สวัสดีจ้า พ่อแม่พี่น้องงงง
กลับมาพบกับรีวิวแบบจัสๆกันอีกแล้วเน้อ
นับจากช่วงปลายปี 2018 ที่ผ่านมา ค่ายรถมอเตอร์ไซค์ในบ้านเราก็เข็นรถโมเดลใหม่มาเปิดตัวหลากหลายรุ่น โดยหนึ่งในนั้นก็คือ
KAWASAKI Z400 สปอร์ตวับๆแวมๆ (sport naked) คันนี้นั่นเองงงงงง
และเมื่อวานนี้ทาง KAWASAKI Thailand ก็ได้จัดกิจกรรมการขับขี่ทดสอบ KAWASAKI Z400 เป็นครั้งแรกในประเทศไทย
ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากทั้งสื่อมวลชน และบุคคลทั่วไป ที่รักในการขับขี่รถสองล้อ มาร่วมทดสอบมากโขอยู่
บรรยากาศการทดสอบ และ ตัวรถจะเป็นอย่างไรกันบ้าง มารับชมกันเลยจ้าาา
มาดูรอบๆตัวรถกันก่อน
คันที่ล้อเป็นสีน้ำเงินนี้คือ Kawasaki Z400 SE ราคา 195,000 บาท
จะใส่ชุดแต่งรอบคันมาให้เลยจากโรงงาน
รายละเอียดตัวรถคร่าวๆซักนิดหน่อย
เครื่องยนต์ 2 สูบ 4 จังหวะ DOHC 8 วาล์ว
ขนาดเครื่องยนต์ 399 ซีซี.
เกียร์ 6 สปีด
ระบบระบายความร้อน ระบายความร้อนด้วยน้ำ
กำลังเครื่องยนต์ 45 แรงม้า ที่ 10,000 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 38 นิวตันเมตร ที่ 8,000 รอบ/นาที
ระบบกันสะเทือนหน้า ช็อคอัพแบบเทเลสโคปิค 41 มิลลิเมตร
ระบบกันสะเทือนหลัง ช็อคอัพเดี่ยวติดกระเดื่อง Bottom-Link Uni-Trak
ระบบเบรก ล้อหน้า ดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 310 มิลลิเมตร ปั้มเบรก Caliper 2 ลูกสูบ
ระบบเบรก ล้อหลัง ดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 220 มิลลิเมตร ปั้มเบรก Caliper Dual-piston
ขนาดยาง หน้า 110/70R17 M/C 54H
ขนาดยาง หลัง 150/60R17 M/C 66H
น้ำหนัก 167 กิโลกรัม ผอมเพรียวกว่า Ninja400 เล็กน้อย
ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 14 ลิตร
ส่วนคันสีแดงนี่คือ Kawasaki Z400 ราคา 186,000 บาท เลือกตำกันได้ตามสะดวกนะจ๊ะ
บรรยากาศการทดสอบ
หลังจากลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีการอบรมกันเล็กน้อยก่อนจะปล่อยให้ลงไปขับขี่รอบละประมาณ 15 นาที เอาให้อิ่ม จุใจ
ไลน์สนามก็ไม่ได้โหดจนเกินไป มือเก๋าก็ขี่ดี มือใหม่ก็ขี่ได้
ได้รับความสนใจจากสาวๆมาร่วมทดสอบเยอะอยู่เหมือนกันนะ
ที่ใส่เสื้อเบอร์สีเขียวๆนี่คือรอบประชาชนทั่วไป
แล้วก็ผลัดมาให้กลุ่มสื่อมวลชนได้ลองทดสอบบ้าง
รถเดิมจากโรงงาน แถมไม่ใช่รถสปอร์ตสายหมอบ เอามาแบนเข้าโค้งในลักษณะการขี่แบบเรสซิ่ง จะเป็นอย่างไร ไปชมกันเลยจ้า
(มีคันนึงที่ทาง ohlins แอบเอาไปเปลี่ยนช็อคอัพแล้วเอามาให้ร่วมทดสอบด้วย)
โอ้วววว พี่ๆคร้าบบ โหดเกิ๊นนนนน
แล้วก็วนมาถึงรอบ TopsaVage บ้างแล้ว
ก็ลงไปย่องๆเยิฟๆ เลิฟยูว จับฟิลลิ่งเบาๆมาฝากกัน
เริ่มที่ตำแหน่งท่านั่ง TopsaVage สูง 174 หุ่นอวบอั๋น ก็ยืนเต็มเท้าได้แนบสนิทเท้าดี
ร่างกายท่อนบนตั้งหลังตรง ดูแมนดี ความกว้างและองศาแฮนด์มาแนวสบายๆ ขี่เดินทางใกล้ ไกล ไม่ปวดหลังแน่นอน
ร่างกายท่อนล่าง พักเท้าค่อนข้างสูงเล็กน้อย เพราะใช้แพทเทิร์นเมนเฟรมเดียวกับ Ninja400 นั่นเอง ก็เลยแฝงอารมณ์สปอร์ตตรงนี้ติดมาให้ด้วย
ก็เป็นผลให้รู้สึกว่าเราเอาขาด้านใน จนถึงปลายเท้าเรา แนบสนิทกับรถได้ดีมากๆ
การขับขี่ควบคุม อารมณ์ของรถ Naked ที่ส่งผ่านแฮนด์บาร์มีมาให้สัมผัสอย่างเต็มที่
การพลิกรถ ขยับยักย้ายร่างกายมันคล่องสบายตามสไตล์ที่รถแบบนี้ต้องเป็น ความรู้สึกถึงน้ำหนักเวลาที่ขับมันไป ให้อารมณ์ว่ามันเบาแรงลง
เครื่องยนต์ 399cc. ที่เหน็บมาให้ ส่งกำลังออกมาแบบ เรียบ ลื่น เนียนดี ไม่กระโชกโฮกฮากเหมือนเครื่อง 2 สูบ ยุคปี2008
พละกำลังมาแบบต่อเนื่องตั้งแต่ช่วง ต้น กลาง ปลาย
ต่อด้วยพลังแฝงของ slipper clutch เครื่องจะแรงยังไง เมื่อถึงจุดที่ต้องลดความเร็ว สิ่งที่ต้องทำในเวลาช่วงสั้นๆนั้นก็มีหลายอย่างเหลือเกิน
ไหนจะเบรก บีบคลัชท์ เปลี่ยนเกียร์ คลอคันเร่ง วุ้ยย ว่ากันให้วุ่นวาย
ซึ่ง slipper clutch นี่แหละที่เข้ามามีส่วนช่วยให้การลดความเร็วมันราบลื่นยิ่งขึ้น
ช่วงล่าง
แหะๆ คือตอนที่เดินเข้าไปหารถทดสอบก็ไม่ได้ดูให้ดีก่อนว่านี่คือคันที่ ohlins แอบเอามาหมกไว้ให้ทดสอบด้วย
ขี่ๆไปก็เอ้ะ ไอ้เรามันก็ขี่เป็นลิงหลังแฮนด์ ทำไมมันยังดีจัง จุดเบรก จุดเร่ง เพี้ยนๆ มึนๆ แต่ช่วงล่างรถยังไม่แสดงอาการอะไรออกมาเลย
ขี่ไปก็คิดไป ทำไมมันดีจัง ทำไมมันดีกว่าชาวบ้านเค้าขนาดนี้ว๊าาาา
เอาไว้ถ้ามีโอกาสได้ขี่รถเดิมๆจริงๆ ค่อยมาเม้าท์มอยกันอีกทีน๊าาา ขอติดไว้ก่อน (รู้สึกปีนี้แกติดเค้าไว้หลายเรื่องแล้วนะ)
เบรก ABS ไม่ทำงานแบบเสนอหน้า ตอนที่ยังไม่เรียกหา จะมาเมื่อเธอต้องการฉันจริงๆ
ให้อารมณ์นี้เลยจริงๆ ไม่เบรกหนักมากจริงๆ มันไม่ลั่นออกมาให้เสียอารมณ์เลย เซ็ทมาได้รู้ใจจริงๆ
ส่วนพละกำลังในการเบรก เพียงพอต่อกำลังเครื่องยนต์และน้ำหนักของรถแน่นอน
และไม่เจออาการร้อนจนเฟด หรือ หาย ด้วย เพราะรถทดสอบทั้งหมดนี้ก็โดนนวด โดนหวดตลอดตั้งแต่ เก้าโมง จนถึงราวๆ บ่ายสามโมงครึ่งเลย
ส่วนหน้าตาความหล่อ
ขอบอกตรงๆ TopsaVage ยังติดใจความหล่อ Z250 โฉมแรก ที่ไฟหน้าคล้ายหุ่น ยิปซี แดนเจอร์ จากหนังเรื่อง แปซิฟิก ริม อยู่นิดหน่อย
คะแนนเรื่องความหล่ออันนี้ก็แล้วแต่รสนิยมของใครของมันเนาะ
ยังไม่พอเหน็บเอาพี่รอง Ninja ZX6R มาให้แฟนๆได้ลองขย่มเล่นในสนามอีกด้วยนะ
นอกจากการขับขี่ทดสอบในสนามฝั่งทางเรียบแล้ว ก็ยังมีทางสายฝุ่นให้เลือกเดิน เผื่อใครสนใจเส้นทางสายนี้ก็มาลองของกันได้ ขนกันมาครบทุกรุ่นเลย
หึหึ ตอนแรกก็กะจะแค่ไปเฉี่ยวๆดูซักแป๊บแล้วหนีกลับบ้าน เจอแบบนี้ก็อยู่นั่งเล่นกว่าจะกลับถึงบ้านก็เย็นเกือบค่ำเลยเชียวแหละ
เอ้ะ TopsaVage รอบนี้แปลกๆนะนาย ทำไมไม่มีสาวๆมาฝากเลยเนี่ย ไม่ได้ๆ เดี๋ยวผิดคอนเซป ขอทิ้งท้ายด้วยสาวๆน่ารักๆ ที่มาร่วมทดสอบในครั้งนี้ และขอกราบลาผู้อ่านทุกท่านไว้ ณ ที่นี้เลยละกัน สวัสดีคร้าบบบบ เตรงงง เตร่งงง เตร่งง เตร๊งงงงง
