ทริปล่าฝันสุดขอบฟ้า แชงกรีล่า… ชายขอบทิเบต ขี่ Spark135 ไปเนี่ยนะ!!!

+•+• ทริปล่า ฝันสุดขอบฟ้า แชงกรีล่า… ชายขอบทิเบต +•+•

แชงกรี-ล่า …
ชื่อนี้ปรากฏครั้งแรกในหนังสือ Lost Horizon หรือ ลับฟ้าปลายฝัน  อันโด่งดังของ Jame Hilton
ถูกกล่าวถึงในฐานะ
ดินแดนแห่งความสวยงาม …
ดินแดนลี้ลับ..
ดินแดนแห่งสันติสุข ..
ดินแดนที่ผู้คน เกือบจะมีชีวิตเป็นอมตะ  และดำรงตนแห่งสมณะเพศตามความเชื่อแบบทิเบต
แท้จริงแล้ว ดินแดนนี้ อยู่แห่งหนใด ไม่มีใครสามารถระบุตำแหน่งได้แน่ชัด
หลากหลายประเทศ แถบภูเขาหิมาลัย  ก็อ้างว่า จริงๆ แล้วแชงกรี-ล่า อยู่ในดินแดนของประเทศตัวเอง
แต่ทางจีน ได้ชิงระบุว่า แชงกรี-ล่า  แท้จริงแล้ว คือดินแดน บริเวณ เขตปกครองตนเองชนชาติทิเบต “ตี๋ชิ่ง”
ซึ่งเป็นเขตการปกครองที่ตั้งอยู่บนที่ราบสูง ฝืนเดียวกับเขตทิเบต  “หลังคาโลก” ของโลกเรา
สถานที่แห่งนี้ มีความสงบ ..
ลี้ลับ…
สวยงาม..
 และที่สำคัญ  ดินแดนแห่งนี้คือ “ความฝัน” ของผมครับ
 ในเมื่อโอกาสมา .. เงินพอมี.. เวลาพอได้ … ร่างกายพอไหว…  จะไม่ไปได้อย่างไร
  ครั้งนี้ เราจะไปตามฝัน พาเจ้ามอไซค์ เพื่อนรักของผม ไปเหยียบผืนแผ่นดินลี้ลับนี้กัน  ….
    +•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

เส้นทางล่าฝัน ระยะทางประมาณ 5,500 กม – 5,700 กม

กทม – ลาว – แชงกรี-ล่า – เต๋อชิง – ลาว – กทม

+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

ช่วงวันแรก กทม – เชียงของ   ( 966 กม )
       
ออกเดินทางจาก กทม ตอนกลางคืนมาเรื่อยๆ ครับ 
 
 
 แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น  รถมีปัญหาน้ำมันลงไม่ทัน ทำให้รถสะดุดและดับกลางอากาศบ่อยๆ
 
 
 ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับที่ลุยน้ำช่วงน้ำท่วมไหม เพราะลุยเกือบถึงเบาะเลย อาจทำให้ท่อต่างๆ สกปรก และอีกอย่างรถมันก็เก่าพอตัวแล้ว ( 6ปี )
 
 เรียกได้ว่า เก่าเป็นอันดับ 2-3 ของหมู่รถในทริปนี้เลยทีเดียว
 
 
 
  โชคดีได้ช่างศูนย์ Yamaha Square ที่จังหวัดแพร่ช่วยแก้ไขอาการเบื้องต้นทำให้ดีขึ้นมาก แม้ยังไม่ 100% ซะทีเดียว
 
  เพราะแวะแก้ไขตามทางหลายที่ก็ไม่หาย มาได้ที่แพร่นี่แหล่ะ ที่ช่างเก่ง และรู้จริง
 
  บอกตรงๆ ถ้าไม่ได้ช่างที่แพร่ ผมคงไปไม่ถึงแน่นอน
 
 
 
 
 +•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

วันที่ 2 เชียงของ – สิบสองปันนา ( 410 กม )
 
เส้นทาง เชียงของ – ห้วยทราย( ลาว ) – หลวงน้ำทา( ลาว ) – บ่อเต็น(ลาว ) – โม๋ฮ่าน( จีน ) – สิบสองปันนา( หรือจิงหง หรือเชียงรุ้ง ) 
 
หลังจากถึงเชียงของเมื่อคืน ก็ทำความรู้จักกันเล็กน้อยกับกลุ่มที่จะร่วมเดินทางกัน
 
ต้องขอบคุณกลุ่มนี้มากๆครับ ที่ไม่รังเกียจรถเล็กและให้โอกาสเราได้ร่วมเดินทางด้วย
 
 
หลังจากเอารถข้ามแม่น้ำโขง ก็เริ่มกันเลย กับ ปฐมบทแห่งการเดินทาง…
 
 
 
+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

ออกมาตอนเช้าตรู่
 
วิ่งในลาว ประมาณ 2 ร้อยกว่ากิโล
 
 
เราก็มาถึง “ด่านบ่อเต็น”   ประตูขาออกของลาว 
 
+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+ 

 

 

ประตูขาเข้าฝั่งจีน
 
“โม๋ฮ่าน” หรือ “บ่อฮั่น” ที่คนไทยเรียกติดปาก ( ไม่รู้ถูกต้องป่าวนะครับ )
        
        
 
+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

หลังจากผ่าน “ด่านโม๋ฮ่าน” มาแล้ว
 
 
เราวิ่งกันบนทางด่วน สู่ “สิบสองปันนา”  
 
 
ทางด่วนนี้ไม่สนใจภูเขาครับ   สร้างสะพานข้ามอย่างเดียว  ถ้ามีภูเขาขวาง ก็เจาะอุโมงค์
 
 
คนจีนเขาสุดยอด  ถ้าเขาจะทำซะอย่าง ภูเขา เหว หรืออะไรที่ขวางหน้าเขาไม่สนใจทั้งนั้น …
 
ผมจึงเรียกมันว่า “ทางด่วนลอยฟ้า”
 
+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

สิบสองปันนา
 
เพี้ยนมาจาก 12 พันนา  หรือ นา 12,000 ผืน  ซึ่ง “พันนา” ซึ่งก็คือ หน่วยการปกครองในสมัยก่อน
 
 
มีเมือง “เชียงรุ้ง” หรือ “จิงหง”  เป็นเมืองหลวง
 
เดิมที่นี่เคยเป็น ส่วนหนึ่งของอาณาจักรสยาม มีวัฒนธรรมคล้ายๆ ประเทศไทยเรา
 
 
แต่ผมว่า กลิ่นไอ แห่งวัฒนธรรมเก่าๆ ยังคงฝังแน่นในอาคาร การดำเนินชีวิต ของชาวสิบสองปันนา
 
 
ที่นี่มีการแต่งกายที่งดงามมาก จะบอกว่า งดงามกว่าบ้านเราก็คงใช่
 
มีผืนป่าดิบร้อน ที่อุดมสมบูรณ์
 
มีวัฒนธรรม รูปแบบของบ้านเรือนที่น่าศึกษา
 
 
ใครที่ใช้เป็นทางผ่านคงบอกว่า สิบสองปันนา ไม่เห็นมีอะไร แต่ถ้าลองสังเกตดู ผมว่า ที่นี่ น่าสนใจสุดๆ
 
ถ้าคราวหน้ามี โอกาส จะมุ่งตรงมาศึกษาวิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ ให้ลึกซึ้งเลย…
 
 
+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

วันที่ 2 สิบสองปันนา – หลินชาง ( 430 กม )
 
       
ไต่ระดับความสูงขึ้นเรื่อยๆ จากสิบสองปันนา สู่ หลินชาง
 
 
เมืองที่ตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,500 เมตร
 
ณ เมืองนี้  ไม่รู้สึกแล้วว่า นี่คือ ฤดูร้อน เดือนเมษา 
 
เพราะอากาศเย็นเจี๊้ยบบบบบบ……
 
 
+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

วันที่ 3  หลินชาง – ต้าหลี่ ( 300 กม )
 
ออกเดินทางแต่เช้า  เพื่อวิ่งสู่ปลายทาง เมือง “ต้าหลี่” 
 
ในวันนี้ เราจะเริ่มไต่ระดับ ความสูงขึ้นเรื่อยๆ  จนถึงเมือง ต้าหลี่ 
 
 
ซึ่งตั้งอยู่บนความสูง 1,800 เมตร จากระดับน้ำทะเล
 
ที่สำคัญ  เราวิ่งผ่าน จุดชมวิว “แม่น้ำล้านช้าง”  
 
หรือ “แม่น้ำโขง”  ที่คนไทยคุ้นเคยนั่นเอง 
 
ตรงจุดนี้ แม่น้ำล้านช้าง ไหลผ่านซอกขุนเขาสูงอย่างสวยงาม
 
ณ จุดนี้ ความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,000 เมตรครับ
 
 
+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

การเดินทางในวันนี้ เราจะเห็น Transition ระหว่าง วัฒนธรรมไท กับ จีน อย่างชัดเจน

บ้านเรือน การแต่งกาย ตึกรามบ้านช่อง ดูจะเป็นจีนมากๆ

จุดเด่นของเส้นทางสายนี้ คือ ผืนนาสีทอง เหลืองอร่าม งามตา

+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

 

เจดีย์ 3 องค์แห่งเมืองต้าหลี่
 
อยู่ในวัดฉงเซิ่ง  เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองต้าหลี่
 
 
เจดีย์องค์หลักชื่อ “เซียนหลินถ่า”  
 
 
+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

 

บริเวณวัด “ฉงเซิ่ง” นั้นใหญ่โต มโหฬาร ยิ่งใหญ่มาก
 
 
ต้องเดินขึ้นเขาไปเป็นกิโล ก็ยังไปไม่ถึงส่วนที่ลึกที่สุดสักที
 
 
ด้านหลังเป็น “เขาชังซาน”  ที่ยิ่งใหญ่    เราเริ่มเห็นสายหิมะ หายแรก อยู่บนเขานี้แหล่ะ
 
 
ด้านหน้าเป็น “ทะเลสาบเอ๋อไห่”  ที่ยิ่งใหญ่ กว้างสุดลูกหูลูกตา
 
 
+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+ 

 

 

 

เมืองโบราณต้าหลี่
 
 
เราพักกันบริเวณเมืองโบราณต้าหลี่
 
คนเยอะมากกกกกก ….
 
 
เมื่อก่อน ต้าหลี่เป็นเมืองหลวงของอาณาจักรน่านเจ้า  เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรแถวนี้เลย
 
ทำให้เมืองนี้ผู้คนหนาตา และเจริญมาก
 
อาจจะเพราะด้วยตำแหน่งที่ตั้งของเมือง ด้วย
 
+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

 

วัน ที่ 4 ต้าหลี่ – แชงกรีล่า ( จงเตี้ยน )   ( 380 กม )
 
 
ออกเดินทาง จากต้าหลี่  ไปตามเส้นทางหมายเลข 214 อีกตามเคย
 
 
จริงๆ ทริปนี้ เราก็วิ่งบนเส้นทางหมายเลข 214 เกือบตลอด
 
 
เส้นทางสายนี้ เริ่มต้นที่ เมือง ซีหนิง – เมืองไฮ ใกล้ๆ กับ จิงหง  ระยะทางยาว 3,256 กม
 
 
ตัวเลข 2209 หมายถึง เราอยู่ห่างจากเมือง ซีหนิง 2,209 กิโลเมตร 
 
+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

 

ชาว Naxi
 
 
วันนี้ เราวิ่งผ่าน ภูเขามังกรหยก  ด้านหลัง ( ด้านหน้า คือ เมืองลี่เจียง )
 
พบเห็นชาว Naxi ซึ่งเป็นเผ่านึง ที่อาศัยอยู่แถบนี้
 
+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

ไต่ระดับสู่ที่ราบสูง ระดับ 3,200 เมตร
 
 
คู่ขวัญ GS ที่ผมนับถือพี่เขามาก
 
จากภูเก็ต  สู่ ที่ราบสูงทิเบต..
 
สุดยอดรถ R1200GS ..
 
สุดยอดความไกล ..
 
สุดยอดน้ำใจ ความใจดีจากพี่ทั้งสอง ที่มีไมตรีให้เรา..
 
ถ้าพี่ได้อ่าน ผมอยากบอกว่า ทริปนี้ พี่คือ Idol ของผมเลยครับ 
 
 
ไม่รู้ว่า ชีวิตนี้ ผมจะไต่ไปถึงระดับที่พี่เป็นหรือเปล่า  แต่จะพยายามนะครับ 5555
 
 
+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

สายลมจงพัดพา มนตรา โบกสะบัดบนผืนธง ดลบัลดาลความสงบสุข แก่ชีวิตผู้คน
 
 
 
ชาวทิเบตมีความเชื่อว่า ธงที่สลักบทสวดมนต์ โบกสะบัดโดยสายลมอยู่เสมอ…
 
 
เปรียบดั่ง เขา คอยสวดมนต์อยู่เสมอ …
 
 
มนตรานั้น  จะถูกสวดตลอดเวลา  ตราบเท่าที่ยังมีสายลมพัดพาบนผืนภิภพนี้ …
 
 
ดลบันดาล ให้ผืนแผ่นดินนี้ มีแต่ความสุข ….
 
 
สวยงาม….
 
+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

วิวทิวทัศน์ทั่วไปบริเวณนี้

จะเป็นที่กว้างๆ ไกลสุดลูกหูลูกตา

มีภูเขาหิมะ เห็นไกลๆ เป็นฉากหลัง

ชาวทิเบต แต่งตัวแปลกตา  มักเลี้ยงม้า หรือ สัตว์ต่างๆ เป็นอาชีพ

+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

เมืองจงเตี้ยน ( เมืองแชงกรี – ลา )
 
 
มาถึงเมืองจงเตี้ยน เมืองที่พักของเราในคืนนี้แล้ว
 
 
เมืองนี้อากาศเย็นเจี๊ยบบบสุดๆ เลย
 
 
มีภูเขาหิมะเป็นฉากหลัง
 
 
สถาปัตยกรรมบ้านเรือน ดูเป็นทิเบตไปหมด ….
 
 
ความสูงของเมืองนี้คือ 3,350 เมตร จากระดับน้ำทะเล
 
อากาศเบาบางมาก ทำอะไรต้องช้าๆ ไม่งั้นเหนื่อย
 
 
บางคนประสบปัญหากับโรค High altitude sickness  ปากจะเป็นสีม่วงทีเดียว
 
ต้องซื้อยาขยายหลอดเลือดกิน …
 
+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

โชว์ทิเบต
 
หลังจากเข้าที่พักแล้ว 
 
ก็ขี่มอเตอร์ไซด์ ผ่าความ ( โคตร ) หนาว  
 
 
ออกไปดูโชว์ทิเบต …
 
ยอมรับว่า โชว์เขา ตื่นตา อลังการ สวยงาม
 
ในแบบฉบับของชาวทิเบต….
 
+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

อาหารทิเบต
 
 
ชีสเปรี้ยวๆ  เวลาจะกินต้องจิ้มน้ำตาล
 
ปาท่องโก๋ ( หรือเปล่า ) แข็งๆ
 
กับนมจืดๆ ใส่ถ้วย
 
 
ยอมรับว่า กินไม่ค่อยได้เลยครับ 5555
 
……..
 
+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

วัด ลามะซงจ้านหลิง
 
 
วัดลามะเก่าแก่ อายุกว่า 300 ปี แห่งเมืองจงเตี้ยน
 
มีลามะจำพรรษากว่า 100 รูป …
 
 
วัดแห่งนี้ได้ฉายาว่า โปตาลาน้อย เนื่องจากมีสถาปัตยกรรมคล้าย พระราชวังโปตาลา  ที่เมืองลาซา  เมืองหลวงของทิเบต
 
+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

แอบเหล่ บ้านเืมือง ชาวจงเตี้ยน…. ^ ^

+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

วันที่ 5  จงเตี้ยน – เต๋อชิง ( 210 กม )
 
 
การเดินทางวันนี้ หฤโหด ที่สุด
 
 
ทั้งสภาพเส้นทาง ..
 
ฝุ่น เหว โค้ง…
 
 
ต้องข้าม ภูเขาหิมะไป๋หมาง ไป
 
เส้นทางที่ลาดชัน ….
 
 
แต่เราต้องไป เพื่อฝันที่เป็นจริง ….
 
+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

สู้ด้วยกันนะ เพื่อนยาก
 
 
จริงๆ รถผม ชื่อ “เจ้าน้ำเงิน”
 
กำลังตก ตั้งแต่ขึ้นสู่ที่ราบสูง ความสูงเกิน 2,800 แล้ว
 
 
และตกลงเรื่อยๆ  เนื่องจากอากาศที่เบาบาง  และส่วนผสม อากาศกับน้ำมันที่ไม่ได้สัดส่วน
 
 
รถวิ่งสะดุดตลอด และ ไม่มีกำลัง แถมซ้อน 2 + สัมภาระด้วย
 
ผมได้แต่พูดกับเจ้าน้ำเงิน เหมือนคนบ้า พูดกับรถได้ว่า
 
 
“เรามาร่วมกันทำความฝันของเราให้เป็นจริง กันนะ เพื่อน”
 
 
ที่ความสูง 4,400 เมตร รถวิ่งได้ความเร็วแค่ 20-30 เท่านั้น เร่งไม่ขึ้น สะดุด
 
แต่เราต้องไป
 
“เส้นชัยไม่มา  ต้องไปหามัน”
 
+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

ผมฝันมาเสมอ…

ว่าต้องมีสักวัน ..

ที่ผมจะพารถที่ผม รัก  มาเหยียบหิมะด้วยกัน…

ให้จงได้…

สิ่งนี้จะเกิดขึ้น ไม่ได้ ถ้าไม่ได้ รถ คนซ้อน โอาสที่กลุ่มให้ …

ขอบคุณทุกคนจริงๆ ครับ …

+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

ออกเดินทางต่อ
 
สู่เมืองปลายทางในหุบเขา
 
 
นามว่า เต๋อชิง
 
 
ณ. ประตูเมืองเต๋อชิง
 
จะมีประตูเมือง และ เจดีย์ 13 องค์
 
 
เบื้องหน้า เทือกเขาหิมะเหมยลี่
 
 
และยอดเขาโอรสสวรรค์อันศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 13 ยอด
 
 
+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+ 

 

 

จอดแวะชมวิว

ณ จุดชมวิว ประตูสู่เต๋อชิง

+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

เดินทางต่อ สู่เต๋อชิง

ถ้าหลุดโค้งไป

หน้าคงทิ่มหิมะแน่นอน

+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

เต๋อชิง

เมืองในหุบเขา ห่างไกล  สมญานาม “เมืองหิมะบนที่ราบสูง”ความสูงจากระดับน้ำทะเล 3,400 เมตร
อากาศหนาวเย็นตลอดปี  
+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+ 

 

เทือกเขาหิมะเหมยลี่

คนที่นี่เชื่อว่า เทือกเขาแห่งนี้คือเืืทือกเขาศักดิ์สิทธิ์ที่ในหนึ่งช่วงชีวิตนึงจะต้องมา จาริกแสวงบุญที่ดีให้ได้สักครั้งนึง…
เคยมีความพยายามที่จะพิชิตยอดเขานี้หลาย ครั้งหลายครา แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ
ทำให้ยอดเขาแห่งนี้ ยังคงเป็นดินแดนที่บริสุทธิ์ที่ไม่มีมนุษย์คนใด สามารถย่างกรายได้สำเร็จ …+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

วันที่ 6 เต๋อชิง ( ขี่ม้าขึ้นชมธารน้ำแข็งหิมะพันปี ) และย้อนกลับ จงเตี้ยน( 250 กิโลเมตร )

กิจกรรมต่อไปของเราคือ  เดินทางออกจากเมือง เต๋อชิง ระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตรและขี่ม้าขึ้นไปยัง เขาหิมะ เพื่อชม ธารน้ำแข็งหิมะ พันปี
ไป-กลับ  ระยะทาง 16 กิโลเมตร ไต่ระดับความสูงขึ้นเรื่อยๆ เลาะริมหน้าผาไป
+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+ 

 

หลังจากขี่ม้าขึ้นมา 8 กิโลเมตร

เราก็มาถึงภูเขาหิมะ
เดินต่อไปอีกนิด ก็จะพบกับ ธารน้ำแข็งพันปี+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+ 

 

ด้านหลังวัดเล็กๆ เก่าๆ นี้ คือ ธารน้ำแข็งหิมะ พันปี

แต่วินาทีที่ผมเดินเข้ามาในวัดนี้ รู้สึกสงบ เย็น อย่างประหลาดประกอบกับตอนที่ขี่ม้าขึ้นมา  ผู้คนท้องถิ่นที่นี่  ฮัมเพลงกันตลอดดูมีความสุข ยิ้มแย้ม ร่าเริง…
อีกทั้งยังสื่อสารกับม้าได้อีกตะหาก
บนที่ราบสูงทิเบตอันกว้างใหญ่   แชงกรี-ล่า นั้นอยู่หนใดไม่มีใครระบุพิกัดที่แท้จริงได้
แต่สำหรับผมหากแชงกรี-ล่า

หมายถึงดินแดนที่ สงบ สวยงาม ผู้คนมีความสุข  มีอายุยืนใกล้ชีวิตอมตะ
ผมว่าที่นี่แหล่ะ  จุดนี้แหล่ะ  แชงกรี-ล่า   ที่แท้จริง ….. 

+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

ธารน้ำแข็งพันปีหมิ่งหยง

+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

ย้อนกลับมายัง เมืองจงเตี้ยน

คืนนี้ เราสังสรรค์เล็กๆ ด้วยปิ้งย่างแสนอร่อย

ภายใต้อากาศที่หนาวเหน็บ…

กับเพื่อนๆ ก๊วนที่ถูกคอ ….

+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

วันที่ 7 จงเตี้ยน – ลี่เจียง ( 200 กิโลเมตร )

วันนี้เราย้อนกลับเส้นทางเดิม
และแยกเข้าเส้นทางใหม่ เพื่อไปยังเมืองลี่เจียง +•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+ 

 

วัน ที่ 8 ลี่เจียง – ภูเขาหิมะมังกรหยก ( 60 กิโลเมตร )

เราพักในบริเวณเขตเมืองเก่า ลี่เจียง
วันนี้เราจะไปเที่ยวภูเขาหิมะมังกรหยก อันเลื่องชื่อกันครับ+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+ 

 

ภูเขาหิมะมังกรหยก

วันนี้เราออกเดินทางไปเที่ยวภูเขาหิมะ มังกรหยกกันครับ +•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+ 

 

ขึ้นกระเช้า ไต่สู่ยอดภูเขาหิมะมังกรหยก

ความสูง 4,506 เมตร จากระดับน้ำทะเล….

+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

วิวทิวทัศน์ ณ ยอดเขาหิมะ มังกรหยก

+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

วันที่ 9 , 10 ,11 ลี่เจียง – หลินชาง – ล้านช้าง – สิบสองปันนา – เชียงของ ( 1,400 กิโลเมตร )

เมื่อไปให้ถึงแล้ว   “กลับให้ได้”   ก็เป็นสิ่งสำคัญในการออกทริปมอเตอร์ไซด์
การกลับ มักเป็นอะไรที่หนักหน่วงเสมอ  กับระยะทางที่ยาวไกลแต่ขากลับ ก็ยังมีเรื่องราวมากมาย ให้ได้จดจำ   เช่น
ชาวจีน ที่ออกทริป มักเป็นคนมีอายุมักแต่งตัวเหมือนๆ กัน ไม่มีเหลืองก็แดงมักมีธงปักท้ายรถคนจีนออกทริป ดูน่ารักดีเนอะ ….

+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

35,000 บาทต่อคนครับ อันนี้รวมทุกอย่างแล้วนะ ตั้งแต่ออกจาก กทม ยันถึง กทม เลย

++++++++++++++++++

วัน สุดท้าย เชียงของ – กทม ( 966 กิโลเมตร )

เหนื่อยที่สุดไม่ใช่วันไหนครับ
วันสุดท้ายที่ขี่จากเชียงของ – กทม

เพราะร้อนมากกกกกกกกกกกก ….
เรามาจากอากาศ -1 องศา  จนร้อนถึง 40 องศา เลยทีเดียว ร้อนจนแทบทนไม่ไหว …

 

+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

 

อุปสรรค

หากทำอะไรไม่มีอุปสรรค
นั่นคงหมายถึง ไม่ได้ทำอะไรเลย
ถึงแม้อุปสรรค จะเกิดขึ้นบ้าง  แต่สุดท้ายเราก็ผ่านพ้นมันมาได้
ได้เรียนรู้  ได้อยู่ร่วมกับมัน…
สุดท้าย มันก็จะเป็นความทรงจำบทหนึ่ง ให้นึกถึง  ให้ได้เรียนรู้….
แล้วเราก็จะจำได้ว่า สิ่งเหล่านั้น มันไม่อาจหยุดเราได้ …
+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+

 

สุดท้าย
 
ขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ร่วมเดินทางด้วยกัน…
 
ขอบคุณ เจ้าน้ำเงิน ที่พาเดินทางไปถึงจุดหมายปลายฝัน…
 
 
 
และขอบคุณโลก  ที่มี สิ่งที่สวยงาม…
 
 
ให้ได้ค้นหา…
 
+•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•++•+•+
 

 

 

บทความโดย เตี้ย ล่ำ ดำ แก่

Link ต้นฉบับ http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/2012/04/V11994425/V11994425.html

 

Comments

comments