริปทดสอบ
น่าเสียดายที่หมอกมาเยี่ยมเยียนเราแบบคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ
อดเห็นทะเลหมอกแบบที่ตั้งใจ ไม่เป็นไร ติดไว้ก่อน เราคงได้เจอกันสักครั้งล่ะน่า

รถที่ขนของได้อย่างจุใจ ความไวก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร
จริงอยู่ว่าอาจมีบิ๊กสกู๊ตเตอร์อีกมากมายหลายรุ่น จนบางครั้งเราเองก็ลืมไปว่าค่ายฝั่งคนบ้าก็มีนะเฮ้ยยยย
และมันอาจจะไม่ใช่บิ๊กสกู๊ตเตอร์ที่แรงที่สุด แต่มันก็น่าจะเป็นรุ่นที่ขับขี่ได้อย่างสบายที่สุดแล้ว ในย่านพิกัดนี้
แถมช่วงนี้โปรในงาน MOTOR EXPO ก็พอจะเย้ายวนหัวจิตหัวใจได้อยู่ไม่น้อยเลยครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านกันมาจนจบ กับรีวิวที่หาสาระไม่ค่อยจะได้ 555
โอกาสหน้าพบกันหม่ครับ
สำหรับวันนี้ just-ride-it สวัสดีครับ